ในวงการลูกหนังเยอรมันยุคปัจจุบัน คงไม่มีศึกไหนที่จะยิ่งใหญ่ไปกว่าเกม “แดร์ คลาสสิเคอร์” ระหว่าง บาเยิร์น มิวนิค กับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ อีกแล้ว โดยในนัดแรกของฤดูกาล เป็นฝั่งเสือใต้ที่เปิดบ้านไล่ถล่มเสือเหลืองไปแบบไม่ไว้หน้า 4-0 และในวันอังคารที่ 26 พฤษภาคมนี้ สองเสือเมืองเบียร์ก็มีคิวที่จะต้องกลับมาดวลเดือดกันอีกครั้งที่สนามซิกนัล อิดูน่า พาร์ค ซึ่งการเผชิญหน้ากันหนที่สองของซีซั่น ต้องบอกว่ามีประเด็นที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว เรามาดูกันดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง
ครั้งแรกที่ไม่มีแฟนบอล
วิกฤตการณ์เชื้อไวรัสโควิด-19 ถล่มปฐพี ถือเป็นสิ่งแปลกใหม่ที่โลกลูกหนังไม่เคยเจอมาก่อน และการแข่งขันแบบปิดสนามคือมาตรการป้องกันหลักที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แปลว่านี่จะเป็นครั้งแรกที่ศึกชิงความเป็นหนึ่งของเมืองเบียร์ไม่มีแฟนบอลในสังเวียนแข้ง และมันคงเป็นอะไรที่แปลกตามากทีเดียวสำหรับเกมที่เต็มไปด้วยแพสชั่นแบบนี้ ซึ่งก็น่าน้อยใจแทน ดอร์ทมุนด์ เหมือนกันที่พวกเขาต้องขาดพลังจากกำแพงสีเหลือง ทั้งที่เกมแรก บาเยิร์น ได้แรงหนุนหลังจากสาวกของตัวเองแบบเต็มพิกัด
สำหรับแฟนบอลชาวไทยที่เฝ้าหน้าจอสี่เหลี่ยมอยู่ที่บ้าน เสียงเชียร์ที่ทีมงานถ่ายทอดสดเพิ่มเข้ามาก็น่าจะช่วยเพิ่มอรรถรสในการรับชมได้ไม่มากก็น้อยล่ะนะ
เจอกันถูกช่วงเวลา
เสือเหลืองและเสือใต้กำลังอยู่ในร่างก็อดโหมดทั้งคู่ โดยเจ้าถิ่นคว้าชัยมาได้ 9 จาก 10 เกมหลังสุด พร้อมทะลวงตาข่ายคู่แข่งไปถึง 33 ประตู ขณะที่ทางผู้มาเยือน 10 นัดที่ผ่านมาพวกเขาก็เอาชนะไปได้ 9 นัดเช่นเดียวกัน และกดคู่ต่อสู้ไปถึง 34 ลูก อีกทั้งการเจอกันในครั้งนี้ ยังเหมือนเป็นการตัดสินแชมป์กลายๆด้วย เนื่องจากสถานการณ์ในปัจจุบัน บาเยิร์น นำเป็นจ่าฝูงของตารางด้วยการมีแต้มนำหน้า ดอร์ทมุนด์ ที่ตามมาเป็นอันดับ 2 อยู่ 4 คะแนน ขณะที่เหลือการแข่งขันอีกเพียง 7 นัดเท่านั้น
เออร์ลิ่ง เบราต์ ฮาแลนด์
วินาทีนี้ คงไม่มีกองหน้าคนไหนที่จะถูกพูดถึงมากไปกว่าไอ้หนูวัย 19 ปีจากนอร์เวย์ โดยนับตั้งแต่ที่ย้ายมาสวมเสื้อเสือเหลือง ฮาแลนด์ สังหารไปแล้ว 13 ประตู จากการลงสนาม 13 นัดรวมทุกรายการ พร้อมซิวรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมของบุนเดสลีก้าประจำเดือนมกราคมทั้งที่เพิ่งลงเล่นไปแค่ 59 นาที จึงน่าสนใจว่าหมอนี่จะทำได้ดีขนาดไหนในเกมที่กดดันเช่นนี้ ทั้งยังเป็นแดร์ คลาสสิเคอร์ครั้งแรกของเจ้าตัวซะด้วย
มุลเลอร์ vs ซานโช่
โธมัส มุลเลอร์ และ จาดอน ซานโช่ คือสองนักเตะที่เป็นผู้นำในตารางแอสซิสต์ของบุนเดสลีก้าในเวลานี้ โดยแนวรุกจากค่ายสีแดงแอสซิสต์ไป 17 ครั้ง ส่วนปีกจากค่ายสีเหลืองแอสซิสต์ไป 16 ครั้ง เอาล่ะ… มันคงจะเว่อร์ไปหน่อยหากบอกว่าเกมนี้เป็นจุดชี้ชะตาตำแหน่งราชาแอสซิสต์ เพราะยังมีเวลาอีกหลายนัดให้ทั้งคู่ได้ทำผลงาน แต่การโคจรมาเจอกันระหว่างเบอร์ 1 กับเบอร์ 2 ก็เป็นไฮไลท์สำคัญที่ต้องจับตามอง และน่าลุ้นว่าใครจะสามารถทำแอสซิสต์เพิ่มได้ในศึกที่ปะทะกันโดยตรงแบบนี้
สถิติที่ผ่านมา
– คู่นี้เจอกันทั้งหมด 124 ครั้งรวมทุกรายการ ดอร์ทมุนด์ ชนะ 34 ครั้ง , เสมอกัน 30 ครั้ง และ บาเยิร์น ชนะ 60 ครั้ง
– ขณะที่สถิติการยิงประตู ดอร์ทมุนด์ ทำได้ 166 ประตู ส่วนทางฝั่ง บาเยิร์น ทำได้ 248 ประตู
– หากนับเฉพาะในรังเหย้าของดอร์ทมุนด์ ทั้งคู่ดวลกันทั้งหมด 62 นัด เสือเหลืองชนะ 23 นัด , เสมอกัน 19 นัด และเสือใต้ชนะ 20 นัด
– โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ คือดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของศึกแดร์ คลาสสิเคอร์ โดยหัวหอกทีมชาติโปแลนด์ซัดไปทั้งสิ้น 23 ประตู จากการลงล่าตาข่ายให้กับทั้งสองสโมสร
