แด่ตำนานผู้จากไป : ย้อนรำลึก 5 ช่วงเวลาสุดน่าจดจำของ เปาโล รอสซี่

 

หลังจากการไปของ ดีเอโก้ มาราโดน่า ได้ราว ๆ ครึ่งเดือน วงการฟุตบอลก็สูญเสียคนสำคัญไปอีกคน เมื่อ เปาโล รอสซี่ ตำนานดาวยิงทีมชาติอิตาลี ลาโลกด้วยวัย 64 ปี 

 

แม้จะไม่ได้ระบุสาเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัด แต่ ไร สปอร์ต สื่อแดนมักกะโรนีที่ รอสซี่ ร่วมงานกันหลายปีในฐานะกูรูรับเชิญ รายงานว่า อดีตแข้งชาวอิตาเลี่ยน ป่วยหนักมาพักหนึ่งแล้ว

 

ผลงานเด่นที่สุดของ รอสซี่ ที่หลายจดจำได้ขึ้นใจในสมัยที่ยังเป็นนักเตะคงหนีไม่พ้นช้วงที่กดไป 6 ประตูในศึก ฟุตบอลโลก 1982 และพาทัพ อัซซูรี่ คว้าแชมป์โลกในครั้งนั้นไปครอง

 

แต่ในขณะเดียวกัน ดาวยิงตำนานก็มีช่วงเวลาอื่น ๆ ที่น่าสนใจและได้รับการพูดถึงในหมู่แฟนบอลไม่แพ้กัน เพราะฉะนั้น UFA ARENA จึงพอไปย้อนรำลึกถึง 5 โมเม้นต์สุดยอดเยี่ยมของ รอสซี่ ในอาชีพค้าแข้งผ่านบทความชิ้นนี้กัน

 

 

โดดเด่นกับวิเซนซ่า

 

 

ฟุตบอลมักมีเรื่องราวสุดเหลือเชื่อให้เล่าขานอยู่เสมอ และกับ รอสซี่ ก็เช่นกัน เมื่อเขาสร้างชื่อเป็นยอดดาวยิงกับ วิเซนซ่า สโมสรเล็ก ๆ ในเซเรีย บี ลีกรองอิตาลี พร้อมพาทีมขึ้นเล่นในลีกสูงสุดในฤดูกาล 1976-77 ได้อย่างยอดเยี่ยม คำถามที่ตามมา ณ ตอนนั้น คือ รอสซี่ จะสามารถโชว์ฟอร์มเก่งในระดับสูงได้หรือไม่?

 

รอสซี่ ใช้ผลงานในสนามเป็นคำตอบว่าเขาทำได้ เมื่อกดประตูให้ วิเซนซ่า ไป 24 ตุงจาก 30 นัด คว้าตำแหน่งดาวซัลโวของ เซเรียอา ไปครอง และช่วยให้ต้นสังกัดรั้งอันดับ 2 ได้แบบไม่มีใครคาดคิด แม้จะไม่ได้จบสวยงามดั่งหวัง แต่ก็เป็นช่วงเวลาที่แฟนบอลยุคนั้นสนุกจนลืมไม่ลงกันเลย

 

 

แชมป์เซเรียอาสมัยที่ 2

 

 

แม้จะมีข่าวฉาวล็อกผลในสมัยค้าแข้งกับ เปรูจา จนถูกแบนจากการแข่งขันในปี 1980 ยูเวนตุส ก็คว้าเขาไปร่วมทีมอีกครั้งปี 1981 แม้จะได้ชูถ้วยสคูเด็ตโต้ในฤดูกาล 1981-82 แต่เขาก็มีส่วนกับทีมแค่ช่วงท้ายซีซั่นที่เพิ่งหมดโทษแบน โดยได้ลงเล่นเพียง 3 นัดเท่านั้น

 

อย่างไรก็ตาม ฤดูกาล 1983-84 คือช่วงที่ รอสซี่ ฉายแสงกับทีม ‘ม้าลาย’ แบบเต็มที่ เมื่อกดไป 13 ประตู ช่วยให้ทีมคว้าแชมป์ลีกไปครอง ถึงแม้จะเป็นแชมป์ลีกครั้งสุดท้ายของตำนานแข้งชาวอิตาเลี่ยน แต่มันก็เป็นรางวัลที่เขาคู่ควรอย่างแท้จริง 

 

 

ยิ่งใหญ่ในบอลยุโรป

 

Lineup of the 1985 European Cup Final in which Juventus defeated Liverpool 1-0. Unfortunately 39 fans lost their lives and over 600 more weeks injured when Liverpool Fans stormed the neutral allocation zone. : Juve

 

ถึง รอสซี่ จะผ่านพ้นช่วงพีกที่สุดของตนเองไปแล้วในฤดูกาล 1984-85 เขาก็ยังไหวในลีกอาชีพระดับสูง แม้จะยิงเพียง 3 ประตูในลีกให้ ยูเวนตุส แต่เจ้าของรางวัลบัลลงดอร์ ก็โดดเด่นมากในรายการ ยูโรเปี้ยน คัพ ปีนั้น

 

ดาวเตะชาวอิตาเลี่ยน มีส่วนสำคัญที่ช่วยให้ ‘เบี่ยงโคเนรี่’ ประสบความสำเร็จอย่างมากในบอลยุโรป เมื่อกดไป 5 จาก 10 นัด จนช่วยให้ยอดทีมจากตูรินคว้าแชมป์ทวีปครั้งแรกในประวัติศาสตร์ด้วยการเฉือนชนะ ลิเวอร์พูล 1-0 ในนัดชิงชนะเลิศ

 

 

ประตูชัยในนัดชิงฟุตบอลโลก

 

 

เด็กหลายคนคงใฝ่ฝันว่าได้ยิงประตูสำคัญในฟุตบอลนัดชิงชนะเลิศ เหมือนอย่างเช่นที่ เปาโล รอสซี่ ทำได้ในฟุตบอลโลกปี 1982 ที่พบกับทีมสุดแข็งแกร่งอย่าง เยอรมันตะวันตก ในนัดชิงดำ

 

หลังกดไป 5 ประตูจาก 2 นัดหลังสุด ดาวเตะทัพ ‘อัซซูรี่’ ก็ฟอร์มแรงไม่ตก เมื่อเป็นคนโหม่งประตูแรกในเกมนั้น และยืนตำแหน่งได้ถูกที่ถูกเวลาจนแนวรับ ‘อินทรีเหล็ก’ ป้องกันไม่ทัน 

 

ท้ายที่สุด อิตาลี คว้าแชมป์โลไปครองด้วยสกอร์ 3-1 ขณะที่ รอสซี่ คว้าตำแหน่งแมน ออฟ เดอะ แมตช์ ในเกมนั้น, ดาวซัลโวประจำทัวร์นาเม้นต์จำนวน 6 ประตู และคว้ารางวัลบัลลงดอร์ของปีนั้นในเวลาต่อมาด้วย

 

 

แฮตทริกใส่บราซิล

 

 

การทำประตูในฟุตบอลโลกนัดชิงชนะเลิศอาจเป็นสิ่งที่หลายคนยกให้เป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของ รอสซี่ ในอาชีพค้าแข้ง แต่หากไม่มี 3 ประตูที่ยอดเยี่ยมของเขาในเกมดวล บราซิล ก็คงไม่มีลูกโหม่งในเกมพบ เยอรมันตะวันตก เช่นกัน 

 

ชัยชนะ 3-2 ในเกมนั้น ไม่เพียงแต่จะทำให้ อิตาลี ผ่านเข้าไปเล่นในรอบน็อคเอ้าท์ เพราะนี่ยังเป็นการคว้าชัยเหนือยอดทีมอย่าง บราซิล ที่มียอดนักเตะแห่งยุคหลายคนในทีมอย่าง ซิโก้, โซคราเตรส, ฟัลเกา ด้วย 

 

และคงไม่ผิดนัก หากนัดนั้นจะกลายเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้แฟนบอลหลายต่อหลายคนเชื่อว่า อิตาลีที่มี รอสซี่ จะคว้าแชมป์โลกได้สำเร็จ