แผนลับสุดยอด! 5 สโมสรที่ทำเงินได้มากที่สุดจากการขายผู้เล่นตั้งแต่ปี 2014

 

เป็นเรื่องที่ไม่ง่ายเลยที่สโมสรหนึ่งจะได้กำไรจากการขายผู้เล่นออกไป จนได้กำไรมหาศาลกลับมามากมายก่ายกอง จนกลายเป็นทีมที่มีผลประกอบการรายรับรายจ่ายที่มั่นคง โดยปัจจัยที่ทำให้พวกเขาต้องปล่อยแข้งรายหลายของทีมออกไป มันก็มีหลายสาเหตุทั้งขายเพราะนักเตะอยากย้ายหรือเพราะเห็นเงินก้อนโตที่ทีมอื่นยื่นให้และอดใจไม่ไหว ไม่ก็เพราะโดนบังคับจากผู้บริหารจากเบื้องสูง แต่อย่างไรก็ดีสโมสรเหล่านี้ก็ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า การตลาดของพวกเขาสุดยอดจริง และวันนี้ทีมงาน Ufa arena.com จะพาเพื่อนๆไปดูกันว่ามีสโมสรใดบ้างที่ทำเงินจากการขายผู้เล่นออกไปได้มากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2014 

 

5.ยูเวนตุส (650.4 ล้านปอนด์)

 

 

นิตยสารฟอกซ์ จัดอันดับให้ยูเวนตุสอยู่ที่ 9ในบรรดาสโมสรฟุตบอลที่ร่ำรวยที่สุดในโลก และในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาพวกเขาได้เซ็นสัญญากับแข้งดาวดังหลายคนทั้ง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ,กอนซาโล่ ฮิกัวอิน ,มัตไตจ์ส เดอ ลิกท์แต่ทำไมพวกเขาถึงกลับมีรายได้เข้าสโมสรอย่างมากมายทั้งที่ซื้อผู้เล่นราคาแพงเข้ามาสู่ทีม 

 

เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่ายูเวนตุสเป็นหนึ่งในสโมสรที่ดีที่สุดในโลกนอกจากนี้พวกเขายังเก่งในเรื่องของการจัดการด้านเงินให้มีความมั่นคงอย่างชาญฉลาดอีกด้วย และในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาพวกเขาลงทุนใช้เงินมาโดยตลอดหลายฤดูกาลหลังนี้ แต่พวกเขาก็ทำในสิ่งที่จำเป็นและใช้เงินอย่างพิถีพิถัน

 

สำหรับยอดขายของยักษใหญ่เซเรียอาทีมนี้ตั้งแต่ปี 2014 เป็นต้นมานั้นมีค่าตัวที่เป็นสถิติโลกของ พอล ป็อกบารวมอยู่ในนี้ด้วยโดยราคานั้นอยู่ที่  (105 ล้านปอนด์)นอกจากนี้ยังขายออกไปได้กำไรอีกหลายคนอาทิ,เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่(42 ล้านปอนด์),อาร์ตูโร่ วิดาล(37.5ล้านปอนด์),มัตเทีย คัลดัลล่า(35ล้านปอนด์)และอัลบาโร โมราต้า(30 ล้านปอนด์)

 

ยูเว่ทำรายได้จากการขายผู้เล่นออกไปเป็นเงินมาจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียว นับตั้งแต่พ้นโทษแบนห้ามซื้อขายผู้เล่นตั้งแต่ฤดูกาล 2014/15 นอกจากนี้พวกเขายังเป็นทีมที่มีผู้เล่นฝีเท้าดีอยู่ในทีมมากมาย โดยแบ่งเป็นการปล่อยให้ทีมอื่นยืมตัวเพื่อเกร็งกำไรในการขายทอดตลาดต่อไป

 

4.เบนฟิก้า( 722.53 ล้านปอนด์)

 

 

เหยี่ยวลิสบอนเป็นสโมสรที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสามของลีกโปรตุเกสรองจากเอฟซี ปอร์โต้และสปอร์ติ้ง ลิสบอน ซึ่งทั้งสามค่ายแห่งนี้ขึ้นชื่อลือชาเรื่องการส่งออกนักเตะและได้กำไรอย่างเป็นกอบเป็นกำ แต่กระนั้นตั้งแต่ปี 2014 เป็นต้นมาดูเหมือนว่าเบนฟิก้าจะเป็นทีมที่ทำรายได้เข้าสโมสรมากที่สุด นอกจากนี้พวกเขายังคว้าแชมป์ลีกได้ถึง 4 สมัยในรอบ 5 ปีหลังสุดนี้

 

ช่วงตลาดซื้อขายในซัมเมอร์นี้พวกเขาขายผู้เล่นไปได้แค่คนเดียว นั่นก็คือ เจา เฟลิกซ์  ที่ย้ายไปอยู่กับแอตเลติโก้ มาดริดด้วยค่าตัวถึง 188 ล้านยูโรหรือ 126 ล้านปอนด์ และนอกจากเฟลิกซ์แล้ว ยังมีผลผลิตที่ฝีเท้าดีจากสโมสรแห่งนี้อีกสองถึงสามรายที่ถูกปล่อยออกไปนับตั้งแต่ปี 2014 ซึ่งได้แก่ แบร์นาโด้ ซิลวา,เรนาโต้ ซานเชซ,เนลสัน เซเมโด้,เจา คันเซโล่และอังเดร โกเมซ

 

ยังมีผู้เล่นของเบนฟิก้าอีกมากมายที่พวกเขาได้ตัวมาร่วมทีมด้วยค่าตัวที่ถูกแต่กลับขายออกไปในราคาที่ดี แต่มีไม่กี่คนที่ได้ย้ายไปแจ้งเกิดกับทีมอื่นจนกลายเป็นซุปตาร์ในที่สุด ซึ่งพวกเขาเหล่านี้ประกอบไปด้วย เอเดอร์สัน โมราเลส,แยน โอบลัค,วิคเตอร์ ลินเดอร์เลิฟ,ราอูล จิมิเนซและโรดริโก้ โมเรโน่

 

3.เชลซี (732.7ล้านปอนด์)

 

 

ต้องขอบคุณการเข้ามาหุบกิจการสโมสรเชลซีของ โรมัน อับราโมวิช ที่ทำให้สิงห์บลูกลายเป็นยอดทีมที่ยิ่งใหญ่ทีมหนึ่งของยุโรป ด้วยการทุ่มทุนอย่างบ้าคลั่งในการดูดนักเตะฝีเท้าดีเข้ามาร่วมทีม แต่ในช่วงหลายปีหลังนี้ เงินที่ใช้จ่ายออกไปหลายร้อยล้านได้กลับมายังสโมสรบ้างแล้ว

 

เชลซีเลื่องลือในการปล่อยผู้เล่นให้สโมสรอื่นยืมตัวไปใช้งานทุกๆฤดูกาล โดยที่นักเตะล่าสุดที่ถูกส่งออกไปและกลับมาเป็นตัวหลักของทีมได้ก็คือ อันเดรส คริสเตียนเซ่นและติบัว คูตัวร์ โดยหลังจาก 2 คนนี้แล้วก็ไม่มีใครที่เข้าข่ายได้ขึ้นสู่ทีมชุดแรกได้อีกเลย

 

เดอะบลูมักจะซื้อดาวรุ่งเข้ามาปลุกปั้นโดยการส่งให้สโมสรอื่นยืมตัวเพื่อเพาะบ่มฝีเท้าให้เก่งขึ้น หลังจากนั้นพวกเขาก็ขายต่อให้ทีมอื่นจนได้กำไรมหาศาล ยกตัวอย่างเช่นผู้เล่นที่มีรายนามต่อไปนี้คือพวกที่นำได้รายได้เข้าสู่สโมสรซึ่งได้แก่ เควิน เดอบรอน,โมฮาเหม็ด ซาลาห์,โลเมลู ลูกากู,ทอร์เก้น อาซาร์และนาธาน อาเก้

 

อีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้เชลซีมีผลประกอบการที่ยอดเยี่ยมในช่วงหลังนั่นก็คือการเปลี่ยนแปลงเรื่องผู้จัดการทีม ที่มักจะสลับหน้ากันมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมันทำให้นักเตะบางคนอาจจะไม่เข้ากับแผนของกุนซือแต่ละคน นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ตัองปล่อยแข้งฝีเท้าระดับเกรดเอออกไป ยกตัวอย่างเช่นในรายของออสก้า, เชส ฟาเบรกัสและรามิเรซ

 

 

 2.แอตเลติโก้ มาดริด (752.8ล้านปอนด์)

 

 

ดิเอโก้ ซิเมโอเน่ทำให้ไอ้ตราหมีเป็นทีมที่มีมาตรฐานการเล่นที่คงเส้นคงวามากทีมหนึ่งของยุโรปเลยทีเดียว นอกจากนี้ในเรื่องของการจัดการนักเตะของทีมก็ยังทำได้อย่างยอดเยี่ยมเช่นกัน โดยหน้าร้อนนี้พวกเขาได้เงินถึง331.1 ล้านยูโร จากการปล่อยตัวแข้งตัวหลักออกไปทั้ง อองตวน กรีซมันน์,ลูคัส เฮอร์นันเดซ,โรดรี้และดิเอโก้ กัวดิน

 

ไม่น่าเชื่อว่า แอตฯมาดริดยังคงยืนระยะเป็นทีมที่แข็งแกร่งและอยู่หัวแถวของยุโรปได้อย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะต้องสูญเสียแข้งดังออกไปในเกือบทุกๆปี แต่มันมีข้อสงสัยอยู่ว่าหากพวกเขายังเก็บผู้เล่นเหล่านี้ไว้ใช้งานต่อได้ ทีมจากเมืองมาดริดทีมนี้จะกลายเป็นทีมระดับโลกเหมือนอย่างสองทีมยักษ์ใหญ่ของโลกอย่างบาร์เซโลน่ากับเรอัล มาดริดหรือไม่

 

เมื่อฤดูกาล 2014 พวกเขาสามารถคว้าแชมป์ลาลีก้ามาได้ ทั้งที่ปีนั้นพวกเขาต้องสูญเสียแข้งคนสำคัญออกไปถึง 3 คนทั้ง ดีเอโก้ คอสต้า,เฟลิปเป้ หลุยส์และดาบิด บีย่า

 

 

1.โมนาโก (866.5ล้านปอนด์)

 

 

ธันวาคมปี 2011 ดิมิทรี ไรโบลอฟเลฟมหาเศรษฐีชาวรัสเซียได้เข้ามาซื้อกิจการของ โมนาโก และได้ลงทุนเปลี่ยนแปลงทีมอย่างหนักหลังดีดตัวกลับมาอยู่บนลีกเอิงอีกครั้งในปี 2013 พวกเขากลายเป็นทีมที่ใช้จ่ายเงินมากที่สุดในหน้าร้อนของปีนั้น โดยการเซ็นสัญญากับนักเตะซุปเปอร์สตาร์อย่างราดาเมล ฟาลกัลและเจมส์ โรดริเกรซ

 

ต่อมาสโมสรได้ตระหนักและรับรู้แล้วว่ารูปแบบที่ทำอยู่นั้นมันไม่เวิร์ค นั่นจึงเกิดการเปลี่ยนแปลงครั่งใหม่ด้วยการ เปลี่ยนจากการซื้อแข้งร้อยล้านแล้วหันไปคว้าพวกผู้เล่นดาวรุ่งที่ฝีเท้าดีทั่วยุโรปเข้าสู่ทีมแทน และทำการปลุกปั้นทำให้แข้งเหล่านี้เก่งขึ้น จนเห็นแล้วว่าขายได้กำไรงาม จึงค่อยปล่อยออกจากทีมไป ซึ่งมันเป็นกลยุทธ์ที่ฉลาดมากกับโปรเจกต์นี้ จนทำให้โมนาโกกลายเป็นทีมที่มีรายได้มากที่สุดของฝรั่งเศสนับตั้งแต่ปี 2014 แถมยังคว้าแชมป์ลีกเอิงได้ในปี 2017อีกด้วย

 

และสำหรับดีลที่ถือว่าขายได้กำไรมากที่สุดของโมนาโกในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาได้แก่คีเลี่ยน เอ็มป้าปเป้ (135ล้านปอนด์),เจมส์ โรดริเกรซ(75ล้านปอนด์),โทมัส เลอมาร์(70ล้านปอนด์),อองโตนี่ มาร์ซิยัล(60ล้านปอนด์),เบนจาเมน เมนดี้(57.5ล้านปอนด์),แบร์นาโด้ ซิลวา(50ล้านปอนด์),ฟาบินโญ่(45 ล้านปอนด์),ยูริ เทอเลอมอง(45ล้านปอนด์)และทีมูเอ้ บากาโยโก้(40ล้านปอนด์)