หากมีใครซักคนที่ไม่ชอบหรือสงสัยในตัวคุณ ไม่ว่าคุณจะทำอะไรได้ดีแค่ไหน คุณก็มักจะถูกตั้งคำถามอยู่เสมอ
และมันก็ไม่ต่างกับ นักฟุตบอลคนหนึ่งที่ยิงไปถึง 16 ประตูในลีก แชมเปี้ยนชิพ เมื่อฤดูกาลก่อน แต่เมื่อทีมขึ้นชั้นสู่ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เขากลับถูกตั้งคำถามมากมายว่าจะดีพอหรือไม่กับการเป็นกองหน้าตัวหลักของทีมบนลีกสูงสุด
“เขาไม่ดีพอหรอกสำหรับพรีเมียร์ลีก “
“เขาเป็นกองหน้าที่ใช้โอกาสเปลืองเกินไป”
“เขาเหมาะกับฟุตบอลลีกแชมเปี้ยนชิพมากกว่า”
นี่เป็นคำตัดสินที่ แพทริค แบมฟอร์ด คุ้นชิ้นมาตลอด จากเหล่าบรรดาแฟนบอลทั้งจากสโมสร ลีดส์ ยูไนเต็ด ของตัวเอง และสโมสรอื่น ที่ยังไม่ได้แม้แต่จะให้โอกาสเขาได้แสดงผลงานในพรีเมียร์ลีก ซักนาทีเดียวด้วยซ้ำ
แต่กับเกมล่าสุดที่ ดาวยิงวัย 27 ปี ระเบิดฟอร์มซัดแฮททริคช่วยให้ทัพ “ยูงทอง” บุกไปยัดเยียดความปราชัยให้ “สิงห์ผยอง” แอสตัน วิลล่า เป็นนัดแรกของฤดูกาล ด้วยสกอร์ 3-0 บวกกับการยิง 3 ประตูจาก 3 เกมแรก (แพ้ ลิเวอร์พูล 3-4, ชนะ ฟูแล่ม 4-3, ชนะ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด 1-0)
นั่นคงเป็นสิ่งที่ตอกปากนักวิจารณ์ได้ดีกว่าคำพูดจริงๆ
มุ่งมั่นรักษาผลงานให้ดีอยู่เสมอ
ถึงตอนนี้ ดาวยิงชาวอังกฤษ สร้างผลงาน 6 เกม 6 ประตูในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เป็นรองดาวซัลโวตามหลังเพียง ซอน เฮือน มิน ดาวยิงสเปอร์ส ที่ซัดไป 8 ประตู และ โดมินิก คัลเวิร์ต-เลวิน ที่ยิงไป 7 ประตู เพียง 2 คนเท่านั้น
แบมฟอร์ม เปิดใจกับสกายสปอร์ต โดยยอมรับว่าถึงเวลานี้เขายังมีอีกหลายสิ่งที่ตัวเองต้องปรับปรุงในการเล่นในลีกสูงสุด แต่จากผลงานที่เขาทำเอาไว้ 6 ประตู นั่นก็แสดงให้เห็นว่าเขาดีพอเช่นกันที่จะเล่นในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
“แน่นอนว่ายังมีอีกหลายสิ่งที่ผมต้องพิสูจน์ตัวเอง ผมมีส่วนร่วมกับทีมไม่มากนัก เมื่อทีมขึ้นชั้นมาอยู่พรีเมียร์ลีกในช่วงแรก อาจเป็นเพราะมีใครหลายคนนั้นสงสัยในตัวผม แต่ผมรู้เสมอว่าตัวเองสามารถเล่นในระดับนี้ได้ ดังนั้นผมจึงต้องพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่าผมนั้นดีพอ”
“หากผมยิงแฮททริคได้อีกครั้ง เหมือนเช่นเกมที่พบ วิลล่า ผมก็คงมีความสุขไม่น้อยกว่าใคร มันวิเศษเอามากๆ การจบเกมด้วยการยิง 3 ประตู นี่จะเป็นเรื่องที่จะอยู่ในความทรงจำของผมไปตลอด”
ทำงานหนักเพื่อให้ตัวเองพร้อมที่สุด
นอกจากนี้ แบมฟอร์ด ยังเผยด้วยว่าสาเหตุที่เขาฟอร์มยอดเยี่ยมเช่นนี้ มันไม่ได้มีความลับอะไรซ่อนอยู่ในนั้น มีเพียงการทำงานหนักเพื่อให้ตัวเองพร้อมมากที่สุด
“ไม่มีความลับอะไรเลย มันเป็นแค่การทำงานอย่างหนัก ผมทำในสิ่งที่ต้องทำมาตลอด เช่นการค้นหาตำแหน่งที่ถูกต้องของตัวเองในการทำประตู และมันก็ได้ผลตอบแทนมาจนถึงตอนนี้นะ”
“ผมต้องทำงานเพื่อทีม และผมต้องทำเช่นนั้นต่อไป ตอนนี้ผมอาจจะอยู่ในช่วงเวลาที่ดี แต่หากคุณคิดว่าตัวเองอยู่ในจุดสูงสุดแล้ว บอกเลยว่าจากนั้นมันก็จะมีทางเดียวที่จะไปต่อนั่นก็คือร่วงลงมาเรื่อยๆ เพราะฉะนั้นคุณต้องห้ามทำตัวเป็นคนที่น้ำเต็มแก้วโดยเด็ดขาด”
“หากคุณยังตั้งเป้าหมายกับความท้าทายเล็กๆน้อยๆให้ตัวเองอยู่เสมอ เพื่อพยายามผลักดันไปสู่จุดที่คุณต้องการ มันจะเป็นวิธีที่ดึงสิ่งที่ดีที่สุดออกมาจากตัวของคุณอยู่ได้โดยอัตโนมัติเลยหละ”
“เกมกับวิลล่าแม้ผมจะยิงแฮททริค แต่ในหัวของผมตอนนั้นมันยังคิดว่าจะยิงได้ 5 ประตู เพราะฉะนั้นมันจึงเป็นเรื่องที่สำคัญที่เราต้องตั้งเป้าหมายให้สูงเอาไว้ก่อน”
บิเอลซ่า กุนซือผู้เชื่อมั่นและให้โอกาส
การเสาะแสวงหาความสมบูรณ์แบบอย่างไม่หยุดยั้ง นั่นเป็นหนึ่งในสิ่งสำคัญที่เขาได้รับมาจาก มาร์เซโล่ บิเอลซ่า กุนซือชาวอาร์เจนไตน์ อันเป็นผู้ช่วยให้เขามีฟอร์มการเล่นที่ดีดั่งเช่นตอนนี้
“ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ยกระดับสูงขึ้นไปเรื่อยๆ หลายปีที่ผ่านมามันยังคงพัฒนาอยู่เสมอ นักเตะจะเล่นเร็วขึ้น ,ฉลาดขึ้น และคุณต้องเติบโตไปพร้อมกับมันอยู่เสมอ ไม่เช่นนั้นคุณจะถูกทิ้งห่างไปเรื่อยๆ “
“โดยส่วนตัว ผมเปลี่ยนแปลงตัวเองไปมาก ทั้งด้านร่างกาย และสภาพจิตใจ ผมมีผู้จัดการที่เชื่อมั่นในตัวผม ดึงความมั่นใจในตัวผมออกมา และพาผมก้าวกระโดดด้วยการฝึกซ้อมที่หนักหน่วง ซึ่งเต็มไปด้วยความจริงใจ”
“เขา (บิเอลซ่า) สมควรได้รับเครดิตอย่างมาก ไม่ใช่เพียงแค่ผมเท่านั้นที่ดีขึ้น แต่มันยังเป็นการพัฒนาทีมของเราทั้งหมด เราเป็นนักเตะที่รวมกันเป็นกลุ่มก้อนมากกว่าเดิม”
เป้าหมายคือดาวซัลโว และลีดส์รอดตกชั้น
ปิดท้ายที่เรื่องเป้าหมายในฤดูกาลนี้ ดาวยิงวัย 27 ปี หวังว่าเขาจะเอาชนะกองหน้าจากสโมสรอื่น เพื่อคว้าดาวซัลโวมาครองให้ได้ แต่เป้าหมายสำคัญที่สุดคือการพาทีมอยู่รอดปลอดภัยในพรีเมียร์ลีก ที่แสนดุเดือดนี้ให้ได้
“มันยังเป็นเรื่องที่เหลือเวลาอีกนานนะ แต่ถ้าหาก แพททริค แบมฟอร์ด (พูดถึงตัวเอง) คว้ารางวัลโกลเด้นบูท มันก็คงทำให้ผมมีความสุขมากๆ แต่ที่สุดแล้วเรื่องสำคัญกว่าสิ่งใดก็คือ ลีดส์ นั้นต้องมีฤดูกาลที่ยอดเยี่ยมและมีผมที่เป็นหนึ่งในนักเตะที่สามารถช่วยทีมได้”
“เมื่อทีมเลื่อนชั้นขึ้นมา หลายคนต่างสงสัยว่าเราจะดีพออยู่รอดปลอดภัยในพรีเมียร์ลีกได้หรือไม่ ซึ่งหากเราสามารถแสดงผลงานที่ดีได้ตลอดทั้งฤดูกาล มันก็ทำให้เราไปถึงจุดที่ต้องการได้อย่างแน่นอน ผมเชื่ออย่างนั้น” แบมฟอร์ด กล่าวทิ้งท้าย
ด้วยมันสมองของ บิเอลซ่า และเป้าหมายของ แบมฟอร์ด ใครจะไปรู้ว่าการผจญภัยของ ลีดส์ ยูไนเต็ด ในครั้งนี้จะไปจบลงที่ใด บางทีการเลื่อนชั้นมาสู่ลีกสูงสุดในรอบ 16 ปีครั้งนี้
พวกเขาอาจจะไปได้ไกลกว่าที่ทุกคิดก็ได้ใครจะรู้