แฟนบอลต้องรู้! 5 ประเด็นร้อนก่อนเกมบิ๊กแมตช์ ‘เมืองทอง – บุรีรัมย์’

 

เกมซุปเปอร์บิ๊กแมตช์คู่ปรับสำคัญตลอดกาลในศึก โตโยต้า ไทยลีก ระหว่าง เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่จะเปิดรังเหย้า เอสซีจี สเตเดี้ยม ดวลเดือดกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ซึ่งแมตช์ดังกล่าวมีโปรแกรมที่จะลงฟาดแข้งกันในวันเสาร์ที่จะถึงนี้

 

โดยเกมนี้มีประเด็นที่น่าสนใจให้แฟนบอลได้มาอุ่นเครื่องเตรียมความพร้อมกันก่อน ทั้งในเรื่องของผลงานในนัดที่ผ่านมา สภาพทีมที่ดูแล้วเจ้าบ้านดูได้เปรียบกว่าทีมเยือนพอสมควร รวมไปถึงประเด็นเกี่ยวกับเรื่องโอกาสลุ้นแชมป์ของทัพ “ปราสาทสายฟ้า” ก่อนลงเล่นเกมสำคัญนัดนนี้

 

นอกจากนั้นยังมีอีกหลายประเด็นที่แฟนบอลทั้งสองทีมต้องรู้เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมก่อนที่นัดดังกล่าวจะระเบิดศึกขึ้น ซึ่งวันนี้ Ufa Arena จึงขอเสนอบทความ 5 ประเด็นร้อนก่อนเกมซุปเปอร์บิ๊กแมตช์ ‘เมืองทอง – บุรีรัมย์’ ไปดูกันเลยว่ายังมีประเด็นไหนอีกบ้างที่น่าสนใจในเกมนัดนี้

 

 

“กิเลน” จัดเต็ม! รอล้างแค้นเกมเลกแรก

 

อย่างที่รู้กันดีการเจอกันของคู่นี้ถือเป็นแมตช์แห่งศักดิ์ศรีที่จะมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งยอมแพ้กันง่ายๆไม่ได้อยู่แล้ว ซึ่งในนัดที่ผ่านมาที่ทั้งคู่เจอกันในช่วงเลกแรก เป็นทางฝั่งของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด โชว์ผลงานได้ดีกว่า พยายามเดินหน้าบุกแหลกใส่ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ก่อนมาได้ประตูชัยจากการยิงของ ศศลักษณ์ ไหประโคน ที่เป็นฮีโร่ของเจ้าบ้านในเกมนัดนั้น

 

เชื่อได้เลยว่าเกมที่สนาม เอสซีจี สเตเดี้ยม ในวันเสาร์นี้ ทัพ “กิเลนผยอง” พร้อมจัดเต็มรอแก้แค้นลูกทีมของ โบซีดาร์ บันโดวิช อยู่แน่นอน บวกกับความมั่นใจของพวกเขาช่วงหลังที่กำลังทำผลงานได้ดีขึ้นเรื่อยๆ นอกจากนี้บรรดานักเตะตัวหลักของทีมหลายคนก็เริ่มกลับมาจากอาการบาดเจ็บลงสนามได้อีกครั้ง โดยเฉพาะดาวยิงคนสำคัญอย่าง ธีรศิลป์ แดงดา

 

ดูแล้วทีมของ อเล็กซานเดอร์ กาม่า ไม่ได้เป็นรองคู่แข่งเหมือนในนัดแรกที่เจอกัน และมีโอกาสสูงมากที่พวกเขาอาจจะลุ้นถึงชนะในเกมนี้ได้เลยทีเดียว

 

 

“ปราสาทสายฟ้า” ล้าทีมชาติ! “เมืองทอง” ฟิตปั๋ง

 

เป็นอีกหนึ่งประเด็นที่จะไม่พูดถึงไม่ได้ นั่นก็คือเรื่องสภาพร่างกายของทั้งสองทีมในเกมนี้ ต้องยอมรับเลยว่า บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ค่อนข้างมีปัญหาสุดๆ หลังแข้งกำลังสำคัญของพวกเขาถึง 6 คน เพิ่งเดินทางไปลงเล่นให้กับทัพ “ช้างศึก” ทีมชาติไทย ในโปรแกรมฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก ถึง 2 แมตช์ โดยเฉพาะในรายของ ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน, พรรษา เหมวิบูลย์ และ สุภโชค สารชาติ ที่ลงเล่นครบ 90 นาทีทั้งสองนัด พวกเขาน่าจะมีอาการล้าให้ได้เห็นแน่นอนในนัดนี้ และอาจจะส่งผลเสียอย่างมากกับทีมเลยทีเดียว

 

ขณะเดียวกันนักเตะกำลังสำคัญของ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด มีเพียงแค่ สารัช อยู่เย็น เท่านั้นที่ได้ลงสนามให้กับทีมของ อากิระ นิชิโนะ ซึ่งน่าจะมีปัญหาความฟิตอยู่พอสมควร แต่แกนหลักที่เหลือทั้ง ธีรศิลป์ แดงดา, ชาริล ชัปปุยส์ และ เฮแบร์ตี้ แฟร์นานเดส ถือว่าสภาพร่างกายฟิตสมบูรณ์สุดๆ หลังได้พักยาวกว่า 2 สัปดาห์

 

ดูแล้วเกมนี้ในเรื่องของสภาพร่างกายน่าจะมีผลแน่นอน โดยเฉพาะกับทางฝั่งผู้มาเยือนที่แกนหลักของพวกเขาน่าจะมีปัญหาเกี่ยวกับความฟิตอยู่ไม่น้อย และต้องรอดูกันว่าพอเกมเริ่มต้นขึ้นมันจะส่งผลกระทบกับพวกเขาแค่ไหน

 

 

 สุภโชค สารชาติ ฟอร์มเข้าฝัก

 

ต้องยอมรับเลยว่าฟอร์มของเพลย์เมกเกอร์อนาคตไกลของทัพ “ปราสาทสายฟ้า” อย่าง สุภโชค สารชาติ ผลงานกำลังยอดเยี่ยมสุดๆ โดยในเกมทีมชาติที่ผ่านมาเขาเพิ่งยิงคนเดียว 2 ประตู พาทีมชาติไทย บุกไปชนะทีมชาติอินโดนิเซีย ได้สำเร็จ รวมไปถึงทำผลงานได้ดีทีเดียวในเกมที่เจอกับทีมชาติเวียดนาม ซึ่งเขาสามารถเล่นงานแนวรับทัพ “มังกรทอง” เรียกได้ว่าปั่นป่วนไม่น้อย พร้อมคว้าตำแหน่งแมนออฟดอะแมตช์ไปครองในท้ายที่สุด

 

โดยจุดเด่นของ “เจ้าเช็ค” คือจังหวะดวลกับคู่แข่ง 1 ต่อ 1 ซึ่งเขาทำได้ดีมากๆ หลายครั้งเรามักจะเห็นเจ้าตัวใช้ความสามารถเฉพาะตัวพาบอลวิ่งฉีกแนวรับได้อย่างยอดเยี่ยม นอกจากนั้นแข้งหมายเลข 19 ของ “บุรีรมย์” ยังมีจังหวะการยิงไกลนอกเขตโทษที่พอหวังผลได้ไม่น้อย ซึ่งอาจเป็นไม้ตายทีเด็ดของยอดทีมแดนอีสานใต้ในนัดนี้ หากพวกเขาไม่สามารถเจาะแผงแนวรับของ “เมืองทอง” ได้

 

 

สถิติพบกันในลีก บุรีรัมย์ ยังข่มมิด

 

อีกหนึ่งประเด็นที่ต้องถูกหยิบยกมาพูดถึงตลอดยามที่ทั้งคู่โคจรมาพบกัน นั่นก็คือสถิติที่เคยเจอกันมา ซึ่งต้องยอมรับเลยว่า บุรีรมย์ ยูไนเต็ด ทำได้ดีกว่า เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด เยอะมาก โดยเฉพาะผลงานในช่วงต้นที่พบกัน จนถึงตอนนี้ทัพ “ปราสาทสายฟ้า” เอาชนะ “กิเลนผยอง” ไปแล้ว 8 นัด เสมอ 9 แพ้ 2 จากโปรแกรมที่พบกันทั้งหมดในศึก ไทยลีก 19 เกมก่อนหน้านี้

 

โดยครั้งสุดท้ายที่ “เมืองทอง” สามารถเอาชนะได้ต้องย้อนกลับไปในฤดูกาล 2016 ที่พวกเขาสามารถล้มคู่ปรับสำคัญทีมนี้ได้ทั้งเกมเหย้าและเกมเยือน ซึ่งถือเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวที่พวกเขาทำได้ หลังจากนั้นเหล่าขุนพล “กิเลน” ก็ไม่สามารถเอาชนะ บุรีรมย์ ได้อีกเลยจนถึงปัจจุบัน

 

 

ซุปเปอร์ดาร์บี้แมตช์ชี้ชะตาแชมป์

 

นอกจากเกมนัดนี้จะเป็นศึกแห่งศักดิ์ศรีระหว่างสองสุดยอดทีมยักษ์ใหญ่ในเมืองไทยอย่าง บุรีรมย์ ยูไนเต็ด และ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด แล้ว มันยังมีผลโดยตรงกับการลุ้นแชมป์ โตโยต้า ไทยลีก ซีซั่นนี้อีกด้วย

 

โดยสถานการณ์ปัจจุบัน ลูกทีมของ โบซีดาร์ บันโดวิช รั้งอยู่ในตำแหน่งจ่าฝูงของตารางนำหน้าอันดับ 2 อย่าง สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด อยู่แค่เพียงแต้มเดียวเท่านั้นกับการแข่งขันที่เหลืออีก 5 นัดในศึกลีกสูงสุดของไทยฤดูกาลนี้

 

นั่นหมายความว่า 3 แต้มเป็นสิ่งที่มีค่าสุดๆสำหรับทีมเยือน พวกเขาจำเป็นต้องบุกมาชนะทีม “กิเลนผยอง” ให้ได้ หากยังคงต้องการรักษาจ่าฝูงของตารางต่อไป แต่ถ้าพวกเขาพลาดท่าเสมอหรือไม่มีแต้มเลยในเกมที่สนาม เอสซีจี สเตเดี้ยม โอกาสคว้าแชมป์ ไทยลีก 2019 อาจจะตกไปอยู่ในมือของคู่แข่งอย่าง “สิงห์ เชียงราย” ทันที