ศึกลูกหนัง ยูโร 2020 รอบน็อคเอาท์ 16 ทีมสุดท้าย ที่สนาม พาร์เค่น สเตเดี้ยม กรุงโคเปนเฮเก้น ประเทศ เดนมาร์ก ทัพ “กระทิงดุ” ทีมชาติ สเปน ดวลกับ ทัพ “ตราหมากรุก” ทีมชาติโครเอเชีย

 

 

นาที 15 สเปน ได้โอกาสทอง เมื่อ เปดรี้ แทงบอลทะลุช่องให้ โกเก้ ได้หลุดเข้าไปยิงในกรอบเขตโทษเน้นๆ แต่โดน โดมินิค ลิวาโควิช เซฟได้แบบเหลือเชื่อ

 

 

GOAL!! นาที 20 โครเอเชีย ได้ประตู ขึ้นนำทั้งที่ไม่มีโอกาสยิงเข้ากรอบแม้แต่ครั้งเดียว เมื่อสเปน พลาดแบบเหลือเชื่อ จากจังหวะที่ เปดรี้ จ่ายคืนหลังให้ อูไน ซิม่อน นายทวารของทีม ปรากฏว่ารับบอลด้วยเท้ากระฉอกหลุดเข้าประตูไปเลย

 

GOAL!! แต่แล้วในนาที สเปน มาตามตีเสมอ 1-1 จนได้ จากจังหวะต่อบอลหน้ากรอบเขตโทษ และเป็น โฆเซ่ กาญ่า ที่ซัดบอลไปติดเซฟ ลิวาโควิช มาเข้าทางปืน ซาราเบีย ที่ตามมาซัดดาบสองไม่มีเหลือ

 

ช่วงเวลาที่เหลือครึ่งแรกทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ สเปน เสมอกับ โครเอเชีย 1-1

 

GOAL!! เข้าสู่ครึ่งหลังนาทีร 56 ทัพ กระทิงดุ มาได้ประตูขึ้นนำ 2-1 จนได้ จากจังหวะที่ เฟร์ราน ตอร์เรส เปิดบอลจากฝั่งซ้ายเข้ามาในกรอบเขตโทษ และเป็น เซซ่าร์ อัซปิลิกวยต้า ที่เบียดแนวรับ โครเอเชีย ขึ้นโขกประตูเข้าไป

 

 

นาที 66 ตราหมากรุก มีลุ้นทำประตูบ้าง เมื่อทำชิ่งหน้ากรอบเขตโทษ ยอสโก้ กวาร์ดิออล ได้ยิงเน้นๆในกรอบเขตโทษแล้ว แต่ ซิโมน ยังซูเปอร์เซฟไว้ได้หวุดหวิด

 

 

GOAL!! จนในนาที 77 สเปน มาได้ประตูปิดกล่อง จากจังหวะชิงไหวพริบ เมื่อ กาญ่า เปิดบอลยาวเข้ามาถึงกรอบเขตโทษ เฟร์ราน ตอร์เรส ได้หลุดเข้าไปยิงเน้นๆด้วยซ้ายเข้าประตูไปอย่างนิ่ง

 

 

GOAL!! เข้าสู่ช่วงท้ายเกม โครเอเชีย สู้ตายโหมบุกเต็มสูบและไล่มาเป็น 2-3 ในนาที 85 จากลูกขลุกขลิกหน้าประตู และเป็น มิสลาฟ ออซิช ที่ยิงผ่านเส้นประตูเข้าประตูไป

 

 

GOAL!! เกมยังไม่จบอย่าเพิ่งนับศพทหาร ในที่สุดช่วงเวลาทดเวลาบาดเจ็บนาที 93 โครเอเชีย มาตามตีเสมอ 3-3 แบบเหลือเชื่อ เมื่อ ออซิช เปิดบอลเข้ามาในกรอบเขตโทษ มาริโอ ปาซาลิช ขึ้นโขกเน้นๆไม่มีเหลือ

 

 

ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้เสมอกันไป 3-3 ต้องต่อเวลาพิเศษออกไปอีก 30 นาที

 

 

นาที 95 โครเอเชีย โหมบุกเป็นพายุ และเกือบได้ประตูขึ้นนำเมื่อ อันเดร ครามาริช ได้ยิงเน้นๆในกรอบเขตโทษ แต่ยังตรงตัว ซิมอน เซฟไว้ได้เหลือเชื่อ

 

 

GOAL!! จนในนาที 100 สเปน มาได้ ประตูแซงนำ 4-3 เมื่อ ดานี่ โอลโม่ เปิดบอลจากขวามาถึงเสาสอง อัลบาโร่ โมราต้า จับบอลลงด้วยขวาก่อนซัดด้วยซ้ายเข้าประตูไปอย่างเฉียบขาด หยุดเสียงวิจารณ์ได้เงียบสนิท

 

GOAL!! นาที 103 กระทิงดุ หนีห่างเป็น 5-3 เมื่อ โอลโม่ คนเดิมเปิดจากขวามาให้ มิเกล โอญาซาบาล ได้ยิงเน้นๆในกรอบเข้าไปเลย

 

 

ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ จบเกม สเปน เอาชนะ โครเอเชีย ไปแบบสุดมัน 5-3 ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ ไปรอพบผู้ชนะระหว่าง ฝรั่งเศส กับ สวิตเซอร์แลนด์ ในวันศุกร์ที่ 2 ก.ค. นี้

 

 

รายชื่อ 11 ตัวจริงของทั้งสองทีม

โครเอเชีย : โดมินิค ลิวาโควิช – ยอซิป ยูรานอวิช, ดูเย คาเลต้า-คาร์, โดมาโก้จ์ วิด้า, ยอสโก้ กวาร์ดิออล – มาร์เซโล่ โบรโซวิช, ลูก้า โมดริช, มาเตโอ โควาซิช – นิโกล่า วลาซิช, อันเต้ เรบิช – บรูโน่ เพ็ตโควิช

 

สเปน : อูไน ซิโมน – เซซ่าร์ อัซปิลิกวยต้า, อายเมริค ลาปอร์กต์, เอริค การ์เซีย, โฆเซ่ กาย่า – เซร์คิโอ บุสเก็ตส์, โกเก้, เปดรี้ – เฟร์ราน ตอร์เรส, อัลบาโร่ โมราต้า, ปาโบล ซาราเบีย