เซ็นเตอร์ตัวเก๋าจากเลเกอร์ส ขอยอมชวดแชมป์เอ็นบีเอ ถ้าสามารถแก้ปัญหาการเหยียดผิวได้
ดไวท์ ฮาวเวิร์ด เซ็นเตอร์มากประสบการณ์ของ ลอสแองเจลิส เลเกอร์ส เชื่อว่า ศึกเอ็นบีเอยังไม่ควรกลับมาแข่งขันในช่วงเวลานี้ เนื่องจากอาจเบี่ยงความสนใจเกี่ยวกับประเด็นและปัญหาเหยียดผิวที่กำลังประท้วงขึ้นในสหรัฐอเมริกา
การประท้วงเรื่องความเท่าเทียบและความยุติธรรมเพื่อคนผิวสีเกิดขึ้นไปทั่วแดนลุงแซมในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจาก จอร์จ ฟลอยด์ หนุ่มใหญ่ผิวดำชาว อเมริกัน-แอฟริกัน ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจถูกกระทำเกินกว่าเหตุจนเสียชีวิต
นั่นทำให้ ไครี เออร์วิง สตาร์ดังจาก บรู๊คลิน เน็ตส์ ต่อต้านแนวคิดการกลับมาแข่งต่อของเอ็นบีเอที่จะจัดขึ้นใน วอลท์ ดีสนี่ย์ เวิลด์’ในเมืองออร์แลนโด้ รัฐฟลอริด้า ตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคมนี้ พร้อมปลุกระดมเพื่อนๆเพื่อต่อต้านเหยียดผิวอีกด้วย
ทางด้าน เจ้าของ ฉายา ‘ซุปเปอร์แมน’ ก็ออกมาเห็นด้วยกับประเด็นนี้ของเพื่อนร่วมอาชีพ โดยกล่าวกับ ซีเอ็นเอ็น ว่า “บาสเกตบอล หรือเรื่องบันเทิง คือสิ่งที่ไม่จำเป็นในตอนนี้ และมีแต่จะทำให้เบี่ยงเบนความสนใจเท่านั้น ผมคงไม่รักสิ่งไหนไปมากกว่าการคว้าแชมป์เอ็นบีเอสมัยแรก แต่การหลอมรวมผู้คนได้ มันยิ่งใหญ่กว่าการเป็นแชมป์ มันสวยงามเกินกว่าจะปล่อยผ่านไป จะมีเวลาไหนที่ดีกว่าตอนนี้ในการให้ความสนใจกับครอบครัวของเรา?”
“นี่เป็นโอกาสที่หาได้ยาก ผมเชื่อว่าเราในฐานะชุมชนควรใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่จากสิ่งนี้ เมื่อไหร่กันที่เรามีเวลานั่งและอยู่กับครอบครัวของเรา? นี่คือจุดเริ่มต้นของความสามัคคีของพวกเขา ทั้งที่บ้าน กับครอบครัว การล่าอาณานิคมของยุโรปกีดกันเราออกจากประวัติศาสตร์มายาวนาน และเรายังไม่ได้คิดทบทวน และแก้ไขเรื่องนี้เลย”
“สิ่งรบกวนที่น้อยลง จะทำให้เราค้นพบตัวเองได้มากขึ้น ชาติมาจากหลายๆครอบครัว ผิวดำ แอฟริกัน อเมริกัน ไม่ใช่ชาติหรือสัญชาติ มันถึงเวลาแล้วที่ครอบครัวของพวกเขาจะกลายเป็นชนชาติของตัวเอง จะไม่มี บาสเกตบอล จนกว่าเรื่องนี้จะได้รับการแก้ไข” นักยัดห่วงวัย 34 ปีทิ้งท้าย
