แม้อุ่นเครื่องก็จัดเต็ม : 9 ประตูโคตรสวยในเกมกระชับมิตรช่วงพรีซีซั่น

 

นับตั้งแต่เข้าสู่เดือนกรกฏาคมเป็นต้นมา แฟนบอลหลายคนน่าจะได้เห็นฟอร์มทีมของตัวเองแล้วว่าน่าพอใจมากแค่ไหน หรือมีจุดไหนที่ทีมควรปรับปรุงเพื่อให้พร้อมกับการสู้ศึกในฤดูกาลใหม่ที่กำลังจะใกล้เข้ามาในไม่ช้า

 

แต่ถึงแม้เราจะได้เห็นภาพร่วมของในช่วงพรีซีซั่น แต่บางครั้งผลงานในตอนนี้ ก็ไม่ชี้วัดว่าทีมจะทำผลงานในฤดูกาลใหม่ได้ดีหรือแย่แบบแน่นอน 100 เปอร์เซนต์ ทำให้หลายคนเลือกที่จะมองข้ามเกมอุ่นเครื่องหรือนัดกระชับมิตรเหล่านี้ไปในบางที

 

อย่างไรก็ตาม ถึงจะเป็นการแข่งขันที่ดูไม่มีความหมายมากเท่าไหร่ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเกมเหล่านั้นจะน่าเบื่อเสมอไป บางนัดกับเล่นกันได้สนุกสูสีจนได้ใจแฟนบอล และที่สำคัญยังมีประตูสวยๆมากมายเกิดขึ้นในเกมธรรมดาเหล่านี้อีกต่างหาก

 

และ นี่คือ 9 ประตูโคตรสวยสุดๆที่เกิดขึ้นในเกมช่วงพรีซัซั่นก่อนเปิดฤดูกาลใหม่ในรอบหลายปีที่ผ่านมา

 

 

ราดาเมล ฟัลเกา (แอตฯมาดริด พบ อเมริกา เด กาลี, 2012)

 

 

ฟัลเกาอาจทำผลงานได้อย่างล้มเหลวเมื่อตอนที่เขาค้าแข้งในถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด และ สแตมฟอร์ด บริดจ์ แต่ก่อนหน้านี้ เอล ติเกร เคยพิสูจน์มาแล้วว่าตนเองเป็นกองหน้าระดับโลกได้อย่างไม่มีใครปฏิเสธได้ และทำประตูสวยๆได้อยู่บ่อยครั้ง อย่างเช่นในเกมอุ่นเครื่องปี 2012 ที่แอตเลติโก มาดริด เจอกับ สโมสรในโคลอมเบีย บ้านเกิดของเขา

 

ในจังหวะที่ ดีเอโก้ เปิดลูกเตะมุมเข้ามาในกรอบเขตโทษ กองหน้าตราหมีไม่ได้อยู่จังหวะที่น่าจะทำประตูได้เลย แต่เขากลับถอยหลังไปห่างจากปากประตูในระยะ 16 หลา และกระโดดโอเวอร์เฮดคิกด้วยเท้าซ้ายเข้าไปแบบมุมสามเหลี่ยมไปแบบที่นายทวารคู่แข่งทำได้แค่ยืนมองเท่านั้น

 

 

ไมเคิล โอเว่น (แมนฯยูไนเต็ด พบ หางโจว กรีนทาวน์, 2009)

 

 

จังหวะการทำประตูนี้ของเบบี้ โกล ถือเป็น อีกประตูที่เขาทำได้อย่างสมบูรณ์แบบในอาชีพค้าแข้ง ไม่ว่าจะเป็น ทิศทาง หรือ ควาแม่นยำ ซึ่งทำเอานายทวารของ หางโจว กรีนทาวน์หมดสิทธิเซฟป้องกันประตูไปเลย ในเกมที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บุกไปถล่ม สโมสรแดนมังกรไป 8-2 เมื่อเดือนกรกฏาคมปี 2009

 

อย่างไรก็ตาม ประตูลูกที่ 4 ที่เกิดขึ้นในเกมวันนั้น โอเว่น ต้องขอบคุณความอัจฉริยะของ ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ  กองหน้าเพื่อนร่วมทีม ที่เป็นคนแอสซิสต์ให้เขาแบบเหนือชั้นเช่นกัน

 

หัวหอกชาวบัลแกเรียนถูกรายล้อมไปด้วยแข้งของ หางโจว ถึง 6 คน ก่อนที่เขาจะงัดบอลขึ้นและยกข้ามกองหลังคู่แข่งให้กับ อดีตแข้งลิเวอร์พูล วอลเลย์ด้วยขวาเข้าไปตุงตาข่าย

 

 

ยอสซี่ เบนายูน (เชลซี พบ วีคอมบ์ วันเดอร์เรอร์ส, 2011)

 

 

จะอธิบายการทำประตูนี้อย่างไรดี? เดาะบอลด้วยส้นเท้าก่อนงัดข้ามหัวนายทวาร? หรือต้องอธิบายว่าเป็นการทำสกอร์เปี้ยนคิก 3 ครั้งติด? แต่ไม่ว่าจะเขียนหรืออธิบายแบบไหนก็ตาม สิ่งเหล่านี้ก็ไม่ได้ลดความสวยงามของประตูที่ ยอสซี่ เบนายูน ทำได้ แม้แต่นิดเดียว ในเกมที่เชลซี พบ ทีมระดับล่างในอังกฤษ ซึ่งเป็นการอุ่นเครื่องนัดแรกในช่วงพรีซั่นของฤดูกาล 2011-12

 

อย่างไรก็ตาม ช่วงที่เวลาของแข้งชาวอิสราเอลในถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ ไม่ได้สวยงามแบบที่เขายิงได้ในเกมนั้นซักเท่าไหร หลังลงเล่นไปแค่ 24 นัดเท่านั้น ตลอด 3 ปีที่อยู่ในถ้ำสิงห์บลู

 

 

ยอห์น อาร์เน่ รีเซ่ (ลิเวอร์พูล พบ เซลติก, 2005)

 

 

หากพูดถึงนักเตะซักคนที่ยิงเท้าซ้ายได้หนักเทียบเท่าหรือใกล้เคียงกับ โรแบร์โต้ คาร์ลอส แบ็คจอมบุกตำนานทีมชาติบราซิล แฟนบอลหลายๆคนน่าจะนึกถึงชื่อ ยอห์น อาร์เน่ รีเซ่ เป็นคนแรก แถมเขายังยิงประตูได้คล้ายๆกับอดีตแบ็คซ้ายเรอัล มาดริด อีกด้วย แม้จะเป็นเกมอุ่นเครื่องที่ลิเวอร์พูลพบกับเชลติกในปี 2004 ก็ตาม

 

หงส์แดงได้ฟรีคิกในช่วงต้นเกมอย่างรวดเร็ว ก็อยู่ในระยะที่ไกลพอสมควร หากหวังจะทำประตูจากจุดนั้น แต่นั่นคือสิ่งที่แบ็คซ้ายชาวนอร์เวย์ต้องการที่จะทำ หลัง ดีทมาร์ ฮามันน์ เขี่ยบอลให้หนึ่งจังหวะ ก่อนตะบันเต็มข้อด้วยซ้าย พุ่งแหวกอากาศเบียดเสาแรกเข้าไปอย่างสวยงาม โดยจบเกมนั้นทีมของ ราฟาเอล เบนิเตซเอาชนะไปด้วยสกอร์ท่วมท้น 5-1 

 

 

 ฟิลิปโป้ อินซากี้ (เอซี มิลาน พบ บาร์เซโลน่า, 2010) 

 

 

รูปแบบการเข้าประตูของ ปิปโป้ ในเกมอุ่นเครื่องที่พบกับ บาร์เซโลน่า ในเดือนสิงหาคมปี 2010 ณ สนามคัมป์ นู บ่งบอกเป็นอย่างดีว่าอินซากี้ไม่ได้มีดีแค่ในกรอบ 6 หลาเท่านั้น

 

คลาเรนซ์ เซดอร์ฟ กองกลางปีศาจแดงดำได้วางบอลยาวจากบริเวณกลางขึ้นมายังแดนหน้าอย่างงดงาม ซึ่งบอลค่อยๆลอยโด่งมาถึงหัวหอกชาวอิตาเลี่ยน  และวอลเลย์แบบไม่ต้องจับด้วยซ้าย ที่ไม่ใช่ข้างถนัดของเขาเลย ก่อนที่บอลจะเลี้ยวหนี โฮเซ่ ปินโต้ และเสียบสามเหลี่ยมอย่างสมบูรณ์แบบ

 

ผมรู้ว่าตนเองถูกแฟนบอลจดจำในฐานะนักเตะที่ทำประตูจากระยะใกล้ๆเท่านั้น แต่ผมคิดว่าประตูนี้แสดงให้ทุกคนเห็นว่าผมก็สามารถยิงประตูสวยๆได้เช่นกัน” อดีตกองหน้าเอซี มิลาน พูดถึงเหตุการณ์ครั้งนั้นผ่านทาง FourFourTwo

 

 

ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา (เชลซี พบ มิลาน, 2009)

 

 

 ฟุตบอลเป็นกีฬาที่ต้องใช้แท็คติกต่อสู้กันอย่างมาก และต้องใช้เวลาในการสร้างเกมรุกของตัวเองพอสมควรกว่าจะพาบอลเข้าไปยังตาข่ายของฝ่ายตรงข้าม แต่ในบางครั้งการทำประตูจากเกมลูกหนังก็เกิดขึ้นง่ายๆ จากการซัดไกลระยะ 30 หลา เท่านั้น แบบที่ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา เคยทำไว้เมื่อ 10 ปีก่อน

 

ประตูนี้เกิดขึ้นในเกมอุ่นเครื่องเมื่อปี 2009 ที่บัลติมอร์ หลังกองหน้าชาวไอวอรี่ โคสต์ได้บอลจากเพื่อนร่วมทีมเชลซี  และเมื่อสังเกตุว่าไม่มีนักเตะมิลานคนไหนเข้ามาขวางทางปืน เขาจึงตัดสินใจหวดตูมเดียวด้วยขวา จนบอลพุ่งทะยานเข้าไปซุกก้นตาข่าย 

 

 

เธียร์รี่ อองรี  (อาร์เซน่อล พบ ไวซ์, 2005)

 

 

สิ่งแรกที่หลายคนสังเกตุในเกมอุ่นเครื่องกับ ไวซ์ เมื่อเดือนกรกฏาคมปี 2005 คือ ฟิลิปป์ เซนเดอรอส กองหลังทีมปืนใหญ่สามารถจ่ายบอลสวยๆให้เพื่อนร่วมทีมได้ราวกับปาฏิหารย์ในแดนตัวเอง 

 

แค่นั้นก็เป็นอะไรที่น่ายกย่องแก่กองหลังชาวสวิชแล้ว แต่ว่าเหตุการณ์ต่อจากนั้นกลับยอดเยี่ยมยิ่งกว่า เมื่ออองรีพักบอลได้อย่างนิ่มนวลด้วยเข่า และแตะบอลข้ามหัวกองหลังจากทีมออสเตรียด้วยขวา ก่อนที่จะงัดบอลข้ามผู้รักษาประตูคู่แข่งไปแบบเหนือๆ

 

 

คริส อีเกิ้ลส์ (แมนฯยูไนเต็ด พบ เซินเจิ้น เอฟซี, 2007)

 

 

อีกประตูสุดสวยลูกหนึ่งจากการทัวร์พรีซีซั่นที่เอเชียในช่วงซัมเมอร์ของพลพรรคปีศาจแดง ปี2007 โดยครั้งนี้มาจากลูกหม้อที่ไม่มีโอกาสแจ้งเกิดในทีมชุดใหญ่อย่าง คริส อีเกิ้ลส์

 

ทีมของเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เป็นฝ่ายครอบครองบอล แต่ก็ไม่ได้มีจังหวะบุกทะลวงเกมรับของทีมจากแดนมังกรมากนัก แถมมีจังหวะที่ ตง ฟาน โจว จับบอลพลาดอยู่ แต่ทว่าบอลดันบังเอิญมาเข้าทางปืน อดีตดาวรุ่งชาวอังกฤษ อย่างจัง เขาจึงก้มหน้าก้มตาวอลเลย์ด้วยขวาแบบไม่ต้องแต่งอะไรทังนั้น กอ่นที่บอลจะพุ่งและมุดลงเสียบเสาเข้าประตูอย่างรวดเร็ว     

 

 

ซีเนดีน ซีดาน (เรอัล มาดริด พบ โตเกียว เวอร์ดี้, 2004)

 

 

สำหรับนักเตะที่ได้รับยกย่องว่าเก่งกาจที่สุดคนนึงในยุคก่อนอย่าง ซีเนดีน ซีดาน เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว ที่แฟนบอลทั่วโลกจะได้เห็นลีลาการทำประตูสุดเหนือชั้นจากปลายสตั๊ดของซิซูมากมาย รวมไปถึงการแข่งขันที่ไม่มีผลกับทีมมากมาย เช่น เกมอุ่นเครื่องกับโตเกียว เวอร์ดี้ ในเดือนสิงหาคมปี 2004 ด้วย

 

 จอมทัพชาวฝรั่งเศสได้รับบอลจาก โรนัลโด้ ก่อนจะคลึงบอลหลบกองหลังแดนปลาดิบไปแบบดื้อๆ แต่แค่นั้นยังสาแก่ใจของซีดาน เมื่อเขาสับขาหลอกใส่นายทวารคู่แข่งจนหัวหมุน และจิ้มด้วยหัวเกือกเข้าประตูไป โดยที่เขาสัมผัสบอลแค่ 2 จังหวะเท่านั้น ช่างเป็นบุญตาของแฟนบอลในเกมนั้นจริงๆ