แย่ยังไงก็ได้แชมป์ : 8 แข้งผีสุดห่วยแต่ชูถ้วยพรีเมียร์ลีก

 

แค่เริ่มต้นฤดูกาลไม่ทันไร แฟนปีศาจแดงต่างบ่นอุบเป็นเสียงเดียวกันว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในตอนนี้ย่ำแย่มากๆ บางคนถึงขนาดตราหน้าว่านี่เป็นทีมที่ห่วยที่สุดในประวัติศาาสตร์ของสโมสรเลย

 

ซึ่งในตอนนี้ทีมของโอเล่ กุนนาร์ โซลชา ทำได้เพียง 8 แต้ม จากการลงเล่นไป 6 นัดในลีก โดยแบ่งเป็น ชนะ 2 เสมอ 2 และแพ้อีก 2 

 

อีกทั้งแข้งหลายคนในทีมถูกสับเละไม่เหลือชิ้นดี เช่น เจสซี่ ลินการ์ด, เนมานย่า มาติช, มาร์คัช แรชฟอร์ด หรือ แม้กระทั่งนักเตะที่มีค่าตัวแพงที่สุดตลอดกาลของทีมอย่าง พอล ป็อกบา ก็ไม่มีข้อยกเว้น 

 

อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าหลายคนจะลืมไปแล้วว่าในยุคก่อนที่มี เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ก็อุดมไปด้วยนักเตะฝีเท้าสุดธรรมดา แถมบางคนยังค่อนไปในทางที่ไม่ดีด้วยซ้ำไป 

 

แต่ไม่รู้ว่าด้วยบุญวาสนาส่งหรืออยู่ในช่วงดวงกำลังขึ้น พวกเขาถึงมีโอกาสคว้าแชมป์ร่วมกับสโมสรได้มากมาย ทั้งๆที่ความสามารถของพวกเขาไม่ควรอยู่กับทีมระดับนี้และผลงานตอนอยู่ในสนามก็จัดว่าห่วยเอาเรื่อง

 

และนี่คือ 8 แข้งปีศาจแดงที่ห่วยจนเกินบรรยายแต่สุดท้ายก็ยังเคยชูถ้วยแชมป์ที่นักเตะจากลิเวอร์พูลบางคนยังไม่มีโอกาสได้สัมผัสอย่าง พรีเมียร์ลีก ซะอย่างนั้น

  

 

เวส บราวน์

 

 

ลูกหม้อของปีศาจแดงที่อยู่กับทีมชุดเยาวชนมาตั้งแต่อายุ 12 ขวบ ก่อนจะได้รับสัญญาอาชีพครั้งแรกในปี 1996 และได้ประเดิมสนามชุดใหญ่เกมแรกในอีก 2 ปีต่อมา แต่ถึงกระนั้นช่วงเวลาที่เขาขึ้นมาเล่นรวมกับดาวดังในทีม บราวน์ไม่สามารถยกระดับตัวเองให้ทัดเทียมกับแข้งเหล่านั้นได้ แถมยังกลายเป็น 1 ใน 4 ดาวตลกประจำทีมรวมกับ โอเช, ซิลแวสต์ และ แฟล็ทเชอร์ อีกต่างหาก

 

แต่ถึงแม้จะเป็นอย่างนั้น แข้งทีมชาติอังกฤษก็มีคว้าแชมป์ร่วมกับสโมสรมากมาย ทั้งพรีเมียร์ลีก 5 สมัย, เอฟเอ คัพ 2 สมัย, ลีก คัพ 2 สมัย, คอมมูนิตี้ ชิลด์ 2 สมัย และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกอีก 2 สมัย

 

และอย่างน้อยสาวก เร้ด อาร์มี่ ก็ยังเห็นฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยมที่สุดในอาชีพค้าแข้งของบราวน์เหมือนกัน ซึ่งเกิดขึ้นในฤดูกาล 2007-08 เขายึดตำแหน่งแบ็คขวามาได้อย่างถาวรในปีนั้น โดยได้ลงเล่นกว่า 52 นัด มากที่สุดในการลงเล่นต่อหนึ่งฤดูกาลของเขา และช่วยให้ทีมคว้าแชมป์ยุโรปมาครองได้อีกครั้งในรอบ 9 ปี

 

 

จอห์น โอเช

 

 

จอห์น โอเช ถือเป็นอีกหนึ่งแข้งสารพัดประโยชน์ประจำทีมของเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ในยุครุ่งเรือง ไม่ว่าจะกองกลาง, ตัวตัดเกม, เซ็นเตอร์แบ็ค, แบ็คซ้าย,แบ็คขวา, กองหน้า หรือ แม้กระทั่งผู้รักษาประตู เขาก็ลองเล่นมาหมดแล้ว

 

แต่ถามว่าเล่นได้ดีมั้ย ก็คงต้องบอกว่าไม่ได้เรื่องเท่าไหร่ และมีน้อยครั้งเหลือเกินที่แข้งชาวไอร์แลนด์จะทำผลงานได้เข้าตาแฟนบอลปีศาจแดงทั่วโลก

 

อย่างไรก็ตาม เขากลับระสบความสำเร็จในแง่ของถ้วยรางวัลมากกว่านักเตะมีชื่อชั้นหรือฝีเท้าที่เก่งกาจกว่าตนเองเสียอีก เพราะไม่ว่าจะเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีก เขาก็สัมผัสมันมาแล้วถึง 5 ครั้ง รวมไปเอฟเอ คัพ, ลีก คัพ, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก และแชมป์สโมสรโลกอีกด้วย

 

  โดยปัจจุบัน โอเช ได้ประกาศแขวนสตั๊ดไปแล้วเรียบร้อยในปีนี้กับเร้ดดิ้ง และเปลี่ยนมารับบทบาทเป็นหนึ่งในสต๊าฟโค้ชของ เดอะ รอยัลส์ ตั้งแต่ฤดูกาลนี้เป็นต้นมา

 

 

มิกาเอล ซิลแวสต์

 

 

อีกหนึ่งนักเตะสารพัดประโยชน์ของปีศาจแดงในยุคเฟอร์กี้ มิกาเอล ซิลแวสต์ ที่สามารถเล่นได้ทั้งตำแหน่งกองหลังตัวกลาง และ แบ็คซ้าย ทว่าฟอร์มการเล่นของเขาก็ยังฝากผีฝากไข้ไม่ได้มากนัก นับตั้งแต่ย้ายจาก อินเตอร์ มิลาน มาค้าแข้งที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ในปี 1999

 

มากไปกว่านั้น แข้งชาวฝรั่งเศสทำเอาสาวกเร้ด อาร์มี่ ทุกหมู่เหล่าสบถผ่านหน้าจอโทรทัศน์อยู่หลาย เมื่อเห็นเขาลงสนามร่วมกับ บราวน์ และ โอเช 2 แข้งที่แฟนร้องยี้ไม่ต่างกัน เพราะนอกจากทำให้เกมรับมีช่องโหว่แล้ว พวกเขาอาจจะทำให้ทีมเสียประตูได้ตลอดเวลาแบบไม่ต้องการความเข้าใจใดๆทั้งสิ้น

 

แม้ฟอร์มการเล่นจะเข้าขั้นวิกฤตแค่ไหนกับตลอด 9 ปีในทีม แต่ ซิลแวสต์ก็ยังคว้าแชมป์ร่วมกับสโมสรมากมายไม่ต่างเพื่อนจอมเหวอของเขาอีก 2 คน ทั้งพรีเมียร์ลีก, เอฟเอ คัพ, ลีกคัพ และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก

 

 

ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์

 

 

ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ หรือนักเตะที่แฟนผีพร้อมกับเรียกฉายาให้ว่า ‘ไอ้กุ้งแห้ง’ เป็นหนึ่งในลูกหม้อของสโมสรที่ถูกเฟอร์กี้ดันขึ้นมาเล่นในชุดใหญ่ตั้งแต่ปี 2003 และอีก 2 ปีต่อมา ก็โดน รอย คีน อดีตกัปตันทีมจวกว่าโคตรห่วยหลังเกมที่พ่ายต่อ มิดเดิ้ลสโบรห์ 4-1 ในฤดูกาล 2005-06

 

ซึ่งก็ดูเหมือนจะเป็นอย่างที่คีโน่ว่าจริงๆ เพราะถึงแม้เขาจะคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้ถึง 5 สมัย พ่วงกับ เอฟเอ คัพ 1 สมัย, ลีกคัพ 1 สมัย, และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก กับ แชมป์สโมสรโลกอย่างละสมัย กองกลางชาวสก็อตก็ไม่ได้โชว์ทักษะที่โดดเด่นในทีมออกมาให้เห็นเท่าไหร่ และมักจะถูกค่อนขอดว่าได้โอกาสลงเล่น เนื่องจากเป็นเป็นคนชาติเดียวกันกับเฟอร์กี้ นายใหญ่ประจำทีม

 

แต่อย่างน้อย เฟลท ก็ยังมีช่วงเวลาให้แฟนปีศาจแดงได้จดจำในด้านฝีเท้าอยู่บ้าง หลังกลายเป็นหัวใจสำคัญแดนกลางร่วมกับ ไมเคิล คาร์ริค ในฤดูกาล 2009-10 และติดทีมยอดเยี่ยมประจำปีของ PFA อีกด้วย แม้จะเสียแชมป์ลีกให้กับเชลซีไปก็ตาม

  

 

เบเบ้

 

 

แฟนบอลยูไนเต็ดหลายคนคงไม่คุ้นชื่อของ ติอาโก้ มานูเอล ดอาส คอร์เรอา อย่างแน่นอน แต่ถ้าเปลี่ยนเป็นชื่อเล่นของเขาอย่าง ‘เบเบ้’ แทบ 100 เปอร์เซนต์จะต้องร้องอ๋อในทันที พร้อมกับนึกถึงเรื่องราวที่เขาเข้ามาอยู่ในทีมรักได้อย่างไร

 

แข้งชาวโปรตุกีสล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงในฐานะแข้งปีศาจแดง และถือเป็นหนึ่งการดีลยอดแย่ของเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ด้วย และอาจจะแย่ที่สุด้วยซ้ำไป เนื่องจาก เบเบ้ ไม่สามารถสร้างความประทับใจได้เลยยามอยู่ในโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด และมักจะถูกปล่อยให้ทีมอื่นยืมไปใช้งานเป็นประจำตลอด 4 ปีที่อยู่กับทีม

 

และในกรณีของ เบเบ้ นั้นแตกต่างจากคนอื่นๆในลิสต์นี้ เนื่องจากเขาไม่เคยคว้าแชมป์ใดๆกับสโมสรได้เลย เนื่องจากลงสนามไม่ครบตามที่พรีเมียร์ลีกกำหนด แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็มีโอกาสได้สัมผัสโทรฟี่พรีเมียร์ลีกของจริง ซึ่งมีนักเตะไม่กี่คนที่ทำแบบนี้ได้ ถ้าหากไม่เชื่อ เราแนะนำให้ไปถาม สตีเว่น เจอร์ราร์ด ดูได้เลย

 

 

แดนนี่ เวลเบ็ค

 

 

กองหน้าชาวอังกฤษที่ทำเอาแฟนปีศาจแดงหลายคนส่ายหน้า เพราะนอกจากลีลาสุดฮาแล้ว เราก็หวังให้เขาทำประตูได้เหมือนกองหน้าทั่วไปไม่ได้เลย ทั้งๆที่เขาเคยได้รับการฝึกฝนวิชาลูกหนังกับ ยอดหัวหอกในทีมอย่าง รุด ฟาน นิสเตอรอย หรือ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ดาวเตะก้องโลกมาแล้วในสมัยที่เป็นแข้งเยาวชนในทีม

 

แข้งที่แฟนเรียกว่า ‘เวลเบลิอุซ’ เริ่มก้าวขึ้นมาเล่นชุดใหญ่ตั้งแต่ปี 2007 แต่ก็ไม่รับโอกาสมากนัก จนกระทั่งย้ายไปเล่นกับซันเดอร์แลนด์ แบบยืมตัวก็เริ่มทำผลงานได้เข้าตาเฟอร์กี้ จนได้เล่นชุดใหญ่แบบจริงๆจังๆเป็นครั้งแรกในฤดูกาล 2011-12 ซึ่งก็เหมือนจะดูดีแค่ปีนั้นปีเดียว เพราะหลังจากนั้นเขาก็เล่นเอาฮาอย่างเดียว 

 

แต่ถึงจะฮาจนแฟนอยากจะด่าแค่ไหน เวลเบ็คก็มีโอกาสชูถ้วยพรีเมียร์ลีกในฤดูกาล 2012-13 รวมไปถึงแชมป์เอฟเอ คัพ ในปี 2017 หลังจากที่ย้ายไปอาร์เซน่อลด้วย โดยปัจจุบันแข้งวัย 28 ปีย้ายไปสร้างความบันเทิงกับ วัตฟอร์ด ตั้งแต่ช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา

 

 

คีแรน ริชาร์ดสัน

 

 

คีแรน ริชาร์ดสัน เริ่มต้นเล่นฟุตบอลอาชีพในตำแหน่งปีกและตัวริมเส้นก่อน แต่หลังจากนั้นไม่กี่ปีเขาก็ถูกดัดแปลงพันธ์ุกรรมให้กลายเป็นแบ็คซ้าย และกองกลาง จนทำให้เขาเป็นแข้งสารพัดประโยชน์ไปโดยปริยาย

 

และหากมีฝีเท้าไม่ถึงจริง การเป็นนักเตะที่เล่นได้หลายตำแหน่งก็ไม่ใช่เรื่องดีซักเท่าไหร่ เช่นแข้งชาวอังกฤษรายนี้ ที่ไม่สามารดึงศักยภาพที่ดีที่สุดของตัวเองออกมาได้เลย ตลอดเวลาที่ค้าแข้งในทีมปีศาจแดง ตั้งแต่ปี 2002 จนกระทั่งฤดูกาลสุดท้ายในปี 2006-07 แต่ก็ยังดีหน่อยที่เขายังมีเหรียญพรีเมียร์ลีกติดไม้ติดมืออกไป

 

ริชาร์ดสันย้ายไปเป็นตัวหลักในซันเดอร์แลนด์อยู่ 5 ปี ก็กลายเป็นแข้งพเนจรในลีกแดนผู้ดีอย่างสมบูรณ์ โดยย้ายไปเล่นทั้ง ฟูแล่ม, แอสตัน วิลล่า และ คาร์ดิฟ ซิตี้ ในช่วงปี 2012-2016 และตัดสินใจแขวนสตั๊ดในปีนั้นด้วยวัยเพียง 32 ปีเท่านั้น

 

 

รอย แครอลล์

 

 

นับตั้งแต่ ปีเตอร์ ชไมเคิ่ล ลาทีมไป เฟอร์กี้ก็ต้องปวดหัวกับการควานหาผู้รักษามือหนึ่งที่สามารถไว้เนื้อเชื่อใจได้อยู่หลายปีดีดัก ก่อนจะมาพบกับ เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ เพราะไม่ว่าจะเป็น ฟาเบียน บาร์กเตซ, ทิม ฮาเวิร์ด, มัสซิโม่ ตาอิบี้ ต่างโชว์ความเหวอจนแฟนผีละเหี่ยใจ เช่นเดียวกับ รอย คาร์โรลล์ ที่หนักไม้แพ้กัน

 

นายทวารชาวไอร์แลนด์เหนือทำผลงานได้ยอดเยี่ยมกับวีแกน จนสโมสรต้องไปคว้ามาร่วมทีมในปี 2001 แต่ดูเหมือนเขาจะลืมฟอร์มการเล่นเหล่านั้นไว้ในถิ่น ดีดับเบิ้ลยู สเตเดี้ยม จนหมดสิ้น แต่ด้วยบุญพาวาสนาส่ง เขาก็ยังคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกร่วมกับทีมได้อยู่ดีในฤดูกาล 2002-03

 

และช็อตที่แฟนผีจำได้ขึ้นใจก็คือ การควักลูกยิงไกลของ เปโดร เมนเดส ในเกมที่พบกับท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ออกมาดื้อๆ หลังรับพลาดจนบอลทะลักเข้าประตู ในเดือนมกราคม 2005 แต่กลับตบตาผู้ตัดสินได้อย่างไม่น่าเชื่อ จนทำให้ยูไนเต็ดรอดพ้นความพ่ายแพ้ค้าบ้านได้ในท้ายที่สุด