ตั้งแต่หมดยุค มิโรสลาฟ โคลเซ่ ต้องยอมรับความจริงว่า เยอรมัน ไร้ซึ่งเพชฌฆาตหมายเลข 9 ที่ไว้ใจได้
บางยุคบางรายการขาดแคลนหนักถึงขั้นต้องเล่น “ฟอลส์ ไนน์” เลยด้วยซ้ำไป
อย่างไรก็ตามช่วง 2-3 ฤดูกาลที่ผ่านมา ชื่อของ ติโม แวร์เนอร์ กลายเป็น “ความหวังใหม่” ของพลพรรคอินทรีเหล็ก หลังระเบิดฟอร์มอย่างยอดเยี่ยมกับ อาร์บี ไลป์ซิก
ยิ่งในซีซั่นนี้ลั่นตาข่ายไปแล้วถึง 21 ประตู จนตกเป็นเป้าหมายของบรรดาทีมใหญ่ทั่วยุโรป โดยเฉพาะเดอะแก๊งค์จากพรีเมียร์ลีก ที่นำทีมโดย “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล
อย่างไรก็ตามอนาคตเป็นเรื่องที่ยังไม่รู้ได้ กองหน้าวัย 24 ปีจะ “อยู่ต่อ” หรือ “ย้ายออก” คงมีแต่กาลเวลาเท่านั้นที่จะให้คำตอบได้
แต่เพื่อเป็นการชิมลาง เราขอพาทุกท่านไปรู้จักกับ 6 กองหน้าชื่อดังจากแดนเบียร์ ที่มาค้าแข้งในลีกสูงสุดของเมืองผู้ดี
ลองดูซิว่าที่ผ่านมาภาพรวมของดาวยิงกลุ่มนี้ “สอบผ่าน” หรือ “สอบตก” แล้วพิจารณากันเองว่าถ้า แวร์เนอร์ ย้ายมาจริงเขาจะเป็นอย่างไร
อูเว่ รอสเลอร์ (แมนฯ ซิตี้)
อดีตนักเตะทีมชาติเยอรมันตะวันออกรุ่นสุดท้าย อาจจะโปรไฟล์ในบ้านเกิดไม่หรูหรา แต่ในพรีเมียร์ลีก นี่คือกองหน้าระดับตำนานของ แมนฯ ซิตี้ ในยุค 90
ด้วยสไตล์การเล่นที่ดุดัน ออกแนวมั่วๆ นิดๆ เป็นกองหน้าที่ยิงได้แทบทุกรูปแบบ นับเฉพาะพรีเมียร์ลีกก็ซัดไปถึง 29 ประตูเทียบเท่าดาวยิงร่วมชาติชื่อดังอย่าง เจอร์เก้น คลิ้นส์มันน์
เจ้าของท่าดีใจ “เลื่อยไม้” ปัจจุบันผันตัวมารับงานคุมทีม และมีประสบการณ์มาแล้วหลากหลายสโมสร ซึ่งล่าสุดกลับไปทำงานในบ้านเกิดกับ ฟอร์ทูน่า ดุสเซลดอร์ฟ
เจอร์เก้น คลิ้นส์มันน์ (สเปอร์ส)
พูดกันตามจริงหัวหอกเจ้าของฉายา “ฉลามขาว” คือกองหน้าที่อิมพอร์ตมาจากเมืองเบียร์ แล้วประสบความสำเร็จมากที่สุดในพรีเมียร์ลีก
คลิ้นส์มันน์ ค้าแข้งกับ สเปอร์ส 2 รอบ หนแรกเกิดขึ้นในฤดูกาล 1994-95 ซึ่งเจ้าตัวซัดไปถึง 21 ประตูจากการลงสนาม 41 นัด พร้อมรับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีจากสมาคมนักข่าวอังกฤษอีกด้วย
อีกช่วงหนึ่งเจ้าตัวย้ายมาตอนอายุ 33 ปีด้วยสัญญายืมตัว ซึ่งผลงานก็ยอดเยี่ยมเหมือนเคยยิงไป 9 ประตูพา “ไก่เดือยทอง” รอดตกชั้นได้แบบหวุดหวิด
คาร์ล ไฮนซ์ รีดเล่ (ลิเวอร์พูล)
หนึ่งในขุนพลของ “เสือเหลือง” ดอร์ทมุนด์ ชุดแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ในปี 1997 เดินทางมาหาความท้าทายต่างแดนในช่วงบันปลายการค้าแข้ง โดยตอนที่ย้ายมา ลิเวอร์พูล ก็อายุปาไป 32 ปี
แม้จะถูกคาดหวังจากเหล่า “เดอะ ค็อป” ไว้มาก แต่ต้องยอมรับความจริงว่านี่คือช่วงขาลงของ รีดเล่ ยิ่งมาผิดเวลาเจ้าตัวจึงกลายเป็นแข้งตัวเลือกอันดับ 3 ถัดจาก ไมเคิ่ล โอเว่น และ ร็อบบี้ ฟาวเลอร์
ผลงาน 11 ประตูจาก 60 นัดในช่วง 2 ฤดูกาล ต้องบอกว่าน่าผิดหวังมากๆ และพูดกันตรงว่าเป็นหนึ่งในแข้งเยอรมัน ที่ล้มเหลวในพรีเมียร์ลีก
ฌอน ดันดี (ลิเวอร์พูล)
แม้บ้านเกิดของ ฌอน ดันดี จะอยู่ที่แอฟริกาใต้ ทว่าเจ้าตัวเลือกที่จะรับใช้ทีมชาติเยอรมัน แม้จะได้เล่นเพียงเกมเดียวในทีมชุด บี ก็ตามที
หัวหอกจาก คาร์ลสรูห์ ย้ายมาอยู่ ลิเวอร์พูล ด้วยค่าตัว 2 ล้านปอนด์ ในช่วงเวลาที่ใกล้เคียงกับ รีดเล่ ซึ่งเจ้าตัวก็ไม่ต่างจากเพื่อนร่วมชาติเลย คือใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ที่ม้านั่งสำรอง
ดันดี ลงเล่นเพียง 3 เกมและยิงไม่ได้แม้แต่ประตูเดียว ก่อนจะย้ายกลับบุนเดสลีกา ซึ่งเจ้าตัวเผยว่า “ผมไม่เคยได้รับโอกาสเลย ผมต้องออกจากที่นี่โดยไม่ได้มีความผิด ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน”
เฟรดี้ โบบิช (โบลตัน)
ช่วงเวลาหนึ่ง แซม อัลลาร์ไดซ์ สร้าง โบลตัน ชนิดที่ใครหลายคนต้องอิจฉา หลังสวมบท “สาริกาลิ้นทอง” ไปดึงดาวดังอย่าง เจย์ เจย์ โอโคชา, นิโคล่าส์ อเนลก้า, ยูริ จอร์เกฟฟ์, อิบัน คัมโป้, เฟรนานโด เอียร์โร่ และ ฮิเดโตชิ นากาตะ มาอยู่กับทีมได้
เฟรดี้ โบบิช กองหน้าระดับตำนานของ สตุ๊ตการ์ต ก็เป็นหนึ่งในลิสต์ดังกล่าวด้วย ซึ่งผลงานโดยรวมก็ไม่ดีไม่แย่ยิงได้ 4 ประตูจาก 16 เกม ซึ่งหนึ่งในนั้นคือการตะบันแฮตทริกใส่ อิปสวิช ทาวน์
ลูคัส โพดอลสกี้ (อาร์เซนอล)
แม้จะไม่ประสบความสำเร็จมากนักกับ อาร์เซนอล แต่สำหรับแฟนบอล “เดอะ กันเนอร์ส” ชื่อของ ลูคัส โพดอลสกี้ คือนักเตะอันเป็นที่รัก ทั้งความทุ่มเทในสนาม และแม้จะย้ายออกไปก็มักจะโพสต์ถึงต้นสังกัดเก่าอยู่บ่อยครั้ง
โพลดี้ ย้ายมาร่วมทีม ปืนใหญ่ ในปี 2012 พร้อมกับ โอลิวิเยร์ ชิรูด์ ซึ่งตลอด 3 ปีเจ้าตัวยิงไป 19 ประตูในพรีเมียร์ลีก ส่วนหนึ่งที่ผลิตประตูได้น้อยอาจเป็นเพราะต้องมาเล่นปีกซ้ายซึ่งเป็นตำแหน่งที่ไม่ถนัดนัก
ปัจจุบัน โพดอลสกี้ ในวัย 34 ปี ยังคงโลดแล่นในสนามหญ้าสีเขียวอยู่ โดยหลังค้าแข้ง 3 ปีกับ วิสเซล โกเบ ในญี่ปุ่น เจ้าตัวกลับไปเล่นในตุรีกับ อันตัลยาสปอร์ ในซีซั่นนี้
บทสรุป – จาก 6 คนที่ถูกหยิบยกมา ต้องบอกว่าส่วนใหญ่เข้าข่ายล้มเหลวมากกว่าประสบความสำเร็จ โดยมีเพียง อูเว่ รอสเลอร์ กับ เจอร์เก้น คลินส์มันน์ เท่านั้นที่ทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจ
งานนี้ทีมไหนคิดคว้าตัว ติโม แวร์เนอร์ อาจจะต้องคิดหนักหน่อย เพราะผลงานรุ่นพี่นำร่องได้ไม่สวยเลย
