โด้-เมสซี่หลบไป : 10 ดาวยิงสุดคมจาก 5 ลีกใหญ่ยุโรป

ณ ตอนนี้ เริ่มเข้าสู่ช่วงกลางของการแข่งขันในฤดูกาล 2019-20 แล้ว และลีกต่างๆในยุโรปก็เริ่มเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาพอสมควร ไม่ว่าจะเป็นว่าที่แชมป์ลีก หรือ แม้กระทั่งดาวซัลโวประจำปีก็เช่นกัน

 

ขณะที่ลิโอเนล เมสซี่ และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เริ่มไม่มีชื่ออยู่บนสกอร์บอร์ดอย่างที่เราๆคุ้นเคย ก็ยังมีชื่อของดาวเตะที่เราคุ้นเคยทั่วยุโรปที่ติดท็อปดาวยิง 10 คนแรกในฤดูกาลนี้ และชื่อของนักเตะบางคนก็ทำเอาแฟนบอลเซอร์ไพรส์ไม่น้อย

 

แต่ใครล่ะที่เป็นนักเตะที่คมที่สุดจากทั้งหมดนั้น? ทาง UFA ARENA จะพาทุกท่านไปพบกับ 10 ดาวยิงจาก 5 ลีกใหญ่ยุโรปที่สามารถยิงประตูคู่แข่งในลีกจากการใช้โอกาสยิงน้อยที่สุด ผ่านบทความชิ้นนี้กัน 

 

หมายเหตุ : สถิติการยิงนับตั้งแต่เริ่มฤดูกาลนี้จนถึงวันที่ 22 พฤศจิกายน 2562

 

 

10.คาริม เบนเซม่า | เรอัล มาดริด

 

 

ค่าเฉลี่ยประตู : 4.55 ครั้งต่อลูก 

 

นับตั้งแต่ โรนัลโด้ ได้ลาทีมไป หน้าที่ในการรับผิดชอบทะลวงตาข่ายคู่แข่งก็มาอยู่กับ เบนเซม่า อย่างเต็มตัว แถมเขาก็ทำได้ดีขึ้นด้วย หลังรั้งตำแหน่งดาวซัลโซลาลีก้าที่จำนวน 9 ประตู และเขายังยิงประตูในสโมสรได้มากกว่า อดีตเพื่อนร่วมทีมที่ย้ายค้าแข้งกับยูเวนตุส นับตั้งแต่เริ่มฤดูกาลก่อนอีกต่างหาก 

 

อย่างไรก็ตาม หัวหอกชาวฝรั่งเศส ไม่ได้ยิงคมเป็นพิเศษนัก หลังมีโอกาสยิงไปทั้งหมด 41 ครั้งในฤดูกาลนี้ เข้ากรอบไม่ถึงครึ่ง (49%) และยิงได้ราวๆ 22% จากทั้งหมดนั้น

 

9.เซร์คิโอ้ อเกวโร่ | แมนเชสเตอร์ ซิตี้

 

 

ค่าเฉลี่ยประตู : 3.33 ครั้งต่อลูก 

 

ดาวยิงประจำแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เป็นนักเตะที่ออกสตาร์ทในพรีเมียร์ลีกได้อย่างสวยหรูในช่วงแรกของฤดูกาล หลังทำไป 8 ประตู จาก 6 นัดแรก แต่สถิติการยิงประตูของเขาก็ค่อยๆลดลงในเวลาต่อมา หลังทำได้แค่ลูกเดียวจากการลงเล่นในลีก 6 นัดหลังสุด

 

หัวหอกชาวอาร์เจนไตน์มีโอกาสทั้งหมด 30 ครั้งในฤดูกาลนี้ เป็นประตูทั้งหมด 9 ลูก และยิงตรงกรอบแค่ 40 % เท่านั้น

 

8.แทมมี่ อับราฮัม | เชลซี

 

 

ค่าเฉลี่ยประตู : 3.20 ครั้งต่อลูก 

 

ด้วยปัญหาการถูกแบนห้ามเสริมทัพถึง 2 ช่วงตลาด ทำให้เชลซีต้องดันดาวรุ่งขึ้นมาเล่นในชุดใหญ่ แต่นั้นกลับกลายเป็นเรื่องดีที่ไม่มีคาดคิดว่าจะเกิดขึ้น หลังพวกเขาทำผลงานได้โดดเด่นเกินคาด หนึ่งในนั้นคือ แทมมี่ อับราฮัม แข้งลูกหม้อของสโมสร

 

กองหน้าหนุ่มวัย 22 ปี ซัดไปแล้วทั้ง 10 ประตูในลีกสูงสุดแดนผู้ดีฤดูกาลนี้ จากโอกาสยิงทั้งหมด 32 ครั้ง และเข้ากรอบ 63% 

 

 

7.โรเมลู ลูกากู | อินเตอร์ มิลาน

 

 

ค่าเฉลี่ยประตู : 3.11 ครั้งต่อลูก 

 

กองหน้าร่างยักษ์ของ งูใหญ่ อย่าง ลูกากู ทะลวงต่าขายในเซเรียอาไปทั้งหมด 9 ลูกในฤดูกาลนี้ ตามหลัง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมเก่าของเขาแค่เพียงลูกเดียว นับตั้งแต่เริ่มเดือนกันยายนที่ผ่านมา (หลังเกมล่าสุดเมื่อวันเสาร์เป็น 10 ประตูแล้ว)

 

แถมค่าเฉลี่ยของแข้งทีมชาติเบลเยี่ยมก็น่าประทับใจกว่าตอนที่ค้าแข้งกับปีศาจแดงเป็นไหนๆ เพราะ 9 ประตูนั้นมาจากการยิงแค่ 28 ครั้ง และตรงกรอบถึง 64%

 

 

6.ติโม แวร์เนอร์ | แอร์เบ ไลป์ซิก

 

 

ค่าเฉลี่ยประตู : 2.90 ครั้งต่อลูก 

 

ติโม แวร์เนอร์ เริ่มกลับมาเป็นแข้งเนื้อหอมอีกครั้ง หลังยิงให้ ไลป์ซิกไป 11 ลูกในฤดูกาลนี้ และมีโอกาสไม่น้อยที่เขาจะสามารถทำลายสถิติการยิงประตูมากที่สุดของตนใน 1 ฤดูกาลที่ 21 ลูกของฤดูกาล 2016-17

 

โดย 11 ลูกดังกล่าวที่หัวหอกทีมชาติเยอรมัน มาจากโอกาสยิง 32 ครั้ง และตรงกรอบ 69% จากความพยายามทั้งหมด

 

 

5.โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ | บาเยิร์น มิวนิค

 

 

ค่าเฉลี่ยประตู : 2.68 ครั้งต่อลูก 

 

เลวานดอฟสกี้ ยังคงแสดงให้เห็นว่าตนเป็นกองหน้าเบอร์ 9 ที่ดีที่สุดในตอนนี้ด้วยวัย 31 ปี หลังกดไป 16 ประตูในลีก ซึ่งเป็นจำนวนที่มากกว่านักเตะคนไหนๆใน 5 ลีกใหญ่ยุโรป แถมเขายังยิงประตูได้ทุกๆนัดในลีกเมืองเบียร์ รวมไปถึงในบุนเดสลีก้าและแชมเปี้ยนส์ลีก ด้วย

 

แข้งชาวโปลใช้โอกาสไปเยอะพอตัว  หลังใช้ไปทั้งหมด 43 ครั้ง มากกว่าใครทั้งหมดในลิสต์นี้ แต่เขาก็ไม่ใช้โอกาสทิ้งขว้างแต่อย่างใด เมื่อเขายิงได้ 37% จากโอกาสเหล่านั้น และตรงกรอบอีกราว 56%

 

 

4.วิสซาม เบน เยดแดร์ | โมนาโก

 

 

ค่าเฉลี่ยประตู : 2.44 ครั้งต่อลูก 

 

โมนาโก ได้คว้าตัว วิสซาม เบน เยดแดร์ จากเซบีย่า มาค้าแข้งกับพวกเขาในลีกเอิง ณ ช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา และนั่นเป็นการลงทุนที่คุ่มค้าของทีมจากฝรั่งเศสมากๆ เมื่อเขารั้งดาวซัลโวอันดับ 2 ประจำลีกที่ 9 ประตู เป็นรองแค่ มูสซ่า เดมเบเล่ ของลียง เท่านั้น (10 ประตู)

 

แถมสถิติในการทำประตูของแข้งเลือดน้ำหอมก็น่าประทับใจไม่น้อย หลังใช้โอกาสยิงไปเพียง 22 ครั้ง แต่กลับยิงตรงกรอบได้มากถึง 17 ครั้งเลยทีเดียว (คิดเป็น 77%)

 

3.ชิโร่ อิมโมบิเล่ | ลาซิโอ

 

ค่าเฉลี่ยประตู : 2.42 ครั้งต่อลูก 

 

ชิโร่ อิมโมบิเล่ ขึ้นเป็นดาวซัลโวประจำเซเรียอาแบบโดดๆคนเดียว ด้วยจำนวน 14 ประตู และมีค่าเฉลี่ยการยิงต่อนัดมากกว่า 1 ประตูอีกต่างหาก จากลงเล่นไปเพียง 12 นัดเท่านั้น แถมยิงเกิน 100 ลูกเรียบร้อยนับตั้งแต่ย้ายมาค้าแข้งกับลาซิโอในปี 2016

 

ซึ่ง 14 ประตูที่หัวหอกชาวอิตาเลี่ยนทำได้ในฤดูกาลล่าสุด มาจากยิงทั้งหมด 34 ครั้ง และตรงกรอบราวๆ 56% จากความพยายามทั้งหมด

 

 

2.รูเวน เฮนนิ่งส์ | ดุสเซลดอร์ฟ

 

 

ค่าเฉลี่ยประตู : 2.22 ครั้งต่อลูก 

 

จู่ๆ ชื่อของกองหน้าดุสเซลดอร์ฟวัย 32 ปีอย่าง รูเวน เฮนนิ่งส์ ก็กลายเป็นที่จับตามองในเยอรมัน หลังก่อนหน้านี้ เขาใช้เวลาค้าแข้งส่วนใหญ่ในลีกรองเมืองเบียร์ รวมไปถึงได้เล่นกับเบิร์นลี่ย์ในสมัยที่ยังอยู่แชมเปี้ยนส์ชิพ เมื่อปี 2016 

 

หัวหอกมากประสบการณ์ซัดไปแล้ว 9 ประตูในบุนเดสลีก้าฤดูกาลนี้ และตรงบอกว่า  เฮนนิ่งส์จบสกอร์ได้คมจัด เพราะเขาใช้โอกาสยิงไปแค่ 20 ครั้ง และตรงกรอบมากถึง 75% เลยเทีเดียว

 

 

1.เจมี่ วาร์ดี้ | เลสเตอร์ ซิตี้

 

 

ค่าเฉลี่ยประตู : 2.09 ครั้งต่อลูก 

 

แบรนดอน ร็อดเจอร์ส ได้เข้ามาเปลี่ยนแปลง เจมี่ วาร์ดี้ ไปในทิศทางที่ดีกว่าเดิมมาก เพราะเขาไม่ได้วิ่งไล่กวดคู่แข่งทุกคนอย่างที่เคยทำแล้ว และนำความดุดันนั้นมาปรับใช้กับการทำประตูแทน

 

กองหน้าชาวอังกฤษรั้งอันดับดาวซัลโวของพรีเมียร์ลีกที่ 12 ประตู (ก่อนเกมสัปดาห์นี้ 11 ประตู) จากโอกาสยิงเพียง 23 ครั้ง และตรงกรอบมากถึง 16 ครั้ง (70% จากทั้งหมด)

 

นักเตะหลายคนในพรีเมียร์ลีกมีโอกาสจบสกอร์มากกว่า วาร์ดี้ พอสมควร แต่กลับเปลี่ยนเป็นประตูได้ไม่ถึงครึ่งที่แข้งจิ้งจอกสีน้ำเงินทำได้ ไม่ว่าจะเป็น ราอูล ฆิมิเนซ ของ วูล์ฟแฮมป์ตัน (27 ครั้ง, 5 ประตู), แอชลี่ย์ บาร์นส์ของเบิร์นลีย์ (28 ครั้ง, 5 ประตู), นีล เมาพาย ของไบรท์ตัน (25 ครั้ง, 4 ประตู)