โทษดินฟ้าอากาศ : รวมข้อแก้ตัวสุดกาวของ คล็อปป์ ยามคุมหงส์แดง

 

ความพ่ายแพ้แบบยับเยินคารังต่อ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทำให้ เจอร์เก้น คล็อปป์ ยอมรับว่า ลิเวอร์พูล แทบจะหมดโอกาสป้องกันแชมป์พรีเมียร์ลีก อย่างไม่เป็นทางการแล้ว แต่ก็ไม่ลืมเผยเหตุผลที่ทำให้ทีมของเขาพบความปราชัยในเกมนี้

 

หลังเกมนั้นกุนซือ ‘หงส์แดง’ อ้างว่า เรือใบสีฟ้า ได้เวลาพักมากกว่าทีมของเขาถึง 2 สัปดาห์ เนื่องจากเกมพบ เอฟเวอร์ตัน ถูกเลื่อนไปจากการแพร่ระบาดโควิด เป็นเหตุให้ รอย คีน ออกสับผ่านสื่อทันที และมองว่าไม่ต่างอะไรกับข้อแก้ตัวที่ดูไม่สมเหตุสมผลนัก

 

และนี่ไม่ใช่ครั้งแรก คล็อปป์ ที่แก้ตัวน้ำขุ่น ๆ แบบนี้ เพราะนับตั้งแต่เขาเข้ามารับงานในแอนฟิลด์ นี่คือสิ่งหนึ่งที่ผู้คนมักจะเห็น (โดยเฉพาะแฟนบอลฝั่งตรงข้าม) อยู่บ่อยครั้ง ซึ่งมักจะมีข้ออ้างร้อยแปดพันเก้ายามที่ ลิเวอร์พูล พลาดท่าหรือได้ผลการแข่งขันไม่เป็นใจ 

 

ด้วยข้ออ้างมากมายเหล่านี้ ทำให้บริษัทพนันถูกกฏหมายในอังกฤษถึงกับเปิดราคาว่าข้อแก้ตัวของคล็อปป์ในเกมต่อไปคืออะไรเลยทีเดียว และ UFA ARENA ขอบอกว่าข้ออ้างแปลกๆของเขาไม่ได้มีแค่นี้หรอกนะ…

 

 

โทษกรรมการ | เสมอกับเวสต์แฮม 1-1 ฤดูกาล 2018-19

 

 

การแข่งขันในสนาม ลอนดอน สเตเดี้ยม เมื่อเดือนที่แล้ว หงส์แดงออกนำไปก่อนด้วยลูกยิงของซาดิโอ มาเน่ จากการเปิดสุดสวยของเจมส์ มิลเนอร์

 

อย่างไรก็ตามในจังหวะนั้น มิลเนอร์อยู่ในตำแหน่งล้ำหน้าชัดเจน แต่ทีมขุนข้อนก็ทวงประตูตีเสมอได้จากลูกโหม่งของ  มิคาอิล อันโตนิโอ 

 

แต่ถึงอย่างนั้น ลิเวอร์พูลก็เกือบประโยชน์จากความผิดพลาดของผู้ตัดสินอีกครั้ง หลังไม่เป่าล้ำหน้าดีว็อค โอรีกี้ แต่โชคดีที่ ลูคัส ฟาเบี้ยนสกี้ ช่วยเซฟประตูจนช่วยรักษาผลเสมอในเกมนั้นได้

 

แม้ว่าลิเวอร์พูลจะได้ประโยชน์อย่างชัดเจนจากการตัดสินในเกมนี้ แต่เจอร์เก้น คล็อปป์ ก็ยังออกมาวิจารณ์การทำหน้าที่ของผู้ตัดสินหลังเกมว่าเป่าเข้าข้างเจ้าถิ่น เนื่องจากพลาดในจังหวะการประตูของมาเน่ 

 

เรามีช่วงเวลาที่ดี มีช่องว่างและทำประตูได้ ซึ่งตอนนี้ผมรู้ว่าล้ำหน้า และนี่อธิบายอะไรได้เล็กน้อยในครึ่งหลัง เพราะผมคิดว่าผู้ตัดสินรู้เรื่องล้ำหน้าในช่วงพักครึ่ง

 

เขารู้แน่นอน และจากนั้นคุณจะเห็นสถานการณ์แปลกๆ พวกเขาเป่าได้ไม่เด็ดขาด แต่ทำให้จังหวะเสีย ชัดเจนว่านั่นไม่ได้ช่วยอะไรเราเลย

 

หลังเกมนั้นไม่กี่วัน อดีตกุนซือโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ โดนเอฟเอปรับไปเบาะๆ 45,000 ปอนด์ โทษฐานวิพากษ์วิจารณ์กรรมการว่าตัดสินลำเอียง

 

 

ลมแรงเกินไป (ครั้งที่ 1) | แพ้เซาธ์แฮมป์ตัน 1-0 ฤดูกาล 2016-17 

 

 

ลูกทีมของคล็อปป์พลาดท่าในรอบตัดเชือกอีเอฟแอล คัพ ทั้ง 2 เกมที่พบกับ เซาธ์แฮมป์ตัน ในปี 2017 โดยพวกเขาแพ้ไปด้วยสกอร์รวม 2-0 

 

ทุกคนอาจจะข้องใจ สงสัย ว่าทำไมลิเวอร์พูลจึงทำผลงานได้ไม่ดีนักในเกมที่สอง ทั้งที่ๆพวกเขาได้เล่นในแอนฟิลด์ด้วย แต่เราต้องขอบคุณคล็อปป์ที่ออกมาไขข้องใจในครั้งนี้ให้กระจ่าง (มั้ง)

 

ในครึ่งแรก มันเป็นเกมที่ลำบาก แรงลมมันค่อนข้างแปลกมากๆ ทำให้ยากที่จะรับมือในเกมนั้น ” คล็อปป์กล่าวกับสื่อหลังเกม

 

คุณคงเห็นจังหวะหนึ่งหรือสองจังหวะที่เราไม่สามารถจับบอลให้นิ่งได้ ในช่วงเวลาแบบนี้ไม่มีใครรู้เกี่ยวกับการรับมือในเรื่องแบบนี้ได้

 

หากไม่มีลมแรงทีมของคล็อปป์คงได้ชูถ้วยลีก คัพในฤดูกาลนั้นเหนือแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อย่างแน่นอน

 

 

โทรทัศน์ตัดจบก่อนเวลาอันควร | แพ้เวสต์บรอม 2-3 ฤดูกาล 2017-18

 

 

ในเดือนมกราคมปี 2018 คล็อปป์ โทษทีมถ่ายทอดสดการแข่งขันว่ามีส่วนทำให้ จอน มอสส์ ตัดสินใจทดเวลาแค่ 4 นาทีแทนที่จะทดเวลาถึง 10 นาทีในครึ่งแรก 

 

ซึ่งเกมในวันเอฟเอ คัพในวันนั้นเป็นทางช่อง บีที สปอร์ต รับหน้าที่ในการถ่ายทอดสด แต่คล็อปป์ก็ไม่กล่าวโจมตีสื่อกีฬานั้นออกมาตรงๆ 

 

ผมได้ยินว่าการทดเวลาในครึ่งแรกควรจะนานถึง 10 นาที แต่มันแค่ 4 นาทีเท่านั้น ผมได้ยินจากโทรทัศน์บอกว่าเกมนี้ไม่น่าจะนานกว่า 4 นาที แน่นอนว่ามันเป็นไปไม่ได้เลย คุณไม่ควรตัดจบเพราะมีอีกรายการรอออกทีวีอยู่

 

ผมไม่รู้ว่าเป็นอะไร อาจจะเป็นข่าวหรืออะไรซักอย่าง หากมีเวลาเหลือ 10 นาที คุณก็ต้องเล่นให้ครบ 10 นาที คุณไม่ควรพูดว่า มันนานเกินไปแล้ว” คล็อปกล่าวอย่างหัวเสีย

 

มันก็อาจจะจริงอย่างที่คล็อปป์กล่าว เพราะเกมในวันนั้นถูกขัดจังหวะด้วย VAR อยู่หลายครั้ง  ซึ่งนับจริงๆแค่ครึ่งแรกก็มากถึง 8 ครั้ง โดยช็อตสำคัญของ VAR ในเกมนั้นคือจังหวะที่ เคร็ก พอว์สัน ยึดประตูของเวสบรอมคืน, ให้จุดโทษลิเวอร์พูล และ ให้ประตูชัยแก่ทีมเยือน

 

 

สนามแห้ง | เสมอ เวสต์บรอม 2-2 ฤดูกาล 2017-18

 

 

ลิเวอร์พูลออกนำก่อนแท้ๆถึง 2 ประตู แต่สุดท้ายพวกเขาก็โดนเจ้าบ้านที่ตกชั้นไปแล้วตีเสมอจนได้ในนัดท้ายๆของฤดูกาล 2017-18 ซึ่งทำให้คล็อปไม่พอใจอย่างมาก

 

แต่เขาไม่โทษฟอร์มการเล่นของทีม และหันไปต่อว่าสนามของ เดอะ แบ็กกี้ส์ แทนที่แห้งเกินไป และแขวะว่าพวกเขาคงสนุกกับการเล่นสนามนี้ในแชมเปี้ยนส์ชิพด้วย อุ้ย…

 

มันเป็นเกมที่ยากลำบากมากๆ โดยเฉพาะหลังจากที่สนามแห้งและแข็งมากๆ เราครองบอลได้ตลอด และมันไม่ง่ายเลย นี่เป็นอะไรที่ยากลำบากมากๆ ชัดเจนว่าเวสต์บรอมตัดสินใจไม่รดน้ำในสนามตอนพักครึ่ง

 

 “ผมไม่ปลื้มกับสนาม คุณไม่มีทางเล่นฟุตบอลบนสนามแบบนี้ได้ มันเป็นอะไรที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิง ถ้าคุณเล่นเหมือนเวสต์บรอม ซึ่งเน้นโยนยาว คุณก็ไม่ต้องการสนามที่ชุ่มชื้น

 

มันก็แค่นั้นแหละ เราต้องรับมือกับเรื่องนี้ พวกเขาสามารถทำแบบนี้ได้อีกในปีหน้า การเล่นบนสนามแห้งและแข็งในแชมเปี้ยนชิพ” นายใหญ่หงส์แดงปิดท้ายด้วยการแซะแบบเจ็บๆ

 

 

 ลมแรงเกินไป (ครั้งที่ 2) | แพ้วูล์ฟส์ 2-1 ฤดูกาล 2018-19

 

 

คล็อปป์ยังคงเป็นกุนซือที่มีปัญหากับลมฟ้าอาศอยู่เสมอ และก็ยังคงมีอยู่ในเกมที่ออกไปสนาม โมลินิวซ์ สเตเดี้ยม ของวูล์ฟแฮมป์ตัน ในเกมเอฟเอ คัพเมื่อต้นเดือนมกราคมปี 2019

 

ถ้าจะพูดให้ยุติธรรมหน่อยก็คงต้องบอกว่าลมในเกมนั้นมันค่อนแรงพอสมควร แต่มันก็ไม่ใช่ข้อแก้ตัวที่น่าเชื่อถือนักในการหยิบยกมาพูดเป็นเหตุผลจริงๆจังๆ

 

ลมสร้างปัญหาให้เรา ทำให้นักเตะมีปัญหาในการคอนโทรลบอล” คล็อปป์กล่าวหลังเกมเหมือนเป็นเรื่องปกติ

 

แต่ทำไมผู้เล่นของทีมหมาป่าอย่าง  รูเบน เนเวส หรือ เจา มูตินโญ่ ยังครองบอลและจ่ายบอลได้อย่างไม่มีปัญหาอะไรเลยล่ะ?

 

 

หิมะพาทีมสะดุด | เสมอ เลสเตอร์ 1-1 ฤดูกาล 2018-19 

 

 

กุนซือหงส์แดงคงจะดูน่ารักน่าชังมากกว่านี้หากเขาอ้างเรื่องหิมะในขณะที่ตัวเองยังเป็นเด็กน้อยวัย 6-7 ขวบ

 

ทีมของเขาพลาดท่าทำแต้มหล่นคาแอนฟิลด์หลังเสมอกับจิ้งจอกสีน้ำเงิน 1-1 ในสภาพอากาศที่หนาวจัดและมีหิมะตก และเขาก็เห็นว่าสิ่งนี้ส่งผลกระทบต่อการเล่นบอลที่รวดเร็วของลิเวอร์พูลอย่างจริงจัง

 

คุณจะเห็นว่าบอลไม่หมุนเลย ถ้าคุณได้ครองบอลมากกว่า 70-80 เปอร์เซนต์ในสนามล่ะก็ มันจะทำให้คุณลำบากมากเลย

 

นั่นเป็นปัญหาเดียวที่ยังอยู่ในสนามและนั่นคือเรื่องจริง” คล็อปป์กล่าว

 

 

นักเตะคู่แข่งบาดเจ็บ? | เสมอแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 0-0 ฤดูกาล 2018-19

 

 

หนึ่งในเกมสำคัญของฤดูกาลก็มาถึง แต่เกมแดงเดือดที่แฟนๆรอคอยกลับไม่เดือดสมชื่อ แถมยังเสมอกันแบบไร้คนทำประตูบนสกอร์บอร์ดด้วย ณ สนามโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ในฤดูกาล 2018-19

 

ซึ่งผลเสมอนี่ส่งผลเสียต่อลิเวอร์พูลอย่างมาก เนื่องจากพวกเขาโดนแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไล่จี้ตามหลังมาแค่แต้มเดียวเท่านั้น แต่จู่ๆคล็อปป์ก็เอ่ยปากในสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดว่าเขาจะพูดออกมา แม้แต่แฟนบอลทีมคู่อริอย่างปีศาจแดงเองก็นึกไม่ถึง

 

มันเป็นเกมที่แปลกมากๆ เราเริ่มต้นได้ดีจริงๆ แน่นอนว่าปัญหาบาดเจ็บของพวกเขาทำให้จังหวะการเล่นของเราเสียไปหมด

 

มันแบบว่า ตอนนี้มันเกิดอะไรขึ้นกันเนี่ยะ? เรื่องนี้เกิดขึ้นกับเรากรณีของ บ็อบบี้ (ฟีร์มีโน่) และนั่นเป็นเรื่องที่ย่ำแย่ที่สุด” 

 

งั้นก็หมายความว่า ถ้าหากผู้เล่นของโซลชาไม่บาดเจ็บ คล็อปคงคว้า 3 แต้มไปได้แบบสบายสินะ?!

 

 

ลมแรงเกินไป (ครั้งที่ 3) | เสมอเอฟเวอร์ตัน 0-0 ฤดูกาล 2018-19

 

 

เมอร์ซี่ย์ไซด์ ดาร์บี้แมตช์นัด 2 ในฤดูกาล 2018-19 ที่ใครหลายคนพูดถึงกัน เมื่อ ลิเวอร์พูลไม่สามารถเอาชนะเอฟเวอร์ตันได้ ทำให้พวกเขาไม่สามารถทวงตำแหน่งจ่าฝูงคืนจากแมนเชสเตอร์ ซิตี้ได้ และตามหลังอยู่ 1 แต้ม

 

 บรรดาแนวรุกของทีมไม่ว่าจะเป็น โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ซาดิโอ มาเน่, ดิว็อค โอริกี้ โชว์ผลงานได้ต่ำกว่ามาตรฐานมากๆ แต่ทว่านายใหญ่หงส์แดงวัย 51 ปีกลับไม่มีตำหนิฟอร์มการเล่นของลูกทีมแม้น้อย เพราะเขาเลือกที่จะโทษแรงลมที่ทำให้ทีมของเขาเล่นได้ไม่ดีนัก

 

อันหนึ่งที่ผมรู้ดีว่าหากพูดออกไปคงถูกแซวเละแน่ ๆ ก็คือ เรื่องของกระแสลมที่แรงมากจนส่งผลกับทิศทางของลูกฟุตบอล และมันก็สร้างปัญหาให้กับเราในหลาย ๆ โอกาสอย่างที่เห็นกันไปนั่นแหละ

 

พูดตรง ๆ นะ มีโอกาสทองอยู่ 3-4 ครั้งที่เราน่าจะทำได้ดีกว่านั้น แต่เป็นเพราะบอลที่ลอยอยู่กลางอากาศโดนลมพัดจนเสียจังหวะ ผมถึงบอกไงว่ามันเป็นหนึ่งจากหลาย ๆ ปัจจัยที่เราหมดสิทธิ์ควบคุมในเกมแบบนี้

 

รู้ตัวว่าจะคนอื่นล้อเลียน แต่ก็ยังพูดออกมาได้ ช่างเป็นกุนซือที่มีจิตใจแน่วแน่จริงๆ