ถ้วยรางวัลคือความสำเร็จที่นักเตะทุกคนทั่วโลกต่างใฝ่หาและเฝ้าฝันว่าจะได้สัมผัสมันอยู่เสมอ แม้ขอแค่ซักครั้งในชีวิตค้าแข้งก็ยังดี
แต่ก็นักเตะอยู่จำพวกหนึ่งที่ประสบความสำเร็จอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะย้ายไปค้าแข้งกับทีมอะไร ประเทศไหนก็ตาม ซึ่งพวกเขาเหล่านั้นได้ชูถ้วยรางวัลในทุกรายการที่ตัวเองลงแข่งขันเป็นว่าเล่นเลยทีเดียว
และทาง UFA ARENA จะพาทุกท่านไปพบกับ 10 นักเตะดังที่คว้าแชมป์มาครองมากที่สุดในโลก ผ่านบทความนี้กัน
10.วิตอร์ บาย่า – 35 แชมป์
วิตอร์ บาย่าคือนายทวารระดับตำนานของสโมสรปอร์โต้อย่างแท้จริง โดยเติบโตและพัฒนาฝีมือการปัดป้องลูกยิงมากับทีมนี้มาตั้งแต่สมัยเป็นแข้งเยาวชน ก่อนจะไต่เต้าขึ้นมาขึ้นมาเป็นมือหนึ่งพร้อมพาทีมคว้าทั้งแชมป์ลีกและบอลถ้วย
ด้วยฟอร์มการเล่นที่โดดเด่นทำให้มือกาวแดนฝอยทองถูกบาร์เซโลน่าคว้าตัวไปร่วมทีมในปี 1996 แม้เขาจะคว้าแชมป์กับทีมในระดับนึง แต่หลังจากที่หลุยส์ ฟาน กัล เข้ามา บทบาทของเขาก็ลดลงทำให้ตัดสินใจลาทีมหลังค้าแข้งอยู่แค่ 2 ปีเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม บาย่าได้กลับมายังปอร์โต้ สโมสรที่เปรียบเสมือนบ้านหลังที่สองของเขา และพาทีมกลับมาครองความยิ่งใหญ่ในโปรตุเกสอีกครั้ง แถมเขาเป็นแข้งในชุดประวัติศาสตร์ที่คว้าแชมป์ยูโรปมาครองภายใต้การกุมบังเหียนของ โชเซ่ มูรินโญ่ ด้วย
9.ไรอัน กิ๊กส์ – 35 แชมป์
คงไม่มีแฟนบอลคนไหนไม่รู้จักปีกพ่อมดรายนี้ ไรอัน กิ๊กส์ คือหนึ่งในนักเตะจำนวนไม่มากที่จงรักภักดีอยู่กับสโมสรแค่แห่งเดียวไปตั้งแต่เป็นเยาวชนจนแขวนสตั๊ด มากไปกว่านั้นความสำเร็จทุกรายการที่เขาทำได้มาจากการค้าแข้งกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดทั้งหมดทั้งสิ้น
ตลอด 24 ปีที่ปีกชาวเวลล์ค้าแข้งกับปีศาจแดง เขาพาทีมกวาดแชมป์พรีเมียร์ลีก 13 สมัย, เอฟเอ คัพ 4 สมัย, ลีก คัพ 3 สมัย, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 2 สมัย, แชมป์สโมสรโลกอีกสมัย รวมถึงรายกาRรอื่นๆอีกมามาย รวมๆแล้วกว่า 35 ถ้วยรางวัลที่กิ๊กส์คว้ามาครองได้
ปัจจุบันกิ๊กส์ทำหน้าที่ผู้จัดการทีมชาติเวลส์อยู่ โดยรับตำแหน่งนี้มาตั้งแต่เดือนมกราคมปี 2018 และดูเป็นลูกศิษย์ไม่กี่คนของเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ที่ดูไปได้สวยกับเส้นทางกุนซือนี้
8.เอสซัม เอล-ฮาดารี – 35 แชมป์
เอสซัม เอล-ฮาดารี นายทวารร่างยักษ์จากแดนมัมมี่ อาจจะไม่ใช่นักเตะที่แฟนบอลส่วนใหญ่ในยุโรปนัก แต่สำหรับคอบอลเอเชียต้องได้ยินผ่านหูกันบ้างแน่นอน เพราะเขาคือมือกาวเบอร์หนึ่งที่อยู่ในช่วงยุคทองของทีมอัล อาห์ลี อย่างไม่มีข้อโต้แย้ง โดยเป็นกำลังสำคัญช่วยให้ทีมกวาดแชมป์มาครองได้ทุกรายการที่ลงแข่งขัน ไม่ว่าจะเป็น อียิปต์ พรีเมียร์ลีก, อียิปต์ คัพ, อียิปต์ ซุปเปอร์ คัพ รวมถึงแชมป์ระดับทวีปอีกหลายสมัย
ส่วนในระดับทีมชาตินั้น เอล-ฮาดารี คือนักเตะที่ติดทีมชาติมากที่สุดเป็นอันดับสาม โดยลงเล่นถึง 159 นัด เป็นรองแค่ อาห์เหม็ด ฮัสซัน กับ ฮอสซัม ฮัสซัน เท่านั้น นอกจากนี้เขายังอยู่ในยุคที่อียิปต์ครองความยิ่งใหญในทวีปแอฟริกาด้วยการพาทีมคว้า แอฟริกัน เนชั่นส์ คัพ มาครองได้ 3 สมัยซ้อน (2006, 2008, 2010)
7.โอเล็กซานเดอร์ ชูคอฟสกี้ – 36 แชมป์
ในช่วงเริ่มแรกที่ลีกฟุตบอลของยูเครนได้ก่อตั้งขึ้น ดินาโม เคียฟ คือทีมมหาอำนาจที่ครองความยิ่งใหญ่ไว้แต่เพียงผู้เดียว ซึ่งผู้รักษาประตูนามว่า โอเล็กซานเดอร์ ชูคอฟสกี้ ก็คือหนึ่งในนักเตะอีกหลายคนที่ได้รับการจารึกอยู่ในหน้าประวัติศาสตร์ของทีม
แม้ในช่วงต่อมา สมาคมลูกหนังยูเครนจะได้เปลี่ยนแปลงระบบการแข่งขันลีกใหม่ แต่ทีมของชูคอฟสกี้ก็ยังคงรักษามาตรฐานของตัวเองได้อย่างไม่มีปัญหา อาจจะมีบ้างช่วงที่ทีมแผ่วหรือถูกท้าทายอำนาจจากคู่แข่งร่วมลีกไปบ้าง แต่ทว่าชูคอฟสกี้ก็ช่วยให้ทีมกลับมาครองความยิ่งใหญ่ได้เสมอ
ส่วนในระดับทีมชาตินั้น ชูคอฟสกี้ไม่สามารถยกระดับยูเครนให้ทัดเทียมหรือเหนือกว่าทีมอื่นๆในยุโรปได้ ความสำเร็จทั้งหมดของเขาจึงอยู่ในสโมสรเท่านั้น โดยปัจจุบันเขาทำหน้าที่ผู้ช่วยกุนซือในทีมชาติยูเครนอยู่ในปีที่ผ่านมา
6.วาเอล โกม่า – 36 แชมป์
กองหลังชาวอียิปต์คือนักเตะที่อยู่ในสโมสร อัล อาห์ลี ยุคเดียวกับที่ เอสซัม เอล-ฮาดารี ค้าแข้งอยู่ ซึ่งก่อนหน้านั้นเขาสร้างชื่อกับ กาเซล เอล มาฮาลาห์ ทีมระดับกลางในประเทศก่อน ซึ่งแน่นอนว่าทีมแบบนั้นยากที่จะประสบความสำเร็จได้ ใกล้เคียงที่สุดก็คือรองแชมป์บอลถ้วยในปี 1993,1995 และ 2001
แต่หลังจากที่ย้ายมาอยู่กับทีมอันดับหนึ่งในประเทศ วาเอล โกม่า ก็ประสบความสำเร็จกับทีมอย่างมากมาย และกวาดแชมป์ครองได้ทุกรายการที่เขาลงเล่น ซึ่งสิ่งเหล่านี้ได้ต่อยอดให้เขาก้าวขึ้นไปแข้งตัวหลักในทัพมัมมี่ และคว้าแชมป์ระดับทวีปมาครองได้ 3 สมัยซ้อน หลังจากนั้นอีก 3-4 ปี โกม่าก็ประกาศแขวนสตั๊ดอย่างเป็นทางการด้วยวัย 39 ปี
5.อิบราฮิม ฮัสซัน – 37 แชมป์
อิบราฮิม ฮัสซันที่เราพูดถึงในบทความนี้คือแข้งระดับตำนานในยุค 90 ไม่ใช่ ปีกวัย 27 ปีของสโมสรซามาเล็ค แต่อย่างใด
แบ็คขวาชาวอียิปต์เริ่มเล่นฟุตบอลกับอัล อาห์ลี ตั้งแต่เป็นเยาวชน จากนั้นก็พัฒนาฝีเท้าและก้าวขึ้นเรื่อยๆจนอยู่ในทีมชุดใหญ่ ก่อนจะโชว์ฟอร์มจนช่วยให้ทีมคว้าแชมป์ลีกได้ 3 ปีติด และในปี 1990 เขาได้ย้ายไปค้าแข้งในประเทศกรีซกับพีเอโอเค แต่อยู่ได้ปีเดียวก็ย้ายไป เนอชาแตล ซามักซ์ ในลีกสวิตเซอร์แลนด์ และผลลัพธ์ที่ได้ก็ไม่แตกต่างจากที่เก่าซักเท่าไหร่ จึงตัดสินย้ายกลับมาทีมยักษ์ใหญ่ในบ้านเกิดอีกครั้ง
แม้อิบราฮิม ฮัสซัน จะคว้าแชมป์ในระดับสโมสรได้มากมายกว่านักเตะทั่วไป แต่น่าเสียดายที่ในทีมชาติอียิปต์ เขาพาทีมคว้าแค่แชมป์ อาหรับ เนชั่น คัพ รายการเดียวเท่านั้น ตลอด 131 นัดที่ฮัสซันรับใช้ทีมมัมมี่ตั้งปี 1988 จนถึง 2002
4.แม็กซ์เวลล์ – 37 แชมป์
แบ็คซ้ายชาวบราซิลเลี่ยนเป็นอีกนักเตะที่ประสบความสำเร็จในอาชีพค้าแข้งมากๆ เพราะไม่ว่าเขาจะย้ายไปเล่นให้สโมสรอะไรจากประเทศไหนๆ เขาก็สามารถกวาดแชมป์มาครองในทุกรายการที่ตนเองลงเล่น
โดยแม็กซ์เวลล์เริ่มต้นเล่นฟุตบอลอาชีพกับครูเซโร่ ก่อนที่ฝีเท้าจะไปเตะตายักษ์ใหญ่ในฮอลแลนด์อย่าง อาแจ็กซ์ และย้ายมาร่วมทีมในปี 2001 ซึ่งที่นั่นเขาพาทีมคว้าแชมป์ได้ทุกรายการในประเทศ จากนั้นก็ย้ายไปอิตาลีกับเอ็มโปลีในช่วงสั้น และเซ็นสัญญากับอินเตอร์ มิลาน ในปี 2006
แต่ช่วงที่ประสบความสำเร็จที่สุดของเขาคือตอนค้าแข้งกับบาร์เซโลน่า ได้ผนึกกำลังกับแข้งตัวหลักไม่ว่าจะเป็น ลิโอเนล เมสซี่, ชาบี เอร์นานเดซ, อันเดรส อิเนียสต้า พาทีมคว้าถ้วยมาประดับตู้สโมสรหลายรายการ ต่อมาในปี 2011 แม็กซ์เวลล์ก็ได้ย้ายไปปารีส แซงต์ แชร์กแมง ในช่วงท้ายอาชีพค้าแข้ง แต่ก็ยังคว้าแชมป์ใประเทศมาครองได้มากมาย ก่อนจะแขวนสตั๊ดในปี 2017 โดยปัจจุบันเขาดำรงตำแหน่งผู้ช่วยผู้อำนวยการกีฬาของเปแอสเชอยู่
3.อันเดรส อิเนียสต้า – 37 แชมป์
ไม่มีใครปฏิเสธว่า อันเดรส อิเนียสต้า เป็นหนึ่งในกองกลางที่ดีที่สุดในหลายปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นในระดับทีมชาติหรือสโมสร เขาก็พิสูจน์ตัวเองให้แฟนบอลทั่วโลกได้เห็นจนกระจ่างแล้ว
กองกลางร่างเล็กคือผลผลิตของ ลา มาเซีย ศูนย์ฝึกเยาวชนชื่อดังของบาร์เซโลน่า ก่อนจะถูกหลุยส์ ฟาน กัล ดันมาเล่นในชุดใหญ่ และพัฒนาฝีเท้าเรื่อยๆ จนกลายเป็นตัวหลักของอาซูลกราน่า เคียงข้างกับ ชาบี เอร์นานเดซ และ เซร์คิโอ้ บุสเก็สต์ พร้อมกับพาทีมคว้าแชมป์มากมายตลอดเวลา 16 ปีที่ค้าแข้งในถิ่น คัมป์ นู
ในทีมชาติสเปน อิเนียสต้าก็เป็นแข้งคนสำคัญไม่ต่างจากในสโมสรเช่นกัน และอยู่ในยุครุ่งเรืองที่สุดของทัพกระทิงดุ พาทีมคว้าแชมป์ระดับเมเจอร์ได้ 3 สมัยติดต่อกัน (ยูโร 2008, ฟุตบอล 2010 และ ยูโร 2012) ปัจจุบันเขายังไม่หมดไฟในเกมลูกหนัง โดยกำลังเล่นให้กับวิสเซล โกเบ ในเจ ลีก ประเทศญี่ปุ่นด้วยวัย 34 ปี
2.ฮอสซัม ฮัสซัน – 41 แชมป์
ฮอสซัม ฮัสซันคือแข้งชาวอิยิปต์คนที่ 4 ที่อยู่ในลิสต์นี้แล้ว แต่หากเราลองมองไปที่ความสำเร็จที่เขาทำได้ทั้งในทีมชาติและสโมสร ก็คงต้องยอมรับแต่โดยดีกว่าอัสซันคือคนที่จัดอยู่ในหมวดหมู่นี้อย่างไม่มีข้อสงสัยใดๆ
ฮอสซัมเริ่มต้นเล่นฟุตบอลในระดับเยาวชนร่วมกับ อิบราฮิม ฮัสซัน อีกหนึ่งแข้งระดับตำนานของทีมชาติอิยิปต์ ในทีมอัล อาห์ลี และค่อยๆก้าวขึ้นเป็นตัวหลักในทีมชุดใหญ่ ซึ่งพาทีมคว้าแชมป์ทุกรายการ ไม่ว่าจะเป็นระดับประเทศหรือทวีปก็ตาม ก่อนทีทั้งคู่จะย้ายตามไปยุโรปด้วยกัน แต่ว่าก็ไม่ประสบความสำเร็จมากนัก จึงตัดสินย้ายกลับมาทีมเดิมอีกครั้ง และวนเวียนอยู่กับทีมในอียิปต์,ยูเอเอี และลาอาชีพค้าแข้งในปี 2007
นอกจากนี้ ฮัสซันยังคงเป็นเจ้าของสถิติดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของทีมชาติอยู่ โดยยิงไปทั้งหมด 69 ประตูจากการลงเล่นทั้งหมด 169 นัด พร้อมกับช่วยให้ทีมคว้าแชมป์ทวีปได้ 3 สมัย (1986, 1998, 2006) ซึ่งหลังที่เขาแขวนสตั๊ดก็หันมารับงานเป็นกุนซือแบบทันทีเลย โดยกำลังคุมทีม สโมฮา เอสซี ในลีกบ้านเกิดอยู่ในปัจจุบัน
1.ดานี่ อัลเวส– 42 แชมป์
ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ปารีส แชงต์ แชร์กแมง ได้คว้าแชมป์ลีกสมัยที่ 8 ได้สำเร็จ หลังลีลล์ทำได้แค่เสมอกับตูลูส 0-0 และนั่นทำให้ดานี่ อัลเวส แบ็คซ้ายของทีมกลายเป็นนักเตะที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในวงการลูกหนังทั่วโลก
แบ็คจอมบุกเริ่มค้าแข้งกับบาเฮียทีมในลีกบ้านเกิดตั้งแต่ปี 2001 โดยคว้าแชมป์ 3 รายการกับสโมสร ก่อนย้ายมาเล่นในสเปนกับเซบีย่า และก็ยังต่อยอดความสำเร็จด้วยการคว้าแชมป์มาครองได้ 5 รายการ แต่ในปี 2008 เขากลายเป็นแข้งระดับโลกของจริง เมื่อย้ายมาร่วมทีมบาร์เซโลน่า และกวาดแชมป์มาครองเป็นว่าเล่น ก่อนจะย้ายไปหาความท้าท้ายใหม่กับ ยูเวนตุสในเซเรียอา อิตาลี
ในตูรินเอง อัลเวส ก็ประสบความสำเร็จในระดับนึง ก่อนจะย้ายมาอยู่กับทีมมหาเศรษฐีในลีกเอิงเมื่อปี 2017 และคว้าแชมป์อีก 6 รายการ รวมทั้งสิ้น 18 ปี 42 แชมป์ และกลายเป็นนักเตะที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลกลูกหนังแต่เพียงผู้เดียว