โล๊ะให้หมด! 5 แข้งที่อาจไม่ได้ไปต่อกับ‘ปีศาจแดง’

 

สำหรับฤดูกาลที่เพิ่งปิดฉากไปหมาดๆกับศึกพรีเมียร์ลีก คงเป็นอะไรที่น่าผิดหวังสุดๆกับกองเชียร์พันธุ์แท้ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับการได้แค่ที่ 6 ในลีก เท่านั้นยังไม่พอยังอดไปเล่นในศึกฟุตบอลยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกอีกต่างหาก แม้จะมีช่วงที่ให้ได้เสพสุขกันบ้างในตอนที่ โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ เข้ามาคุมทีมชั่วคราว จนกระทั่งกลับเข้าสู่โหมดเดิมอีกครั้งหลังจากเซ็นสัญญาถาวรกับกุนซือชาวนอร์เวย์รายนี้

 

แต่เหนือสิ่งอื่นใดปัจจัยทั้งหมดคงไม่ได้อยู่ที่ผู้จัดการทีมเพียงอย่างเดียว มันขึ้นอยู่กับองค์ประกอบหลายอย่าง แต่ที่หลักๆคงต้องเป็นเรื่องของตัวนักฟุตบอลเองรวมไปถึงทัศนะคติต่อการเล่นเพื่อทีมนั้นมีมากน้อยแค่ไหน โดยแฟนบอลคงจะรู้ดีว่าใครบ้างที่ควรอยู่ต่อและใครบ้างที่ต้องเก็บกระเป๋าเดินออกจากแมนเชสเตอร์ไป และวันนี้ทีมงาน UFA Arena.com จะพาไปดูสิว่าแข้งรายใดบ้างที่ไม่คู่ควรกับคำว่ายูไนเต็ด

 

5.มาร์กอส โรโฮ

 

 

เซ็นเตอร์ฮาล์ฟชาวอาร์เจนติน่าอยู่กับแมนฯยูไนเต็ดมา 5 ปีแล้วนับตั้งแต่ย้ายมาจากสปอร์ติ้ง ลิสบอนในโปรตุเกส โดยในช่วงสองฤดูกาลหลังเขาได้ลงสนามให้ยูไนเต็ดได้ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วยมากนัก โดยเขาลงเล่นไปเพียงแค่ 113 เกมเท่านั้นและสตาร์ทตัวจริงไปแค่ 3 นัดจากทุกรายการ

 

และด้วยอาการบาดเจ็บที่เล่นงานกองหลังรายนี้อยู่เป็นประจำตลอดระยะเวลา 5 ซีซั่นบวกกับอาการบาดเจ็บเรื้อรังบริเวณเอ็นข้อเท้า ทำให้ในปี 2017/18 เขาแทบไม่ได้เล่นเลยและต้องนอนดูเพื่อนโชว์เพลงแข้งอยู่กับบ้านอย่างปล่าวเปลี่ยว แม้ว่าฝีเท้าของเขาจะไม่ดูด้อยกว่ากองหลังคนอื่นแต่ด้วยวินัยในการเล่นเกมรับรวมไปถึงสมาธิเวลาอยู่ในสนามแล้วถือว่าไม่ค่อยน่าไว้ใจเท่าไร

 

ทั้งนี้มีข่าวลือว่ายูไนเต็ดยินดีที่จะขายเขาออกไปในราคา 6 ล้านปอนด์ แต่สโมสรใดล่ะที่ยอมจ่ายค่าเหนื่อยที่สูงถึง 80,000 ต่อสัปดาห์ที่เขาได้รับจากต้นสังกัดในปัจจุบัน

 

 

4.ฟิล โจนส์

 

 

ในตอนที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดคว้าแชมป์ลีกครั้งที่ 20 ของพวกเขา เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสันเคยกล่าวไว้ว่า ฟิล โจนส์อาจเป็นผู้เล่นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสร เทียบเท่ากับไฮจ์ โจนส์ ที่สร้างชื่อขึ้นตั้งแต่ครั้งแรกๆ ที่ลงรับใช้ให้กับทีม

 

ความเก่งกาจและความมุ่งมั่นของโจนส์ทำให้เขาเป็นที่รักของบรรดาแฟนบอลเร้ด เดวิลส์ ภายใต้การคุมทีมของเฟอร์กูสันในเวลานั้น แต่ในปีต่อๆมาสิ่งต่าง ๆ ได้เปลี่ยนไป ดาวเตะทีมชาติอังกฤษต้องใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการรักษาอาการบาดเจ็บมากกว่าที่จะได้ลงเล่นบนสนามและโดยในระยะเวลา 8 ปีที่อยู่กับสโมสรเขาไม่เคยได้ลงเล่นมากไปกว่าฤดูกาลแรกของตัวเองกับสีเสื้อยูไนเต็ดเลย

 

 

จริงๆแล้วด้วยวัย 27 ปีโจนส์ไม่ควรถูกเก็บไว้ใช้งานให้กับสโมสรแล้ว แต่เพียงเพราะเขาอยู่กับทีมตั้งแต่อายุยังน้อยมันจึงทำให้เขาได้อานิสงส์ตรงนี้ไป โดยเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2019 เขาได้เซ็นสัญญาฉบับใหม่ไปจนถึงปี 2023 แม้ในฤดูที่เพิ่งผ่านพ้นไปเขาจะได้ลงเล่นในเกมลีกไปแค่15 เกมเท่านั้นนอจากนี้กองหลังหน้าเหวอยังได้รับเงินค่าเหนื่อยเพิ่มเป็น 120,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์อีกต่างหาก!

 

 

โจนส์มีคุณสมบัติที่ดีสำหรับการเป็นกองหลัง แต่เขาต้องแสดงศักยภาพให้เห็นเป็นที่ประจักษ์ว่าเขาคู่ควรที่จะอยู่ในโรงละครแห่งความฝันต่อไป เพราะถ้าเขายังคงเล่นไปเจ็บไปอยู่อย่างนี้ แฟนบอลคงยี้กันเป็นทิวแถว

 

 

3.คริส สมอลลิ่ง

 

 

ถ้าในฤดูกาลหน้า คริส สมอลลิ่ง ยังได้ลงเล่นให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดก็จะเป็น 1 ทศวรรษพอดีที่เจ้าตัวอยู่กับสโมสรเป็นฤดูกาลที่ 10

 

 

สมอลลิ่งลงเล่นให้ปีศาจแดงไปแล้วทั้งสิ้น 323 เกมและคว้าถ้วยแชมป์กับทีมได้ถึง 8 โทรฟี่รวมทั้งแชมป์ลีกด้วยกัน 2 สมัย อย่างไรก็ดีถึงเขาจะอยู่กับทีมมานานแต่ก็ไม่ได้เป็นที่โปรดปรานของแฟนบอลเร้ด เดวิลส์มากนัก เพราะฟอร์มการเล่นของเขายังคงเอาแน่เอานอนไม่ได้ โดยกองเชียร์ผีแดงทั่วโลกคิดว่าเขาไม่คู่ควรกับตำแหน่งปราการหลังของยูไนเต็ดแล้ว

 

 

ในช่วงหลายปีหลังมานี้แมนฯยูไนเต็ดได้เซ็นสัญญากับเซ็นเตอร์ฮาล์ฟเข้ามามากมายโดยหวังที่จะให้เข้ามาช่วยเสริมความแข็งแกร่งในแนวรับที่เป็นปัญหาและเป็นจุดอ่อนของทีม แต่ก็ยังไม่ดีพอที่จะทำให้แผงหลังเหนียวแน่นเหมือนดังวันวาน ทำให้ทีมยังคงต้องใช้สมอลลิ่งเป็นที่พึ่งพาให้กับแผงแบ็คโฟร์อยู่ ซึ่งเป็นบทพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเขาคือคนที่ลงสนามให้กับทีมมากที่สุดในบรรดาปราการหลังตัวกลาง โดยอดีตผู้เล่นของฟูแล่มสัมผัสพื้นหญ้าให้กับปีศาจแดงในฤดูกาลที่เพิ่งจบลงไปถึง 24 เกมในพรีเมียร์ลีก ส่วน เอริค ไบยี่,ฟิล โจนส์และมาร์กอส โรโฮ ลงในลีกรวมกันแค่ 25 นัดเท่านั้น

 

 

หากแมนยูไนเต็ดมีการเซ็นสัญญากับเซ็นเตอร์แบ็กตัวใหม่ในช่วงปิดฤดูกาลนี้ มีความเป็นไปได้มากทีเดียวที่ 2 ใน 3 คนอย่าง สมอลลิ่ง, โจนส์หรือ โรโฮที่อาจจะต้องออกจากทีมไป

 

 

2.เจสซี่ ลินการ์ด

 

 

เจสซี่ ลินการ์ด นั้นโดนอาการบาดเจ็บเล่นงานเล็กน้อยในฤดูกาลที่เพิ่งรูดม่านจบลงไปทำให้ไม่ค่อยเห็นเขาลงเล่นอย่างต่อเนื่องมากนัก แต่ถึงอย่างไรเขาก็ลงสนามให้ปีศาจแดงในพรีเมียร์ลีกไปถึง 19 ครั้งในฤดูกาลนี้ แต่ในความจริงแล้วฝีเท้าอย่างเขาดูยังไงก็ยังไม่คู่ควรกับยูไนเต็ดในการที่ทีมจะฝากความหวังไว้ได้

 

ด้วยความสามารถที่มีอยู่รวมไปถึงความมุ่งมั่นและความรักที่เขามีต่อสโมสรของ ลินการ์ด ล้วนเป็นสิ่งที่น่าชื่นชมของเจ้าตัวเป็นอย่างมาก ซึ่งนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาจึงยังคู่ควรกับยูไนเต็ดอยู่ แม้บางช่วงเวลาเขาจะไม่สามารถช่วยทีมได้เลยก็ตามที

 

ดาวเตะทีมชาติอังกฤษยังถูกประเมินฝีเท้าว่ายังไม่สมบูรณ์แบบเท่าไรนัก แม้ว่าอายุของเขาจะถึง 26 ปีแล้วก็ตามและเมื่อเปรียบเทียบกับโมฮาเหม็ด ซาลาห์ ของลิเวอร์พูลในวัยเดียวกันแล้วถือว่ายังห่างชั้นอยู่พอสมควร

 

 

แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดจำเป็นต้องมีแข้งตัวรุกที่ดีกว่าที่มีอยู่ หากต้องการจะต่อกรกับคู่ปรับร่วมเมืองอย่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้ในการลุ้นแชมป์ลีก เพราะลำพังหวังจะพึ่งพาให้ลินการ์ดโชว์ฟอร์มเทพทุกนัดนั้นคงเป็นเรื่องที่ยากเอาการเลยทีเดียว

 

1.อเล็กซิส ซานเชซ

 

 

การย้ายมาสู่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดของอเล็กซิส ซานเชสนั้นถือเป็นดีลที่น่าผิดหวังดีลหนึ่งของหน้าประวัติศาสตร์ของสโมสรเป็นอย่างมากในช่วงหลายปีหลังมานี้

 

ซานเชซถูกคาดหวังว่าจะทำให้แนวรุกของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดดีขึ้น แต่ใน 1 ฤดูกาลครึ่งที่เขาอยู่กับสโมสรเขายิงได้แค่ 5 ประตูจากการลงเล่นไป 45 เกม โดยดาวเตะชาวชิลีโดนตัดออกจากชุดตัวจริงอยู่บ่อยครั้งเพื่อเปิดทางให้กับมาร์คัส แรชฟอร์ดกับอองโตนี่ มาร์ซิยัลพลัดกันลงสนามในตำแหน่งตัวริมเส้นทางฝั่งซ้าย

 

แข้งวัย 30 ปีรายนี้ได้รับเงินค่าเหนื่อยจากยูไนเต็ดถึง 350,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์เลยทีเดียว ซึ่งทำให้เขาเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่มีรายได้สูงที่สุดในโลก แต่กระนั้นปีศาจแดงก็ยังไม่ได้อะไรจากเขามากนักกับเม็ดเงินที่ทุ่มลงไปแบบหมดหน้าตักกับความหวังที่อาจจะเป็นเรื่องเผลอฝันไปแล้ว โดยในตอนนี้ทางสโมสรได้แต่ภาวนาให้ทีมใดก็ได้มาช่วยเอาปีกร่างเล็กออกไปจากทีมให้ที เพื่อจะได้ลดค่าใช้จ่ายของสโมสรต่อไป