ฟุตบอลเป็นกีฬาที่มีผู้ติดตามมากที่สุดในโลก โดยเฉพาะทีมใดก็ตามที่มีการเล่นเกมรุกที่น่าตื่นเต้นเร้าใจ ยิ่งจะทำให้แฟนบอลดูฟุตบอลได้อย่างสนุกและเพลิดเพลิน ซึ่งยุคสมัยก่อนนั้นเราจะเห็นได้ว่าทีมต่างๆมักจะเน้นแท็กติกกับการใช้ระบบกองหน้าคู่กับแผน 4-4-2 แต่พอกาลเวลาผันเปลี่ยน สไตล์ก็เปลี่ยนตามไปด้วยกับสูตรใหม่ที่ใช้กองหน้าสามคน ถือว่าเป็นกลยุทธ์ที่ลงตัวเอามากๆกับฟุตบอลไฮเทคในยุคนี้ เพราะจะเห็นได้ว่าทั้ง 3 คนสามารถสลับกันเล่นได้ทั้งริมเส้นทั้งซ้ายขวารวมไปถึงตัวกลาง โดยช่วงระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมาสโมสรต่างๆในยุโรปก็หันมาใช้แผนนี้กันทั้งนั้น แต่จะแตกต่างกันที่ความสามารถของตัวนักเตะ ทำให้วันนี้ทีมงาน UFA Arena.com จะพาไปดูกันว่าสามประสานแดนหน้าที่โหดที่สุดในยุโรปตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมามีใครกันบ้าง
5.คาร์ลอส เตเบซ,คริสเตียโน โรนัลโด้และ เวย์น รูนีย์ (แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด)
อันดับที่ห้าในรายชื่อทรีโอ้ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในฟุตบอลยุโรปเมื่อไม่นานมานี้มาจาก แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ซึ่งประกอบไปด้วย คาร์ลอส เตเบซ,คริสเตียโน โรนัลโด้และ เวย์น รูนีย์ ทั้งสามคนเต็มด้วยไตล์การบุกที่ตื่นเต้นเร้าใจในช่วงฤดูกาล 2007-08 และ 2008-09 จนกลายเป็นทีมที่แข็งแกร่งของยุโรปแถมยังคว้าถ้วยยูฟ่าแชมป์เปี้ยนส์ลีกมาครองรวมทั้งแชมป์พรีเมียร์ลีก อย่างไรก็ตามในช่วงหน้าร้อนปี 2009 พวกเขาก็วงแตกเมื่อ เตเบซตัดสินใจย้ายไปอยู่กับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ส่วนโรนัลโด้เข้าร่วมสังกัดเรอัล มาดริด
4.ลิโอเนล เมสซี่, เปโดรและดาบิด บีย่า (บาร์เซโลน่า)
สำหรับอันดับสี่กับการจัดสุดยอดทรีโอ้ที่โดดเด่นระดับฟุตบอลยุโรปในช่วงก่อนหน้านี้มาจากสโมสรยักษ์ใหญ่ของสเปนอย่างบาร์เซโลน่า ซึ่งประกอบด้วย ลิโอเนล เมสซี่, เปโดรและดาบิด บีย่า ทั้งสามคนนี้กลายเป็นแนวรุกที่สุดโหดในช่วงตลอดระยะเวลาสามฤดูกาลที่พวกเขาเล่นร่วมกันระหว่างปี 2010 ถึง 2013 แต่ไม่ค่อยจะได้รับเครดิตเท่าที่ควร เพราะส่วนใหญ่ผู้คนมักจะมองว่าความสำเร็จมาจากคุณภาพของผู้เล่นทั้งทีม
3.ซาดิโอ มาเน่ , โรแบร์โต้ ฟีร์เมียโน่และโมฮาเหม็ด ซาลาห์ (ลิเวอร์พูล)
อันดับที่สามของสุดยอดทรีโอ้ก็คือ ซาดิโอ มาเน่ , โรแบร์โต้ ฟีร์เมียโน่และโมฮาเหม็ด ซาลาห์ ทั้งสามคนได้รับการยกย่องว่าเป็นแนวรุกที่ดีที่สุดในโลก ณ ปัจจุบัน เนื่องจากพวกเขามีความสามารถในการฉีกแนวรับฝั่งตรงข้ามไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสปีดความเร็ว ความคิดสร้างสรรค์ และเซ้นส์บอลที่ทันกัน ทั้งสามคนไม่ได้มีพิษสงแค่นี้ แต่ยังมีทีเด็ดอยู่ที่จังหวะจบสกอร์ที่เฉียบคมแถมยังช่วยเล่นเกมรับได้อีกด้วย ทั้งมาเน่, ฟีร์เมียร์โน่และซาลาห์ มีบทบาทสำคัญเป็นอย่างมากที่ช่วยให้หงส์แดงชูถ้วยแชมเปี้ยนส์ลีกสมัยที่ 6 ของสโมสรเมื่อฤดูกาล 2018-19 อีกทั้งยังเป็นทีมแรกที่คว้าแชมป์รายการนี้มากกว่าหนึ่งครั้งในรอบ 3 ทศวรรษ
2.คาริม เบนเซม่า , แกเร็ธ เบลและคริสเตียโน โรนัลโด้ (เรอัล มาดริด)
อันดับที่สองสำหรับสามแนวรุกทรีโอ้ก็คือ คาริม เบนเซม่า , แกเร็ธ เบลและคริสเตียโน โรนัลโด้ ของเรอัล มาดริด ซึ่งพลังในการโจมตีของพวกเขาเป็นที่รู้จักกันดีในนาม BBC เป็นหนึ่งในสามกองหน้าที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในอดีต ทั้งสามคนถูกตั้งวงขึ้นมาหลังการปรากฏตัวของเบลจากท็อตแนม ฮ็อทสเปอร์ในช่วงฤดูร้อนปี 2013 และพวกเขาก็มีส่วนช่วยให้ราชันชุดขาวคว้าถ้วยแชมเปี้ยนส์ลีก 4 ครั้งในช่วง 6 ฤดูกาล ซึ่งถ้าทั้งสามคนรวมตัวกันเมื่อไรละก็ หายนะของคู่แข่งแทบจะกระเจิงทันที เพราะด้วยความเร็วและพละกำลังรวมไปถึงความคิดสร้างสรรค์ พร้อมทำลายแนวรับศัตรูได้ทุกเมื่อ อย่างไรก็ตามการเดินทางของทั้งสามคนก็มาถึงทางตันในช่วงซัมเมอร์ปี 2019 เมื่อโรนัลโด้ตัดสินใจย้ายออกไปอยู่กับยูเวนตุสในลีกเซเรียอา อิตาลี
1.ลิโอเนล เมสซี่, หลุยส์ ซัวเรซและเนย์มาร์ (บาร์เซโลน่า)
อันดับหนึ่งของสุดยอดทรีโอ้ที่มีอิทธิพลมากที่สุดในฟุตบอลยุโรปเมื่อไม่นานมานี้มาจาก บาร์เซโลน่า ซึ่งประกอบด้วย ลิโอเนล เมสซี่, หลุยส์ ซัวเรซและเนย์มาร์ หรือที่เรียกว่า ‘MSN’ ทั้งสามคนเป็นกลุ่มติดอาวุธที่มีอานุภาพร้ายแรงที่สุดในช่วงเวลาของพวกเขาถิ่นคัมป์นู ระหว่างปี 2014 ถึง 2017 และมีบทบาทสำคัญช่วยให้เจ้าบุญทุ่มคว้าทริปเปิ้ลแชมป์เป็นสมัยที่สองของสโมสรในปี 2014-15ทั้ง เมสซี่ซัวเรซและเนย์มาร์ สามารถทำประตูร่วมกันได้ถึง 364 ประตู พร้อมกับช่วยแอสซิสต์อีก 173 ครั้ง ในสามฤดูกาลรวมกัน อย่างไรก็ตามดันเกิดการสลายตัวแบบกระทันหัน เมื่อดาวเตะชาวบราซิลย้ายไปร่วมทีม ปารีสแซงต์แชร์กแมง ยักษ์ใหญ่ของลีกเอิงฝรั่งเศสด้วยค่าตัวสถิติโลกในปี 2017
