ทัพ “ช้างศึก” ทีมชาติไทย มีโปรแกรมนัดสำคัญในศึก ฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือกโซนเอเชีย ที่จะต้องเปิดบ้านพบกับ ทีมชาติเวียดนาม ที่สนาม ธรรมศาสตร์ สเตเดี้ยม ในวันที่ 5 กันยายนนี้
เกมนัดดังกล่าวถือเป็นแมตช์ที่สำคัญมากของทั้งสองทีม โดยเฉพาะทางฝั่งทีมชาติไทย นี่ถือเป็นโอกาสครั้งสำคัญที่จะได้ล้างแค้นคู่ปรับสำคัญอย่างทัพ “มังกรทอง” ที่เคยสร้างความเจ็บปวดไว้ตอนที่พวกเขาบุกมาชนะเราได้ในเกม ชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 47 ที่ผ่านมาอีกด้วย
ขณะที่ทางฝั่งทีมชาติเวียดนาม พวกเขาก็ต้องการบุกมาเก็บ 3 แต้ม ในเกมนี้ให้ได้เช่นเดียวกัน เพื่อการันตรีความเป็นเบอร์หนึ่งในอาเซียนแบบไร้ข้อกังขาใดๆ ซึ่งนั่นส่งผลใหเกมแมตช์นี้มีความสำคัญอย่างมากกับทั้งสองทีม
โดยในวันนี้ Ufa Arena จะขอพาทุกท่านมาอุ่นเครื่องเตรียมความพร้อมก่อนที่เกมนัดนี้จะลงฟาดแข้งกันในอีกไม่กี่วันข้างหน้า โดนการเทียบฟอร์มชัดๆ ของบรรดานักเตะตัวหลังของทั้งสองทีม เราจะไปดูกันว่าดาวเด่นของทั้งคู่ใครกันแน่ที่จะทำผลงานในปีนี้ได้ดีกว่ากัน
ดัง วาน ลัม vs กวิน ธรรมสัจจานันท์
ดัง วาน ลัม
สำหรับนายด่านมือหนึ่งทีมชาติเวียดนาม อย่าง ดัง วาน ลัม ผลงานของเขาหลังย้ายมาเล่นในศึก ไทยลีก ครั้งแรก กับ เอสซีจี เมือง ยูไนเต็ด ซีซั่นนี้ อาจจะยังทำได้ไม่ค่อยดีนัก เนื่องจากที่ผ่านมาเจ้าตัวยังมีจังหวะผิดพลาดให้เห็นเกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง
ทว่าหากย้อนกลับไปดูผลงานในเกมระดับชาติ ดัง วาน ลัม ถือว่าโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมเลยทีเดียวในปี โดยเฉพาะในศึก เอเชียนคัพ 2019 ซึ่งมือกาววัยลูกครึ่งเวียดนาม – รัสเซีย มีส่วนสำคัญช่วยเซฟกระจุยกระจายพาทัพ “มังกรทอง” ทะลุเข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย ในทัวร์นาเมนต์ดังกล่าวได้สำเร็จ
กวิน ธรรมสัจจานันท์
ขณะที่ทางฝั่งผู้รักษาประตูมือหนึ่งของทีมชาติไทย อย่าง กวิน ธรรมสัจจานันท์ ซีซั่นนี้ดูแล้วน่าเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากของเจ้าตัวเลยก็ว่า หลังเสียตำแหน่งมือหนึ่งในทีม โอเอช ลูเวิน ให้กับ โลร็องต์ อ็องคิเน่ต์ ซึ่งดูแล้วถือเป็นงานหนักมากๆสำหรับเจ้าตัว หากจะหวังเบียดแย่งตำแหน่งกลับมาให้ได้อีกครั้ง
ส่วนผลงานในระดับทีมชาติของ “เจ้าตอง” ไม่ได้ลงเล่นในศึก เอเชียนคัพ 2019 เนื่องจากมีปัญหาอาการบาดเจ็บ ซึ่งนัดล่าสุดที่ กวิน ธรรมสัจจานันท์ ลงเฝ้าเสาให้กับทัพ “ช้างศึก” คือเกมที่พบกับทีมชาติเวียดนาม ในศึกชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 47 ทว่าผลงานได้เกมนัดดังกล่าวก็ยังไม่ค่อยน่าพอใจเท่าไหร่นัก
เกว ง็อค ไฮ vs พรรษา เหมวิบูลย์
เกว ง็อค ไฮ
แนวรับกัปตันทีมทัพ “ดาวทอง” อย่าง เกว ง็อค ไฮ ถือเป็นนักเตะที่มีส่วนสำคัญช่วยให้ทำทีมทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมตลอดปีที่ผ่านมา จุดเด่นของเขาอยู่ที่การอ่านบอล และจังหวะเข้าปะทะที่แม่นยำ รวมไปถึงการเล่นลูกกลางอาการที่ไว้ใจได้ไม่น้อย นั่นจึงทำให้เขากลายเป็นแนวรับเบอร์หนึ่งของทีมชาติเวียดนาม ในยุคของกุนซือ ปาร์ค ฮัง โซ แบบไม่ต้องสงสัย
ส่วนผลงานที่ผ่านมาในปีนี้ เกว ง็อค ไฮ ถือเป็นแกนหลักของ เวียดเทล ทีมแกร่งในศึก วี ลีก ซึ่งเขาเองก็ทำผลงานได้อย่างน่าพอใจถึงแม้ผลงานของทีมจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่นักก็ตาม ส่วนในระดับทีมชาติเขาเองก็เป็นหนึ่งในกำลังสำคัญของ ทีมชาติเวียด
พรรษา เหมวิบูลย์
ปราการหลังตังแกร่งจาก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด คือหนึ่งในแนวรับของตัวหลังของทีมชาติไทย ตลอดช่วงที่ผ่านมา โดยจุดเด่นของแข้งวัย 29 ปี คือการอ่านเกมที่ยอดเยี่ยม, การเข้าสกัดบอลที่แม่นยำ และจังหวะเล่นลูกกลางที่เก็บกินได้เกือบหมด นั่นทำให้เขากลายเป็นหัวใจสำคัญในเกมรับของทัพ “ช้างศึก” ในเวลานี้
สำหรับ “ผลงาน” ของ “เจ้าโย่ง” ในปีนี้ เจ้าตัวยังคงโชว์ผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมกับทัพ “ปราสาทสายฟ้า” เช่นเคย และมีส่วนสำคัญในการพาทีมลุ้นคว้าแชมป์ศึก ไทยลีก สมัยที่ 8 ของสโมสร ส่วนในเกมที่ชาติ พรรษา เหมวิบูลย์ ถือว่าทำผลงานได้อย่างน่าพอใจในศึก เอเชียน คัพ ที่ผ่านมา รวมไปถึงในเกม ชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ แม้ว่าท้ายที่สุดแล้วทีมจะไม่สามารถไปได้ถึงตามเป้าที่ตั้งไว้ก็ตาม
ดวน วาน เฮา vs ธีราทร บุญมาทัน
ดวน วาน เฮา
แบ็คซ้ายตัวเก่งที่สร้างกระแสได้พอสมควรในช่วงที่ผ่านมาอย่าง ดวน วาน เฮา คือนักเตะที่สามารถเล่นเกมรับได้อย่างเหนียวแน่น และมีจังหวะที่เติมเกมขึ้นไปสร้างความปั่นป่วนให้กับแนวรับคู่แข่งได้อีกด้วย จุดเด่นของเขานอกจากจะเล่นเกมรับได้ดีแล้ว จังหวะเปิดบอลจากริมเส้นก็ถือเป็นอีกหนึ่งอาวุธที่อันตรายไม่น้อยเลยทีเดียว
ส่วนผลงานของ ดวน วาน เฮา ในปีนี้ เขากำลังทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมกับต้นสังกัด ฮานอย เอฟซี ทั้งในลีกที่พวกเขากำลังอยู่บนเส้นทางป้องกันแชมป์ และในศึก เอเอฟซี คัพ ที่สามารถทะลุเข้าถึงรอบรองชนะเลิศได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ในระดับทีมชาติเขาเองก็เป็นหนึ่งในนักเตะที่ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในศึก เอเชียนคัพ เมื่อต้นปีที่ผ่านมา จนฟอร์มของเขาไปเข้าตาทีมดังในศึก บุนเดสลีกา เยอรมัน อย่าง โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค ที่เคยมีข่าวเชื่อมโยงกันมาแล้วก่อนหน้านี้ด้วย
ธีราทร บุญมาทัน
ขณะที่แบ็คซ้ายเบอร์หนึ่งของทัพ “ช้างศึก” อย่าง ธีราทร บุญมาทัน เจ้าตัวกำลังระเบิดฟอร์มเก่งในศึก เจ ลีก กับต้นสังกัด โยโกฮาม่า เอฟ มารินอส หลังสามารถก้าวขึ้นมายึดตำแหน่งตัวจริง ได้สำเร็จ ซึ่งในฤดูกาลนี้ “เจ้าอุ้ม” โชว์ศักยภาพของตัวเองออกมาได้อย่างเต็มที่กับการลงเล่นบนลีกสูงสุดแดนปลาดิบ ทั้งการเล่นเกมรับที่โดดเด่น และจังหวะเติมเกมรุกที่ค่อนข้างอันตราย
สำหรับผลงานในนาม ทีมชาติไทย ของ ธีราทร บุญมาทัน เจ้าตัวเป็นกำลังสำคัญของทีมในศึก เอเชียน คัพ ที่ผ่านมา และมีส่วนช่วยทีมผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ ซึ่งผลงานส่วนตัวของเขาถือว่าค่อนข้างทำได้อย่างยอดเยี่ยมทีเดียว
เลือง ซวน เจือง vs ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์
เลือง ซวน เจือง
อดีตกองกลางของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด โดดเด่นสุดๆในช่วงที่เจ้าตัวย้ายจาก ฮอง อันห์ ยาลาย มาค้าแข้งในศึก ไทยลีก เมื่อช่วงครึ่งซีซั่นแรก ทว่าโดยรวมแล้วผลงานของ เลือง ซวน เจือง ยังทำได้ไม่มีดีเท่าที่ควร ก่อนถูกทัพ “ปราสาทสายฟ้า” ยกเลิกสัญญาในท้ายที่สุด
จุดเด่นของ เลือง ซวน เจือง คือจังหวะจ่ายบอลที่แม่นยำ, การคุมจังหวะบอลกลางสนาม และการวางบอลยาวจากแนวลึกเพื่อกดดันแนวรับคู่แข่ง ซึ่งนั่นทำให้เขากลายเป็นหนึ่งในนักเตะตัวหลักของ ปาร์ค ซัง โฮ กุนซือใหญ่ทีมชาติเวียดนาม โดยเฉพาะทีมชุด U23 ของพวกเขาที่สามารถคว้าตำแหน่งรองแชมป์เอเชีย ได้สำเร็จเมื่อปี 2018
ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์
กองกลาง Box to box ของทีมชาติไทย รายนี้ เป็นอีกหนึ่งคนที่พัฒนาฝีเท้าได้อย่างก้าวกระโดดจนทำให้เขาได้รับโอกาสครั้งสำคัญในการย้ายไปค้าแข้งกับทีมใน เจ ลีก อย่าง โออิตะ ทรินิตะ และเจ้าตัวก็ถือว่าทำผลงานได้น่าพอใจไม่น้อยเลย
ขณะที่ผลงานในนามทีมชาติ ต้องยอมรับเลยว่า ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ คือแข้งคนสำคัญของทัพ “ช้างศึก” ในเวลานี้ และเชื่อได้เลยว่าในการจัดผู้เล่นลงสนาม 11 ตัวจริงของ อากิระ นิชิโนะ จะต้องมีชื่อของ “เจ้านิว” อยู่ด้วยแน่นอน โดยในศึก เอเชียน คัพ ที่ผ่านมา เขาถือเป็นหนึ่งในนักเตะหัวใจสำคัญของทีม และมีส่วนทั้งในเกมรับรวมไปถึงบางจังหวะในเกมรุกของทีมด้วย
เหงียน กวง ไฮ vs สุภโชค สารชาติ
เหงียน กวง ไฮ
เพลย์เมกเกอร์ตัวเก่งของทัพ “ดาวทอง” อย่าง เหงียน กวง ไฮ คือหนึ่งในนักเตะที่โชว์ผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมที่สุดคนหนึ่งในศึก เอเชียน คัพ 2019 ที่ผ่านมา หลังสามารถระเบิดฟอร์มเก่งของตัวเองได้สำเร็จ ถือเป็นปัจจัยสำคัยที่ทำให้ทีมชาติเวียดนาม กำลังทำผลงานร้อนแรงอยู่ในตอนนี้
จุดเด่นของ เหงียน กวง ไฮ คือจังหวะสร้างสรรค์เกมรุกให้ทีมที่อันตรายสุดๆ มีความเร็วและสามารถไปกับบอลได้ดี รวมไปถึงยังสามารถยิงไกล และเล่นลูกฟรีคิกได้อย่างเฉียบคมอีกด้วย ซึ่งนั่นทำให้เขากลายเป็นแข้งคนสำคัญของทั้งในทีมชาติ และตันสังกัดอย่าง ฮานอย เอฟซี นอกจากนี้แข้งวัย 22 ปี ยังอยู่ในทีมชุด U23 ที่เพิ่งถล่มทีมชาติไทย ไปแบบขาดลอย 4 – 0 ในศึก ชิงแชมป์เอเชีย U23 รอบคัดเลือก เมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมาอีกด้วย
สุภโชค สารชาติ
ถ้าจะหาใครสักคนมาเทียบฟอร์มของ เหงียน กวง ไฮ ในตอนนี้ที่สมน้ำสมเนื้อก็คงหนีไม่พ้น สุภโชค สารชาติ เพลย์เมกเกอร์อนาคตไกลของทัพ “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่กำลังทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมสุดๆกับตันสังกัด และเตรียมที่จะก้าวขึ้นมาเป็นกำลังสำคัญในระดับทีมชาติๆในไม่ช้านี้แน่นอน
สำหรับ สุภโชค สารชาติ นอกจากจังหวะการสร้างสรรค์เกมรุกที่โดดเด่นแล้ว จังหวะจบสกอร์ที่เฉียบคมยังเป็นอีกหนึ่งอาวุธสุดอันตรายของเจ้าตัวอีกด้วย โดยผลงานในปีของ “เจ้าเช็ค” นอกจากจะทำได้ดีกับต้นสังกัดในศึก ไทยลีก แล้ว ปีนี้เขายังสามารถก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในกำลังสำคัญของทัพ “ช้างศึก” ได้อย่างเต็มตัวอีกด้วย
เหงียน คอง เฟือง vs ชนาธิป สรงกระสินธ์
เหงียน คอง เฟือง
หนึ่งในนักเตะที่แฟนบอลน่าจะรู้จักกันดีนั่นก็คือ เหงียน คอง เฟือง กองหน้าตำสำคัญของทัพ “มังกรทอง” ภายใต้การทำทีมของ ปาร์ค ซัง โฮ กุนซือใหญ่ชาวเกาหลีใต้ แข้งวัย 24 ปี มีจุดเด่นที่การเลี้ยงบอลทะลุทะลวงคู่แข่งได้ดี สามารถสร้างสรรค์โอกาสให้กับทีมได้ และมีจังหวะจบสกอร์ที่เฉียบคมไม่น้อยเลยทีเดียว
ผลงานของ เหงียน คอง เฟือง ในปีนี้ เจ้าตัวออกสตาร์ทได้ไม่ค่อยดีเท่าไรนักกับการย้ายไปค้าแข้งยังลีกสูงสุดของเกาหลีใต้กับ อินชอน ยูไนเต็ด ก่อนถูกยกเลิกสัญญาหลังผ่านไปครึ่งฤดูกาลเท่านั้น และได้ย้ายไปอยู่กับ แซงต์ ทรุยด็อง ทีมบนลีกสูงสุดของเบลเยียม ซึ่งนี่ถือเป็นครั้งแรกที่ได้มาค้าแข้งในยุโรปของเขาเองด้วย ส่วนผลงานในระดับทีมชาติเจ้าตัวสามารถยิงได้ถึง 2 ประตู ในศึก เอเชียน คัพ 2019 และถือเป็นหัวใจสำคัญในเกมรุกที่สามารถพาทีมทะลุเข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ
ชนาธิป สรงกระสินธ์
ส่วนทางฝั่ง ชนาธิป สรงกระสินธ์ ไม่มีบมพิสูจน์อะไรอีกแล้วสำหรับเขาในการค้าแข้งบนลีกสูงสุดแดนปลาดิบ หลังเขาสามารถระเบิดฟอร์มเก่งของตัวเองกับการเล่นให้กับ คอนซาโดเล ซัปโปโร ในฤดูกาลนี้ด้วยผลงานที่ร้อนแรงสุดๆ ยิงไปแล้ว 4 ประตู พร้อมกับทำแอสซิสต์ไปถึง 6 ลูก
ส่วนผลงานในระดับทีมชาติ นับตั้งแต่จบจากศึก เอเชียน คัพ เจ้าตัวยังไม่ได้ลงเล่นให้กับทัพ “ช้างศึก” เลย เนื่องจากมีปัญหาอาการบาดเจ็บ แต่เชื่อเหลือเกินว่าการกลับมาของ “เจ้าเจ” ครั้งนี้ จะช่วยยกระดับเกมรุกของทัพ “ช้างศึก” กลับมาอันตรายอีกครั้งได้อย่างแน่นอน
