ใครจะเหนือกว่ากัน! เทียบผลงาน 5 แข้งดาวเด่น ไทย – ยูเออี

 

ทีมชาติไทย ภายใต้การคุมทีมของ อากิระ นิชิโนะ มีโปรแกรมนัดสำคัญที่จะลงสนามในศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย พบกับ ทีมชาติสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ที่สนาม ธรรมศาสตร์ เสตเดี้ยม ในวันอังคารที่ 14 ตุลาคมนี้ ซึ่งถือเป็นเกมที่สำคัญมากกับทั้งสองทีม

 

ล่าสุดเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เบิร์ต ฟาน มาร์ไวค์ กุนซือใหญ่ของขุนพล ยูเออี ได้ทำการประกาศรายชื่อ 26 แข้ง ที่จะใช้สำหรับเกมบุกมาเยือนทัพ “ช้างศึก” ออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยดาวเตะตัวสำคัญอย่าง วาลิด อับบาส, โอมาร์ อับดุลราห์มาน และ อาเหม็ด คาลิล ต่างมีชื่ออยู่ในทีมครบถ้วนทุกราย ขณะที่ทางฝั่งลูกทีมของ อากิระ นิชิโนะ ก็ได้ประกาศนักเตะที่จะเล่นในเกมนี้ออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้วเช่นกัน ซึ่งแกนหลักคนสำคัญของทีมต่างมีชื่อพร้อมหน้าเหมือนเคย โดยเฉพาะศูนย์หน้าตัวความหวังอย่าง ธีรศิลป์ แดงดา ที่กลับมาร่วมทีมอีกครั้งหลังเพิ่งหายจากอาการบาดเจ็บ

 

โดยในวันนี้ Ufa Arena จะขอพาทุกท่านไปเปรียบเทียบวัดกันเน้นๆกับบรรดา 5 แข้งดาวเด่นของทั้งสองทีมว่าใครจะร้อนแรงกว่ากัน ซึ่งทั้ง 5 แข้งคนสำคัญของทั้งสองทีมนั้นจะมีใครกันบ้าง ลองไปดูกันเลย

 

 

คาลิด เอสซ่า vs ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน

คาลิด เอสซ่า

 

นายด่านมากประสบการณ์วัย 30 ปี อย่าง คาลิด เอสซ่า ลงสนามเฝ้าเสาให้กับทีมชาติสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ มายาวนานกว่า 8 ปี นับตั้งแต่ที่เขาได้ประเดิมรับใช้ชาติเกมแรกอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2011 จนถึงปัจจุบันเจ้าตัวเล่นให้กับทีมไปแล้วถึง 45 เกม

 

สำหรับจุดเด่นของมือกาวจากสโมสร อัล ไอน์ คือจังหวะเซฟที่เหลือเชื่อเหนือความคาดหมาย รวมไปถึงการออกมาเล่นลูกกลางอากาศก็ถือว่าทำได้ดีไม่น้อย เรียกได้ว่า เอสซ่า คือหนึ่งในผู้รักษาประตูที่มีฝีไม้ลายมือไม่ธรรมดาเลยก็ว่าได้

 

โดยในศึก เอเชียนคัพ 2019 ที่ผ่านมา คาลิด เอสซ่า ได้รับตำแหน่งผู้รักษาประตูมือหนึ่งอย่างเป็นทางการของทีม ยูเออี และสามารถทำผลงานได้อย่างน่าพอใจ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือเกมที่เจ้าตัวลงสนามพบกับทีมชาติไทย ในเกมรอบแบ่งกลุ่มนัดสุดท้าย ขณะที่ในเกมฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก นัดที่ผ่านมา นายทวารรายนี้ก็ถือเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้ทีมบุกไปเอาชนะทีมชาติมาเลเซีย ได้สำเร็จอีกด้วย

 

ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน

 

มือกาวกัปตันทีมทัพ “ช้างศึก” อย่าง ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน ต้องยอมรับเลยว่าชั่วโมงนี้เขาคือมือหนึ่งของทีมอย่างแท้จริง “เจ้าแชมป์” ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในซีซั่นนี้กับทั้งตันสังกัด บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด รวมไปถึงในนามทีมชาติตั้งแต่ศึก เอเชียน คัพ เมื่อช่วงต้นปีทีผ่านมา กระทั่งจนมาถึงในยุคของกุนซือคนใหม่ชาวญี่ปุ่น อากิระ นิชิโนะ

 

โดยผลงานในการทำหน้าที่ให้กับทีมชาติไทย ในเกมที่พบกับทัพ “มังกรทอง” ทีมชาติเวียดนาม มือกาววัย 35 ปี โชว์ฟอร์มได้อย่างเหนียวแน่นสุดๆ แทบไม่มีจังหวะผิดพลาดให้เห็นเลย โดยเฉพาะจังหวะออกมาตัดลูกกลางอากาศซึ่งถือว่าทำได้ดีมากๆ

 

นอกจากนี้ ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน ได้กลายเป็นกำลังสำคัญในทีมของเฮดโค้ชจากแดนปลาดิบไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งในเรื่องของผลงานที่เข้าตาสุดๆ รวมไปถึงการได้รับความไว้วางใจให้เป็นคนสวมปลอกแขนกัปตันทีมนำเพื่อนร่วมทีมลงสนาม ซึ่งนายด่านรายนี้ก็ถือว่าทำได้ดีในทุกบทบาทเลยทีเดียว

 

 

วาลิด อับบาส vs พรรษา เหมวิบูลย์

วาลิด อับบาส

 

ปราการหลังกัปตันทีมของทัพ “นักรบชุดขาวแห่งตะวันออกกลาง” อย่าง วาลิด อับบาส คือหนึ่งในนักเตะคนสำคัญที่รับใช้ชาติมายาวนานกว่า 11 ปี นับตั้งแต่ที่เจ้าตัวถูกดันขึ้นมาเล่นในทีมชุดใหญ่อย่างเป็นทางการเมื่อปี 2008

 

โดยแนวรับตัวเก๋าวัย 34 ปี รายนี้ ปัจจุบันค้าแข้งอยู่กับ อัล อาห์ลี ดูไบ โดยจุดเด่นของเข้าอยู่ที่ความนิ่งในการจัดระเบียบเกมรับของตัวเอง รวมไปถึงการเล่นลูกกลางอากาศที่แข็งแกร่ง นอกจากนี้เข้ายังเป็นผู้เล่นในตำแหน่งกองหลังที่สามารถเติมขึ้นไปเล่นจังหวะลูกตั้งเตะและทำประตูให้ทีมได้หลายครั้ง ซึ่งในเกมกับทีมชาติ วาลิด อับบาส สามารถยิงให้ทีมไปได้ถึง 6 ประตู จากการลงเล่นทั้งหมด 83 นัดก่อนหน้านี้

 

พรรษา เหมวิบูลย์

 

แนวรับสุดแกร่งจากทัพ “ปราสาทสายฟ้า” ยังคงทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมทั้งในระดับสโมสรและทีมชาติ โดยจุดเด่นของ “เจ้าโย่ง” อยู่ที่จังหวะอ่านเกมและตัดบอลจากคู่แข่งที่ทำอย่างเฉียบขาด รวมไปถึงการเล่นลูกกลางอากาศที่ค่อนข้างไว้ใจได้ไม่น้อย

 

โดยในเกมที่ทัพ “ช้างศึก” พบกับทีมชาติเวียดนาม พรรษา เหมวิบูลย์ ก็ยังสามารถโชว์ผลงานได้อย่างเหนียวแน่นเช่นเคย ถึงแม้ภาพรวมการจับคู่ในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็คคู่กับ มานูเอล ทอมเบียร์ จะยังคงดูมีปัญหาอยู่บ้างก็ตาม

 

 

อาลี ซัลมีน vs พิธิวัต สุขจิตธรรมกุล

อาลี ซัลมีน

 

นี่คือหนึ่งในดาวรุ่งอนาคตไกลที่น่าจับตามองที่สุดของ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ในเวลานี้เลยก็ว่าได้ สำหรับ อาลี ซัลมีน กองกลางวัย 24 ปี จากสโมสร อัล วาเซิ่ล โดยก่อนหน้านี้เจ้าตัวได้รับโอกาสลงสนามรับใช้ชาติไปแล้วทั้งหมด 8 นัด

 

จุดเด่นของมิดฟิลด์รายนี้นอกจากจะสามารถพาบอลไปกับตัวได้อย่างคล่องแคล่วแล้ว เขายังมีลูกทีเด็ดทีขาดจากโอกาสเติมขึ้นมาซัดประตูจากแถวสองอีกด้วย

 

โดยในเกมนัดที่ผ่านมาซึ่งทีม ยูเออี บุกไปเอาชนะ ทีมชาติมาเลเซีย มาได้ 2 – 1 เขาก็เพิ่งได้รับความไว้วางใจจาก เบิร์ต ฟาน มาร์ไวค์ กุนซือใหญ่ของทีมส่งลงสนามเป็นตัวจริงในแมตช์ดังกล่าวด้วย

 

พิธิวัต สุขจิตธรรมกุล

 

เรียกได้ว่าเป็นปีทองของแข้งดางรุ่งพุ่งแรงวัย 24 ปี รายนี้เลยก็ว่าได้ กับผลงานที่เข้าทำได้อย่างยอดเยี่ยมกับต้นสังกัด สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ซึ่งมันส่งผลให้เขาถูกเรียกเข้ามารับใช้ทัพ “ช้างศึก” ในยุคของเทรนเนอร์เลือดซามูไร และกลายเป็นแกนหลักคนสำคัญของทีมไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

 

โดยนัดประเดิมสนามในนามทีมชาติของ พิธิวัต สุขจิตธรรมกุล เกมที่พบกับ ทีมชาติเวียดนาม รวมไปถึงแมตช์ถัดมาที่ดวลกับ ทีมชาติอินโดนิเซีย “เจ้าเต้” ทำผลงานได้น่าพอใจสุดๆ กับบทบาทมิดฟิลด์ตัวขับเคลื่อนเกมกลางสนามของทีม ดาวเตะจากทัพ “กว่างโซ้งมหาภัย” มีบทบาทกับทีมทั้งเกมรุกและเกมรับ จนได้รับคำชมจากแฟนบอลอย่างล้นหลามเลยทีเดียว

 

 

โอมาร์ อับดุลราห์มาน vs ชนาธิป สรงกระสินธ์

โอมาร์ อับดุลราห์มาน           

                                                                                                           

เพลย์เมกเกอร์พรสวรรค์สูงของทีมชาติทีมชาติสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ รายนี้ เชื่อว่าแฟนบอลบ้านเราหลายคนน่าจะรู้จักกันเป็นอย่างดี และยังคงจดจำผลงานที่เคยเจอกันมาก่อนหน้านี้ได้แน่นอน

 

สำหรับ โอมาร์ อับดุลราห์มาน จุดเด่นของเขาคือการเป็นนักเตะกองกลางตัวรุกที่มีความครบเครื่องมากๆ สามารถที่จะสร้างสรรค์เกมรุกให้เพื่อนได้ และบางจังหวะยังพาบอลไปกับตัวได้ดีมากๆอีกด้วย

 

โดยดาวเตะวัย 28 ปี จากสโมสร อัล จาซีร่า คือหนึ่งในนักเตะระดับแถวหน้าของเอเซียอย่างแท้จริง และคงเป็นงานยากพอสมควรถ้าหากแนวรับของทัพ “ช้างศึก” ต้องการจะหยุดความสุดยอดของเขาในเกมนี้ลงให้ได้

 

https://www.youtube.com/watch?v=vnhVUw7ejGs

 

 

ชนาธิป สรงกระสินธ์

 

ไม่มีอะไรต้องพิสูจน์อีกแล้วสำหรับความยอดเยี่ยมของเพลย์เมกเกอร์ตัวเก่งของ คอนซาโดเล่ ซัปโปโร อย่าง ชนาธิป สรงกระสินธ์ ที่กำลังโชว์ความร้อนแรงได้อย่างต่อเนื่องในศึก เจ ลีก ญี่ปุ่น ซีซั่นนี้

 

โดย “เจ้าเจ” คือหัวใจสำคัญในเกมรุกของทัพ “ช้างศึก” มาอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามต้องยอมรับว่าผลงานจากเกมที่พบกับ ทีมชาติเวียดนาม ซึ่งเป็นเกมประเดิมสนามของกุนซือคนใหม่ ผลงานโดยรวมของแข้งเบอร์ 18 รายนี้ ยังไม่ค่อยน่าพอใจเท่าไรนัก

 

ทว่าในเกมที่จะพบกับขุนพล “นักรบชุดขาวแห่งตะวันออกกลาง” ชนาธิป สรงกระสินธ์ จะมีบทบาทกับทีมอย่างมากแน่นอน โดยเฉพาะจังหวะเล่นบอลสวนกลับเร็ว ซึ่งถือเป็นไม้เด็ดของเจ้าตัวเลยก็ว่าได้กับการลงเล่นบนลีดสูงสุดแดนปลาดิบในฤดูกาลนี้

 

 

อาเหม็ด คาลิล vs ธีรศิลป์ แดงดา

อาเหม็ด คาลิล

 

ดาวยิงตัวความหวังสูงสุดของทีม ยูเออี อย่าง อาเหม็ด คาลิล คือตัวอันตรายในเกมรุกของพวกเขาอย่างแท้จริง แข้งวัย 28 ปี ลงสนามรับใช้นานกว่า 11 ปี นับตั้งแต่ที่เขาถูกดันขึ้นมาเล่นในทีมชุดใหญ่เมื่อปี 2008 ก่อนยิงประตูให้ทีมไปแล้วทั้งหมด 51 ลูก จากการลงสนาม 103 นัด

 

จุดเด่นของ อาเหม็ด คาลิล คือความสามารถเฉพาะตัวในการพาบอลเลี้ยงหนีแนวรับของคู่แข่ง รวมไปถึงความแข็งแกร่งด้วยรูปร่างที่สูงใหญ่ และจบสกอร์ได้อย่างเฉียบคมสมบูรณ์แบบ

 

คงเป็นเรื่องยากอีกเช่นกันสำหรับแนวรับของทัพ “ช้างศึก” ที่จะต้องหยุด อาเหม็ด คาลิล ในเกมนี้ให้ได้ ไม่เช่นนั้นหากเจ้าตัวได้มีโอกาสผสานงานกับคู่หูอย่าง โอมาร์ อับดุลราห์มาน ได้ละก็ พวกเขาทั้งคู่น่าจะสร้างปัญหาใหญ่ให้กับทีมของเราได้อย่างแน่นอน

 

https://www.youtube.com/watch?v=5dA0EQ4c3iI

 

ธีรศิลป์ แดงดา

 

หัวหอกประสบการณ์สูงจากทัพ “กิเลนผยอง” เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ถูกเรียกกลับมาติดทีมอีกครั้ง หลังก่อนหน้านี้มีอาการบาดเจ็บทำให้เขาพลาดเกมที่พบกับทั้ง ทีมชาติเวียดนาม และ ทีมชาติอินโดนิเซีย ซึ่งนี่ถือเกมแรกอย่างเป็นทางการของ “เจ้ามุ้ย” ภายใต้การทำทีมของกุนซือคนใหม่อย่าง อากิระ นิชิโนะ ด้วย

 

แน่นอนว่าถึงแม้อายุของเพชฌฆาตรายนี้จะมากขึ้น แต่ด้วยประสบการณ์ที่เพิ่มขึ้นตามไปด้วย ส่งผลให้ ธีรศิลป์ แดงดา กลายเป็นหนึ่งในแข้งหัวใจสำคัญของขุนพล “ช้างศึก” และถือเป็นตัวความหวังสูงสุดของทีมในแดนหน้าเลยก็ว่าได้