ใครรุ่งใครร่วง : เช็คฟอร์ม 10 นักเตะพรีเมียร์ย้ายไปค้าแข้งในเซเรียอา

 

ในช่วงตลาดซื้อขายนักเตะเมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมา มีแข้งดังจากพรีเมียร์ลีกมากมายที่ได้ย้ายไปค้าแข้งในอิตาลีเพื่อโอกาสในการลงสนามที่มากขึ้นและทำให้ชีวิตค้าแข้งของพวกเขากลับมาสดใสอีกครั้ง

 

ก่อนหน้านี้ก็เคยมีแข้งจากลีกผู้ดีย้ายมาเล่นในแดนรองเท้าบูทและประสบความสำเร็จไม่น้อย เช่น เอดิน เชโก้ กองหน้าจอมถล่มประตูของโรม่า หรือ วอจเซียค เซสนี่ นายทวารเบอร์หนึ่งของ ยูเวนตุส แม้จะมีบางคนที่ดูไม่ค่อยดีนักอย่างเช่น เนมานย่า วิดิช ก็ตาม

 

ทาง UFA ARENA จึงขอพาคอบอลไปเช็กฟอร์ม 10 แข้งดังจากพรีเมียร์ลีกที่ย้ายมาเล่นในเซเรียอาในฤดูกาลนี้ว่ามีแววรุ่งหรือแววร่วงผ่านบทความชิ้นนี้กัน

 

 

สเตฟาโน่ โอกาก้า (วัตฟอร์ด ไป อูดิเนเซ่)

 

 

ลงเล่นในลีก: 8 นัด (3 ประตู, 1 แอสซิสต์)

 

โอกาก้าเป็นนักเตะที่มีพลังงานเหลือล้น, เป็นกองหน้าที่มีร่างกายกำยำแข็งแรงพร้อมชนคู่แข่งได้ทุกเมื่อ แย่หน่อยที่เขาไม่ใช่นักเตะประเภทที่ยิงประตูได้มากมายนัก ทั้งๆที่มันเป็นหน้าที่หลักของโอกาก้าในแดนหน้า

 

หัวหอกชาวอิตาเลี่ยนไม่สามารถแจ้งเกิดกับวัตฟอร์ดในพรีเมียร์ลีกได้ เขาจึงตัดสินใจย้ายไปร่วมทีมอูดิเนเซ่ในบ้านเกิดแบบถาวรแทนเมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา หลังย้ายไปเล่นแบบยืมตัวในปีก่อน ซึ่งปัจจุบันแข้งวัย 30 ปี ทำประตูไป 3 ลูก กับอีก 1 แอสซิสต์ จากลงเล่น 8 นัดให้กับต้นสังกัด ก็พอจะบอกได้ว่าโอกาก้าเจอที่ที่เหมาะกับตัวเองแล้วล่ะ

 

 

มัตเตโอ ดาร์เมี่ยน (แมนยูไนเต็ด ไป ปาร์ม่า)

 

 

ลงเล่นในลีก: 7 นัด ( 1 แอสซิสต์)

 

ดาร์เมี่ยนย้ายมาค้าแข้งกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อปี 2015 ด้วยความหวังว่าจะเข้ามาเป็นแบ็คขวาตัวหลักในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด แต่ยิ่งนานวันเข้าฟอร์มการเล่นของเขาก็ค่อยๆห่างไกลกับคำว่ายอดเยี่ยมไปเรื่อยๆ

 

หลัง 4 ปีที่ค้าแข้งอยู่ในอังกฤษ แข้งวัย 29 ปี จึงขอลากลับอิตาลีบ้านเกิดและย้ายซบปาร์ม่า เพื่อให้เส้นทางค้าแข้งของเขากลับมาสดใสอีกครั้ง แต่จากลงเล่น 8 นัดในเซเรียอาฤดูกาลล่าสุด อดีตแข้งโตริโน่ทำผลงานค่อนข้างธรรมดาและไม่สร้างผลกระทบด้านบวกให้ทีมเท่าไหร่ ทำไปเพียง 1 แอสซิสต์เท่านั้น 

 

นี่จะเป็นอีกฤดูกาลที่ลำบากไม่แพ้ปีก่อนๆสำหรับดาร์เมี่ยนอย่างแน่นนอน

 

 

ดานิโล่ (แมนซิตี้ ไป ยูเวนตุส)

 

 

ลงเล่นในลีก : 5 นัด (1 ประตู)

 

สาวกเบี่ยงโคเนรี่ต้องงุนงงไม่น้อย เมื่อเห็นทีมรักยอมปล่อยตัว เจา คานเซโล่ แบ็คขวาหนุ่มให้กับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เพื่อคว้าตัว ดานิโล่ แบ็ควัย 28 ปีมาร่วมทีมแทน

 

แม้แข้งชาวโปรตุกีสจะออกสตาร์ทกับต้นสังกัดใหม่ได้เหมือนฝัน หลังยิงประตูแรกในนัดประเดิมสนามได้ทันทีกับเกมที่เอาชนะ นาโปลี 4-3 แต่เขาก็ยังไม่ได้เป็นตัวหลักในทีมของเมาริซิโอ ซาร์รี่ อย่างเต็มตัว และผลัดกับลงสนามกับ มัตเตีย เด ชิโญ่ อยู่ในตอนนี้

 

 

คริส สมอลลิ่ง (แมนยูไนเต็ด ไป โรม่า)

 

 

ลงเล่นในลีก: 7 นัด (1 ประตู)

 

หลังพบว่าตนเองไม่เป็นที่ต้องการในทีมของโอเล่ กุนนาร์ โซลชา คริส สมอลลิ่ง จึงตัดสินใจย้ายไปเล่นกับ โรม่า แบบยืมตัวในซัมเมอร์นี้ ท่ามกลางเสียงโห่ร้องยินดีของแฟนปีศาจแดง

 

แต่ทว่าพวกเขาก็ต้องหน้าเสียอยู่พอสมควร เมื่อกองหลังชาวอังกฤษทำผลงานได้ยอดเยี่ยมในลีกสูงสุดแดนมักกะโรนี และกลายเป็นปราการหลังตัวหลักของหมาป่ากรุงโรมอย่างรวดเร็ว โดยลงเล่นไปแล้ว 7 นัด พร้อมกับซัดไป 1 ประตูในเกมที่เอาชนะเลสเช่ 4-0 เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา

 

นอกจากนี้ แข้งวัย 29 ปี ยังสถิติสุดเหลือเชื่อในฤดูกาลนี้ หลังเป็นนักเตะโรม่าที่บล็อกลูกยิงคู่แข่งมากที่สุด (8), ชนะลูกกลางอากาศมากที่สุดในลีก (5.5 ครั้ง/นัด) และยังไม่มีนักเตะคนไหนเลี้ยงผ่านเขาได้เลยแม้แต่คนเดียวในลีก

 

 

ดาวิเด้ ซัปปาคอสต้า (เชลซี ไป โรม่า)

 

 

ลงเล่นในลีก: 1 นัด 

 

ดาวิเด้ ซัปปาคอสต้า ไม่สามารถหาฟอร์มเก่งได้เลยในตอนที่ค้าแข้งกับเชลซี  มากไปกว่านั้นเขาแทบไม่มีโอกาสได้ลงเล่นเพื่อเค้นฟอร์มการเล่นของตัวเองให้ดีด้วยซ้ำ

 

เมื่อโรม่าได้ตามหาแบ็คขวาที่สามารถขึ้นลงได้ตลอด 90 นาที และมีคุณภาพไม่แพ้ อเลสซานโดร ฟลอเรนซี่ แข้งชาวอิตาเลี่ยนจึงไม่รอช้า คว้าโอกาสนั้นไว้แม้จะเป็นแค่สัญญายืมตัวก็ตาม

 

น่าเสียดายที่เขาได้ลงเล่นให้ต้นสังกัดใหม่แค่ 12 นาทีเศษๆ ก็ได้รับบาดเจ็บบริเวณน่อง รวมไปถึงหัวเข่าในเวลาต่อมา จนต้องพักยาวถึงตอนนี้

 

 

เปโดร โอเบียง (เวสต์แฮม ไป ซาสซูโอโล่)

 

 

ลงเล่นในลีก : 10 นัด 

 

ซาสซูโอโล่ ต้องเสีย สเตฟาโน่ เซนซี่ กองกลางตัวหลักประจำทีมให้กับ อินเตอร์ มิลาน ในซัมเมอร์นี้ ทำให้พวเขาต้องหาตัวแทนมาเติมเต็มช่องว่างที่แข้งหนุ่มชาวอิตาเลี่ยนทิ้งไว้ ซึ่งคนที่เข้ามาใหม่ก็คือ เปโดร โอเบียง ตัวรับจอมแกร่งจาก เวสต์แฮม

 

แข้งทีมชาติกินีนั่นโดดเด่นในการเล่นเกมรับ แต่ว่าเขาก็ยังไม่สามารถช่วยให้หลังบ้านของซาสซูโอโล่แข็งแกร่งขึ้นกว่าเมื่อก่อนเท่าไหร่นัก หลังทีมเสียประตูไปมากกว่า 20 ลูก จากการลงเล่น 10 นัดในลีกของเขา

 

 

เฟร์นานโด ยอเรนเต้ (สเปอร์ส ไป นาโปลี)

 

 

ลงเล่นในลีก : 9 นัด (2 ประตู, 1 แอสซิสต์)

 

นับตั้งแต่ เฟร์นานโด ยอเรนเต้ ย้ายออกจากแอธเลติก บิลเบา ในปี 2013 เขาก็ได้กลายเป็นแข้งพเนจรที่ย้ายไปเล่นให้สโมสรทั่วยุโรป โดยในฤดูกาลนี้เขาย้ายมาเล่นในอิตาลีอีกครั้งกับ นาโปลี แบบไร้ค่าตัว

 

หัวหอกร่างยักษ์ชาวสแปนิชโชว์ผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมใน 2 นัดเแรกของเซเรียอา หลังทำไป 2 ประตูกับ 1 แอสซิสต์ แต่หลังจากนั้นอีก 7 นัดต่อมา เขากลายเป็นตัวสำรองที่ คาร์โล อันเชล็อตติ มักจะเอามาเปลี่ยนเกมในช่วงท้ายของการแข่งขันมากกว่าเป็น 1 ใน 11 ตัวจริงของทีม

 

 

อเล็กซิส ซานเชซ (แมนยูไนเต็ด ไป อินเตอร์)

 

 

ลงเล่นในลีก : 3 นัด (1 ประตู)

 

อเล็กซิส ซานเชซ ดับสนิทแบบไม่มีแววเกิดในตลอด 18 เดือนที่ค้าแข้งกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่อินเตอร์ มิลาน ที่มีอันโตนิโอ คอนเต้ ก็พร้อมรับความเสี่ยงด้วยการยืมตัวแข้งชาวชิลีไปทดลองงานก่อน 1 ฤดูกาล และยินดีซื้อขาดหากเขาทำผลงานได้เข้าตา

 

 ซึ่งแข้งวัย 30 ปีก็ใช้เวลา 3 นัดเท่านั้นในการทำประตูแรกให้กับต้นสังกัดใหม่ในเกมที่เอาชนะซามพ์โดเรีย 3-1 ทว่ากลับเกิดเรื่องตลกร้ายขึ้น เมื่อเขาโดนใบแดงในช่วงท้ายครึ่งแรก จนทำให้พลาดลงสนามในเกมถัดไป

 

ที่แย่ไปกว่านั้น ซานเชซดันได้รับบาดเจ็บที่ข้อเท้าในเกมอุ่นเครื่องทีมชาติเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา โดยคาดว่าต้องพักยาวไปกว่า 2-3 เดือนเลยทีเดียว

 

 

โรเมลู ลูกากู (แมนยูไนเต็ด ไป อินเตอร์)

 

 

ลงเล่นในลีก : 11 นัด (9 ประตู)

 

โรเมลู ลูกากู เป็นนนักเตะอีกคนที่แฟนบอลปีศาจแดงต่างยินดีสุดๆ  เมื่อเห็นเขาเก็บกระเป๋าออกจากทีมไปอยู่กับ อินเตอร์ มิลาน เนื่องจากฟอร์มการเล่นที่ไม่สม่ำเสมอ, น้ำหนักที่มากเกินไป แม้จะมีสถิติการยิงประตูที่น่าพอใจอยู่ก็ตาม

 

แต่สุดท้ายก็เป็นคนที่ได้หัวเราะดังกว่ากลับกลายเป็น กองหน้าชาวเบลเยี่ยม หลังปรับตัวเองด้วยการลดน้ำหนักตามที่ อันโตนิโอ คอนเต้ ต้องการ และเริ่มกลับมาเป็นเพชรฆาตในกรอบเขตโทษเหมือนเมื่อตอนที่อยู่เอฟเวอร์ตันอีกครั้ง

 

ซึ่งล่าสุด บิ๊กรอม ทำสถิติทาบชั้นตำนานดาวยิงอย่าง โรนัลโด้ หลังกดไปแล้ว 9 ประตูจาก 11 เกมในลีกสูงสุดแดนมักกะโรนีฤดูกาลแรกด้วย

 

 

เฮนริค มคิตาร์ยาน (อาร์เซน่อล ไป โรม่า)

 

 

ลงเล่นในลีก : 4 นัด (1 ประตู, 1 แอสซิสต์)

 

แม้จะย้ายสลับขั้วกับ อเล็กซิส ซานเชส มาอยู่กับอาร์เซน่อล ในเดือนมกราคมปี 2018 แต่ด้วยฟอร์มการเล่นที่ดูธรรมดาและค่อนไปทางแย่หลายนัด ไม่แปลกใจที่เหล่า กูนเนอร์ส จะยินดีที่ได้เห็น เฮนริค มคิตาร์ยาน ย้ายออกจากเอมิเรสต์ สเตเดี้ยม ในซัมเมอร์นี้เสียที แม้จะหายหน้าไปแค่ชั่วคราวก็ตาม

 

แข้งชาวอาร์เมเนียได้ย้ายไปค้าแข้งกับ โรม่า ด้วยสัญญายืมตัว และช่วยเพิ่มมิติในเกมรุกให้กับทีมของ เปาโล ฟอนเซก้า เห็นได้ชัดจากผลงาน 4 นัดแรกของเขาที่ทำไป 1 ประตู กับ 1 แอสซิสต์ ช่วยให้ต้นสังกัดคว้าชัยถึง 3 เกม

 

แต่กรณีของมิคกี้ก็คล้ายๆกับซานเชซ ที่ดันมาได้รับบาดเจ็บในช่วงที่กำลังเจอฟอร์มเก่งพอดี หลังเจ็บบริเวณโคนขาหนีบในเกมเฉือนเลชเช่ 1-0 เมื่อช่วงต้นเดือนตุลาคม และพักยาวจนถึงปัจจุบัน