เเมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ประกาศคว้าตัวเเข้งใหม่รายเเรกช่วงตลาดนักเตะหน้าร้อนเเล้ว ซึ่งอาจจะทำให้เเฟนๆผิดหวังไม่น้อย เพราะเเทนที่จะได้นักเตะระดับโลกเเต่ได้ดาวรุ่งวัยเพียง 21 ปีที่มีชื่อว่า แดเนี่ยล เจมส์ จากสวอนซี ซิตี้ อย่างไรก็ตามอย่างเพิ่งตัดสินไป เพราะในอดีตพวกเขาก็เคยคว้านักเตะโนเนม เเต่สร้างผลงานจนก้าวขึ้นไประดับโลกก็มีหลายคน วันนี้ UfaArena จะพาไปทำความรู้จักกับ 7 เเข้งโนเนม ย้ายมาเเจ้งเกิดสุดๆกับทีมปีศาจเเดง
เนมานย่า วิดิช
กองหลัง! เป็นปัญหาที่ เเฟน เเมนฯ ยู หลายคนคงปวดหัวไม่น้อย คำพูดที่ว่า “กองหลังปั้น เดเค อา” คงไม่ผิดอะไร ฤดูกาลที่เเล้วพวกเขาเสียไปถึง 54 ลูก มากที่สุดใน 6 อันดับเเรก เเย่กว่านั้นมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ใน 10 อันดับเเรก (เวสต์เเฮม อันดับ 10 เสียมากสุด 55 ประตู)
คงปฏิเสธไม่ได้ว่าสุดยอดคู่กองหลังที่เเฟนๆคิดถึงมากที่สุดต้องมีชื่อของ เนมานย่า วิดิช เเม้ว่าตอนย้ายมาจาก สปาร์ตัก มอสโก ด้วยค่าตัวเพียง 7 ล้านปอนด์ ซึ่ง! คำถามที่ตามมาคือ ทำไม? ไม่ชื้อเเข้งระดับโลก นักเตะโนเนมคนนี้จะมายืนคู่กับ ริโอ เฟอร์ดินานด์ ได้เหรอ ซึ่งเขาก็เเสดงให้เห็นเเบบจังๆ
วิดิช ใช้เวลาปรับตัวกับบอลอังกฤษไม่นาน ด้วยความสูง 188 เซนติเมตร และสไตล์การเล่นแบบดุดันแข็งแกร่ง ทำให้เขากลายเป็นปราการหลังที่ ยูไนเต็ดหามาตลอด หลังหมดยุคของ สตีฟ บรูซ และยาป สตัม
กองหลังเซอร์เบียและมอนเตเนโกร(ตอนนั้นยังไม่เเยกประเทศ) ยืนจับคู่กับ เฟอร์ดินานด์ พาทีมประสบความสำเร็จมากมาย คว้าเเชมป์พรีเมียร์ ลีก ไป 5 สมัย, ลีกคัพ 3 สมัย เเละ ยูฟ่า เเชมเปี้ยนส์ ลีก อีก 1 สมัย ไม่เเปลกที่ทำไมเเฟนบอลตอนนี้ถึงกุมขมับกับกองหลังชุดนี้
ปีเตอร์ ชไมเคิ่ล
ถ้าพูดถึงสุดยอดผู้รักษาประตูระดับโลก 1 ในชื่อที่ทุกคนต้องเอ่ยถึงต้องมี ปีเตอร์ ชไมเคิ่ล อยู่เเน่นอน เเต่หารู้ไม่ว่านายทวารระดับนี้มีค่าตัวเเค่ 550,000 ปอนด์ ที่ทีมปีศาจเเดงบรรจงจ่ายให้กับ บรอนด์บี้ ทีมในเดนมาร์ก
ฤดูกาล 1990-91 เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ต้องการหาประตูคนใหม่ที่จะมาเเทน เลส ซีลีย์ เเละ ชไมเคิ่ล ก็ถูกดึงมาสู่โรงละครเเห่งความฝันด้วยวัย 27 ปี ในเดือนสิงหาคม 1991 ท่ามกลางเสียงวิจารณ์ว่า “มันคือใคร!” เป็นที่รู้กันอยู่เเล้วว่าตำเเหน่งนี้สำคัญเเค่ไหน การดึงนักเตะโนเนมมาเป็นตัวจริงจะเสี่ยงขนาดไหน เเต่หลังจากนั้น นายทวารผมสีดอกเลาก็เเสดงให้เห็นว่า ฝีมือของเขาสูงค่ากว่าเงิน 550,000 ปอนด์ ที่ยูไนเต็ดจ่ายไป
หลังจากนั้นเขาก็ยืนเฝ้าเสาให้กับ ยูไนเต็ด อย่างเหนียวแน่น ตลอด 8 ปีของการค้าแข้งในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด เต็มไปด้วยเหรียญรางวัลมากมายทั้ง ยูโรเปี้ยน คัพ, ซูเปอร์ คัพ, พรีเมียร์ ลีก 5 สมัย, เอฟเอ คัพ 3 สมัย และลีกคัพ รวมไปถึงความสำเร็จในแชริตี้ ชิลด์ ด้วย
ด้วยความสูง 193 เซนติเมตร นับเป็นผู้รักษาประตูที่ตัวใหญ่ทำให้สามารถปัดป้องลูกยิงที่มาจากทุกทิศทาง เเต่ก็ไม่ด้อยกับปฏิกิริยาเมื่อต้องเจอลูกเลียด จนถึงทุกวันนี้ ชไมเคิ่ล ก็ยังคงถูกยกย่องเป็นผู้รักษาประตูที่ดีที่สุดที่ เเมนฯ ยู เคยมีมา
โอเล่ กุนนาร์ โซลชา
กุนซือคนปัจจุบันของ เเมนฯ ยู เป็นที่รู้กันอยู่เเล้วว่า โอเล่ กุนนาร์ โซลชา เคยเป็นนักเตะเก่าของทีม ซึ่งตอนที่เขาย้ายมา เเทบไม่มีใครรู้จักชื่อเขา เเละไม่รู้ว่าไอ้หมอนี้คือใครมาจากไหน!
เซอร์ อเล็กซ์ ควักเงิน 1.5 ล้านดึง โซลชา มาจาก โมลด์ ทีมในลีก นอร์เวย์ เเม้ว่าเขาจะได้รับฉายาว่า “อลัน เชียร์เรอร์ แห่งนอร์เวย์” เเต่ทีมในลีกเล็กๆจะการันตีอะไรยามเมื่อย้ายมาทีมใหญ่ๆคงไม่ได้
อย่างไรก็ตาม หลังประเดิมสีเสื้อเเดงเพลิงของเเมนฯ ยู โซลชา ก็ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมตั้งเเต่ฤดูกาลเเรกที่ย้ายมาเลย ยิงไปถึง 18 ประตูคว้าตำเเหน่งดาวยิงสูงสุดของทีม พร้อมกับถ้วยเเชมป์ลีก จนเเฟนๆตั้งฉายาให้เขาเป็น “เพชรฆาตหน้าทารก”
อย่างไรก็ตาม ตำเเหน่งตัวจริงของ โซลชา มีอันต้องสั่นคลอนหลัง ยูไนเต็ดทุ่มเงิน 12 ล้านปอนด์ คว้าตัว ดไวท์ ยอร์ค มาร่วมทีม ทำให้ โซลชา ต้องตกเป็นตัวสำรองตั้งเเต่นั้นเป็นต้นมา เเต่เขาก็เลือกที่จะไม่ย้ายไปไหนเเละขออยู่สู้เเย่งชิงตัวจริงกลับมา
หลังจากนั้น ดาวยิงหน้าเด็กก็ได้ฉายาใหม่คือ “หัวหอกซูเปอร์ซับ” เเม้จะตกเป็นตัวสำรองบ่อยครั้ง เเต่ก็มักลงมาทำประตูสำคัญๆได้เสมอ โดยเฉพาะ แมตช์ที่เจ้าตัวซัดคนเดียวถึง 4 ประตูภายใน 12 นาที (เอาชนะ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ 8-1) ไปจนถึงเกมนัดชิงชนะเลิศ ยูโรเปี้ยน คัพ ฤดูกาล 1998/99 (เเชมเปี้ยนส์ ลีก ปัจจุบัน) ที่ลงมาเป็นสำรองก่อนซัดประตูชัยช่วงนาทีสุดท้ายเอาชนะ บาเยิร์น มิวนิค พาทีมคว้าเเชมป์อย่างสุดมัน
สตีฟ บรูซ
วิดิช-เฟอร์ดินานด์ เเข่งเเกร่งฉันใด สตีฟ บรูซ- แกรี่ พัลลิสเตอร์ เเข่งเเกร่งฉันนั้น ตอนที่ พัลลิสเตอร์ ต้องการคู่หู เซอร์ อเล็กซ์ ควักเงิน 825,000 ปอนด์ให้กับ นอริช ซิตี้ คว้าตัวดาวเตะวัย 27 ปีมาร่วมทีม ท่ามกลางเสียงวิจารณ์ว่า ดีพอเหรอ?
บรูซ เป็นกองหลังที่เเข็งเเกร่งมีการอ่านเกมที่ยอดเยี่ยม ยื่นคู่กับ พัลลิสเตอร์ พาทีมคว้าเเชมป์มากมาย แชมป์ลีกในปี 1993, 1994 และ 1996 ในฐานะทีมที่กำลังสร้างขึ้นมาใหม่ รวมถึง เอฟเอ คัพ 2 สมัย, ยูโรเปี้ยน คัพ วินเนอร์ส คัพ และ ลีก คัพ อีกอย่างละ 1 สมัย ทำให้ปฏิเสธไม่ได้ว่า บรูซ คือกองหลังที่เเฟนบอลปีศาจเเดงอยากให้มีทุกยุคทุกสมัย
ปาทริซ เอวร่า
ในปี 2005 เเมนฯ ยู มีเเบ็คซ้ายที่ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ชื่อของเขาคือ กาเบรียล ไฮน์เซ่ การันตีด้วยตำเเหน่งนักเตะยอดเยี่ยมของทีมในปีนั้น เเต่ปัญหาคืออาการบาดเจ็บที่เป็นอุปสรรคสำคัญของดาวเตะอาเจนไตน์รายนี้ทำให้ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน รวมถึงเเฟนๆต้องปวดหัวเป็นเเถบๆ
จากนั้นในปี 2006 เเมนฯ ยู เอาชนะทั้ง อินเตอร์ มิลาน, ลิเวอร์พูล เเละ อาร์เซน่อล ดึงตัว ปาทริซ เอวร่า มาจาก โมนาโก เเต่ด้วยความที่ ไฮน์เซ่ ทำไว้ดีมาก เเฟนๆจึงไม่อาจคาดหวังกับเด็กอายุเพียง 24 ปีในตอนนั้น
ช่วงเเรกๆ เอวร่า มีปัญหาในการปรับตัวไม่น้อย เเละไม่ได้รับโอกาสให้ลงสนามมากเท่าไหรนัก เเต่หลังจากปรับตัวได้ เขาก็กลายเป็นกำลังหลักของทีม มีคุณสมบัติในตำเเหน่งฟูลเเบ็คที่ควรมี คือเติมเกมดีเเต่ไม่เสียเกมรับ เจ้าตัวพัฒนาจนยึดตำเเหน่งนี้ได้อย่างถาวร เเม้ว่า ไฮน์เซ่ จะกลับมาก็ต้องใส่สนับก้นนั่งสำรองไปยาวๆ
กองหลังผิวสีค้าเเข้งในถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด 8 ปี พาทีมคว้าเเชมป์มากมาย พรีเมียร์ ลีก 5 สมัย, ลีก คัพ 3 สมัย เเละ เเชมเปี้ยนส์ ลีก 1 สมัย ก่อนจะอำลาทีมไปในปี 2014
ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ “ชิชาริโต้”
เเม้จะไม่ได้เป็นดาวเด่นหรือเป็นตัวหลักเเต่ ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ “ชิชาริโต้” ก็เป็นนักเตะที่เเฟนปีศาจเเดงชื่นชอบคนหนึ่ง ด้วยความไม่ถือตัวเเละไม่มีปากมีเสียง เเม้จะทำผลงานได้ดี เเต่ก็มักจะตกเป็นตัวสำรองอยู่บ่อยครั้ง เเละเขามักจะถูกมองว่าเป็นตัวซัพพอร์ทของ เวย์น รูนี่ย์ เท่านั้น
เซอร์ อเล็กซ์ คว้าตัว ชิชาริโต้ มาจากชีวาส เดอ กัวดาลาจารา ทีมในเม็กซิโก จะบอกว่าเเค่ชื่อทีมก็เเทบไม่มีคนรู้จักเเล้ว “เจ้าถั่วน้อย” ย้ายมาเล่นกับ เเมนฯ ยู ในปี 2010 ฤดูกาลเเรกเขาทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ลงสนามไป 45 เกม ยิงได้ 20 ประตู เเต่ฤดูกาลต่อมา โอกาสของเขาก็ลดน้อยลงจากการย้ายมาของ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่
ฤดูกาลที่ 2 เเละ 3 ของ ชิชาริโต้ ยังพอมีโอกาสอยู่บ้าง เเต่ทุกครั้งที่เขาลงสนามก็มักจะทำผลงานได้เเละทำประตูสำคัญๆได้เสมอ ตลอด 5 ปีกับ เเมนฯ ยู เขาพาทีมคว้าเเชมป์พรีเมียร์ลีกได้ 2 สมัย ก่อนจะย้ายไปอยู่กับ เลเวอร์คูเซ่น ในปี 2015
คริสเตียโน่ โรนัลโด้
ถ้าพูดถึงนักเตะที่ เเมนฯ ยู คุ้มที่สุดเเละสายตา เฉียบคมที่สุดของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน คงหนีไม่พ้นดีลของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ หลังดาวเตะโปรตุกีส ในวัยเพียงเเค่ 19 ปี ระเบิดฟอร์มพา สปอร์ติ้ง ลิสบอน ไล่อัด ยูไนเต็ด 3-1 ในเกมอุ่นเครื่อง เล่นเอา เซอร์ อเล็กซ์ กาชื่อว่า นักเตะคนนี้อั๊วจะเอา!
ในปีเเรกที่เขาย้ายมา ยูไนเต็ด เจ้าตัวก็ต้องพบกับเเรงกดดันมหาศาล เพราะประจวบเหมาะกับจังหวะที่ เดวิด เบ็คแฮม ย้ายไปอยู่กับ เรอัล มาดริด พอดี โรนัลโด้ จึงได้รับสืบทอดเสื้อหมายเลข 7 ที่เป็นตำนาน หลังการย้ายทีมของ เบ็คแฮม หลายคนก็คาดหวังว่า คนที่จะเข้ามาเเทนจะต้องเป็นสุดยอดนักเตะระดับโลก เเต่ เซอร์ อเล็กซ์ กลับเลือกเเข้งฝอยทองโนเนม ร่างผอมเเห้งมาสืบทอดเบอร์นี้ ทามกลางเสียงวิจารณ์ว่า “มันเเน่มาจากไหน!”
เบอร์ 7 ที่อยู่กลางหลัง โรนัลโด้ กลายเป็นเเรงกดดันที่ถาโถมเข้าหาเขา จนมีครั้งหนึ่งเขาเคยขอเปลี่ยนเบอร์เสื้อเป็นหมายเลข 28 ตามเดิมเหมือนที่เค้าเคยสวมในสมัยที่ค้าแข้งอยู่กับ ลิสบอน แต่ถูกปฏิเสธจากสโมสร เนื่องจากทุกคนต่างมองว่า เขานั้นแหละเหมาะ
ฤดูกาลเเรกฟอร์มของเขาอาจจะไม่เปรี้ยงปร้างเท่าไหรนัก เเต่ก็ได้รับความไว้ใจให้เป็น 11 คนเเรกลงเล่นในเกมนัดชิง เอฟเอ คัพ ที่ เเมนฯ ยู เอาชนะ มิลล์วอลล์ 3-0 เเถมยังยิงได้ 1 ประตูพาทีมคว้าเเชมป์ด้วย
ฤดูกาลที่โรนัลโด้ ระเบิดฟอร์มมากที่สุดคือปีที่ 3 ในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด เจ้าตัวกดไป 42 ประตู จากการลงสนามเพียง 49 นัด พ่วงด้วยการพาปีศาจแดง คว้าดับเบิ้ลแชมป์ (พรีเมียร์ลีก,เเชมเปี้ยนส์ลีก) ส่งผลให้ฟอร์มไปเข้าตายอดทีมอย่าง เรอัล มาดริด ที่ยอมทุ่มเงินเป็นสถิติโลกตอนนั้นด้วยเม็ดเงิน 80 ล้านปอนด์ ในปี 2009