“ไก่เดือยทอง” ถึงคราวสลัดคราบพระรอง พร้อมเป็นแชมป์?

 

ช่วงเวลา 4ปี หลังการเข้ามาทำทีมของเทรนเนอร์หนุ่มไฟแรงอย่าง เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ทัพไก่เดือยทองทำผลงานได้ดีขึ้นอย่าง

เห็นได้ชัด และมีลุ้นไปถึงการเป็นแชมป์ เกือบทุกซีซั่น แต่ก็ยังไม่มีวาสนามากพอที่จะได้ก้าวขึ้นไปชูถ้วยแชมป์เสียที

 

ในซีซั่นที่ผ่านมาถือเป็นปีที่สาหัสพอสมควรของทัพไก่เดือยทอง ที่เข้าใกล้คำว่าแชมป์ทั้งพรีเมียร์ลีก และ แชมเปี้ยนส์ลีก แต่ก็ต้อง

พลาดไปทั้งสองรายการอย่างน่าเสียดาย ซึ่งมันเป็นผลจากการไม่ได้เสริมทัพเลยตลอดทั้งซีซั่น แถมปัญหาตัวเจ็บตัวแบนก็ยังคอย

ฉุดรั้งพวกเขาไว้อีก

 

อย่างไรก็ตามฤดูกาลปัจจุบันที่กำลังจะเริ่มขึ้น สเปอร์สได้เงินทุนกลับมาเสริมทัพอีกครั้งแถมเป็นการเสริมทัพที่น่าสนใจไม่น้อย บวก

กับฟอร์มในช่วงปรีซีซั่นที่แม้จะไม่ดีเด่มากมาย แต่ก็เอาชนะมาได้ถึง 3นัด จากทั้งหมด 5นัด ซึ่งมันอาจถึงคราวที่พวกเขาจะได้สลัด

คราบความเป็นพระรอง และก้าวขึ้นมาชูถ้วยแชมป์ได้เสียที

 

ขุมกำลังคุณภาพที่บ่มเพาะมานาน

 

ถ้าหากพูดถึงทีมที่มีเกมรุกทรงประสิทธิภาพ แถมยังเอนเตอร์เทนคนดูได้อีก คงกาชื่อของสเปอร์สทิ้งไปไม่ได้ โดยตัว โปเช็ตติโน่

เองตั้งแต่ได้เข้ามาคุมทัพไก่เดือยทอง ก็ได้บ่มเพาะนักเตะหลายคนมาตั้งแต่ปีแรกๆที่เขาเข้ามาไม่ว่าจะเป็น แฮรี่ เคน , อิริค ลาเมร่า

, เดเล่ อัลลี่, คริสเตียน อิริคเซ่น และอีกหลายๆคนที่ในปัจจุบันก็ยังคงมีส่วนสำคัญในจุดต่างๆของทีม ซึ่งแน่นอนว่าช่วงเวลากว่า 4ปี

ก็คงมากพอที่จะให้นักเตะเหล่านี้กลมกลืนไปกับระบบการเล่นที่สวยงามที่นายใหญ่ชาวอาร์เจนไตน์ได้วางเอาไว้ และมันแสดงออก

มาทางฟอร์มการเล่นที่ดีขึ้นในทุกๆปี

 

 

ปัญหาตัวเจ็บ ทำแผ่วปลาย

 

อย่างไรก็ตามแม้ว่าขุมกำลังของสเปอร์ส จะมีลุ้นแชมป์ได้ในทุกซีซั่น แถมออกตัวแรงได้ตั้งแต่ต้นทุกครั้ง แต่สิ่งนึงที่คอยขัดขวาง

พวกเขาคือปัญหาตัวนักเตะบาดเจ็บ รวมถึงความฟิตเมื่อต้องสู้ทั้งเกมลีก และบอลถ้วย ซึ่งจะเห็นได้ชัดจากฤดูกาลที่ผ่านมา เมื่อแฮรี่

เคน กองหน้าตัวหลักเจ็บช่วงเดือนมกราคมไปจนจบซีซั่น บวกกับในเวลานั้น เดเล่ อัลลี่ ก็มาเจ็บเพิ่มไปอีกคน ทำให้ไม่มีคนมาแบ่ง

เบาภาระของ คริสเตียน อิริคเซ่น ในตำแหน่งเดียวกัน

 

หลังจากนั้นแม้ว่าจะจับ ลูคัส มูร่า และ ซน ฮึน-มิน มาเล่นเป็นหน้าเป้าแทนหอกเลือดผู้ดีอยู่บ้าง แต่ก็ทดแทนได้ไม่เต็มที่ และทำ

แต้มหล่นไปเพียบ จากการแพ้ 4นัด เสมอ 1นัด ช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ ถึงต้นเดือนเมษายน เรียกว่าหาคำว่าชนะในลีกไม่เจอเลย

หนึ่งเดือนเต็มๆ ก่อนจะไปจบซีซั่นด้วยการเป็นอันดับ 4 ทั้งที่ในช่วงกลางๆซีซั่นพวกเขารั้งอันดับ 3มาตลอด แถมเคยเด้งขึ้นไปเป็นที่

2 เลยด้วยซ้ำ

 

ในฤดูกาล 2019/20 ที่กำลังจะเริ่ม ก็เพิ่งส่อเค้าลางร้าย เมื่อ เดเล่ อัลลี่ กองกลางตัวรุกคนเก่งต้องมามีอาการบาดเจ็บในช่วงปรีซีซั่น

และอาจจะอดลงสนามในเกมเปิดฤดูกาลกับ แอสตัน วิลล่า รวมถึงแนวรับที่ถูกวางไว้เป็นตัวแทนของ คีแรน ทริปเปียร์ที่ย้ายออกไป

อย่าง ฮวน ฟอยธ์ ก็มาเจ็บจากเกมกับ บาเยิร์น มิวนิค และต้องพักยาวไปจนถึงเดือนกันยายน

 

การได้กลับมาเสริมทัพอีกครั้งในรอบ 1ปี

การได้กลับมาเสริมทัพอีกครั้งในตลาดช่วงซัมเมอร์ปีนี้ หลังจากที่สโมสร ได้ทุ่มเม็ดเงินทุกปอนด์ไปกับการสร้างสนามแห่งใหม่ จน

ไม่มีงบไปเสริมตัวนักเตะเลยแม้แต่คนเดียวในฤดูกาลที่ผ่านมา และสนามใหม่แห่งนี้ก็ได้สร้างเสร็จเป็นที่เรียบร้อยในชื่อว่า “ท็อตแน่

ม ฮ็อทสเปอร์ สเตเดี้ยม” ซึ่งได้เปิดทำการไปแล้วช่วงปลายๆซีซั่น ทำให้รายได้ในปีที่ผ่านมา สามารถนำมาหมุนเวียนเสริมทัพใน

ฤดูกาลใหม่ได้อย่างเต็มที่ 

 

การประเดิมตลาดนักเตะครั้งแรกในรอบ1ปี ด้วยการคว้าตัวนักเตะที่เป็นสถิติสโมสรอย่าง ต็องกีย์ เอ็นดอมเบเล่ กองกลางเลือด

น้ำหอมจากโอลิมปิก ลียง ในราคา 53.7ล้านปอนด์ พร้อมสร้างผลงานได้ตั้งแต่นัดประเดิมสนามจากการลงมาเป็นตัวสำรองและส่ง

แอสซิสต์ ให้กับลูคัส มูร่า เข้าไปยิงประตูในเกมดับยูเวนตุส 3-2 น่าสนใจว่าโปเช็ตติโน่จะดึงศักยภาพออกมาได้มากน้อยแค่ไหน

 

นอกจากนี้สเปอร์สยังคงมีข่าวกับนักเตะอีกหลายราย และยังคงต้องมีการเสริมอีกหลายตำแหน่งที่มักจะมีปัญหาอาการบาดเจ็บ ซึ่ง

จำเป็นที่จะต้องมีอะไหล่สำรองเอาไว้ อีกหนึ่งปัญหาที่ค่อนข้างน่าเป็นห่วง คือการที่นายใหญ่ฟ้า-ขาว ออกมายอมรับว่าตนไม่มี

อำนาจในการซื้อตัวนักเตะเข้ามาในทีมเลย ซึ่งเป็นอะไรที่น่าเป็นห่วงว่าการเสริมตัวครั้งต่อๆไป จะเป็นการเสริมที่ตรงจุดตรงใจหรือ

ไม่ แถมยังต้องคอยกังวลเรื่องการเสียนักเตะแกนหลักอย่าง คริสเตียน อิริคเซ่น ด้วยเช่นกัน

 

เคน-ซน ความหวังการถล่มประตู

 

แม้จะเจออาการบาดเจ็บรบกวนเมื่อซีซั่นก่อน แต่ แฮรี่ เคน ยังคงเป็นความหวังในการยิงประตูอยู่ ในขณะเดียวกัน ซน ฮึน-มิน ก็

สามารถโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม ที่ถ้าหาก เคน ลงสนามได้เจ้าตัวก็ยังลงได้ในตำแหน่งปีกซ้าย หรือถ้า เคนมีอาการเจ็บไป ลง

สนามไม่ได้ เขาก็สามารถเข้ามาทดแทนได้อย่างไม่มีข้อบกพร่อง

 

นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งแข้งที่สามารถเข้ามาทดแทนในแดนหน้า และสามารถเล่นปีกได้ในเวลาที่ ซน ฮึน-มินต้องขยับไปเล่นกอง

หน้า ก็คือลูคัส มูร่า ที่ทำผลงานได้อย่างประทับใจ อย่างในนัดที่พลิกนรกชนะอาแจ๊กซ์ และพาทีมเข้ารอบชิง UCL ในฤดูกาลที่ผ่าน

มา เขาก็เป็นฮีโร่ ซัดแฮตทริคให้ทีมมาได้ เรียกว่าในแนวรุก โปเช็ตติโน่ สามารถหาตัวแทนมาหมุนเวียนได้อย่างลงตัวแล้วในแดน

หน้า

 

 

4-2-3-1 แผนมาตรฐาน พาบินสูงหากไม่เจ็บ

 

เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่มักจะใช้  4-2-3-1 เป็นแผนการเล่นหลักที่หากว่าไม่มีปัญหารบกวน นี้คือแผนที่พาพวกเขาบินได้สูงที่สุด ส่วน

แผน 4-3-2-1, 3-5-2 หรือ 4-1-2-1-2 ก็เชจะเป็นแผนที่จะเอามาสลับเปลี่ยนใช้กันไปตามสถานการณ์ โดยเฉพาะเวลาที่มีตัวเจ็บตัว

แบน หรือปัญหาเรื่องความฟิต ก็จะเอาแผนเหล่านี้มาปรับเปลี่ยนกันไป การได้กองกลางสุดครบเครื่องอย่าง เอ็นดอมเบเล่มา จะ

ทำให้พวกเขาสามารถ โรเทชั่นตำแหน่งในแดนกลางได้ง่ายขึ้น