คงไม่มีประเด็นดราม่าไหนที่ถูกพูดถึงไปมากกว่า เจนนี่ รัชนก สุวรรณเกตุ เจ้าของค่ายเพลงได้หมดถ้าสดชื่น หลังถูกแฉทางค่ายไม่แบ่งส่วนแบ่งให้นักร้องชาย เก้า เกริกพล เพชรรัตน์ ผู้ที่ร่วมฟีเจอริ่งในเพลง ‘เลิกคุยทั้งอำเภอเพื่อเธอคนเดียว’
ประเด็นนี้เกิดขึ้นมาจากหนุ่มเก้าได้ออกเผยถึงเรื่องสัญญาต่างๆ ส่วนแบ่งที่ไม่เป็นธรรม ทั้งเงินค่าตัวและค่ายอดวิวยูทูบในเพลง ‘เลิกคุยทั้งอำเภอเพื่อเธอคนเดียว’ ที่มียอดวิวถล่มทลายกว่า 349 ล้านวิว ก่อนที่ เจนนี่ ได้ออกมาเคลียร์เรื่องนี้ผ่านทางเฟสบุ๊ค จากนั้น แฮชแท็ก #เจนนี่ได้หมดถ้าสดชื่น ก็ติดเทรนด์ในทวิตเตอร์อย่างรวดเร็วและกลายเป็นที่พูดถึงของชาวเน็ตไปทั่ว
เรื่องราวจะจบลงอย่างไรคงต้องติดตามกันต่อไป แต่หากย้อนกลับไปดูในวงการฟุตบอล เหตุการณ์เรื่องสโมสรเล่นแง่เอาเปรียบนักเตะก็มีให้เห็นมาแล้วหลายกรณีเช่นกัน และถึงขั้นขึ้นโรงขึ้นศาลกันเลยก็มี
UFA ARENA จึงขอพาทุกท่านไปย้อนดู 5 ตัวอย่างการเอาเปรียบสัญญานักเตะที่เคยเกิดขึ้นในวงการลูกหนังในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
ฌอง-มาร์ค บอสแมน | ผู้ให้กำเนิดกฏบอสแมน
ในปัจจุบัน นักเตะทุกคนสามารถตัดสินใจได้ว่าเมื่อหมดสัญญาปัจจุบันกับสโมสร จะต่อสัญญากับสโมสรเดิมหรือเลือกเซ็นสัญญากับสโมสรใหม่
แต่ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้กว่า 30 ปี นักเตะจะไม่สามารถย้ายทีมได้เลย ถ้าต้นสังกัดเดิมไม่อนุญาต แม้จะหมดสัญญาแเล้วก็ตาม ทว่าสัญญาและการย้ายทีมก็เกิดการเปลี่ยนแปลงจาก แข้งโนเนมนามว่า ฌอง-มาร์ค บอสแมน
กองกลางชาวเบลเยี่ยม ที่หมดสัญญากับ เอฟซี ลีแอช สโมสรในลีกรองบ้านเกิดในปี 1990 และกำลังจะย้ายไปร่วมทีม ดันเคิร์ก จากฝรั่งเศส โดย ซึ่ง 2 สโมสรเห็นชอบร่วมกันที่เซ็นสัญญายืมตัว 1 ปี โดย ดันเคิร์ก ต้องจ่ายให้ ลีแอช 1,200,000 ฟรังก์ โดยมีออปชั่นว่า พวกเขาสามารถคว้าตัวบอสแมน ไปได้อย่างถาวรในปีถัดไป ด้วยการจ่ายเงินเพิ่มอีก 4,800,000 ฟรังก์
ทว่าพอครบ 1 ปี ลีแอช กลับถูกความโลภครอบงำด้วยการโก่งค่าตัวของ บอสแมน เพิ่มขึ้นจากเดิมถึง 8 เท่า ทำให้การย้ายทีมเป็นโมฆะ มากไปกว่านั้น ลีแอช ยังกลั่นแกล้ง บอสแมน ด้วยการลดค่าเหนื่อย จากเดิม 120,000 ฟรังก์เบลเยียม เหลือเพียง 30,000 ฟรังก์
นั่นทำให้ บอสแมน เดินหน้าเรียกร้องความยุติธรรมด้วยตัวเอง และศาลเบลเยียมได้ตัดสินให้เขาสามารถย้ายไปเล่นกับ ดันเคิร์ก ได้โดยไม่มีค่าตัว ในเดือนพฤษภาคม ปี 1991 แต่เมื่อหมดสัญญากับทีม เขาที่อายุมากขึ้นจึงเรียกร้องค่าเสียโอกาสกับ ลีแอช แต่ก็ถูกปฏิเสธการจ่ายเงินชดเชยดังกล่าว
จากนั้น บอสแมน จึงยื่นฟ้องต่อศาลของสหภาพยุโรป เพื่อเรียกร้องค่าเสียหายเป็นเงิน 1 ล้านดอลลาร์ เมื่อเดือนมิถุนายน ปี 1995 และตัดสินให้เขาเป็นผู้ชนะคดี
หลังจากนั้น แวดวงฟุตบอลได้นำ กฎบอสแมน ไปใช้กันถ้วนหน้า ซึ่งหมายถึง กฎการย้ายแบบใหม่ ที่เราเห็นกันในปัจจุบัน
มักซ์ ครูเซ่ | ถูกเฟเนร์บาห์เช่เบี้ยวค่าเหนื่อย
กองหน้ามากประสบการณ์ชาวเยอรมัน ได้หาความท้าทายใหม่ในอาชีพด้วยการย้ายไปค้าแข้งกับ เฟเนร์บาห์เช่ ในซัมเมอร์ปี 2019 แต่ในช่วงกลางเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา สโมสรแถลงว่าได้ยกเลิกสัญญากับ ครูเซ่ เรียบร้อย
แต่ว่า อดีตหอก เวร์เดอร์ เบรเมน ก็ออกมาแฉถึงสาเหตุนี้ผ่านอินสตราแกรมของตนเองว่าที่เขายกเลิกสัญญา เพราะทีมดังจากตุรกี ไม่ยอมจ่ายค่าเหนื่อยตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์
“ผมยกเลิกสัญญากับ เฟเนร์บาห์เช่ ในวันที่ 18 มิถุนายน 2020 โดยมีผลทันที ผมโชคไม่ดีที่ถูกบังคับให้ทำตามขั้นตอนนี้ เนื่องจากสโมสรไม่ได้จ่ายค่าเหนื่อยให้ผมแบบเกือบเต็มอัตราตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2020 ” ครูเซ่กล่าว
“ส่วนใหญ่เงินที่ค้างอยู่ตั้งแต่กุมภาพันธ์ 2020 ยังไม่ได้รับการชดเชย ผมไม่เคยฝ่าฝืนสัญญาในอาชีพและจะไม่ยกเลิกแน่ๆถ้า เฟเนร์บาห์เช่ ปฏิบัติตามข้อตกลงในสัญญา ผมขอให้คุณเข้าใจว่าผมจะไม่เปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมใด ๆ ต่อสาธารณะ”
อย่างไรก็ตาม แฟนบอลเฟเนร์บาห์เช่ ก็ไม่ได้เห็นอกเห็นใจอะไรกับครูเซ่เลย แถมมองว่าในช่วงที่ฟุตบอลหยุดแข่งเพราะโควิด-19 นักเตะก็ควรเสียสละเรื่องค่าเหนื่อยด้วย เนื่องจากสโมสรก็ขาดรายได้เช่นกัน
อีกทั้งชื่อเสียงของ แข้งวัย 32 ปี ในแดนไกง่วงก็ไม่ดีเท่าไหร่ เพราะนอกจาก ฟอร์มในสนามยังไม่ดีแล้ว เขายังชื่นชอบการเที่ยวกลางคืนอีกต่างหาก
อเล็กซ์ ซง | โดน ซิยง ลอยแพหลังไม่ยอมรับข้อเสนอลดค่าเหนื่อย
เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เอฟซี ซิยง ทีมดังแห่งลีกสวิตเซอร์แลนด์ ประกาศยกเลิกสัญญา 9 นักเตะในทีมชุดใหญ่หลังปฏิเสธข้อเสนอสโมสรที่ของดจ่ายค่าเหนื่อยระหว่างที่ลีกหยุดพักจากปัญหาไวรัสโควิด-19 ระบาดหนัก
แต่ต่อมา อเล็กซ์ ซง กองกลางชาวแคเมอรูน ซึ่งเป็น 1 ใน 9 นักเตะที่โดนลอยแพยกเลิกสัญญา ได้ออกมาพูดถึงประเด็นนี้ว่า สโมสรไม่เคยพูดคุยหาทางออกกับนักเตะเลย เพียงแค่ยื่นเอกสารลดค่าเหนื่อยให้เซ็นเท่านั้น และพร้อมดำเนินคดีกับสโมสรแดนนาฬิกาด้วย
“ทนายของผมจะดูแลปัญหานี้, เราจะไปที่ฟีฟ่า, เราจะปกป้องสิทธิ์ของเรา” ซง กล่าวกับ อาร์เอ็มซี “เราลงเล่นเกมอุ่นเครื่องกันเมื่อ 20 มีนาคม และเราเข้าพบกับประธานสโมสรในวันจันทร์และจากนั้นในวันอังคารเราไม่ได้ข่าวอะไรเลย”
“เราได้รับข้อความทางว็อทแอปป์ตอนบ่ายวันอังคาร (22 มีนาคม) บอกว่าเราต้องลงนามในเอกสารและค่าเหนื่อยของเราจะถูกลดลง, ซึ่งจะจ่ายเราประมาณ 12,000 ยูโร, ในวันถัดไปเราถูกเลิกจ้างโดยปราศจากคำอธิบาย”
“ผมเป็นนักฟุตบอล, มันไม่ใช่หน้าที่ผม, มีหลายคนที่ตรวจสอบว่าเอกสารถูกต้องหรือไม่, ผมไม่อาจจะเซ็นได้, เราไม่ได้มีการพูดคุยอะไรเลย”
“ทุกสโมสรพูดคุยกันเรื่องนี้ในตอนนี้, กัปตันของเราไม่รู้เรื่องอะไรเลย, เราตัดสินใจร่วมกันว่าจะไม่เซ็น, เราต้องคุยกัน”
“ผมไม่ได้กระทำการอะไรที่ไม่เหมาะสมกับความเป็นมืออาชีพ, ทุกสโมสรพูดคุยกับผู้เล่นเพื่อหาทางออก, เราไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น, ไม่มีใครทำสามารถทำได้”
ลอริส คาริอุส | ฟ้องเบซิคตัสฐานค้างค่าเหนื่อย 4 เดือน
คาริอุส ย้ายจากลิเวอร์พูลมาเล่นกับ เบซิคตัส ด้วยสัญญายืมตัวเป็นเวลา 2 ปี หลังการมาของ อลิสซอน เบ็คเกอร์ ซึ่งในช่วงแรกที่ตุรกีก็เหมือนจะราบรื่นด้วยดี
ทว่านายทวารวัย 26 ปี กลับไม่ได้รับค่าจ้างจากสโมสรตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่แล้ว และลากยาวมานานกว่า 4 เดือน รวมเป็นเงินราว 1 ล้านปอนด์ จึงส่งหนังสือไปร้องเรียนสหพันธ์ลูกหนังนานาชาติเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา แต่เบซิคตัสกลับนิ่งเฉยไม่ยอมชี้แจงเรื่องที่เกิดขึ้นภายในระยะเวลา 10 วันตามกำหนดเดดไลน์
อย่างไรก็ตามทาง เออร์ดัล โตรุนกุลลารี่ บอร์ดบริหารสโมสรเบซิคตัสออกมาโพสต์ชี้แจงทางอินสตาแกรมว่าทราบเรื่องของ คาริอุส แล้ว โดยเหตุผลที่ไม่ได้จ่ายค่าจ้างเดือนที่ผ่านมาเนื่องจากเป็นส่วนที่มือกาวเมืองเบียร์ไม่ควรได้รับ
“คาริอุส โร่ไปฟ้อง ฟีฟ่า เรื่องไม่ได้รับค่าจ้างและต้องการยกเลิกสัญญา หมอนั่นต้องการให้เราจ่ายตังค์ของเดือนที่เขาไม่มีโปรแกรมลงแข่ง” เรื่องอีกมุมจากปาก โตรุนกุลลารี่
“เขาต้องการชิ่งแล้วมันคือการตัดสินใจของเจ้าตัวเอง ทั้งนี้ทางสโมสรจะไม่จ่ายเงินในส่วนที่ไม่ควรได้รับแน่นอน”
ท้ายที่สุด เรื่องราวนี้ก็จบลงด้วยการที่ คาริอุส ได้ตัดสินใจฉีกสัญญายืมตัวกับ เบซิคตัส เพราะปัญหาเรื่องค่าจ้าง และปิดฉากการค้าแข้ง 2 ปีในแดนไก่งวงไปในที่สุด
ด้าน ฟีฟ่า ได้รับคำร้องเรียนจาก คาริอุส ไปตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมาแล้ว ก็กำลังตรวจสอบรายละเอียด โดยมีการรายงานข่าวจากเมืองเบียร์ว่า คาริอุส เตรียมยื่นฟ้องสโมสรแล้ว
ทีมชาติสหรัฐอเมริกาหญิง | เรียกร้องค่าเหนื่อยเท่ากับทีมชาย
ในบรรดาฟุตบอลหญิง ทีมชาติสหรัฐอเมริกา คือทีมที่ประสบความสำเร็จมากกว่ากว่าชาติไหนๆ ทั้งเป็นเจ้าของแชมป์โลกมากที่สุด 4 สมัย, แชมป์เหรียญโอลิมปิกมากที่สุด 4 สมัย, แชมป์ทวีปคอนคาเคฟมากที่สุด 8 สมัย
แต่รู้หรือไม่ว่า แข้งสาวแดนมะกัน กลับได้รับค่าเหนื่อยน้อยกว่าทีมชายที่คว้าได้แค่แชมป์ทวีป 6 สมัยเท่านั้น จากการรายงานของ เดอะ การ์เดี้ยน สื่อดังจากอังกฤษ เผยว่า แข้งหญิงได้รับเงินเต็มที่เพียง 260,869 ดอลล่าร์เท่านั้น แม้จะคว้าแชมป์โลกได้เมื่อปีก่อน ขณะที่แข้งชายได้สูงสุดถึง 1,114,429 ดอลล่าร์ ต่างกันราว 730,000 ดอลล่าร์เลย
ด้วยความไม่เท่าเทียมต่างๆของทีมหญิงและชาย ทั้งค่าตอบแทน การเดินทางไปแข่งขัน ที่พักโรงแรม และการสนับสนุนต่างๆ โดยเฉพาะด้านการแพทย์และการฝึกซ้อม ก่อนที่สมาชิกนักเตะทั้งหมด 28 คน ได้ตัดสินใจยื่นฟ้องสหพันธ์ฟุตบอลสหรัฐฯ เมื่อเดือนมีนาคม ปี 2019 ด้วยข้อกล่าวหาว่า ทางสหพันธ์ฯ จ่ายค่าเหนื่อยให้กับฟุตบอลหญิงน้อยกว่าชาย ทั้งที่ทั้งสองทีมทำงานเท่ากัน
แต่ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ผู้พิพากษาศาลสหรัฐฯ ไม่รับคำร้องที่ทีมหญิงมองว่า ได้รับค่าจ้างน้อยกว่าทีมชาย แต่รับคำร้องอื่นๆ เกี่ยวกับความไม่เท่าเทียม สามารถดำเนินการต่อไปขึ้นชั้นศาลได้
สำนักข่าว CNN รายงานคำตัดสินของผู้พิพากษา โรเบิร์ต แกรี คลอสเนอร์ ว่าสมาชิกของฟุตบอลหญิงทีมชาติสหรัฐอเมริกาไม่สามารถพิสูจน์ว่าได้เกิดการเหยียดเพศจากความไม่เท่าเทียมทางรายได้ตามข้อกฎหมาย Equal Pay Act
อย่างไรก็ตาม สมาชิกฟุตบอลหญิงทีมชาติสหรัฐฯ ชุดแชมป์โลกปี 2019 ซึ่งแข่งขันกันที่ฝรั่งเศส ไม่ว่าจะเป็น เมเกน ราปิโน่, อเล็กซ์ มอร์แกน หรือ โทบิน เฮลท์ ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านทางโซเชียล มีเดีย ว่าจะยืนยันการต่อสู้ของพวกเขาต่อไป