ไปไหนไปกัน 8 แข้งคู่บุญของยอดโค้ช ที่ติดตามกันเป็นเงา

คำว่าลูกรักในวงการฟุตบอล ถูกนำมาใช้เรียกโค้ช และนักเตะ ที่ย้ายตามกันไปไหนมาไหน แถมยังได้โอกาสลงสนามบ่อยครั้ง อย่าง

ล่าสุดก็เห็นจะเป็นในรายของ เมาริซิโอ ซาร์รี่ กับ จอร์จินโญ่ ที่ไม่ว่ามันจะขัดหูขัดตาแฟนบอลแค่ไหน แต่กุนซืออมควันก็ยังเลือก

จอร์จินโญ่เป็นตัวเลือกแรก แถมล่าสุดยังมี กอนซาโล่ อิกวาอินมาเพิ่มอีกคน

 

วันนี้ทาง ufaarena จะพาไปชมนักเตะคู่บุญของโค้ชแต่ละคน ที่ไม่ว่าจะย้ายไปคุมทีมไหนก็ต้องสอยแข้งที่คุ้นเคยไปร่วมทัพเสมอ

 

 

วิคเตอร์ วานยาม่า – เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่

การเจอกันครั้งแรกของคู่นี้เกิดขึ้นในปี 2013 ขณะที่ วิคเตอร์ วานยาม่า กองกลางตัวตัดเกมกำลังค้าแข้งอยู่กับทีม กลาสโกว เซลติค

ซึ่งฟอร์มการเล่นของเขาก็ไปถูกตาต้องใจของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ที่ขณะนั้นคุมทีม เซาธ์แฮมป์ตันอยู่ สุดท้ายก็จบด้วยการคว้าตัว

มิดฟิลด์ชาวเคนย่า ด้วยค่าตัว 12.5ล้านปอนด์

 

หลังจากนั้น โปเช็ตติโน่ ก็ออกไปคุมทีมสเปอร์ส ในปี 2014 ส่วนวานยาม่า ก็ค้าแข้งต่อไปกับทัพนักบุญจนถึงปี 2016 กุนซือชาวอาร์

เจนไตน์ก็อดใจไม่ไหว ต้องคว้าตัวแข้งคู่บุญอย่าง วานยาม่า มาสู่ทัพไก่เดือยทอง ด้วยค่าตัว 13.5ล้านปอนด์ แม้ว่าเจ้าตัวจะไม่ค่อย

ได้ลงสนามมากนักในปัจจุบัน

 

 

มัตเตีย เด ชิโญ่ – มัสซิมิเลียโน่ อัลเลกรี

เจ้าหนุ่ม มัตเตีย เด ชีโญ่ เด็กปั้นจากอคาเดมี่ของเอซี มิลาน ถือว่าเป็นลูกรักของ กุนซืออย่าง มัสซิมิเลียโน่ อัลเลกรี นายใหญ่ทัพ

ม้าลายในปัจจุบันก็ว่าได้ เพราะเขาคือคนที่ปลุกปั้นเจ้าหนูคนนี้มาตั้งแต่แรก อัลเลกรี เริ่มคุมทัพปีศาจแดงดำ มาตั้งแต่ปี 2010 ซึ่งใน

ขณะนั้น เด ชีโญ่ ยังคงอยู่ในทีมพรีมาเวล่าของมิลานหลังจากนั้นในปี 2011 อัลเลกรีก็ตัดสินใจให้โอกาสเจ้าหนูคนนี้ ที่ในขณะนั้น

อายุเพียง 19ปี ลงสนามกับทีมชุดใหญ่ของมิลานเป็นครั้งแรก

 

จนกระทั่งเมื่อนายใหญ่ชาวอิตาเลี่ยน ตัดสินใจออกไปคุมทีม ยูเวนตุส ในปี 2014 ส่วนเด ชีโญ่ ก็ค้าแข้งต่อกับมิลานจนถึงปี 2017 ก็

ย้ายตามนายใหญ่สุดที่รักของเขามาที่ยูเวนตุส ด้วยราคา 12ล้านยูโร

 

ติอาโก้ อัลคันทารา -เป๊ป กวาร์ดิโอล่า

เด็กฝึกจากอคาเดมี่ ลา มาเซีย อันโด่งดังของบาร์เซโลน่า ที่เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เจ้านายใหญ่ของทัพต่างดาว ไปถูกอกถูกใจฟอร์มการ

เล่นของเจ้าตัว จนตัดสินใจดึงขึ้นมาลงเล่นให้กับทีมชุดใหญ่ขางบาร์ซ่า เมื่อตอนที่ติอาโก้ มีอายุเพียง 18ปีเท่านั้น ซึ่งตามระบบของ

บาร์เซโลน่า เขาได้ลงเล่นกับทีมชุด บี ในปี 2008 ก่อนจะได้โอกาสลงชุดใหญ่เต็มตัวในปี 2009

 

หลังจากนั้นเป๊ปก็ตัดสินใจลาเจ้าบุญทุ่ม ไปอยู่กับเสือใต้ บาเยิร์นมิวนิคในปี 2013 แต่ก็ไม่เคยลืมลูกศิษย์สุดรัก และจัดการคว้าตัว ติ

อาโก้ ไปร่วมทัพในอีกไม่กี่เดือนต่อมา ด้วยราคา 25ล้านยูโร และอยู่กับทีมมาจนถึงปัจจุบัน แม้ว่าเป๊ปจะย้ายไปคุม แมนเชสเตอร์ ซิตี้

แล้ว แต่ก็เคยมีข่าวลือออกมาว่า กุนซือชาวสเปนเตรียมเงิน 70ล้านยูโร เพื่อดึงตัวแข้งคู่บุญมาอยู่ที่เรือใบสีฟ้าด้วยกัน

 

เจอร์แมน เดโฟ -แฮรี่ เรดเนปป์

กุนซือเลือดผู้ดีอย่าง เรดเนปป์ ดูจะมีแข้งคู่บุญหลายคน แต่ที่ติดสอยห้อยตามเขาไปไหนต่อไหนก็เห็นจะเป็น เจอร์แมน เดโฟ หัว

หอกทรีไลอ้อนที่ได้ เร้ดเนปป์ ปลุกปั้นมาตั้งแต่ยังเป็นนักเตะเยาวชนของ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด และให้โอกาสเขาลงสนามครั้งแรกกับ

ทีมชุดใหญ่ เมื่อปี 1999 ซึ่งเขาก็โชว์ผลงานได้อย่างน่าประทับใจ จนกระทั่งในปี 2008 ที่พวกเขาได้แยกย้ายกันไปต่างที่ ขณะนั้น

เร้ดเนปป์ คุมทีม พอร์ตสมัท อยู่ส่วน เดโฟ เล่นให้ สเปอร์ส แต่คู่กันแล้วก็ไม่แคล้วกัน เรดเนปป์ จัดการ หอบเงินจำนวน 12ล้านยูโร

ไปสู่ขอแข้งคู่บุญมาช่วยทำผลงาน แต่ก็อยู่ด้วยกันได้ไม่นาน ตอนจบซีซั่น เรดเนปป์ ก็โดนไล่ออกเซ่นผลงานที่ย่ำแย่

 

ฤดูกาลถัดมา เรดเนปป์ กับ เดโฟ ก็ได้กลับมาร่วมงานกันอีกครั้ง และเป็นฤดูกาลที่พวกเขาประสบความสำเร็จที่สุดกับการพาทัพไก่

เดือยทองจบที่ 4 ของตาราง และได้เข้าไปเล่นในศึกแชมเปี้ยนส์ลีก แม้ว่าสุดท้ายแล้วพวกเขาก็ต้องจากกันอีกครั้ง เมื่อเรดเนปป์โดน

ไล่ออกในปี 2012 แต่นายใหญ่ชาวอังกฤษ ก็ได้พูดถึงดาวยิงคู่บุญไว้ว่า “ผมรักเขา ผมยังคงส่งข้อความหาเขาอยู่เลย”

 

กาเซียโน่ เปเล่ -โรนัลด์ คูมัน

ย้อนกลับไปในปี 2009 คูมัน ได้เข้าไปรับงานที่ อาแซด อัลค์มาร์ ในช่วงเวลาสั้นๆ ซึ่งเขาก็ได้เจอกับ กาเซียโน่ เปเล่ กองหน้าร่าง

ยักษ์ที่โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม และเป็นตัวเลือกแรกของทีมในยุคนั้น แต่ผลงานของทีมกลับไม่เป็นไปตามที่หวัง คูมันเลยต้อง

รับกรรมไปด้วยการโดนไล่ออกหลังผ่านไปเพียง 16เกม หลังจากนั้นกุนซือชาวฮอลแลนด์ ก็ย้ายมาคุมทีม เฟเยนูร์ด ในปี 2011 และก็

ไม่ลืมที่จะดึงกองหน้าคู่บุญอย่าง เปเล่มาร่วมทัพ ในปี 2013 แต่ก็ร่วมงานกันได้ไม่นาน คูมันก็ต้องระหกระเหินย้ายทีมอีก

 

คราวนี้คูมัน ได้มารับงานที่เกาะอังกฤษ กับเซาธ์แฮมป์ตัน คราวนี้นายใหญ่อัศวินสีส้มไม่รอช้า จัดการดึงตัว เปเล่มาร่วมทีมทันทีที่รับ

งาน และเป็นส่วนช่วยให้ทัพนักบุญทะยานไปจบที่อันดับ 6 และทั้งคู่ก็ได้แยกย้ายกันไปในปี 2016 เปเล่ ย้ายไปเล่นในลีกจีน ส่วน คู

มัน ก็ไปคุม เอฟเวอร์ตันฤดูกาลนึง และปัจจุบันเจ้าตัวก็คุมทีมชาติฮอลแลนด์อยู่ในขณะนี้

 

ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ -โชเซ่ มูรินโญ่

ปราการหลังลูกหม้อของปอร์โต้ ก้าวขึ้นมาเป็นผู้เล่นของทีมชุดใหญ่ตั้งแต่ปี 1997 ส่วน มูรินโญ่ ได้เข้ามาที่ปอร์โต้ในปี 2002พร้อม

กับพาทีมคว้าทริปเปิ้ลแชมป์ได้ทันทีในปีแรก เป็นที่มาของฉายา “เดอะ สเปเชี่ยลวัน” ซึ่ง คาวัลโญ่ ก็เป็นแข้งตัวหลักในทีมชุดดัง

กล่าว และเมื่อมูรินโญ่ ย้ายมาคุมเชลซี ก็จัดการดึงปราการหลังคู่บุญมาเสริมทัพทันทีในปี 2004

 

หลังจากนั้นแม้ว่ามูรินโญ่ จะออกไปคุมทัพงูใหญ่ในปี 2008 แต่คาวัลโญ่ก็ไม่ได้ตามไปด้วย ซึ่งทั้งคู่ก็แยกกันไม่นาน เพราะกุนซือ

จอมอหังการได้ไปรับงานที่เรอัล มาดริด ในปี 2010 และจัดการดึงตัวคาวัลโญ่ ไปร่วมทัพอีกครั้ง รวมๆแล้วทั้งคู่อยู่ด้วยกันมาถึง 8 ซี

ซั่น แถมคว้าแชมป์ของลีกโปรตุเกส , อังกฤษ และสเปน รวมถึงถ้วยแชมเปี้ยนส์ลีกก็เป็นหนึ่งในโทรฟี่ที่ทั้งคู่คว้าร่วมกัน

 

มารูยาน เฟลไลนี่ – เดวิด มอยส์

คู่ขาสุดค้านสายแฟนบอลปีศาจแดงที่หลายคนยังคงตั้งคำถามถึงความเก่งกาจของ กองกลางร่างโย่ง ทีต้องย้อนกลับไปเมื่อปี 2013

เมื่อเซอร์อเล็ก เฟอร์กูสัน ประกาศวางมือจากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชื่อที่ถูกเสนอขึ้นมาให้คุมทัพปีศาจแดงต่อก็คือ เดวิด มอยส์ ที่

ท่านเซอร์ถึงกับออกปากเลือกเอง

 

การมาของมอยส์ มันมาพร้อมกับแข้งรายใหม่ที่มีชื่อว่า มารูยาน เฟลไลนี่ กองกลางร่างโย่งเจ้าของความสูง 194 เซนติเมตร ซึ่งทั้งคู่

ร่วมงานกันมาที่ เอฟเวอร์ตัน เฟลไลนี่โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมกับเอฟเวอร์ตันจนเคยติดอันดับที่ 60 ของท็อป100 นักบอลที่ดี

ที่สุดในโลก ตามการจัดอันดับของ เดอะการ์เดี้ยน ทำให้เหล่าแฟนบอลแมนยูยังไม่ขัดตาอะไรมากนักในตอนแรก แต่ด้วยผลงานคุม

ทีม รวมถึงผลงานส่วนตัวของทั้งโค้ช และนักเตะคู่นี้ ทำให้ทั้งคู่กลายเปนฝันร้ายของทัพปีศาจแดง จนสุดท้าย มอนส์ก็ถูกปลดในปี

2014 ส่วนเฟลไลนี่ก็คว้าท็อป 10 การซื้อขายสุดย่ำแย่ประจำพรีเมียร์ลีก ตามการจัดอันดับของสื่ออังกฤษ

 

มาริโอ บาโลเตลลี่ -โรเบร์โต้ มันชินี่

คงไม่ต้องอธิบายกันเยอะ สำหรับคู่พ่อลูกสุดป่วนคู่นี้ ซึ่งทั้งสองคนร่วมงานกันครั้งแรกที่ อินเตอร์ มิลาน ในขณะนั้น บาโลเตลลี่ เป็น

ดาวรุ่งฝีเท้าดีอยู่ที่ ลูมิเนนเซ่ จนกระทั่งในปี 2007 มันชินี่ที่ขณะนั้นคุมทัพงูใหญ่อยู่ ก็ไปจัดการดึงตัวมาร่วมทัพ แม้ว่าจะได้อยู่ด้วย

กันแค่ปีเดียว เพราะมันชินี่โยกไปคุม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในเกาะอังกฤษในฤดูกาลถัดมา

 

แน่นอนว่าเมื่อคุณพ่อมาแล้ว คุณลูกก็ต้องตามมา ในปี 2010 บาโลเตลลี่ ถูกดึงตัวมาอยู่กับเรือใบสีฟ้า และเป็นการเอาความเกรียน

ระดับทะลุโลกมาสู่สายตาชาวโลกเป็นวงกว้าง จากที่เกรียน มีปัญหาอยู่แล้วก็ยิ่งเป็นมากเข้าไปใหญ่จนเกือบหมดอนาคตเลยทีเดียว

เพราะตอนที่มันชินี่ ออกจากแมนซิตี้ไปในปี 2013 บาโล ก็โดนปล่อยตัวทิ้งตามไปด้วย ล่าสุดเมื่อคุณพ่อได้รับงานคุมทีมชาติอิตาลี

บาโลเตลลี่ก็ได้กลับมารับใช้ทีมชาติอีกครั้ง หลังจากหายหน้าตาไปช่วงนึง

 

คริสเตียน ปานุชชี่ -ฟาบิโอ คาเปลโล่

คู่แท้ที่แท้ทรู สำหรับสองคนนี้ ปานุชชี่ เด็กปั้นจากเจนัว ที่โดนดึงมาร่วมทัพปีศาจแดงดำ ในวัย 20ปี เมื่อปี 1993 จากฝีมือของ ฟาบิ

โอ คาเปลโล่ กุนซือ ซึ่งมิลานในขณะนั้นอุดมไปด้วย กองหลังระดับตำนานทั้ง เปาโล มัลดินี่ , ฟรังโก้ บาเรซี่ และ อเลสซานโดร

คอสตาตูต้า อย่างไรก็ตามปานุชชี่ก็อยู่กับ มิลาน จนถึงปี 1996 เมื่อคาเปลโล่ย้ายไปคุมเรอัล มาดริด เขาก็หิ้วแบ๊คขวารายนี้ติดมือไป

ด้วย แต่ทั้งคู่ก็ได้ร่วมงานกันที่ ซานติอาโก้ เบอร์นาบิว อยู่แค่ฤดูกาลเดียวเท่านั้น เพราะคาเปลโล่ ตัดสินใจกลับมาคุมทัพมิลานใน

ฤดูกาลถัดมา

 

ทั้งคู่แยกย้ายกันไปจนกระทั่งในปี 2001 พวกเขาก็ได้กลับมาร่วมงานกันอีกที่ โรม่า และยังสามารถคว้าแชมป์เซเรีย อาได้ทันทีใน

ฤดูกาลแรกที่ ปานุชชี่ย้ายมาร่วมทัพอีกด้วย เรื่องราวของทั้งคู่ยังไม่จบ เพราะแม้ว่าปานุชชี่จะแขวนสตั๊ดไปเดินในส้นทางของการคุม

ทีมแล้ว คาเปลโล่ที่ได้รับงานคุมทีมชาติรัสเซียในปี 2012 ก็ยังคงเรียก ปานุชชี่ ลูกศิษย์สุดที่รักไปเป็นผู้ช่วยจนถึงปี 2014 ก่อนที่ ปา

นุชชี่จะแยกออกไปรับงานคุมทีมเต็มตัวด้วยตัวเอง