ไม่ขอแก้ตัว! เอ็นเอฟแอลรับล้มเหลวเรื่องการต่อต้านการเหยียดผิวในลีก

ศึกคนชนคนแดนมะกันยอมรับผิดที่ไม่หนุนการต่อต้านการเหยียดผิวของผู้เล่นในลีก

 

เอ็นเอฟเอล ออกมายอมรับผิดถึงความล้มเหลวที่ไม่สนับสนุนพฤติกรรมต้านเหยียดผิวของผู้เล่นในลีก และยืนยันขอกลับตัวต้านการเหยียดทุกรูปแบบในการแข่งขัน

 

หลังจากการตายของ จอร์จ ฟลอยด์ ที่ถูกเจ้าหน้าตำรวจกระทำเกินกว่าเหตุจนเสียชีวิต ทำให้มีนักกีฬาคนชนคนเรียกร้องให้มีการลงโทษและประนามบุคคลที่มีการเหยียดผิวหรือเชื้อชาติในลีก โดยก่อนหน้านี้ในปี 2016 โคลิน แคเปอร์นิค ควอเตอร์แบ็คจากซาน ฟรานซิสโก โฟร์ตี้ไนน์เนอร์ ได้เริ่มต้นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ กับการต้านพฤติกรรมเหยียดผิว ด้วยการคุกเข่าเคารพธงชาติ แต่ถูกขับไล่ออกจากลีกในเวลาต่อมา

 

ล่าสุด โรเจอร์ กูเดลล์ คอมมิสชันเนอร์ของศึกคนชนคนแดนมะกัน ออกมายอมรับผิดทุกข้อกล่าวหา ทั้งเรื่องที่เมินเฉยต่อการต่อพฤติกรรมต้านการเหยียดผิว และพร้อมเข้าร่วมการต่อต้านพฤติกรรมเหยียดผิว และแสดงให้เห็นว่า คนทุกสีผิวเท่าเทียมกัน

 

“เรา เอ็นเอฟแอล ยอมรับผิดที่ไม่ยอมฟังเสียงของผู้เล่นก่อนหน้านี้ หรือสนับสนุนให้ประท้วงอย่างสันติ เราเชื่อว่า ชีวิตของคนผิวดำมีความสำคัญ ผมพร้อมเข้าร่วมการประท้วงกับพวกคุณ และต้องการเป็นส่วนหนึ่งในการเปลี่ยนแปลงประเทศนี้” กูเดลลส์ กล่าวผ่านเว็บไซต์อย่างเป็นทางการ

 

“หากไม่มี ผู้เล่นผิวดำ ก็คงไม่ลีก เอ็นเอฟแอล การประท้วงทั่วประเทศ แสดงให้เห็นว่า ความไม่เท่าเที่ยม การกดขี่ ต่อเหล่าผู้เล่น, โค้ช, แฟนๆ และสต๊าฟผิวดำมีมานานนับศตวรรษ”

 

“เรากำลังฟัง ผมกำลังฟัง ผมจะเข้าถึงผู้เล่นที่เรียกร้องและคนอื่นๆ ว่าจะมีวิธีในการปรับปรุงและก้าวไปข้างเพื่อสิ่งที่ดีกว่า และความเป็นหนึ่งเดียวกันมากขึ้น”