ไม่มีขาดทุน : ส่องกำไร 242.5 ล้านปอนด์การขายแข้งหงส์แดงยุค ไมเคิล เอ็ดเวิร์ดส์

 

ลิเวอร์พูล เป็นหนึ่งในสัญญาที่คว้าแข้งใหม่เสริมทัพได้อย่างยอดเยี่ยมในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่ในขณะเดียวกัน ความสามารถในการขายผู้เล่นเพื่อรักษางบดุลสโมสรก็น่าประทับใจไม่แพ้กัน

 

เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือสมองเพชรชาวเยอรมัน คือคนที่ปลุกและเปลี่ยนแปลงให้ หงส์แดง กลายเป็นยอดสโมสรเบอร์ต้นๆของยุโรป แต่ ไมเคิ่ล เอ็ดเวิร์ดส์ ผู้อำนวยการสโมสรคือคนที่สมควรได้รับเครดิตกับความสำเร็จที่พวกเขาทำได้ในตลาดนักเตะ

 

ทาง UFA ARENA จะพาไปพบกับ 11 แข้งลิเวอร์พูลทำกำไรได้นับตั้งแต่ เอ็ดเวิร์ดส์ เข้ามานั่งแทนผู้อำนวยการกีฬาสโมสรตั้งแต่เดือน พฤศจิกายน ปี 2016 

 

 

ริอาน บรูว์สเตอร์ | 23.5 ล้านปอนด์

 

 

บรูว์สเตอร์ เริ่มต้นอาชีพค้าแข้งกับทีมเยาวชนของ เชลซี ก่อนจะย้ายไปร่วมทีม ลิเวอร์พูล ในวัย 14 ปี พร้อมกลายเป็นหนึ่งในดาวรุ่งที่น่าจับตามองของวงการฟุตบอลอังกฤษ

 

หลังจากฟื้นตัวหายจากอาการบาดเจ็บขา ตัวรุกหนุ่มยิงไป 11 ประตู จากการลงสนาม 22 นัด ขณะเล่นแบบยืมตัวกับ สวอนซี ในแชมเปี้ยนส์ชิพ ฤดูกาล 2019-20

 

ทว่าโอกาสกับหงส์แดงชุดใหญ่ บรูว์สเตอร์ ได้ลงเล่นเพียง 4 นัดเท่านั้น ก่อนที่ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด จะยอมคว้าตัวไปร่วมทีมด้วยค่าตัวสถิติของสโมสร 23.5 ล้านปอนด์ โดยมีเงื่อนไขว่าทีมของ คล็อปป์ สามารถซื้อกลับไปร่วมทีมได้ภายใน 3 ปี และจะได้รับส่วนแบ่ง 35 เปอร์เซนต์จากการขายครั้งต่อไป

 

 

คี-จาน่า โฮเวอร์ | 13.5 ล้านปอนด์

 

 

ลิเวอร์พูล คว้า โฮเวอร์ จากทีมเยาวชนอาแจ็กซ์ด้วยเงินเพียง 90,000 ปอนด์เท่านั้นในปี 2018 และ ได้ประเดิมสนามนัดแรกในเกมเอฟเอ คัพ รอบ 3 ที่พบกับ วูล์ฟแฮมป์ตัน ในเดือนมกราคมปี 2019

 

จากนั้น กองหลังชาวดัตช์ ได้ลงเล่นในชุดใหญ่อีก 3 เกมในฤดูกาล 2019-20 พร้อมยิงประตูแรกในเกม อีเอฟแอล คัพ นัดคว้าชัยเหนือ เอ็มเค ดอนส์

 

แม้จะยังไม่ได้เล่นในเกมพรีเมียร์ลีกซักนัดเดียว แต่แค่นั้นก็เพียงพอที่ วูล์ฟ จะยอมจ่ายเงินกว่า 13.5 ล้านปอนด์ เพื่อคว้าแข้งวัย 18 ปีไปร่วมทีมในซัมเมอร์ปี 2020

 

 

โอวี่ เอจาเรีย | 3 ล้านปอนด์

 

 

เอจาเรีย ย้ายจาก อาร์เซน่อล เมาฝึกฝนวิชาลูกหนังกับ หงส์แดง ในปี 2014 และลงสนามในทีมชุดใหญ่ไป 8 นัดในฤดูกาล 2016-17

 

หลังจากย้ายไปเล่นแบบยืมตัวกับ ซันเดอร์แลนด์, เรนเจอร์ส และ เร้ดดิ้ง แข้งวัย 22 ปี ก็ลาถิ่นแอนฟิล์ดย้ายไปเล่นกับ เดอะ รอยัลส์ แบบถาวรด้วยค่าตัว 3 ล้านปอนด์ในปี 2020

 

 

แดนนี่ อิงส์ | 20 ล้านปอนด์

 

 

หงส์แดงคว้า แดนนี่ อิงส์ มาร่วมทีมแบบไร้ค่าตัวในปี 2015 แต่ต่อมาพวกเขาก็ถูกสั่งให้จ่ายเงินค่าชดเชยให้กับ เบิร์นลี่ย์ ต้นสังกัดเดิมของ อิงส์ ด้วยจำนวน 8 ล้านปอนด์

 

ทว่า กองหน้าชาวอังกฤษ ประสบปัญหาการบาดเจ็บบ่อยครั้งยามค้าแข้งในถิ่น แอนฟิลด์ จนได้ลงสนามเพียง 25 นัดในทุกรายการ

 

อย่างไรก็ตาม อิงส์ ก็กลับไปเรียกฟอร์มเก่งได้อีกคครั้งยามเล่นแบบยืมตัวกับ เซาแธมป์ตันในฤดูกาล 2018-19 จากนั้นจึงย้ายซบทีมนักบุญถาวรด้วยค่าตัว 20 ล้านปอนด์ โดยในฤดูกาลที่ผ่านมา หอกวัย 28 ปี กดไป 22 ตุงจาก 38 นัดในลีก รั้งตำแหน่งรองดาวซัลโว ตามหลังแค่ เจมี่ วาร์ดี้ ดาวยิงจาก เลสเตอร์ เท่านั้น

 

 

ไรอัน เคนท์ | 7.5 ล้านปอนด์

 

 

อีกหนึ่งลูกหม้อของสโมสรที่ถูกปล่อยตัวไป เคนท์ ลงเล่นนัดแรกให้กับ ลิเวอร์พูล ในเกมพบกับ เอ็กเซเตอร์ ซิตี้ ในศึกเอฟเอ คัพ ปี 2016 และนั่นคือนัดแรกและนัดเดียวที่เขาได้ลงเล่นในทีมชุดใหญ่ของทีม

 

ปีกชาวอังกฤษ ประสบความสำเร็จพอสมควรกับการย้ายไปเล่นให้ เรนเจอร์ส ด้วยสัญญาเช่าในฤดูกาล 2018-19 ก่อนที่สโมสรดังจากสก็อตแลนด์จะคว้าไปร่วมทีมด้วยค่าตัว 7.5 ล้านปอนด์

 

เคนท์ กลายเป็นที่รักของแฟนบอลในถิ่น ไอบร็อกซ์ ทันที แต่เขาก็ได้กลับมาพิสูจน์ฝีเท้าในอังกฤษอีกครั้ง หลัง ลีดส์ ยูไนเต็ด ทีมน้องใหม่ คว้าตัวมาเสริมทัพด้วยค่าตัว 10 ล้านปอนด์ ในซัมเมอร์นี้

 

 

โดมินิค โซลันกี้ | 19 ล้านปอนด์

 

 

ดีลปล่อย โดมินิค โซลันกี้ สร้างความงุนงงให้กับคอบอลอังกฤษไม่น้อย เมื่อเขาถือเป็นดาวรุ่งที่น่าจับตาของวงการอีกครั้ง หลังย้ายจาก เชลซี มาซบ ลิเวอร์พูล แบบไร้ค่าตัว ก่อนจะจ่ายเงินชดเชยเพิ่มอีก 3 ล้านปอนด์

 

แม้จะยิงแค่ลูกเดียวจากการสนาม 27 นัดให้หงส์แดง บอร์นมัธ ก็ยินดีจ่ายค่าตัวเพื่อคว้า โซลันกี้ ไปร่วมทีมด้วยจำนวนเงินกว่า 19 ล้านปอนด์ในปี 2019

 

ฟอร์มการเล่นของ โซลันกี้ ก็ยังไม่ได้พัฒนาขึ้นเท่าไหร่ในถิ่น วิทาลิตี้ สเตเดี้ยม โดยแข้งวัย 23 ปี ยิงไปเพียง 4 ลูกจากการลงเล่น 46 นัดให้กับ เดอะ เชอร์รี่ส์ ในทุกรายการ

 

 

แดนนี่ วอร์ด | 12.5 ล้านปอนด์

 

 

ในเดือนมกราคมปี 2012 ลิเวอร์พูล คว้า แดนนี่ วอร์ด จาก เร็กซ์แฮม ด้วยค่าตัว 100,000 ปอนด์ แต่นายทวารหนุ่มได้ลงเฝ้าเสาเพียง 3 นัดเท่านั้นตลอด 5 ปีครึ่งในถิ่นแอนฟิลด์

 

เขาตกเป็นมือ 4 ของสโมสร หลังจากการมาของ อลิสซอน เบ็คเกอร์ ก่อนจะย้ายไปเล้นกับ เลสเตอร์ ด้วยค่าตัว 12.5 ล้านปอนด์ในปี 2018

 

นายด่านวัย 27 ปี ทำหน้าที่เป็นอะไหล่ของ เคสเปอร์ ชไมเคิ่ล และยังไม่ได้ลงเล่นให้ จิ้งจอกสีน้ำเงินในเกมพรีเมียร์ลีกเลยซักนัด

 

 

ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ | 142 ล้านปอนด์

 

 

ปฏิเสธไม่ได้ว่า ดีลปล่อย ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ ทำให้ ลิเวอร์พูล ได้กำไรมากที่สุดในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา 

 

เพลย์เมกเกอร์ชาวบราซิลเลี่ยน พัฒนาฝีเท้าเป็นหนึ่งในกองกลางเบอร์ต้นๆของโลก หลังลา อินเตอร์ มิลาน เพื่อย้ายซบ หงส์แดง ด้วยค่าตัวเพียง 8.5 ล้านปอนด์ในปี 2013

 

คล็อปป์ พยายามทำทุกอย่างเพื่อรั้ง คูตี้ ให้ค้าแข้งในถิ่นแอนฟิลด์ต่อไป แต่ท้ายที่สุดก็ยอมปล่อยแข้งวัย 28 ปี ให้กับ บาร์เซโลน่าด้วยค่าตัวถึง 142 ล้านปอนด์ในเดือนมกราคมปี 2018

 

อย่างไรก็ตาม แข้งเลือดแซมบ้า ยังไม่สามารถทำผลงานได้สมราคาเท่าไหร่ในถิ่น คัมป์ นู ขณะที่ หงส์แดง นำเงินจำนวนนั้นมาคว้า เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค และ อลิสซอน เบ็คเกอร์ 2 แข้งที่เป็นกำลังหลักให้ทีมคว้าแชมป์ยุโรปและแชมป์ลีกในเวลาต่อมา

 

 

มามาดู ซาโก้ | 26 ล้านปอนด์

 

 

ลิเวอร์พูล ลงทุนกระชาก มามาดู ซาโก้ จากปารีส แซงต์ แชร์กแมง มาร่วมทีมด้วยค่าตัว 18 ล้านปอนด์ ในซัมเมอร์ปี 2013 และทำผลงานได้ยอดเยี่ยมไม่น้อยกับฤดูกาลแรกในแอนฟิลด์

 

แต่ต่อมา กองหลังชาวฝรั่งเศส กลายเป็นตัวเลือกท้ายในแผงหลังที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ ไว้วางใจ หลังจากมีปัญหาเรื่องวินัย ก่อนจะขายให้กับ คริสตัล พาเลซ ด้วยค่าตัว 26 ล้านปอนด์ในปี 2017

 

 

เควิน สจ๊วร์ต | 8 ล้านปอนด์

 

 

หลังถูก ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ปล่อยตัวในปี 2014 ลิเวอร์พูล ก็คว้า เควิน สจ๊วร์ต ไปร่วมทีมแบบไร้ค่าตัว ก่อนจะได้ลงเล่น 20 นัดให้กับสโมสร

 

เนื่องจากไม่สามารถเบียดขึ้นมาเป็นตัวหลักในทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ได้ เขาจึงย้ายไปเล่นกับ ฮัลล์ ซิตี้ ด้วยค่าตัว 8 ล้านปอนด์ในปี 2017 เพื่อโอกาสลงเล่นที่มากขึ้นกว่าที่เคย

 

นับตั้งแต่นั้น สจ๊วร์ต ลงสนามให้กับ เดอะ ไทเกอร์ส ไปแล้ว 77 นัดในทุกรายการตลอด 3 ฤดูกาลหลังสุด

 

 

อันเดร วิสดอม | 4.5 ล้านปอนด์

 

 

อดีตเด็กปั้นของสโมสรอย่าง อังเดร วิสดอม ได้ประเดิมสนามให้กับ ลิเวอร์พูล ในเกมเอาชนะ ยัง บอยส์ 5-3 ในศึกยูโรป้า ลีก ปี 2012 แต่นั่นคือเกมเดียวที่กองหลังชาวอังกฤษได้โชว์ผลงานในสีเสื้อหงส์แดง

 

เขาย้ายไปเล่นแบบยืมตัวกับ ดาร์บี้ เค้าท์ตี้, เวสต์บรอม, นอริช และ เร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก ก่อนจะย้ายซบ แกะเขาเหล็ก แบบถาวรด้วยค่าตัว 4.5 ล้านปอนด์ในปี 2017