ปาโบล ซาบาเลต้า ย้ายมาร่วมทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไม่นานก่อนที่ ชีค มานซูร์ จะเข้ามาเทคโอเวอร์สโมสร แต่ก็มีแข้งดังไม่กี่คนที่สร้างอิมแพ็คได้ระดับเดียวกับเขา
แบ็คขวาชาวอาร์เจนไตน์ โลดแล่นในถิ่น เอติฮัด สเตเดี้ยม นาน 9 ปี พร้อมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 2 สมัย แม้จะย้ายไป เวสต์แฮม ในปี 2017 และประกาศปิดฉากอาชีพค้าแข้งที่นั่นเมื่อวันที่ 16 ตุลาคมที่ผ่านมา แต่สถานะตำนานเรือใบสีฟ้าของเขาก็ยังคงมีอยู่ไม่เปลี่ยนแปลง
และ UFA ARENA จะพาไปหาเหตุว่าทำไม ซาบาเลต้า จึงเป็นที่รักของแฟนบอลชาวสีฟ้าอีกครึ่งของเมืองแมนเชสเตอร์
ดีลโคตรคุ้ม
#OnThisDay back in 2008 we signed @pablo_zabaleta 💙
🔵 #mancity pic.twitter.com/EMwKuyiY5o
— Manchester City (@ManCity) August 31, 2019
ซาบาเลต้า ย้ายมาซิตี้ในวันเดียวกับ เกลาเบอร์ เบอร์ตี้ (คงมีแต่แฟนพันธ์แท้เท่านั้นที่จำได้) ซึ่งการมาของเขาในฤดูกาลนั้นถูกบดบังโดย โรบินโญ่, โช, เคร็ก เบลลามี่ หรือแม้กระทั่ง ฌอน ไรท์ ฟิลลิปส์ ที่คัมแบ็คทีมจากแมนเชสเตอร์อีกครั้ง
ทว่า มาร์ค ฮิวจ์ กุนซือของเรือใบสีฟ้าในตอนนั้น รู้ดีว่าทีมมีของดีอยู่กับตัว โดยกล่าวุถึงแบ็คเลือดฟ้าขาวว่า “เรารู้สึกว่าการคว้า ปาโบล เป็นการเซ็นสัญญาอีกดีลที่ยอดเยี่ยม เขายังหนุ่มแน่นและกระหายชัยชนะ”
ผ่านไป 9 ปี ซาบาเลต้าที่มีค่าตัวราวๆ 6.45 ล้านปอนด์ตอนย้ายจาก เอสปันญ่อล ลงเล่นให้ซิตี้มากถึง 333 นัดในทุกรายการ คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 2 สมัย, เอฟเอ คัพ ปี 2011 และ ลีกคัพอีก 2 สมัยด้วย
ไม่หวั่นกับการแย่งตัวจริง
ซาบาเลต้า ต้องเจอกับการท้าทายตำแหน่งแบ็คขวาตัวจริงตลอดในช่วงที่เล่นแมนเชสเตอร์ ซิตี้ แต่เขาก็จัดการและรับมือกับผู้มาใหม่ได้ดีเสมอ
เขาเขี่ย ไมก้าห์ ริชาร์ดส์ ลูกหม้อของสโมสรหล่นไปเป็นตัวสำรองตั้งแต่ปีแรกที่ย้ายมาค้าแข้งในอังกฤษ ส่วนแบ็คขวาจอมบุกชาวบราซิลเลี่ยนอย่าง ไมค่อน ก็ดีไม่พอเป็นตัวจริงเหนือซาบาเลต้า ขณะที่ บาการี่ ซาญ่า ก็เป็นได้เพียงอะไหล่หมุนเวียนเท่านั้น
วีรบุรษในกรุงโรม
ในปี 2014 ซิตี้ ต้องบุกไปเยือน โรม่า ซึ่งต้องการผลชนะเพื่อเข้ารอบน็อคเอ้าท์ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่มนัดสุดท้ายของฤดูกาลนั้น
แม้ขาด แวงซอง กอมปานี, ยาย่า ตูเร่ และ เซร์คิโอ้ อเกวโร่ 3 แข้งตัวหลัก ทีมจากอังกฤษก็สามารถเอาชนะไปได้ 2-0 โดยที่ ซาบาเลต้า คือดาวเด่นในวันนั้นที่ยิงประตูปิดกล่อง พร้อมกับวิ่งตรงไปแฟนบอลทันทีที่ทำประตูได้ และบรรจงจูบตราสโมสรบนเสื้อ
โดยนี่เป็น 1 ในจำนวน 12 ประตูทั้งหมดที่แบ็คขวาชาวอาร์เจนไตน์ทำได้ในสีเสื้อเรือใบสีฟ้า
ไม่อินวงดนตรีจากแมนเชสเตอร์
หากพูดถึงวงดนตรีดังๆระดับโลก เมืองแมนเชสเตอร์ก็มีไม่แพ้ใครๆ ทั้ง โอเอซิส วงบริทร็อคขวัญใจวัยโจ๋ยุค 90, เดอะ สโตน โรสเซส หรือ เดอะ สมิธ แต่ทั้งหมดที่ว่ามานี่ไม่ใช่คณะดนตรีที่ ซาบาเลต้า ยกให้เป็นเบอร์หนึ่งในใจ
เพราะวงที่เขาชื่นชอบมากที่สุดก็คือ สเตตัส คูโอ วงฮาร์ดร็อครุ่นเก๋าจากลอนดอนที่ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับเมืองแมนเชสเตอร์ เลย และถ้าจะเกี่ยวก็คงเป็นการทำเพลงให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในปี 1994 จนขึ้นชาร์ตอันดับหนึ่งในอังกฤษ 2 สัปดาห์นั่นแหละ
ผู้ทำลายสถิติ
วันที่ ซาบาเลต้า เล่นนัดอำลาแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เป็นครั้งสุดท้ายคือเกมที่ 117 ที่เขาลงเล่นในพรีเมียร์ลีก ณ สนาม เอติฮัด สเตเดี้ยม ซึ่งเป็นการลงเล่นเกมลีกในสนามแห่งนี้มากที่สุดในเหนือผู้เล่นเอ้าท์ฟิลด์คนไหนๆในสโมสรด้วย
ยิงประตูนัดประวัติศาสตร์
ใครก็ตามที่มีส่วนร่วมในทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ชุดคว้าแชมป์ครั้งแรกในรอบ 43 ปี ย่อมได้รับสถานะเป็นดั่งตำนานสโมสรแบบไม่ต้องสงสัย แต่ ซาบาเลต้า อาจเป็นมากกว่านั้นตรงที่เขาเป็นคนยิงประตูแรกในเกมเฉือนชนะ คิวพีอาร์ แบบระทึก
บางทีแบ็คขวาอาจจะโชคดีที่ยิงได้ และมันคงไม่เป็นที่จดจำเท่าลูกยิงของ อเกวโร่ แน่นอน แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่านี่คือประตูสำคัญในประวัติศาสตร์ของซิตี้เช่นกัน
ยกศึกดวลอริร่วมเมืองคือเกมสำคัญ
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ผ่านเข้ารอบชิง เอฟเอ คัพ ปี 2011 ได้ด้วยการเอาชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อริร่วมเมือง 1-0 ซึ่งนั่นถือเป็นหนึ่งในช่วงเวลาที่ ซาบาเลต้า ภูมิใจมากๆยามสวมเสื้อเรือใบสีฟ้า ไม่แพ้ตอนที่ทีมปาดหน้าคว้าแชมป์ลีกจากลูกยิงของ อเกวโร่ ในปี 2012 เลย
“ผมจำได้ว่าในตอนนั้น เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน พูดเกี่ยวกับ ‘เพื่อนบ้านที่น่ารำคาญ’ สำหรับผมแล้ว เราไม่สามารถปล่อยให้คนอื่นๆพูดอะไรแบบนั้นกับเรา” แบ็คขวาชาวอาร์เจนไตน์ กล่าว
“ผมคิดนะ ถ้าพวกเขาเรียกเราว่าเพื่อนบ้านที่รำคาญ งั้นก็ส่งเสียงออกไปดังๆในเมืองนี้ซะเลย”
“มาพิสูจน์ว่าเราเป็นสโมสรที่ตั้งตาไขวคว้าสิ่งสำคัญ อาจก้าวไปเป็นสโมสรหลักของเมืองได้ในซักวันหนึ่ง และพาสโมสรแห่งนี้เดินหน้าไปด้วยกัน”