ไม่เหลืออะไรเลย : 6 คนลูกหนังสุดซวยหากพรีเมียร์ลีกยกเลิกฤดูกาล

 

ลีกเอิง ฝรั่งเศส กลายเป็นประเทศแรกใน 5 ลีกใหญ่ยุโรปที่ยกเลิกฤดูกาล 2019-20 หลังรัฐบาลแดนน้ำหอมประกาศห้ามแข่งขันกีฬาไปจนถึงเดือนกันยายน

 

ล่าสุด ลีกฟุตบอลอาชีพแห่งฝรั่งเศส ประกาศยืนยันอย่างเป็นทางการว่า ปารีส แซงต์-แชร์กแมง เป็นแชมป์ ลีก เอิง ฤดูกาล 2019/20 แม้หลายคนจะไม่รู้สึกแปลกใจอะไรมาก แต่อย่างน้อยก็น่าเห็นใจกับกรณีของ วิสซาม เบน เยแดร์  

 

หัวหอกโมนาโก ยิงประตูเท่ากับ คีเลี่ยน เอ็มบัปเป้ ที่ 18 ลูก และมีโอกาสไม่น้อยในการคว้าดาวซัลโวมาครอง แต่ท้ายที่สุดแข้งวัย 29 ปี ก็กลายเป็นนักเตะที่ไม่เคยคว้าแชมป์ หรือ รางวัลส่วนตัวมาครองได้แม้แต่ครั้งเดียว

 

หลายคนเริ่มกลัวว่า ลีกใหญ่ที่เหลือจะเดิมตามรอยลีกแดนน้ำหอมกันหมด  แต่โชคดีสำหรับลีกอังกฤษที่ รัฐบาล, เอฟเอ และ พรีเมียร์ลีก มุ่งมั่นที่จะจบฤดูกาล 2019-20 ให้ได้ ตามความต้องการของยูฟ่า 

 

อย่างไรก็ตาม ถ้าลองสมมุติว่าการยกเลิกเกิดขึ้นจริงๆ นักเตะหรือกุนซือคนไหนบ้างล่ะที่จะได้รับผลกระทบจากการตัดจบการแข่งขันในแดนผู้ดีฤดูกาลนี้เป็นโมฆะกัน?

 

 

เจมี่ วาร์ดี้ 

 

 

ปีนี้เป็นหนึ่งในฤดูกาลที่ เจมี่ วาร์ดี้ ทำผลงานได้ยอดเยี่ยมที่สุดในอาชีพค้าแข้ง หลังซัดไป 19 ประตูในพรีเมียร์ลีก และมีโอกาสคว้ารองเท้าทองคำสมัยแรก หลังเคยพลาดให้กับ แฮร์รี่ เคน ในฤดูกาล 2015-16 ด้วยผลต่างเพียงลูกเดียว (เคน 25, วาร์ดี้ 24)

 

แต่ 19 ประตูที่หัวหอกจิ้งจอกคงจะไร้ความหมายยิ่งกว่าเมื่อ 4 ปีก่อน หากโควิด-19 ทำให้ลีกในแดนผู้ดีฤดูกาลนี้ต้องยุติลงไป

 

นอกจากนี้ การยกเลิกฤดูกาลยังมอบโชคร้าย 2 เด้งให้กับแข้งวัย 33 ปี ที่เหลือเพียงตุงเดียวก็จะยิงครบ 100 ลูกในพรีเมียร์ลีกแท้ๆ

 

 

เควิน เดอ บรอยน์ 

 

 

นับตั้งฤดูกาล 2002-03 เป็นต้นมา ยังไม่มีใครทำลายสถิติแอสซสิต์มากที่สุดในหนึ่งฤดูกาลของ เธียร์รี่ อองรี ที่ทำไป 20 ลูกกับอาร์เซน่อลได้เลย

 

แต่ในฤดูกาลนี้ เควิน เดอ บรอยน์ คือนักเตะที่มีโอกาสทุบสถิตินี้ได้มากที่สุดหลังจ่ายให้เพื่อนๆในทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ยิงไป 16 ลูก ขณะที่เหลือการแข่งขันอีก 9 นัด 

 

หากแข้งเบลเยี่ยมทำได้ เขาจะแซงหน้า 3 แข้ง (อลัน เชียเรอร์ ,แมทธิว เลอ ทิสซิเอร์, แกเร็ธ แบร์รี่) ขึ้นไปเป็นจอมแอสซิสต์สูงสุดตลอดกาลเป็นอันดับที่ 15 ของลีกด้วย ด้วยเงื่อนไขว่าถ้าการแข่งขันยังคงดำเนินต่อไปจนจบฤดูกาลตามปกติ แต่ถ้าไม่ก็คงต้องไปลุ้นกันอีกทีในฤดูกาลหน้าแทน

 

 

จอร์แดน เฮนเดอร์สัน

 

 

คงไม่มีใครชอกช้ำมากเท่ากับ เจอร์เก้น คล็อปป์ และ แข้งลิเวอร์พูล อย่างแน่นอน หากความหวังในการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกสมัยแรกถูกทำลายหายวับไปกับตาเพราะการตัดจบฤดูกาลให้เป็นโมฆะ

 

และคนที่เสียดายมากที่สุดน่าจะเป็น จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ที่พลาดโอกาสได้จารึกประวัติศาสตร์เป็นกัปตันหงส์แดงคนแรกในรอบ 30 ปีที่ชูถ้วยแชมป์ลีก

 

รวมไปถึงรางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปี ของพีเอฟเอ ที่เฮนโด้ถูกหลายคนยกให้เป็นนตัวเต็งในปีนี้ คงคว้ามาครองได้แค่เพียงในฝันเท่านั้น

 

 

นิค โป๊ป 

 

 

นิค โป๊ป กลายเป็นม้ามืดคว้ารางวัลถุงมือทองคำในฤดูกาลนี้อย่างเหนือความคาดหมาย หลังเก็บคลีนชีทได้ถึง 11 นัด มากกว่า แชมป์เก่ารางวัลนี้ในปีก่อนจากอย่าง อลิสซอน หรือ แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล นายทวารมากประสบการณ์ของเลสเตอร์ (10 นัดเท่ากัน)

 

เกมนัดที่เหลือของ เบิร์นลีย์ จะพบกับทีมอย่าง วัตฟอร์ด, เวสต์แฮม, คริสตัล พาเลซ, นอริช ซิตี้ และ ไบรท์ตัน จากทั้งหมด 9 นัด ทำให้มีโอกาสไม่น้อยที่นายทวารชาวอังกฤษจะคว้ารางวัลนี้ ถ้าฤดูกาลยังดำเนินต่อไปได้จนจบ

 

แต่การแข่งขันถูกยกเลิกขึ้นมา นายด่านของ เดออะ คลาเร็ตส์ อาจไม่มีโอกาสกลับมาอยู่ในตำแหน่งนี้อีกแล้วก็เป็นได้

    

 

เซร์คิโอ้ อเกวโร่

 

 

ในบรรดาแข้งต่างชาติในพรีเมียร์ลีก เซร์คิโอ้ อเกวโร่ คือหนึ่งในนักตะนอกแดนผู้ดีที่แฟนบอลยกย่องว่ายอดเยี่ยมที่สุด หลังพาแมนเชสเตอร์ ซิตี้ คว้าแชมป์ลีก 3 สมัย 

 

หอกหอกชาวอาร์เจนไตน์ยิงไปแล้ว 16 ประตูในฤดูกาลนี้ และต้องการอีก 8 ประตูเท่านั้นในการแซงหน้า แอนดี้ โคล ขึ้นไปเป็นดาวยิงสูงสุดอันดับ 3 ของพรีเมียร์ลีก (กุน 180 ลูก, โคล 187 )และจะตามหลัง เวย์น รูนี่ย์ อันดับ 2 เพียง 20 ลูกเท่านั้น

 

อย่างไรก็ตาม ถ้าฤดูกาลปัจจุบันถูกยกเลิก สถิติทั้งหมดที่เกิดขึ้นในปีนี้จะถูกยกเลิกทั้งหมด ทำให้หอกเรือใบสีฟ้าต้องกลับไปตั้งต้นประตูในลีกที่ 164 ลูกอีกครั้ง และในวัย 31 ย่าง 32 ปี คงเป็นเรื่องยากที่เขาจะกลับมายิงประตูได้สม่ำเสมอเหมือนในปีก่อนเช่นกัน 

 

 

คริส ไวล์เดอร์

 

 

เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด เป็น 1 ใน 3 ทีมน้องใหม่ในพรีเมียร์ลีกประจำฤดูกาล 2019-20 แต่ทำผลงานได้โดดเด่นกว่าอีก 2 ทีมอย่างมากถึงขนาดมีลุ้นไปเล่นแชมเปี้ยนส์ลีกในฤดูกาลหน้าด้วยซ้ำ โดยรั้งอันดับ 7 ในตารางมี 43 คะแนนจากการลงเล่น 28 นัด

 

หลายคนยกความดีความชอบให้กับ คริส ไวล์เดอร์ กุนซือชาวอังกฤษวัย 52 ปี ที่สร้างทีมดาบคู่ให้แข็งแกร่งเหนือความคาดหมายจนมีโอกาสไปโชว์ฝีเท้าในฟุตบอลยุโรปฤดูกาลหน้าได้ แม้จะไม่มีสตาร์ดังแม้แต่คนเดียวในทีม

 

แต่เจ้าตัวคงจะไม่ปลื้มแน่ๆ หากพรีเมียร์ลีกมีมติหรือถูกรัฐบาลสั่งให้ยกเลิกการแข่งขันฤดูกาลนี้ตามฝรั่งเศส เพราะนั่นหมายความพวกเขาจะพลาดไปเล่นในรายการระดับทวีป ทั้งๆที่อุตส่าห์ลําบากตรากตรําทำผลงานดีแทบตายในช่วงเวลา 7 เดือนที่ผ่านมา