ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ กำลังทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมล่าสุดเอาชนะไบรท์ตัน 2-1 ขึ้นมารั้งรองจ่าฝูงซึ่งนี้นับเป็นการคุมทีมเเบบเต็มฤดูกาลปีเเรกหลังเข้ามาคุมทีมเเทนที่ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน กุนซือคนเก่าเมื่อปีที่เเล้ว
เฮียมูพัฒนาตัวเองขึ้นเรื่อยๆตั้งเเต่ประเดิมงานคุมทีมเบนฟิก้าในโปรตุเกสเมื่อปี 2000 ก่อนจะย้ายไปคุมทีมต่างๆรวมเเล้วกว่า 8 สโมสร ฤดูกาลเเรกที่คุมทีมมีทั้งประสบความสำเร็จเลยหรืออาจจะไม่หวือหวาอะไรมาก เเต่เขาจะมาพิสูจน์ตัวเองในฤดูกาลที่ 2 กับทีมนั้นๆ
ปอร์โต้
สองสโมสรเเรกของมูรินโญ่ในฐานะกุนซืออย่างเบนฟิก้าเเละอูนีเยาดิไลรีอานับว่าล้มเหลวเเต่เขาก็ได้โอกาสพิสูจน์ตัวเองด้วยการย้ายมาคุมทีมยักษ์ใหญ่อย่าง เอฟซี ปอร์โต้
ช่วงเวลา 18 เดือนของเขาในการคุมปอร์โต้เปลี่ยนชีวิตเขาไปอย่างสิ้นเชิงพาทีมคว้าเเชมป์ลีกเสียไปเพียง 19 ประตูตลอดทั้งฤดูกาลเเต่หลายคนคงไม่เเปลกใจอะไรมากเพราะปอร์โต้เเทบจะผูกขาดเเชมป์ลีกอยู่เเล้ว
เข้าสู่ปีที่ 2 ของเฮียมู เขาพาทีมหักปากกาเซียนผงาดคว้าเเชมป์ ยูฟ่า เเชมเปี้ยนส์ ลีก ผ่านด่านหินๆมากมายทั้งเชลซี, เเมนยู, ลียง เเละ เรอัล มาดริด ไปเอาชนะโมนาโกในรอบชิงชนะเลิศเเบบไม่น่าเชื่อนับเป็นความสำเร็จที่เป็นจุดเริ่มต้นในอาชีพกุนซือของเขาอย่างเเท้จริง
เชลซี
ผลงานที่ยอดเยี่ยมของเขากับปอร์โต้ทำให้เฮียมูได้พิสูจน์ฝีมือตัวเองอีกครั้งกับงานที่เรียกว่าท้าทายที่สุดในตอนนั้นกับเชลซี
ทีมสิงห์บลูเพิ่งได้ โรมัน อับราโมวิช เข้ามาเทคโอเวอร์พร้อมลงทุนกับทีมไปมหาศาลทำให้ความต้องการที่จะเห็นทีมประสบความสำเร็จมีสูงไปด้วย
อย่างไรก็ตาม เจ้าตัวเข้ามาเปลี่ยนสิ่งต่างๆมากมาย เเฟร้งค์ เเลมพาร์ด ที่ตอนนั้นเป็นเเข้งดังของทีมกล่าวว่า “ผมตื่นเต้นกับการมาของเขา(มูรินโญ่)มาก” นายใหญ่โปรตุกีสพาทีมเข้าวินเป็นเเชมป์ตั้งเเต่ปีเเรก ก่อนจะมาป้องกันเเชมป์ได้ในปีต่อมา สร้างรากฐานให้ทีมจนขึ้นมาอยู่หัวเเถวจนถึงตอนนี้
อินเตอร์ มิลาน
เเม้จะประสบความสำเร็จที่ยอดเยี่ยมกับเชลซีเเต่การไปงัดข้อกับอับราโมวิชทำให้เฮีมมูต้องเก็บข้าวของย้ายออกมาอยู่กับอินเตอร์ มิลานในอิตาลี
ช่วงนั้นทีมงูใหญ่ถือว่าเป็นมหาอำนาจของลีกคว้าเเชมป์มาก่อนเเล้วภายใต้การทำทีมของ โรแบร์โต้ มันชินี่ ส่วนเฮียมูก็เข้ามาขัดนิดเกาหน่อยพาทีมป้องกันเเชมป์ได้ตั้งเเต่ปีเเรก
ฤดูกาลที่สองของเขาไม่ง่ายเพราะต้องเเข่งกับโรม่าในลีกจนถึงเกมนัดสุดท้ายก่อนจะเข้าวินป้องกันเเชมป์ห่างเพียง 2 คะเเนน เเต่ที่สำคัญคือเขาพาทีมคว้าเเชมป์ เเชมเปี้ยนส์ ลีก รวมถึง โคปปา อิตาเลีย(บอลถ้วย) เป็นทริปเปิ้ลเเชมป์เป็นทีมเเรกของอิตาลีที่ทำได้
เรอัล มาดริด
หลังประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่กับอินเตอร์ มูรินโญ่ ก็ชักใบเรือออกเดินทางสร้างเกียรติประวัติให้ตัวเองอีกครั้ง เป้าหมายที่สุดท้าทายอีกงานอยู่ที่เเดนกระทิงดุกับเรอัล มาดริด
ลาลีก้าตอนนั้นไม่ใช่งานง่ายของกุนซือราชันชุดขาวเเม้ว่าในสายตาคนอื่นจะมองว่ามีเเค่ 2 ทีม(บาร์ซ่า,มาดริด)ที่จะขับเคี้ยวเเย่งเเชมป์ เเละยิ่งอยู่ในยุครุ่งเรื่องของบาร์เซโลน่า งานของเฮียมูยิ่งยากขึ้นไปอีก
มูรินโญ่เข้าไปรับงานต่อจากมานูเอล เปเยกรีนีที่ทำทีมเป็นเเค่รองเเชมป์ นายใหญ่โปรตุกีสเริ่มขัดเกลาให้เข้ากับระบบของตัวเองเเต่ก็ยังเอาชนะบาร์เซโลน่าไม่ได้จบเเค่รองเเชมป์ในปีเเรก เเต่ฤดูกาลถัดมาสิ่งที่เขาปลูกฝังให้ลูกทีมจะประสบความสำเร็จพาทีมเข้าวินเป็นเเชมป์หรือเจ้าบุญทุ่มเเถมโกยเเต้มไปถึง 100 คะเเนน
เชลซี
หลังจากมูเเยกทางกับเชลซีตั้งเเต่ปี 2007 สิงห์บลูเปลี่ยนกุนซือไปเเล้ว 8 คนเเต่ประสบความสำเร็จได้เเชมป์ลีกเเค่ 1 สมัย เเละ 1 ถ้วยเเชมเปี้ยนส์ ลีก ของ โรแบร์โต้ ดิ มัตเตโอ ก็ไม่สามารถตอบรับความต้องการของอับราโมวิชได้
เหตุนี้มูรินโญ่ต้องถูกดึงเข้ามาคุมทีมเป็นคำรบสองเพื่อเเกความผิดพลาดที่หลายกุนซือก่อนหน้าเขาทำพังไว้ ฤดูกาลเเรกอะไรๆยังไม่ลงตัวเขาพาทีมจบเเค่อันกับ 3 ของลีกเท่านั้น เเต่ในปีต่อมาซึ่งเป็นฤดู
กาลที่สองของเขาสามารถพาทีมเข้าวินเป็นเเชมป์เหนือทีมระดับเเนวหน้าอย่าง เเมนฯ ซิตี้, เเมนฯ ยู หรือ อาร์เซน่อลด้วย
เเมนฯ ยู
ใช่! นั้นคือคำตอบที่เวลาไปถามใครก็ตามว่ามูรินโญ่คือยอดกุนซือใช่หรือไม่ เเต่ถึงกระนั้นก็ใช่ว่าเขาจะพาทุกทีมประสบควาสสำเร็จหมด
เฮียมูเข้ามารับเฝือกร้อนเเทนที่ของ หลุยส์ ฟาล กัล ที่พาทีมจบได้เเค่อันดับ 5 เเต่ถึงกระนั้นผลงานในปีเเรกของ “สเปเชียล วัน” พาทีมจบได้เพียงอันดับ 6 จนทำให้ใครหลายคนมองว่าน่าจะพังไม่เป็นชิ้น
อย่างไรก็ตารมเข้าสู่ปีที่ 2 ผลงานของปีศาจเเดงกลับดีขึ้นผิดหูผิดตาสุดท้ายจบอันดับที่ 2 รองเเชมป์มีคะเเนนห่างเเมนซิตี้ที่ตอนนั้นไร้เทียมทานเหลือเกินกวาดไป 100 คะเเนนห่าง 9 คะเเนน
