ถ้าหากพูดถึงทีมที่มักจะดึงตัวนักเตะดังๆมาทำให้ดับ หลายคนคงนึกถึงเรอัล มาดริด แต่คู่แข่งอย่าง บาร์เซโลน่า ก็ไม่ได้น้อยหน้ากัน อย่างในรายล่าสุดคือ อองตวน กรีซมันน์ ที่หากนับในเรื่องของผลงานเขาก็ไม่ได้มีปีที่ย่ำแย่เท่าไรนัก แต่หากเทียบในเรื่องความคาดหวังจากแฟนบอลเขาก็ค่อนข้างอยู่ในกลุ่มเสี่ยง ซึ่งก็มีกระแสข่าวว่าการที่เขาปรับตัวเข้ากับระบบที่ไม่ได้นี้ อาจส่งผลให้ทีมตัดสินใจขายเขาออกไปในฤดูกาลหน้า แม้เพิ่งย้ายมาอยู่กับทีม
ซึ่งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีสตาร์ดังต้องย้ายมาล้มเหลวในถิ่นคัมป์นู วันนี้ UFA ARENA จะขอพาทุกคนไปรู้จักกับบรรดานักเตะฝีเท้าดีที่ย้ายมาดับสนิทกับ บาร์เซโลน่า
อเล็กซิส ซานเชส
หลังจากโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมกับ อูดิเนเซ่ ก็มีบรรดาทีมใหญ่เข้ามาจีบเพียบ สุดท้ายบาร์เซโลน่าก็คว้าตัวไปได้ในปี 2011 แน่นอนว่าเรื่องฝีเท้าไม่มีใครสงสัยในตัวเขา แต่การต้องมาอยู่ในยอดทีมที่อุดมไปด้วยนักเตะอย่างบาร์เซโลน่า โดยเฉพาะเมื่อต้องมาเคียงข้างนักเตะอย่าง ลิโอเนล เมสซี่ ทำให้เขาต้องกลายเป็นพระรอง และแม้ว่าจะคว้าแชมป์ร่วมกับทีมได้ แต่ก็ไม่ได้มีอะไรน่าจดจำเท่าที่ฝีเท้าของเขาควรจะทำได้ สุดท้ายก็โดนปล่อยออกไปให้กับ อาร์เซน่อล ในปี 2014 ปิดฉาก 3ฤดูกาลกับทัพต่างดาว
ซลาตัน อิบราฮิโมวิช
กองหน้ารายนี้ไม่ต้องพิสูจน์ตัวเองอะไรอีกแล้วในวงการลูกหนัง การย้ายมาที่บาร์เซโลน่าด้วยราคาสูงถึง 45ล้านยูโร แถมยังเป็นการส่ง ซามูเอล เอโต้ ไปให้กับอินเตอร์ มิลานเพิ่มด้วย ซึ่งถือว่าเป็นความฮือฮาและมาพร้อมความคาดหวังจากแฟนบอล แม้เจ้าตัวจะไม่ได้ทำผลงานย่ำแย่อะไร แต่ดาวยิงชาวสวีดิชกลับมีปัญหากับผู้จัดการทีมอย่าง เป๊ป กวาร์ดิโอล่า จนไม่สามารถค้าแข้งอยู่ในถิ่นคัมป์นูได้ แถมในตอนที่เขาจะย้ายออกยังฝากรอยแผลเป็นการที่ต้องขายแบบขาดทุนไปให้ เอซี มิลานด้วยราคาเพียง 24ล้านยูโรเท่านั้น เรียกว่าช่วงเวลา 2ซีซั่นที่อยู่กับยอดทีมจากสเปนทำให้ทีมขาดทุนเกินครึ่ง
อาร์ด้า ตูราน
หลังโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมจนพาทัพแอตเลนติโก มาดริด ขึ้นไปคว้าแชมป์ลาลีกาเมื่อฤดูกาล 2013/14 ทำให้บาร์เซโลน่าจัดการดึงเขาไปร่วมทัพในปีถัดมา แน่นอนว่าด้วยดีกรีนักเตะชุดแชมป์ของทัพตราหมี ทำให้ความคาดหวังสูงตามไปด้วย และใครๆก็คิดว่าเขาต้องมาเป็นตัวหลักให้เจ้าบุญทุ่มแน่นอน แต่ความเป็นจริงคือเขาต้องเข้ามาเป็นตัวสำรอง จนแล้วจนรอดเขาก็ได้ลงสนามไปแค่ 36นัดในลีก ยิงได้ 5ประตู ก่อนถูกปล่อยไปให้กับ เบซิคตัส ยืมตัวตั้งแต่ปี 2017จนถึงปัจจุบัน ในขณะที่สัญญาของเขากำลังจะหมดลงในปี 2020นี้ และไม่มีวี่แววจะได้ต่อสัญญา
มาร์ติน การ์เซเรส
สำหรับกองหลังชาวอุรุกวัย เริ่มมาเป็นที่รู้จักเอาตอนที่อยู่กับยูเวนตุส แต่ก่อนหน้านั้นเขาเป็นแนวรับดาวรุ่งที่น่าจับตามอง ด้วยวัยเพียง 20ปี บาร์เซโลน่า ยอดทีมจากแดนกระทิงดุก็เป็นทีมที่มารับตัวเขาไปปลุกปั้นต่อ แต่อย่างที่รู้กันดีว่าบาร์เซโลน่ามีแนวรับที่ไว้วางใจอยู่แล้วทั้ง เคราร์ด ปีเก้ และ การ์เลส ปูโยล ทำให้ดาวรุ่งวัย 20ต้นๆ ไม่สามารถสอดแทรกขึ้นมาได้และได้ลงสนามไปแค่ 23นัด รวมทุกรายการเท่านั้น สุดท้ายก็อยู่กับทีมได้เพียงปีเดียว ก่อนจะถูกปล่อยยืมให้กับ ยูเวนตุส และ เซบีย่า ซึ่งก็เป็นเซบีย่าที่เป็นคนดึงตัวเขาไปจากถิ่นคัมป์นู และปล่อยต่อให้ยูเวนตุสต่อไป
ดิมิโทร ชีกรินสกี้
อีกหนึ่งแนวรับดาวรุ่งที่บาร์เซโลน่า เลือกมาปั้นต่อในปี 2009 ต่อจากการ์เซเรส ซึ่งแน่นอนว่าชะตากรรมก็ไม่ต่างกัน แต่แย่กว่าหน่อยตรงที่เขาได้ลงสนามไปเพียง 14นัดรวมทุกรายการ ซึ่งหลังจากปั้นไปได้แค่ปีเดียว เจ้าบุญทุ่มก็หมดความอดทนในการปั้นนักเตะ แล้วปล่อยคืนให้ ชัคเตอร์ โดเน็ทส์ค ดังเดิมแถมเป็นการปล่อยคืนแบบขาดทุนจากราคาที่ซื้อมา 25ล้านยูโร แต่ขายกลับไปด้วยราคา 15ล้านยูโรเท่านั้น
ริคาร์โด้ กวาเรสม่า
ดาวเตะเชิงสูงที่เรื่องทักษะเขาไม่เป็นสองรองใคร ซึ่งช่วงชีวิตหนึ่งเขาเคยเหนือกว่า คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ยอดแข้งชาวโปรตุเกสด้วยซ้ำ นั่นทำให้บาร์ซ่า จัดการคว้าตัวดาวรุ่งวัย 19ปี รายนี้มาร่วมทัพทันทีในปี 2003 อย่างไรก็ตามฟอร์มของเขาไม่เคยเข้าใกล้จากที่ร่ำลือเอาไว้เลยกับการลงสนาม 28นัด ยิงได้แค่ประตูเดียว และแน่นอนว่าเมื่อดาวรุ่งไม่ตอบโจทย์ก็อยู่ได้แค่ปีเดียวทีมก็เลือกที่จะไม่ปั้นต่อและปล่อยไปให้กับ ปอร์โต้ในปีถัดมา
มัลค่อม
ปีกตัวรุกที่สร้างความน่าจดจำให้แฟนโรม่าที่เขาหักอกไม่ยอมไปอยู่กับทีมในนาทีสุดท้าย ได้มากกว่าแฟนบอลบาร์เซโลน่าที่เป็นต้นสังกัดของเขาเสียอีก หลังจากที่เขาทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมกับ บอร์กโดซ์ ด้วยวัยเพียง 21ปีเท่านั้น ทำให้เจ้าบุญทุ่มตัดสินใจดึงเขามาร่วมทัพเพื่อจะมาเป็นตัวตายตัวแทนของ เนย์มาร์ที่ออกไปอยู่กับ เปแอสเช แน่นอนว่าด้วยความคาดหวังที่สูงลิบ เขาไม่สามารถตอบแทนสิ่งเหล่านั้นได้เลยกับการลงสนาม 24นัด ยิง4ประตู 2แออสซิสต์ รวมทุกรายการ ซึ่งหลังจากอยู่กับทีมแค่ปีเดียวก็โดนขายต่อไปให้กับ เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก ในปีถัดมาทันที
อเล็กซานเดอร์ เคล็บ
ปีกผู้เป็นขวัญใจของสาวกอาร์เซน่อล เลือกย้ายจากอังกฤษมาสู่สเปนกับบาร์เซโลน่าเมื่อปี 2008 เขาไม่ใช่ดาวรุ่งเหมือนรายก่อนๆแน่นอนว่ามาพร้อมความคาดหวังที่มากกว่าเดิม แต่แทนที่เขาจะตอบแทนความคาดหวังของทีมแต่เขากลับยิงไม่ได้เลยตลอด 36นัดรวมทุกรายการในฤดูกาลแรก ทำให้ฤดูกาลถัดมาเขาโดนปล่อยยืมให้ สตุ๊ตการ์ต ,เบอร์มิงแฮม ซิตี้ และ โวล์ฟบวร์ก จนสุดท้ายช่วงเวลา 4ปีที่อยู่กับทัพต่างดาวมีแค่ฤดูกาลแรกเท่านั้นที่เขาได้ลงสนามให้กับทีม แถมยังยิงไม่ได้สักประตูเดียว ก่อนจะย้ายไปเล่นในลีกรัสเซียในเวลาต่อมา
อเล็กซ์ ซง
อีกหนึ่งกองกลางที่แทบไม่ได้เป็นที่จดจำของทัพต่างดาว ซง ถูกดึงตัวจากอาร์เซน่อลมาร่วมทีมบาร์ซ่าเมื่อปี 2012 ซึ่งในถิ่นเอมิเรสต์ สเตเดี้ยม เขาคือตัวหลักในแผงกองกลางปืนโต แต่เมื่อมาอยู่ในลาลีกาเขาไม่ค่อยได้รับโอกาสเท่าไรนัก แถมยังปรับตัวกับระบบของทีมไม่ค่อยได้ ก่อนจะถูกลดความสำคัญลงเรื่อยๆ จนโดนปล่อยมาให้กับ เวสต์แฮมยืมตัวทั้งที่เพิ่งอยู่กับทีมไปได้แค่ 2ฤดูกาล สุดท้ายก็ขายขาดไปอยู่ในลีกรัสเซียต่อไปในปี 2016
โธมัส แฟร์มาเล่น
อีกหนึ่งกองหลังจากอาร์เซน่อลที่ถูกดึงตัวมาเมื่อปี 2014 แฟร์มาเล่นถือเป็นแข้งความหวังสูงจากผลงานที่ทำได้สมัยอยู่กับทัพปืนโต แต่การมาที่แดนกระทิงดุเขากลับพกความเปราะบางของร่างกายมาด้วย ทำให้ในฤดูกาลแรกของเขาได้ลงสนามไปเพียงนัดเดียวคือนัดสุดท้ายของฤดูกาลเท่านั้น หลังจากนั้นซีซั่นถัดมาลงเล่นไปได้แค่ 3นัด ก็เจออาการเจ็บเล่นงานอีก ซึ่งก็มีอาการเจ็บรบกวนแบบนี้ตลอดช่วงที่อยู่ในถิ่นคัมป์นู ทำให้ช่วงเวลา 5ปีที่อยู่กับทีม แฟร์มาเล่นได้ลงสนามไปเพียงแค่ 53นัดรวมทุกรายการเท่านั้น ก่อนที่จะโดนปล่อยตัวไปให้กับ วิสเซิล โกเบ ในเจลีกต่อไปจนถึงปัจจุบัน
