ไม่ใช่แค่ครองบอล : สิงห์บลูเปลี่ยนไปอย่างไรในมือทูเคิ่ล

 

แม้การคุมทีมนัดแรกของ โธมัส ทูเคิ่ล กับ เชลซี จบลงด้วยผลเสมอกับ วูล์ฟแฮมป์ตัน แบบไร้ประตูในสแตมฟอร์ด บริดจ์ เมื่อวันพุธที่ 27 มกราคมที่ผ่านมา 

 

แต่สิ่งที่คนสังเกตุถึงจุดเด่นของทีมได้ชัดเจนคือการครองบอลที่เหนือกว่าตลอด 90 นาที โดยคิดเป็น 79 เปอร์เซนต์ แต่ว่ายังมีอีกหลายจุดที่เปลี่ยนแปลงไปจากยุคของ แฟรงค์ แลมพาร์ด พอสมควร ใมเกมลีกนัดล่าสุด

 

ว่าแต่ส่วนไหนที่เปลี่ยนแปลงไปจากเกมนัดดังกล่าว รวมถึงเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร UFA ARENA จะพาไปวิเคราะห์ผ่านบทความนี้กัน 

 

 

เลือกใช้ประสบการณ์เหนือดาวรุ่ง

 

Chelsea 0-0 Wolves: Thomas Tuchel tenure begins with underwhelming draw |  Football News | Sky Sports

 

เหล่าแข้งเยาวชนของเชลซีหลายคนได้รับโอกาสลงเล่นเป็นตัวหลักในช่วงที่ แลมพาร์ด คุมทีม แต่ในเกมแรกอย่างเป็นทางการของ ทูเคิ่ล มีเพีย คัลลั่ม ฮัดสัน โอดอย เท่านั้นที่เป็นตัวจริง ส่วนรายอื่น ๆ อย่าง แทมมี่ อับราฮัม, รีช เจมส์ หรือ เมสัน เม้าท์ กลายเป็นตัวสำรองทั้งหมด

 

จริง ๆ กุนซือชาวเยอรมันกล่าวไว้ก่อนเกมใน สแตมฟอร์ด บริดจ์ เกี่ยวกับแนวโน้ม 11 ตัวจริงไว้แล้วว่า “ความคาดหวังนั้นสูง และความกดดันตึงเครียดก็สูง ดังนั้น เราจึงเน้นไปที่ประสบการณ์เล็กน้อย”

 

ติอาโก้ ซิลวา เป็นหนึ่งใน 3 แผงหลังร่วมกับ เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า และ อันโตนิโอ รูดิเกอร์ ซึ่งมีอายุรวมกัน 94 ปี ขณะที่ จอร์จินโญ่ เล่นคู่กับ มาเตโอ โควาซิช ในแดนกลาง และเลือกใช้ โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ วัย 34 ปีเป็นหน้าเป้า

 

ฮัดสัน-โอดอย, ไค ฮาเวิร์ตซ์ และ เบน ชิลเวลล์ เป็นนักเตะหนุ่ม  3 คนที่เป็นตัวจริง นอกนั้นที่เหลืออีก 8 รายมีค่าเฉลี่ยอายุเกือบแตะ 30 ปีทั้งสิ้น

 

อย่างไรก็ตาม นี่อาจไม่ใช่แนวทางการเลือกทีมของ ทูเคิ่ล ในระยะยาวเท่าไหร่ เพราะเขาเองก็มองว่านี่เป็นการเลือก 11 ตัวจริงที่ไม่ยุติธรรมเท่าไหร่นัก หลังจากได้คุมทีมฝึกซ้อมเพียงหนเดียว นับตั้งแต่ถูกแต่งตั้งเป็นกุนซืออย่างเป็นทางการในวันอังคาร และผลเสมอในเกมนั้นก็พอเข้าใจได้จากการเตรียมทีมที่น้อยนิด รวมถึงฟอร์มการเล่นที่ย่ำแย่ในช่วงที่ผ่านมา

 

อย่างน้อย อับราฮัม และ เม้าท์ ก็สร้างโอกาสได้พอสมควร หลังถูกเปลี่ยนลงมาเป็นตัวสำรองในช่วงท้ายเกม และคาดว่าแฟน ๆ คงได้เห็นแข้งเยาวชนลงสนามมากขึ้นในเกมพบกับ เบิร์นลี่ย์ วันอาทิตย์นี้

 

 

เปลี่ยนมาใช้หลังสาม

 

Player Ratings: Chelsea 0-0 Wolves | Premier League - Sports Illustrated  Chelsea FC News, Analysis and More

 

เชลซี มักเล่นในระบบ 4-3-3 ภายใต้การคุมทีมของ แลมพาร์ด แต่เมื่อการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น ทูเคิ่ล ก็ไม่รอช้าปรับให้ ซิลวา, อัซปิลิกวยต้า และ รูดิเกอร์ เล่นร่วมกันในระบบหลัง 3

 

แม้ไม่มีอะไรการันตีได้ว่า กุนซือชาวเยอรมันจะใช้ระบบหลัง 3 แบบชัวคราวแบบในเกมดวล วูล์ฟส์ หรือยึดติดระบบนี้แบบยาว ๆ แต่นี่เป็นเพียงครั้งที่ 2 เท่านั้นที่ สิงห์บลู ใช้เซ็นเตอร์แบ็ค 3 คนในพรีเมียร์ลีก หลังเกมที่เสมอกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 0-0 เมื่อเดือนตุลาคมปีก่อน

 

ภาพรวมต่าง ๆ อาจดูติดขัดไม่สามารถเปลี่ยนการครองบอลเป็นโอกาสโจมตีได้จะแจ้งนัก แต่อย่างน้อย ทูเคิ่ล ก็กระตุ้นให้ทีมเล่นเกมรับได้ขึ้นจนเกมคลีนชีทได้ หลังก่อนหน้านี้เสียไปถึง 9 ประตูจาก 5 เกมหลังสุดในลีก

 

โอกาสที่ดีที่สุดของ วูล์ฟส์ ในเกมนั้นคือจังหวะที่ เปโดร เนโต้ ชิพบอลข้ามคานออกไปนิดเดียวในครึ่งหลัง แต่พวกเขาก็โดน สิงห์บลู ประกบติดจนมีโอกาสยิงเพียง 4 ครั้งเท่านั้น ซึ่งน้อยที่สุดสำหรับพวกเขาในฤดูกาลนี้ และไม่มีลูกไหนเลยที่เข้ากรอบ

 

คำถามที่ตามมาก็คือ เมื่อเกมรับดูแข็งแกร่งขึ้นจะส่งผลต่อเกมรุกของ เชลซีหรือไม่?

 

 

ครองบอลได้โล่

 

Chelsea 0-0 Wolves LIVE! Premier League result, latest news and reaction  from Tuchel's first game in charge | Evening Standard

 

“ผมหวังว่าเราจะเล่นเกมรุกและกล้าเล่นกับบอล” ทูเคิ่ล กล่าวเมื่อถูกถามถึงสไตล์การเล่นที่เขาตั้งใจสร้างให้ เชลซี ก่อนเกมวันพุธที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม จากหลักฐานและผลงานในเกมแรก เขาอาจต้องใช้เวลาซักพักในการสร้างให้ทีมเล่นอย่างที่ต้องการ

 

สิงห์บลู เป็นฝ่ายครองบอลได้สมบูรณ์แบบจาก 78.9 % ตลอดทั้งเกม ซึ่งมากกว่าสโมสรไหนในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ และจ่ายบอลมากถึง 887 ครั้ง เป็นรองแค่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในเกมที่ถล่ม เวสต์บรอม 5-0 ในวันอังคาร

 

แต่ที่ไม่เหมือนกับสิ่งที่ ซิตี้ บรรเลงเพลงแข้งใน เดอะ ฮอว์ธอร์น ก็คือการเข้าทำ เพราะ เชลซี สร้างโอกาสเจาะเข้าไปไม่มากนัก และการเคาะบอลไปมาในแดนกลางชวนให้นึกถึงทีมสมัยที่ เมาริซิโอ ซาร์รี่ คุมอยู่ไม่น้อย และเชื่อว่าแฟนบอลของพวกเขาก็คงไม่ชอบใจเท่าไหร่

 

โอกาสที่ชัดเจนในครึ่งแรกมีเพียงไม่กี่ครั้ง นั่นก็คือจังหวะที่ ชิรูด์ ชาร์จบอลจากลูกเปิดเรียดของ ฮัดสัน โอดอย ในระยะ 6 หลาไม่ได้ และต้องรอจนถึงครึ่งหลังกว่าจะพัฒนาขึ้น

 

ชิลเวลล์ ยิงด้วยซ้ายออกอย่างน่าเสียดาย หลัง ฮาเวิร์ตซ์ จ่ายตัดเข้าในได้อย่างสวยงาม ขณะที่ลูกยิงไกลปั่นนอกกรอบของ โควิซิช ก็หลุดออกไปนิดเดียว และลูกยิงของ โอดออ ก็ถูก รุย พาทริซิโอ เซฟไว้ได้ 

 

นี่อาจพอเข้าใจได้ว่าเกมรับของ วูล์ฟแฮมป์ตัน แข็งแกร่งและมีวินัยทุกคน แต่ถึงอย่างนั้นก็คงต้องบอกว่า เชลซี ยังทำได้ไม่ดีพอกับการคว้า 3 แต้มในเกมนี้

 

 

ฮัดสัน-โอดอย กับการเล่นเป็นวิงแบ็ค

 

Player Ratings: Chelsea 0-0 Wolves | Premier League - Sports Illustrated  Chelsea FC News, Analysis and More

 

ฮัดสัน-โอดอย ได้ลงสนามเพียง 414 นาทีในพรีเมียร์ลีก ภายใต้การคุมทีมของ แลมพาร์ด ช่วงครึ่งฤดูกาลแรก แต่เขาได้ลงเป็นตัวจริงกับ นัดแรกที่ ทูเคิ่ล คุมทีม พร้อมกับตำแหน่งใหม่ นั่นก็คือ วิงแบ็คฝั่งขวา และทำผลงานได้โดดเด่นใช้เล่น

 

นอกจากจังหวะที่จ่ายบอลเรียดให้ ชิรูด์ แข้งวัย 20 ปี ก็พยายามครอสบอลเข้าไปทุกครั้งที่มีโอกาส และดวลกับ รายาน เอต-นูรี ตลอดเกม เขาก็กลายเป็นผู้เล่นของ เชลซี ที่มีแววคุกคามทำอันตรายเกมรับของทีมเยือนได้มากที่สุด 

 

เกมนั้นนั้น โอดอย ครอสบอลไปทั้งสิ้น 11 หน แม้ว่าจะไม่เข้าเป้าแม้แต่ลูกเดียว แต่ก็เป็นเพราะเพื่อนร่วมทีมของเขาไม่สามารถเข้าถึงบอลได้ทันทวงที มากกว่าที่เขาจะเปิดบอลเสียเอง

 

จริงอยู่ที่ โอดอย อาจจะหลุดตำแหน่งไปบ้าง แต่ตำแหน่งนี้ก็คงเวลาปรับตัวพอสมควรสำหรับนักเตะที่คุ้นชินกับการเล่นเป็นปีก และมีแววทำได้ดีขึ้นด้วย เนื่องจากในเกมนั้นไม่มีแข้งเชลซีคนไหนเข้าปะทะได้มากกว่าเขา รวมถึงเกมรับก็ทำได้เยี่ยม เช่นในจังหวะที่สกัดบอลจาก เลอันเดอร์ เดนด็องเกอร์ ที่กำลังจับบอลจะง้างเท้ายิง

 

ช่วงท้ายเกม โอดอย ถูกขยับไปเล่นฝั่งซ้าย หลัง คริสเตียน พูลิซิช ถูกเปลี่ยนตัวลงมา และมีจังหวะทีเด็ดด้วยการลากตัดเข้าในและปั่นด้วยขวา แต่น่าเสียดายที่ยังไม่ผ่าน รุย พาทริซิโอ้ ไปได้ แต่ก็เห็นได้ชัดว่า ตัวรุกวัย 20 ปี มีความสามารถหลากหลายให้กุนซือคนใหม่ของ เชลซี ได้เลือกใช้งานพอตัวเลย

 

 

ฮาเวิร์ตซ์ในแดนกลาง

 

Chelsea 0-0 Wolves: Player ratings as Thomas Tuchel's first game ends  goalless

 

ขณะที่ ติโม แวร์เนอร์ กลายเป็นตัวสำรองที่ไม่ถูกเปลี่ยนลงสนาม และอาจต้องใช้เวลาเรียกความมั่นใจซักพัก หลังยิงไม่ได้เลยจาก 11 นัดหลังในลีก เพื่อนร่วมชาติของเขาอย่าง ฮาเวิร์ตซ์ กลับไปได้โอกาสเป็นตัวจริง และทำผลงานได้ไม่เลวเลยทีเดียว

 

แม้จะเริ้มต้นชีวิตค้าแข้งในอังกฤษได้ลำบากไม่แพ้กัน แต่ในเกมแรกของ ทูเคิ่ล กองกลางวัย 21 ปี เป็นจุดเริ่มต้นในการสร้างเกมบุก และเป็นครั้งแรกที่เขาได้ลงเล่นเต็ม 90 ในพรีเมียร์ลีกนับตั้งแต่เดือนตุลาคมปีก่อนด้วย

 

ในแผนของ ทูเคิ่ล ฮาเวิร์ตซ์ เป็นหนึ่งใน 2 นักเตะที่รับบทบาทเบอร์ 10 คอยปั้นเกมด้านหลัง ชิรูด์ ร่วมกับ ฮาคิม ซีเยค แต่กองกลางทีมชาติเยอรมัน จะเคลื่อนที่หาไปมาบริเวณริมเส้น 2 ฝั่งเช่นกัน

 

จังหวะเด่น ๆ ก็มีเห็นพอสมควร เช่น ลูกจ่ายเข้าในให้ ชิลเวลล์ ซัดโอกาสทองในเกมนั้น รวมถึงการวิ่งขึ้นลงตลอดเกม โดยเคลื่อนไปถึง 11.3 กิโลเมตร มากกว่าแข้งสิงห์บลูทุกคนในสนาม แต่ก็ยังต้องใช้เวลาปรับตัวต่อไปในแดนผู้ดี ทั้งการที่เลี้ยงบอลไม่ผ่านคู่แข่งซักหน หรือยิงไม่เข้ากรอบจากโอกาสที่เขามี 3 ครั้ง 

 

อย่างไรก็ตาม ก็ยังเชื่อว่า ฮาเวิร์ตซ์ จะเป็นผู้เล่นที่มีบทบาทสำคัญภายใต้การทำทีมของ ทูเคิ่ล แน่นอน

 

 

อาจไม่เปลี่ยนทันตาแต่ด้านดีก็ยังมี

 

Mason Mount's Chelsea cameo shows Thomas Tuchel why Frank Lampard rated  Chelsea midfielder so highly - Eurosport

 

เชลซี อาจไม่ได้เปลี่ยนแปลงแบบทันทีที่มีการแต่งตั้งกุนซือคนใหม่ แต่มันก็ไม่ยุติธรรมเช่นกันในการตัดสิน ทูเคิ่ล จากผลการแข่งขันนัดเดียว หลังได้คุมทีมซ้อมแค่หนเดียวเท่านั้น

 

เกมวันอาทิตย์ที่จะดวลกับ เบิร์นลี่ย์ คงเห็นอะไรที่ชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับแผนและระบบการเล่นที่ ทูเคิ่ล ตั้งใจวางไว้ในทีม แต่ถึงอย่างนั้นอดีตกุนซือ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ และ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ก็ยังเห็นด้านดี ๆ ในเกมวันพุธนี้เช่นกัน

 

“เรามีความสุขมาก ๆ กับฟอร์มการเล่น เราครองเกมได้ และไม่ปล่อยให้โดนจังหวะสวนกลับจากหนึ่งในทีมที่อันตรายที่สุด” ทูเคิ่ล กล่าวหลังเกมนั้น

 

“เราจัดการได้ดี กล้าหาญทั้งการเล่นในเกมรุกแและรับ อีกทั้งตัวสำรองก็สร้างผลกระทบได้ดีในสนาม และผู้เล่นที่ไม่ได้ลงเล่นก็ยังมีทัศนคติที่ดี มันเป็นงานหนัก แต่เราก็ไม่เคยสูญเสียความจริงจัง และผมมีความสุขกับเรื่องนั้น ถ้านี่คือจุดเริ่มต้นของเรา ผมก็กำลังเฝ้ารอว่าเราจะไปจบที่ตรงไหน”

 

“มีไม่มากนักที่ต้องปรับปรุง ผมเห็นการผสมผสานที่น่าจะตื่นเต้นระหว่าง นักเตะที่มีประสบการณ์และดาวรุ่ง ผมเห็นความต้องการที่สูงมาก ๆ ของลีก ซึ่งช่วยดึงทุกอย่างออกมาจากผู้เล่นทุกคน”

 

“ผมเจอกับทีมเมื่อวานนี้ ซึ่งเปิดรับสำหรับแนวคิด, ความเชื่อ และแทคติกของเรา นี่ทำให้ผมรู้สึกดีมาก ๆ เพราะนี่เป็นสิ่งที่คุณต้องการ”

 

แนวทางของ เชลซีในมือทูเคิ่ล จะชัดเจนมากแค่ไหน เราทั้งหลายคนคงได้รู้กันมากขึ้นในเกมพบ เบิร์นลี่ย์ ช่วงสุดสัปดาห์ รวมถึงเกมนัดต่อ ๆ ไป หลังจากนี้ด้วย