โทรฟี่ และความสำเร็จ คือสิ่งที่นักฟุตบอลอาชีพทุกคนต่างใฝ่ฝันต้องการไขว่คว้ามาครองให้ได้ ไม่ว่าจะเป็นบอลถ้วยเล็กๆ, รายการใหญ่ หรือแชมป์ลีกของแต่ละประเทศในสโมสรนั้นๆ
แต่บางครั้งไม่ว่านักเตะมีฝีเท้าที่โดดเด่น หรือ มีความพยายามมากแค่ไหน ก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาเหล่านั้นจะได้สัมผัสถ้วยแชมป์ในบั้นปลาย แต่ต้องมีทั้งเพื่อนร่วมทีมที่มีคุณภาพใกล้เคียงกัน, กุนซือมากฝีมือ หรือ โชคดวง เข้ามาเกี่ยวข้องอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ด้วย
นักเตะลักษณะนี้ที่หลายคนนึกถึงเป็นคนแรกๆ คงหนีไม่พ้น สตีเว่น เจอร์ราร์ด อดีตกัปตันทีมลิเวอร์พูล ผู้ได้สัมผัสเกือบทุกแชมป์ในระดับสโมสร ยกเว้น แชมป์พรีเมียร์ลีก ที่เดอะ ค็อป ต่างเฝ้ารอมานานหลายปี
อย่างไรก็ดี อดีตกองกลางหงส์แดง ไม่ใช่นักเตะคนเดียวหรือคนแรกที่ต้องประสบชาตะกรรมน่าเศร้าแบบนั้น เพราะในปัจจุบันยังมีนักเตะหลายคนที่กำลังเดินตามรอย เจอร์ราร์ด แบบไม่รู้ตัว และกำลังหาทางหลุดพ้นจนเส้นทางนั้นอยู่
และนี่คือ 9 นักเตะฝีเท้าระดับท็อป แต่ก็ยังไม่มีโอกาสได้ชูถ้วยแชมป์ลีกแม้แต่หนเดียว
มาเร็ค ฮัมซิก | ต้าเหลียน อี้ฟ่าง
อายุ : 32 ปี
สโมสรก่อนหน้านี้ : สโลวาน บราติสลาวา, เบรสซ่า, นาโปลี
เพลย์เมกเกอร์ชาวสโลวาเกีย ต้องเห็นอดีตเพื่อนทีมสมัยค้าแข้งที่นาโปลีอย่าง เอเซเกล ลาเวซซี่, เอดิสัน คาวานี่ และ กอนซาโล่ อิกวาอิน ย้ายไปคว้าแชมป์ลีกกับสโมสรอื่น ขณะที่เขาอยู่ยาวกับทีมจนถึงฤดูกาล 2018-19 ซึ่งเป็นปี 12 ของเขากับอัซซูร่า ก่อนจะย้ายไป ต้าเหลียน อี้ฝ่างในเดือนกุมภาพันธ์ปี 2019
ตลอดเวลากว่าทศวรรษที่ ฮัมซิก รับใช้นาโปลี เขาพยายามพาทีมคว้าแชมป์ เซเรียอา ให้ได้เป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ ดีเอโก้ มาราโดน่า เคยทำไว้ในปี 1980 แต่สิ่งที่ใกล้เคียงสำหรับทีมมากที่สุดคือการเป็นแค่รองแชมป์เท่านั้น
อองตวน กรีซมันน์ | บาร์เซโลน่า
อายุ : 28 ปี
สโมสรก่อนหน้านี้ : เรอัล โซเซียดาด, แอตเลติโก้ มาดริด
ในฤดูกาลที่ อองตวน กรีซมันน์ เล่นฟุตบอลอาชีพแบบเต็มตัวเป็นหนแรก เขายิงไป 6 ลูก จาก 39 นัดให้กับ เรอัล โซเซียดาล คว้าแชมป์เซกุนด้า และกลายเป็นผู้เล่นตัวหลักของทีมในอีก 4 ปีต่อมาที่โลดแล่นอยู่ในลีกสูงสุดแดนกระทิง
ด้วยฟอร์มการเล่นที่โดดเด่น ทำให้ แอตเลติโก้ มาดริด ดึงตัวแข้งชาวฝรั่งเศสไปร่วมทีม แทนที่ ดีเอโก้ คอสต้า ที่ย้ายไปเชลซีในปี 2014 แต่ตลอด 5 ปีในสีเสื้อตราหมี เขาทำได้เต็มที่แค่รองแชมป์ใน 2 ปีหลังสุด และอันดับสามอีก 3 ครั้งเท่านั้น
ณ ตอนนี้ แข้งวัย 28 ปี คงหวังว่าช่วงเวลาอันขื่นขมเหล่านั้นคงจบลงและคว้าแชมป์ลาลีก้าได้เสียที หลังย้ายมาร่วมทีมบาร์เซโลน่าเมื่อซัมเมอร์ก่อน และพาทีมรั้งจ่าฝูงของลีกอยู่
มาร์โก รอยส์ | โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์
อายุ : 30 ปี
สโมสรก่อนหน้านี้ : รอส ไวส์ อาห์เล่น, โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค
หลังจากไม่สามารถเติบโตในทีมเยาวชนของ ดอร์ทมุนด์ได้ เขาย้ายไปเล่นกับ รอส ไวส์ อาห์เล่น และ โด่งดังกับ มึนเช่นกลัดบัค แบบเต็มตัว ก่อนจะกลับมาอยู่กับทีมรักในวัยเด็กของเขาอีกครั้งในปี 2012
เสือเหลือง เพิ่งคว้าแชมป์บุนเดสลีก้าได้ 2 สมัยติด ก่อนที่จะปีกชาวเยอรมันจะย้ายมาร่วมทีม แต่ในขณะเดียวกัน บาเยิร์น มิวนิค ที่โดนลูบคมมา 2 ปี ก็เสริมทัพแบบจัดหนักจนกลับไปเป็นทีมเบอร์หนึ่งในลีกเมืองเบียร์อีกครั้ง
จริงๆ รอยส์ กับ ดอร์ทมุนด์ เกือบคว้าแชมป์ลีกได้ตั้งแต่ฤดูกาล 2018-19 แล้ว ถ้าพวกเขาไม่ทำแต้มสะดุดจนถูกเสือใต้แซงไปก่อน และในฤดูกาลนี้ก็ไม่รู้ว่าจะลงเอยชวดแชมป์ลีกเหมือนครั้งที่แล้วหรือไม่ เนื่องจากฟอร์มตกจนตามหลังจ่าฝูง บาเยิร์น อยู่ 4 คะแนน
ปิแอร์ เอเมอริค โอบาเมยอง | อาร์เซน่อล
อายุ : 30 ปี
สโมสรก่อนหน้านี้ : แซงต์ เอเตียนน์, โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์
โอบาเมยอง ใช้เวลา 4 ฤดูกาลแรกในฟุตบอลอาชีพกับ เอซี มิลาน ในช่วงที่พวกเขาเป็นทีมใหญ่ลุ้นแชมป์ในอิตาลีอยู่ อย่างไรก็ตาม เขาก็ไม่เคยได้โอกาสลงเล่นในชุดใหญ่เลย ก่อนจะย้ายไป แซงต์ เอเตียนน์ ในปี 2011
แต่ในช่วงเวลาที่อยู่ในฝรั่งเศส กองหน้าทีมชาติกาบอง กลับแจ้งเกิดอย่างเต็มตัวและเป็นหนึ่งในดาวยิงที่หน้าจับตามองมากที่สุดในยุโรป ทำให้ ดอร์ทมุนด์ กระชากตัวไปร่วมในปี 2013 แต่ก็ไม่สามารถคว้าแชมป์ลีกเยอรมันได้อยู่ดี
โอกาสได้ชูแชมป์ลีกของ โอบาเมยอง กับอาร์เซน่อลในปัจจุบัน ก็ยังไม่แน่นอนพอๆกับอนาคตของเขาว่าจะค้าแข้งในถิ่น เอมิเรสต์ สเตเดี้ยม ในฤดูกาลหน้าต่อไปหรือไม่
โลรองต์ กอสเซียลนี่ | บอร์กโดซ์
อายุ : 33 ปี
สโมสรก่อนหน้านี้ : แก็งก็อง, ตูร์ส, ลอริยองต์, อาร์เซน่อล
2 ปีแรกในฐานะนักเตะอาชีพ กอสเซียลนี่ วนเวียนอยู่ในลีก เดอซ์ จากนั้นก็ได้โอกาสมาเล่นในลีกเอิง เป็นครั้งแรกกับ ลอริยองต์ ในปี 2009 และด้วยฟอร์มอันโดดเด่นทำให้เขาได้ย้ายทีมแบบก้าวกระโดดไปอยู่กับ อาร์เซน่อล ในเวลาต่อมา
ปราการหลังแดนน้ำหอม กลายเป็นตัวหลักของพลพรรคปืนใหญ่ และพาทีมคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ 2 สมัย แต่ในพรีเมียร์ลีก กลับทำได้ไม่ใกล้เคียงกับการลุ้นแชมป์เลย ก่อนจะเขาจะย้ายกลับไปเล่นในบ้านเกิดกับ บอร์กโดซ์ ในซัมเมอร์ก่อน
การย้ายทีมครั้งนี้ ยิ่งทำให้โอกาสคว้าแชมป์ลีกของแข้งวัย 33 ปี ห่างไกลออกไปกว่าเดิม เนื่องจากทีมของเขาตามหลัง ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ว่าที่แชมป์ลีกในฤดูกาลนี้ถึง 31 ปี
เฟร์นานโด ตอร์เรส | แขวนสตั๊ด
อายุ : 35 ปี
สโมสรก่อนหน้านี้ : แอตเลติโก้ มาดริด, ลิเวอร์พูล, เชลซี, เอซี มิลาน, ซากัน โตสุ
หากพิจารณาถึงอาชีพค้าแข้งของ เฟร์นานโด ตอร์เรส ก็ถือว่าเขาประสบความสำเร็จไม่แพ้ใคร ไม่ว่าจะเป็นแชมป์ยูโร 2 สมัยกับ แชมป์โลกกับ ทีมชาติสเปน หรือ ถ้วยยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก กับ เชลซีในปี 2012
แต่ที่น่าเหลือเชื่อสุดๆคือ เอล นินโญ่ ไม่มีโอกาสได้สัมผัสแชมป์ลีกเลยแม้แต่ครั้งเดียว และช่วงที่ใกล้เคียงคว้าแชมป์ลีกมากที่สุดคือ ตอนที่เขาค้าแข้งกับลิเวอร์พูล และถูกแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ปาดหน้าคว้าแชมป์ไปในปี 2009 ทั้งๆที่แพ้แค่ 2 นัดเท่านั้น อีกทั้งการย้ายไปเล่นในช่วงบั้นปลายอาชีพกับ ซากัน โตสุ ในแดนปลาดิบ ก็ไม่ได้ช่วยให้มีโอกาสคว้าแชมป์เพิ่มมากขึ้น และแขวนสตั๊ดไปแบบไม่มีรางวัลติดไม้ติดมือ
ดิมิทรี ปาเยต | โอลิมปิก มาร์กเซย
อายุ : 32 ปี
สโมสรก่อนหน้านี้ : เอเอส เอ็กเซลซิเออร์, น็องต์ส, แซงต์ เอเตียนน์, ลีลล์, มาร์กเซย, เวสต์แฮม
บางทีการที่เขาเพิ่งมาโชว์ฟอร์มได้โดดเด่นเป็นพิเศษในช่วง 4-5 ปี หลังสุด ไม่แปลกที่ ดิมิทรี ปาเยต จะไม่เคยคว้าแชมป์ลีกเหมือนนักเตะคนอื่นๆ
เพลย์เมกเกอร์ชาวฝรั่งเศส ย้ายมาร่วมทีมลีลล์ในปี 2011 หลังจากที่ เอเด็น อาซาร์ กับ แชร์วินโญ่ พาทีมคว้าแชมป์ลีกแบบสุดเซอร์ไพรส์ แต่การเข้ามากลุ่มกาตาร์ใน เปแอชเช ทำให้การคว้าแชมป์ลีกของเขายากเข้าไปใหญ่ ต่อให้เป็นทีมลีลล์ หรือ มาร์กเซย ทั้งในปี 2013 หรือ ปี 2017 ก็ตาม
ฮูโก้ โยริส | ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์
อายุ : 33 ปี
สโมสรก่อนหน้านี้ : นีซ, โอลิมปิก ลียง
กัปตันทีมชาติฝรั่งเศสอย่าง ฮูโก้ โยริส เคยคว้าแค่แชมป์เฟร้นช์ คัพ รายการเดียวเท่านั้นในระดับสโมสร ในช่วงที่เฝ้าเสาให้ โอลิมปิก ลียง และแชมป์โลกกับ เลอ เบลอส์ ในปี 2018 คงเป็นรางวัลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขาแล้ว
ความสำเร็จระดับสโมสรก็ยังไม่เป็นรูปเป็นร่างเท่าไหร่นัก หลังย้ายมาร่วมทีมไก่เดือนทองในปี 2012 และเจ้าตัวคงหวังว่าขอคว้าแชมป์ได้ซักรายการเป็นอย่างน้อย ก่อนหมดสัญญากับทีมในปี 2022 ไม่ว่าจะเป็นแชมป์ลีก หรือบอลถ้วยก็ตาม
ฆวน มาต้า | แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
อายุ : 31 ปี
สโมสรก่อนหน้านี้ : เรอัล มาดริด คาสติญ่า, บาเลนเซีย, เชลซี
หนึ่งในผลผลิดเยาวชนของ เรอัล มาดริด ที่ไม่สามารถเลื่อนมาเล่นในทีมชุดใหญ่ได้ แต่กลับแจ้งเกิดกับทีมอื่น กลายเป็นแข้งตัวหลักของ บาเลนเซีย และคว้าแชมป์ โคปา เดล เรย์ ตั้งแต่ฤดูกาลแรกที่มาเล่นให้ทีมค้างคาวเลย
หลังจาก 4 ปีในถิ่นเมสตาย่า มาต้า ได้ย้ายไปเล่นต่างแดนเป็นครั้งแรกกับ เชลซีในปี 2011 และกลายเป็นตัวหลักประจำทีมอย่างรวดเร็ว แต่ก็ย้ายไปอยู่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในเวลาต่อมา หลังไม่ได้โอกาสลงเล่นมากนักในยุคที่ โชเซ่ มูรินโญ่ กลับมาคุมทีมสิงห์บลูครั้งที่ 2
แต่ก็น่าประหลาดใจอยู่ไม่น้อยที่แข้งร่างเล็กชาวสแปนิช เคยสัมผัสแชมป์แทบทุกรายการกับ 2 ทีมยักษใหม่ในแดนผู้ดีแล้ว ยกเว้นเพียงแค่แชมป์ลีกที่ มาต้า ทำได้แค่มองดูเท่านั้น