ไม่ใช่แค่เซอร์ไพรส์ : 7 ดีลยอดเยี่ยมวันสุดท้ายตลาดแข้งช่วงซัมเมอร์

 

ตลาดนักเตะได้เดินทางมาถึงวันสุดท้ายเรียบร้อยแล้ว แม้ในช่วง 2-3 ปีหลังสุดจะไม่ค่อยที่ดีลใหญ่โตชวนตื่นเต้นเท่าไหร่ แต่ถ้าย้อนไปไกลกว่านั้นหลายสโมสรเคยมีหนึ่งในดีลที่ยอดเยี่ยมสุดที่ในวันนี้

 

ลึกๆแล้วหลายคนรู้ดีว่ามีโอกาสไม่มากที่สโมสรส่วนใหญ่จะปิดดีลใหญ่ได้ทันภายในวันเดียว แต่ก็อดตื่นเต้นกับช่วงเวลานี้ที่หลายคนรู้จักกันในชื่อ ‘คืนหมาหอน’ ไม่ได้จริงๆ เนื่องจากสโมสรพยายามอย่างเต็มที่ในการเพิ่มเติมคุณภาพให้กับทีม ในขณะที่ฤดูกาลยังเริ่มต้นเพียงไม่กี่นัด

 

ด้วยเหตุนี้ UFA ARENA จะพาไปพบกับ 7 การเซ็นสัญญาที่ยอดเยี่ยมที่สุดในวันสุดท้ายของตลาดนักเตะของช่วงซัมเมอร์ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

 

 

คาร์ลอส เตเบซ | เวสต์แฮม 

 

 

ในวันสุดท้ายของตลาดนักเตะช่วงซัมเมอร์ปี 2006 คาร์ลอส เตเบซ ย้ายมาค้าแข้งกับ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด และเปิดตัวพร้อมกับ ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ เพื่อนร่วมชาติชาวอาร์เจนไตน์ ที่ย้ายไปเล่นกับ ลิเวอร์พูล แบบยืมตัวใน 6 เดือนต่อมา

 

ขณะที่ เตเบซ คงค้าแข้งในถิ่น อัพตัน ปาร์ค ต่อไป พร้อมทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมจนช่วยให้ขุนค้อน หนีตกชั้นได้สำเร็จ โดยมีไฮไลท์ในนัดสุดท้ายที่ยิงประตูชัยในเกมเฉือน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-0 ก่อนจะย้ายไปค้าแข้งกับ ปีศาจแดงในฤดูกาลต่อมา

 

อย่างไรก็ตาม แฟนบอลเชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ยังคงโกรธกับดีลนี้ไม่หาย เนื่องจากเวสต์แฮม ติดต่อดีลนี้ผ่าน เคีย ชูรับเชียน เจ้าของร่วมบุคคลที่ 3 ให้ขายนักเตะให้พวกเขา ซึ่งในยุคนั้น เจ้าของร่วมบุคคลที่ 3 ยังไม่ถูกแบนจากฟีฟ่า และถ้าหากไม่มี 7 ประตูจาก 10 นัดสุดท้ายของ เตเบซ ทีมดาบดู่ก็คงอยู่รอดในลีกสูงสุดเช่นกัน

 

 

แอชลี่ย์ โคล | เชลซี

 

 

เชลซี ตัดสินใจส่ง วิลเลี่ยม กัลลาส กองหลังตัวเก่งที่เหลือสัญญากับทีมปีเดียว พร้อมกับเงินอีก 5 ล้านปอนด์ เพื่อคว้า แอชลี่ย์ โคล แบ็คซ้ายจาก อาร์เซน่อล ที่ต้องการย้ายมาเล่นใน สแตมฟอร์ด บริดจ์ ในปี 2006 และนี่กลายเป็นหนึ่งในดีลคืนหมาหอนที่ยอดเยี่ยมที่สุดเลยก็ว่าได้

 

แบ็คชาวอังกฤษ ใช้เวลาไม่นานในการก้าวเป็นแข้งคนสำคัญของ สิงห์บลู และถูกยกให้เป็นแบ็คซ้ายเบอร์ต้นๆในยุโรป หลังพาทีมประสบความสำเร็จมากมาย ทั้งแชมป์พรีเมียร์ลีก 1 สมัย, แชมป์เอฟเอ คัพ 4 สมัย, ลีก คัพ 1 สมัย และแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก กับ ยูโรป้า ลีก อย่างละสมัย

  

“ผมมีช่วงเวลาที่ดีที่นั่น (อาร์เซน่อล) และแน่นอนว่าผมคิดถึงเพื่อนเก่าๆ แต่ผมต้องก้าวต่อไป และผมคว้าแชมป์ทุกอย่างเท่าที่ผมสามารถทำได้ ดังนั้นผมคงไม่บอกว่าผมเสียใจเมื่อมองย้อนกลับไป ไม่เลย” โคล กล่าวกับ ITV ช่องโทรทัศน์ในบ้านเกิด

 

 

ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ | แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

 

 

หนึ่งในดีลที่น่าตื่นเต้นที่สุดในวันสุดท้ายของตลาดนักเตะของปี 2008 เมื่อ ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ ย้ายมาร่วมทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แม้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จะเป็นฝ่ายยื่นข้อเสนอให้กับ กองหน้ามาดศิลปินก่อนก็ตาม

 

เดิมที ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ต้นสังกัด ต้องการปล่อย เบิร์บ ให้กับ เรือใบสีฟ้า หลังจวกปีศาจแดงว่าพยายามทำให้นักเตะของคนไขว้เขว อย่างไรก็ตาม กองหน้าชาวบัลแกเรีย ปฏิเสธจะคุยกับ ซิตี้ และต้องการย้ายไปเล่นใน โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เท่านั้น ก่อนที่สเปอร์ส จะยอมทำตามด้วยการรับข้อเสนอจาก ยูไนเต็ด 30.75 ล้านปอนด์ และพ่วง เฟรเซอร์ แคมปเบลล์ มาใช้งานในสัญญายืมตัวด้วย

 

ซิตี้ หันไปคว้า โรบินโญ่ มาแทน แต่ยูไนเต็ด เป็นฝ่ายที่ประสบความสำเร็จมากกว่าในเวลาต่อมา เมื่อ เบอร์บาตอฟ คว้าแชมป์เมเจอร์ 6 รายการ ตลอด 4 ปีกับสโมสร ร่วมถึงคว้าดาวซัลโวในฤดูกาล 2010-11 ด้วย

 

 

เวย์น รูนี่ย์ | แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

 

 

“ผมคิดว่าเราได้นักเตะดาวรุ่งที่ดีที่สุดของประเทศเท่าที่เคยเห็นมาในรอบ 30 ปี มาร่วมทีม” เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กล่าวในวันที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดตัว เวย์น รูนี่ย์ เมื่อปี 2004

 

ค่าตัว 25.6 ล้านปอนด์ ที่จ่ายให้ เอฟเวอร์ตัน เป็นการลงทุนที่คุ้มค่าสุดๆ เพราะตลอด 13 ปีในโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด กองหน้าพันธ์ุหมูเดือดพาปีศาจแดงประสบความสำเร็จมากมาย ทั้งแชมป์พรีเมียร์ลีก 5 สมัย, เอฟเอ คัพ 1 สมัย, ลีก คัพ 3 สมัย และยูฟ่า แชมเปี้ยนสลีก กับ ยูโรป้า ลีกอย่างละสมัย

 

นอกจากแชมป์เมเจอร์ 16 รายการ รูนยังทำสถิติเป็นดาวซัลโวตลอดกาลของยูไนเต็ด หลังกดไป 253 ประตู จาก 559 นัดในทุกรายการ

 

 

โคล้ด มาเกเลเล่ | เชลซี

 

 

ในปี 2003 เชลซี ที่ได้โรมัน อับราโมวิช มหาเศรษฐีชาวรัสเซีย เป็นเจ้าของสโมสรคนใหม่ได้คว้า โคล้ด มาเกเลเล่ จาก เรอัล มาดริด มาร่วมทีม ด้วยค่าตัว 16.6 ล้านปอนด์ และกลายเป็นจุดเริ่มต้นยุคทองของ สิงห์บลู ในเวลาต่อมา

 

“ทำไมต้องเอาสีทองมาทารถเบนท์ลี่ย์ ในเมื่อคุณเสียเครื่องยนต์ทั้งหมดไปแล้ว?” ซีเนดีน ซีดาน เคยกล่าวเอาไว้ในตอนที่ โลส บลังโกส คว้า เดวิด แบ็คแฮม มาแทนที่ตัวรับห้องเครื่องชาวฝรั่งเศส

 

เมื่อ เชลซี มีนักเตะอย่าง มาเกเลเล่ คุมแดนกลาง ส่งผลให้ แฟรงค์ แลมพาร์ด โดดเด่นขึ้นทันตา ก่อนที่ทั้งคู่จะกลายเป็นคนสำคัญพาทีมคว้าแชมป์ลีกได้ 2 สมัยติด หลังการมาของ โชเซ่ มูรินโญ่ กุนซือฝีปากกล้าวชาวโปรตุกีสในปี 2004

 

 

ฮูโก้ โยริส | สเปอร์ส

 

 

ฮูโก้ โยริส เป็นกัปตันทีมชาติฝรั่งเศส และมีชื่อเป็นหนึ่งในผู้รักษาประตูเบอร์ต้นๆของยุโรปแล้ว ในตอนที่ สเปอร์ส คว้าเขามาเฝ้าเสาให้จาก โอลิมปิก ลียง ด้วยค่าตัว 15 ล้านปอนด์

 

แบรด ฟรีเดล ยังคงเป็นนายทวารเบอร์หนึ่งของ ไก่เดือยทอง อยู่ในช่วงแรกๆที่ โยริส ย้ายเข้ามา แต่ต่อมา นายด่านเลือดน้ำหอมก็ก้าวขึ้นแย่งมือหนึ่งได้สำเร็จหลังจากนั้นเพียงไม่นาน

 

“เมื่อผมย้ายมา สเปอร์ ในตอนแรก ผมบอกว่าสโมสรแบบนี้ต้องมี นายทวารหนุ่มที่สามารถเล่นให้สโมสรได้นานเป็น 10-14 ปี หรือบางทีอาจจะมากกว่านั้น ผมเชื่อว่าตอนนี้ เรามีนายทวารนั้นในตัว ฮูโก้ เขาจะเป็นเบอร์หนึ่งที่นี่อีกหลายปีเลยล่ะ” ฟรีเดล กล่าวกับ เดอะ ซัน ในปี 2014

 

เรื่องนั้นเป็นไปอย่างที่ โกลชาวอเมริกัน กล่าวไว้ไม่มีผิด โยริส เป็นมือหนึ่งของทีมเสมอมานับตั้งแต่นั้น และไม่มีแนวโน้มว่าใครจะมาตำแหน่งตัวจริงไปจากเขาได้เลย ณ ตอนนี้

 

 

ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ท | สเปอร์ส

 

 

ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ท กลายเป็นกองกลางคนสำคัญของ สเปอร์ส อย่างรวดเร็ว หลังย้ายมาร่วมทีมในวันสุดท้ายของตลาดนักเตะปี 2010 ด้วยค่าตัวเพียง 8 ล้านปอนด์จาก เรอัล มาดริด 

 

“มันเป็นงานด่วนตอนท้าย ผมคิดว่าเขา (ฟาน เดอร์ ฟาร์ท) จะย้ายไป บาเยิร์น มิวนิค ด้วยค่าตัว 18 ล้านปอนด์ และจู่ๆเขาก็มีค่าตัวถูกลงมากซะงั้น” แฮร์รี่ เร้ดแนปป์ ย้อนความหลังในตอนนั้น

 

“พวกเขาบอกให้ผมทราบตอนราวๆ 4 โมงเย็น ว่าเขามีค่าตัวอยู่ที่ 8 ล้านปอนด์ และด้วยเงินขนาดนั้นกับนักเตะระดับท็อปที่จะช่วยยกระดับให้เราได้ ค่าตัวจึงลดลงอย่างมากเนื่องจากใกล้ถึงช่วงเส้นตายแล้ว”

 

แม้จะอยู่กับทีมเพียง 2 ปี แต่เพลย์เมกเกอร์ชาวดัตช์ ก็เป็นที่จดจำของเหล่ายิด อาร์มี่ ไม่รู้ลืม ทั้งการแอสซิสต์สวยๆให้กับ ปีเตอร์ เคร้าช์, พาทีมทะลุรอบ 8 ทีมสุดท้ายแชมเปี้ยนส์ลีกในฤดูกาล 2010-11 หรือช่วยให้ ไก่เดือยทองคว้าอันดับ 5 และ 4 ในฤดูกาล 2010-11, 2011-12 ตามลำดับ