ไม่ใช่แค่เรือดำน้ำ : จัดทีม 22,500 ล้านบาท ซื้อใครได้บ้างในงบนี้

 

เรื่องการอนุมัติงบ 22,500 ล้านบาทเพื่อจัดซื้อเรือดำน้ำ 2 ลำของกองทัพเรือ กลายเป็นประเด็นใหญ่ที่ประชาชนชาวไทยพูดถึงอย่างมากในช่วงวันสองวันที่ผ่านมา

 

จากกรณีที่ อนุกรรมาธิการครุภัณฑ์ฯ ลงมิติ 5-4 อนุมัติงบประมาณจัดซื้อเรือดำน้ำของ กองทัพเรือ 2 ลำ 22,500 ล้านบาท ทำให้หลายคนต่างตั้งคำถามว่า การใช้จ่ายดังกล่าวของกองทัพเป็นสิ่งที่เหมาะสมหรือไม่กับปัญหาเศรษฐกิจที่ประเทศกำลังเผชิญอยู่ ณ เวลานี้

 

ทว่า ถ้าเรานำเงินจำนวนมากมายมหาศาลขนาดนี้ นำมาใช้สร้างทีมในวงการฟุตบอลล่ะ ทีมนั่นจะแข็งแกร่งมากแค่ไหน ทาง UFA ARENA จึงลองจัดทีมด้วยงบ 22,500 ล้านบาท ว่าจะสามารถดึงยอดนักเตะคนไหนมาร่วมทีมได้บ้างผ่านบทความชิ้นนี้ โดยอ้างอิงค่าตัวจาก transfermarkt  

 

ปล. 22,500 ล้านบาท เท่ากับ 604 ล้านยูโรโดยประมาณ

 

 

ผู้รักษาประตู | จิอันลุยจิ บุฟฟ่อน (52.88 ล้านยูโร)

 

 

ก่อนหน้าที่ เกป้า อาร์ริซาบลาก้า หรือ อลิสซอน เบ็คเกอร์ จะครองตำแหน่งผู้รักษาประตูที่มีค่าตัวแพงที่สุดในโลก จิอันลุยจิ บุฟฟ่อน คือคนที่อยู่ในจุดนั้นมาก่อน

 

นายด่านชาวอิตาเลี่ยน โด่งดังอย่างมากกับ ปาร์ม่า ในช่วงปลายยุค 90 ทำให้ ยูเวนตุส ควักเงินในคลังกว่า 52.88 ล้านในปี 2001และกลายเป็นมือหนึ่งของยอดทีมแห่งตูรินนานเกือบ 2 ทศวรรษ และคว้าแชมป์มากมายทั้ง เซเรียอา 10 สมัย, โคปป้า อิตาเลีย 4 สมัย 

 

อีกทั้งยังคว้าแชมป์กับทีมชาติอิตาลีได้ในปี 2006 ด้วย น่าเสียดายที่ บุฟฟ่อน ไม่มีโอกาสได้สัมผัสถ้วย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เลย แม้จะเคยเข้าไปเล่นในนัดชิงชนะเลิศถึง 3 หนก็ตาม

 

 

กองหลัง | ริโอ เฟอร์ดินานด์ (46 ล้านยูโร)

 

 

รู้หรือไม่ว่า ริโอ เฟอร์ดินานด์ เคยเป็นเจ้าของสถิติกองหลังค่าตัวแพงที่สุดในโลกถึง 2 ครั้ง ตลอด 20 ปีในอาชีพค้าแข้ง

 

หนแรกคือตอนที่เขาฉายฟอร์มเก่งกับ เวสต์แฮม จนลีดส์ ยูไนเต็ด คว้าตัวไปร่วมทีมในปี 2000 ด้วยค่าตัว 26 ล้านยูโร และเป็นหนึ่งในผู้เล่นนกยูงทองชุดทะลุรอบตัดเชือกแชมเปี้ยนส์ลีกในฤดูกาล 2000-01 ด้วย แต่ด้วยปัญหาสภาพการเงินทำให้ ลีดส์ ต้องขายดาวดังของทีมออกไป ซึ่งเฟอร์ดินานด์คนพี่ก็คือหนึ่งในนั้นด้วย

 

ปี 2002 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คว้าตัว เฟอร์ดินานด์ ด้วยค่าตัวสถิติโลกอีกครั้งที่ 46 ล้านยูโร และกลายเป็นทีมที่กองหลังเลือดผู้ดีประสบความสำเร็จมากที่สุด ทั้งคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 6 สมัย, ลีก คัพ 2 สมัย, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก กับ แชมป์สโมสรโลกอย่างละสมัย

 

 

กองหลัง | เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค (84.65 ล้านยูโร)

 

 

หลังย้ายไปชูเสื้อลิเวอร์พูลได้ไม่ทันไร เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค ก็ถูกแฟนบอลบางกลุ่ม ค่อนขอดว่ามีราคาแพงเกินฝีเท้า หลังย้ายจาก เซาแธมป์ตัน ไปซบหงส์แดงด้วยค่าตัว 84.65 ล้านยูโร ซึ่งทำให้กลายเป็นกองหลังค่าตัวสูงที่สุดในโลก ณ เวลานั้น (ก่อนโดน แฮร์รี่ แม็คไกวร์ แซงหน้าในปี 2019)

 

อย่างไรก็ตาม กองหลังชาวดัตช์ ก็พิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่าเขาคุ้มค่ากับเงินทุกบาททุกสตางค์ที่สโมสรเสียไป เมื่อกลายเป็นหัวใจสำคัญในเกมรับช่วยให้ทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ คว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ปี 2019 และ แชมป์พรีเมียร์ลีกที่รอคอยมานานในปี 2020

 

 

กองหลัง | ลิลิยง ตูราม (36.15 ล้านยูโร)

 

 

นอกเหนือจาก บุฟฟ่อน ลิลิยง ตูราม เป็นนักเตะอีกคนของ ปาร์ม่า ที่ฉายแววเด่นที่ช่วยให้ทีมคว้าแชมป์ โคปปา อิตาเลีย และ ยูฟ่า คัพ ในปี 1999 และย้ายไป ยูเวนตุส พร้อมๆกับนายด่านชาวอิตาเลี่ยน ในปี 2001

 

ณ ตูริน กองหลังชาวฝรั่งเศส ได้ร่วมงานกับ ฟาบิโอ คันนาวาโร่ แนวรับคู่หูสมัยเล่นในปาร์ม่าอีกครั้ง และช่วยให้เบี่ยงโคเนรี่คว้าแชมป์ เซเรียอา 2 สมัย กับ ซุปเปอร์ โคปปา อิตาเลีย 2 สมัย

 

อย่างไรก็ตาม หลังม้าลายโดนคดี กัลโช่โปลี จนต้องหล่นไปเล่นในเซเรียบี ตูราม ก็เก็บกระเป๋าย้ายไปเล่นกับ บาร์เซโลน่า ในปี 2006 ก่อนจะแขวนสตั๊ดในอีก 2 ปีต่อมา

 

 

ตัวริมเส้นฝั่งซ้าย | พาเวล เนดเวด (45 ล้านยูโร)

 

 

จริงๆ พาเวล เนดเวด โด่งดังมาตั้งแต่ค้าแข้งกับ ลาซิโอ แล้ว เมื่อเขาเป็นหนึ่งในนักเตะชุดคว้าแชมป์ เซเรียอา ในปี 2000 ร่วมกับ โรเแบร์โต้ มันชินี่, ซินิซ่า มิไฮโลวิช, อเลสซานโดร เนสต้า หรือ ฮวน เซบาสเตียน เวรอน 

 

ไม่แปลกที่ ยูเวนตุส ซึ่งในขณะนั้นห่างหายแชมป์สคูเด็ตโต้ไป 3 ปีติด จะลงทุนคว้าปีกจอมพริ้วชาวเช็กมาร่วมทีมด้วยค่าตัว 45 ล้านยูโร ในปี 2001และเขาก็พาทีมคว้าแชมป์ลีกได้ตั้งแต่ปีแรกในตูริน และป้องกันแชมป์ได้ในปีต่อมา

 

แม้ ม้าลาย จะโดนคดีกัลโช่โปลีเล่นงานจนร่วงไปเริ่มใหม่ในลีกรอง แต่ เนดเวด ก็เป็นหนึ่งในดาวดังไม่กี่คนที่เลือกค้าแข้งกับสโมสรต่อไป และหลังพาทีมเลื่อนชั้นกลับมาใน เซเรียอา ได้สำเร็จในปี 2007 เขาก็ค้าแข้งต่อไปอีก 2 ฤดูกาล ก่อนประกาศเลิกเล่นอย่างเป็นทางการในนปี 2009 

 

 

กองกลาง | ชาบี อลอนโซ่ (34.5 ล้านยูโร)

 

 

แฟนบอลลิเวอร์พูล ต่างตกใจกับการตัดสินใจของทีมรัก เมื่อพวกเขาเลือกปล่อย ชาบี อลอนโซ่ ให้กับ เรอัล มาดริด ในราคา 34.5 ล้านยูโรในปี 2009  ทั้งๆที่เขาคือกองกลางคนสำคัญที่เกือบให้ทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกในฤดูกาล 2008-09

 

นั่นเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ หงส์แดง ตกต่ำไปหลายปี แต่กลับกันนี่คือจุดเริ่มต้นที่ทำให้ ราชันชุดขาวกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้งทั้งในลาลีก้า รวมถึงบอลยุโรป ด้วยการคว้าแชมป์ลีก 1 สมัย, โกปา เดล เรย์ 2 สมัย และ ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก 1 สมัย ก่อนจะย้ายไปแขวนสตั๊ดกับ บาเยิร์น มิวนิคในปี 2014

 

นอกจากนี้ กองลางมาดเนี้ยบ ยังเป็นหนึ่งในผู้เล่นทีมชาติสเปนยุคทองที่คว้าแชมป์โลกในปี 2010 และแชมป์ยูโรมาครอง 2 สมัยอีกด้วย

 

 

กองกลาง | ซีเนดีน ซีดาน (77.50 ล้านยูโร)

 

 

หลังประสบความสำเร็จและฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยมกับ ยูเวนตุส ทำให้ ฟลอเรนติโน่ เปเรซ ประธานสโมสรเรอัล มาดริด ยอมทุ่มเงินกว่า 77.50 ล้านยูโร เพื่อดึง ซีเนดีน ซีดาน มาร่วมทีมในปี 2001 นั่นทำให้เขากลายเป็นนักเตะค่าตัวแพงที่สุดในโลก ณ เวลานั้นทันที

 

ซิซู คือแข้งกาลาติกอส ยุคแรกของ โลส บลังโกส ที่มีทั้ง โรนัลโด้, หลุยส์ ฟิโก้, เดวิด เบ็คแฮม, ราอูล กอนซาเลซ, โรแบร์โต้ คาร์ลอส หรือ อิเกร์ กาซิยาส ยิ่งทำให้ทีมแข็งแกร่งมากเป็นพิเศษ ซึ่งตลอดเวลา 5 ปีในเบอร์นาเบว เขาพาทีมคว้าแชมป์ ลาลีก้า 1 สมัย, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 1 สมัย, ยูฟ่า ซุปเปอร์ คัพ 1 สมัย และ อินเตอร์คอนติเนนทัล คัพ อีกสมัย

 

หลังแขวนสตั๊ด อดีตจอมทัพทีมชาติฝรั่งเศส ก็หวนกลับมาทำงานกับ มาดริด อีกครั้ง และประสบความสำเร็จในเส้นทางสายกุนซืออย่างมาก ทั้งแชมป์ลีก 2 สมัย และ แชมป์ยุโรป 3 สมัยติดต่อกัน

 

 

ตัวริมเส้นฝั่งขวา | เดวิด เบ็คแฮม (37.50 ล้านยูโร)

 

 

ด้วยหน้าตาที่หล่อเหลากับ ฝีเท้าที่ยอดเยี่ยม ไม่ใช่เรื่องน่าตกใจที่ เดวิด เบ็คแฮม จะกลายเป็นซุปเปอร์สตาร์วงการลูกหนัง และขวัญใจที่แฟนบอลแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังคงรักและเทิดทูนจนถึงปัจจุบัน แม้ตอนจบของเขากับสโมสรจะไม่สวยเท่าไหร่

 

ในช่วงท้ายๆที่ค้าแข้งโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ปีกหน้าหยก มักมีปากเสียงกับ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน บ่อยครั้ง แถมชีวิตนอกสนามที่เต็มไปด้วยแสงสี ยิ่งทำให้ เฟอร์กี้ ไม่ปลื้มเข้าไปอีก ก่อนที่เหตุการณ์สตั๊ดบินจะทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ถึงจุดแตกหักลง

 

ความบาดหมางดังกล่าวส่งเสียงไปถึง เรอัล มาดริด และยื่นข้อเสนอซื้อตัวเบ็คแฮมไปร่วมทีม ด้วยค่าตัว 37.50 ล้านยูโร และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ กุนซือชาวสก็อต ปล่อยแข้งชาวอังกฤษออกไปในปี 2003

 

อย่างไรก็ตาม เส้นทางค้าแข้งของ เบ็คแฮม ในแดนกระทิงก็พอจะบอกว่าประสบความสำเร็จได้อยู่ แม้ไม่ได้มากมายเหมือนตอนเล่นให้ ปีศาจแดง หลังคว้าแชมป์ลาลีก้า ในฤดูกาล 2006-07

 

 

กองหน้าฝั่งซ้าย | ริวัลโด้ (23.5 ล้านยูโร)

 

 

ถึงจะขึ้นชื่อว่าเป็นนักเตะจอมพเนจร แต่ ริวัลโด้ ก็ประสบความสำเร็จในเส้นทางค้าแข้งกับสโมสรต่างๆมากมาย และช่วงที่พีกสุดของเขาคงหนีไม่พ้นตอนเล่นให้ บาร์เซโลน่า ระหว่างปี 1997-2002

 

เซอร์ บ็อบบี้ ร็อบสัน กุนซือของอาซูลกราน่า ในตอนนั้น เป็นคนดึงเพลย์เมกเกอร์ชาวบราซิลเลี่ยนมาร่วมทีมด้วยค่าตัว 23.5 ล้านยูโร ซึ่งอาจน้อยในสมัยนี้ แต่หากย้อยไป 20 กว่าปีก่อน ถือว่ามหาศาลมากเลย

 

5 ปีในคัมป์ นู ริวัลโด้ พาบาร์ซ่าคว้าแชมป์ลาลีก้า 2 สมัย, ยูฟ่า คัพ 1 สมัย และ โคปา เดล เรย์ 1  สมัย ก่อนจะย้ายไป เอซี มิลาน ในปี 2002 หลังพาทีมชาติบราซิลคว้าแชมป์โลกในปีเดียวกันที่ ญี่ปุ่นกับ เกาหลีใต้เป็นเจ้าภาพร่วม

 

 

กองหน้าฝั่งขวา | คริสเตียโน่ โรนัลโด้ (117 ล้านยูโร)

 

 

สำหรับชื่อ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ คงไม่ต้องไม่บรรยายสรรพคุณอะไรให้มากมายความ เนื่องจากความสำเร็จที่เขาจารึกไว้ตลอดเกือบ 2 ทศวรรษที่ผ่านมาเป็นตัวการันตีความสามารถของเขาได้แบบไม่มีข้อกังขาเลย

 

ดาวเตะชาวโปรตุกีส เคยเป็นนักเตะค่าตัวแพงที่สุดในโลก หลังย้ายจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไปร่วมทีม เรอัล มาดริด ในปี 2009 ด้วยค่าตัว 94 ล้านยูโร พร้อมกับพา โลส บลังโกส คว้าแชมป์มากมาย พร้อกับทำลายสถิตติหลายอย่างในรายการต่างๆ

 

แม้จะย้ายซบ ยูเวนตุส ในวัยแตะเลข 3 แต่ค่าตัวของเขากลับสูงกว่าเดิมที่ 117 ล้านยูโร อีกทั้งผลงานในสนามของเจ็ตโด้ก็ไม่ตกลงแต่อย่างใด ด้วยการกดไป 65 ลูก ใน 89 นัด จาก 2 ฤดูกาลหลังสุด ช่วยให้ ม้าลายคว้าแชมป์ลีก 2 สมัยติด

 

 

กองหน้าตัวเป้า | โรนัลโด้ (45 ล้านยูโร)

 

 

หากถามแฟนบอลยุคก่อนว่าใครคือกองหน้าที่ดีที่สุดในโลก เชื่อว่าหลายคนต้องพูดถึง โรนัลโด้ เป็นรายแรกๆแน่นอน ทั้งลีลาการทำประตูที่เฉียบคม, ความคล่องแคล่วว่องไว หรือการลากเลื้อยที่พริ้วไหวสวยงาม จนกลายเป็นต้นแบบให้กับนักเตะดังรุ่นหลังหลายต่อหลายคน

 

‘เอล ฟิโนมิโน่’ สร้างชื่อในยุโรปครั้งแรกยามลงเล่นให้ พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น ในปี 1994-1996 จากนั้นก็โด่งดังสุดขีดกับ บาร์เซโลน่า กับ อินเตอร์ มิลาน และเมื่อบวกกับฟอร์มที่ยอดเยี่ยมในฟุตบอลโลกปี 2002 ทำให้ เรอัล มาดริด กระชากตัวเขาไปร่วมทีมด้วยค่าตัว 45 ล้านยูโร 

 

ดาวยิงเลือดแซมบ้า คว้าแชมป์ได้เกือบทุกรายการที่ลงเล่นทั้งในระดับสโมสรและทีมชาติ แต่ก็เป็นยอดนักเตะอีกคนของวงการที่ไม่เคยได้สัมผัสถ้วยแชมเปี้ยนส์ลีกแม้แต่หนเดียว

 

รวมทั้งหมด 599.68 ล้านยูโร

 

 

แผน 3-4-1-2 : บุฟฟ่อน ; เฟอร์ดินานด์, ฟาน ไดจ์ค, ตูราม ; เนดเวด,อลอนโซ่, ซีดาน, เบ็คแฮม ; ริวัลโด้ ; คริสเตียโน่ โรนัลโด, โรนัลโด้