จากผลงานอันย่ำแย่ของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ที่พา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ประสบความล้มเหลวในช่วงครึ่งฤดูกาลแรก โดยเฉพาะหลายเกมที่ฝังอยู่ในใจแฟนบอล “ปีศาจแดง” ไม่ว่าจะเกมบุกไปพ่าย วัตฟอร์ด 1-4 ในแมตช์ล่าสุด รวมไปถึงการแพ้คู่อริอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 0-2 และ ลิเวอร์พูล 0-5 ซึ่งเกิดขึ้นใน โอลด์ แทร็ฟฟอร์ดทั้งสองนัด นั่นทำให้ไม่น่าแปลกใจนักที่ กุนซือชาวนอร์วีเจี้ยน ต้องโดนปลดจากตำแหน่ง
เสียงก่นด่า #OleOut ของเหล่าแฟนบอล “ปีศาจแดง” นั้นกึกก้องมานานหลายเดือน และก่อนที่ ยูไนเต็ด จะหาผู้จัดการทีมคนใหม่ที่เหมาะสมเข้ามาทำหน้าที่พาทีมชุดนี้เดินหน้ากับเส้นทางที่เหลือต่อไป วันนี้ UfaArena จะขอกล่าวคำลา โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ด้วยการนำผลงานที่เขาเคยทำเอาไว้ตลอด 3 ปีในฐานะผู้จัดการทีมมาฝากกทุกคน
เพราะต่อให้ต้องจากไปอีกครั้ง แต่ความเป็น สุดยอดซูเปอร์ซับหมายเลข 20 ของของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะยังคงอยู่กับเขาไปตลอดกาล
ทำสถิติไร้พ่ายเกมเยือนยาวนานถึง 29 นัด
แม้ว่า โซลชา จะไม่สามารถนำถ้วยแชมป์เข้าสู่สโมสรได้อย่างทุกคนหวัง แต่สิ่งหนึ่งที่ยอดกุนซือวัย 48 ปี ทำเอาไว้ก็คือการสร้างสถิติพาทีมไม่แพ้ใครในการเล่นทีมเยือนยาวนานถึง 29 นัด ก่อนที่สถิติดังกล่าวจะถูกหยุดลงในเกมที่บุกไปพ่าย เลสเตอร์ ซิตี้ ที่คิงเพาเวอร์ สเตเดี้ยม 2-4 ในวันที่ 16 ต.ค. 2021
แน่นอนว่า ช่วงระยะเวาตั้งแต่เดือน ก.พ. ปี 2020 ถึง ต.ค. ปี2021 อาจจะมีเรื่องของโปรแกรมลีกต้องเลื่อนแข่งจาก โควิด-19 แต่การไร้พ่าย 29 นัดติดต่อกันในเกมลีก ถือว่าเป็นหนึ่งในช่วงเวลาที่ดีที่สุดของ โซลชา ในฐานะกุนซือเช่นกัน
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++
เซ็นสัญญา บรูโน่ แฟร์นานเดส มาร่วมทัพ
การย้ายจาก สปอร์ติ้ง ลิสบอน มาร่วมทัพ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ของ บรูโน่ ด้วยค่าตัว 47 ล้านปอนด์ เมื่อเดือน ม.ค. ปี 2020 คือหนึ่งในการเซ็นสัญญาแห่งฤดูกาลของ ยูไนเต็ด เมื่อปีที่แล้ว
ผลงานทำ 28 ประตู 17 แอสซิสต์ จากการลงสนาม 58 นัด พร้อมคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำเดือนถึง 4 หน รวมไปถึงเป็นแข้งยอดเยี่ยมแห่งปีของสโมสรในฤดูกาลแรก ได้พิสูจน์แล้วว่าเขานั้นยอดเยี่ยมและเหมาะสมกับคำว่า เดอะแบก มากแค่ไหน
และนอกจากการที่ โซลชา ดึงตัวเขามาร่วมทัพพร้อมกับเซ็นสัญญายาวถึง 5 ปีครึ่ง นั่นก็แสดงให้เห็นว่า กุนซือชาวนอร์วีเจี้ยน ก็มีสายตาที่เฉียบคมในตลาดนักเตะไม่แพ้ใครเช่นกัน
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++
คว้าชัยแบบไปกลับเกมแมนเชสเตอร์ ดาร์บี้
โอเคหละเกมล่าสุด ยูไนเต็ด นั้นเพิ่งจะพ่าย ซิตี้ ไปแบบหมดรูปที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด 0-2 แต่หากย้อนไปก่อนหน้านี้ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา โซลชา นั้นสร้างผลงานในเกมดาร์บี้แมตช์ได้ยอดเยี่ยมไม่แพ้ใครเช่นกัน
นับตั้งแต่วันที่กุนซือหน้ายิ้ม เข้ามารับตำแหน่งผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ เมื่อช่วงปลายปี 2018 เขานำทีมพบกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา ไปแล้ว 9 เกม โดยมีผลงาน ชนะ 4 เสมอ 1 แพ้ 4 ซึ่งลูกทีมของเขายิงได้ 10 ประตู และเสีย 12 ประตู
ซึ่งทั้ง โซลชาร์ และ เป๊ป ไม่เคยแพ้ชนะกันเกิน 2 ประตูแม้แต่เกมเดียว ในช่วงตลอด 9 เกมที่ผ่านมา โดยที่ 5 นัดหลังสุดจบผลงาน ชนะฝั่งละ 2 เกมและเสมอกันแบบไร้สกอร์ 1 เกม แต่หากดูเฉพาะเมื่อฤดูกาลที่แล้วในเกมพรีเมียร์ลีก โซลชา สามารถพา ยูไนเต็ด เอาชนะทัพ “เรือใบสีฟ้า” ได้แบบไปกลับ เริ่มจากการบุกไปชนะที่ เอติฮัด สเตเดี้ยม 2-1 โดยได้ประตูจาก มาร์คัส แรชฟอร์ด และ อองโตนี่ มาร์กซิยาล ขณะที่เมื่อกลับมาแข่งที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด พวกเขาก็ไม่ทำให้ผิดหวังด้วยการเอาชนะไปอีก 2-0 จาก มาร์กซิยาล และ สก็อตแม็คโทมิเนย์ นั่นจึงต้องบอกว่านี่เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่เราสามารถจดจำถึงความยอดเยี่ยมที่ โซลชา ทำเอาไว้ได้
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++
พา โรนัลโด้ กลับบ้าน
ไม่มีใครคาดคิดว่าเรื่องนี้จะเกิดขึ้นจริง และการที่ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ตัดสินใจเซ็นสัญญา คริสติอาโน่ โรนัลโด้ ดาวยิงระดับตำนานวัย 36 ปี ที่เคยเป็นอดีตเพื่อนร่วมทีมของตัวเอง หวนคืนสู่ถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด อีกครั้งในรอบ 12 ปี คือหนึ่งในสิ่งที่ แฟนบอล “ปีศาจแดง” มีความสุขมากที่สุดในฤดูกาลนี้
การเข้ามาของดาวยิง CR7 สร้างอิมแพคมากมายให้กับสโมสร ไม่ว่าจะเป็นเรื่องหุ้นของสโมสรที่พุ่งสูงไปถึง 8 เปอร์เซนต์ หรือจะเรื่องการขายของต่างๆที่เกี่ยวกับเจ้าตัว รวมถึงยอดชมแมตช์ที่ทัพ ปีศาจแดง ลงสนาม จากทางทีวีนั้นก็สูงขึ้นไปอย่างมหาศาล
และที่สำคัญคือผลงานในสโมสรที่ต้องบอกว่า โรนัลโด้ นั้นแบกทีมเอาไว้ได้หลายครั้งมาก โดยเฉพาะการยิงประตูช่วงทดเจ็บทั้งสองเกมที่พบกับ อตาลันต้า ทั้งชนะ 3-2 และ เสมอ 2-2 ทำให้เวลานี้ยังคงอยู่ในเส้นทางลุ้นผ่านเข้ารอบในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ต่อไป
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ค่ำคืนแห่งความฝันที่ พาร์ค เดส แพรงส์
แม้ โซลชา จะไม่สามารถพาทีมประสบความสำเร็จคว้าแชมป์ยุโรปได้ แม้ฤดูกาลที่แล้วจะผ่านไปถึงรอบชิงชนะเลิศ ยูโรป้า ลีก ก่อนที่สุดท้ายจะพ่าย บีญาร์เรอัล ในการดวลจุดโทษ แต่ก็เชื่อว่าไม่มีแฟนบอลปีศาจแดง คนไหนจะลืมผลงานที่ พาร์ค เดส แพรงส์ เช่นกัน
ย้อนกลับไปเมื่อ 2 ฤดูกาลก่อน ยูไนเต็ด ที่เมื่อจะต้องเผชิญความซึมเศร้าในรอบน็อคเอาท์ 16 ทีมสุดท้ายนัดแรก เมื่อโดน ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ที่เวลานั้นมี โธมัส ทูเคิล คุมทัพพร้อมพกสถิติไร้พ่ายถ้วยยุโรป 7 นัดติด บุกมาเอาชนะถึง 2-0 ที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด แต่แล้วเมื่อเกมเลก 2 ขึ้นปาฏิหารย์ก็เกิดขึ้นเมื่อ ยูไนเต็ด พลิกกลับมาเอาชนะได้แบบเหลือเชื่อ 3-1 จากสองประตูของ โรเมลู ลูกากู และดราม่าช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ที่ผู้ตัดสินเช็ค VAR และเป็น มาร์คัส แรชฟอร์ด ที่ซัดผ่านมือ จานลุยจิ บุฟฟ่อน เข้าไป ทำให้รวมสองนัดเสมอกัน 3-3 แต่เป็นลูกทีมของ โซลชา ที่ผ่านเข้าไปเล่นในรอบ 8 ทีมสุดท้ายด้วยกฏประตูทีมเยือน
เท่านั้นยังไม่พอผ่านมา 1 ปี เมื่อฤดูกาลที่แล้ว ทั้งสองทีมได้โคจรมาเจอกันอีกครั้งในเกมรอบแบ่งกลุ่ม ปรากฏว่าเกมที่ พาร์ค เดส แพรงส์ ยูไนเต็ด ยังคงย้ำแค้นได้อีกรอบเมื่อบุกไปเอาชนะได้ 2-1
