ไร้พ่ายช่างมัน! 5 สถิติพรีเมียร์ลีกที่หงส์ยังทำลายได้ในซีซั่นนี้

 

หลังสิ้นเสียงนกหวีดยาวที่ วิคาเรจ โร้ด เมื่อสัปดาห์ก่อน ความหวังที่ ลิเวอร์พูล จะคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกด้วยสถานะ “อินวิซิเบิ้ล” ตามรอย อาร์เซน่อล ก็สลายหายไปทันที หลังจากพวกเขาบุกไปโดนทีมหนีตกชั้นอย่าง วัตฟอร์ด อัดน่วมถึง 0-3

 

แต่ถึงอย่างนั้น ความปราชัยเพียงนัดเดียวคงไม่อาจลบล้างความยอดเยี่ยมที่หงส์แดงทำมาตลอดทั้งฤดูกาลได้ การโกยไปถึง 79 จาก 84 คะแนนไม่ใช่สิ่งที่ใครจะทำได้ง่ายๆ และยังมีอีก 5 สถิติที่รอให้ เจอร์เก้น คล็อปป์ กับลูกทีมก้าวข้ามอยู่ ซึ่งวันนี้ เราจะพาไปดูกันว่ามีสถิติอะไรบ้างที่เครื่องจักรสีแดงยังสามารถทำลายได้ในช่วงที่เหลือของซีซั่น

 

แอสซิสต์ได้มากที่สุด (เทรนต์ อเล็กซานเดอร์อาร์โนลด์)

สถิติปัจจุบัน : 20 แอสซิสต์ (เธียร์รี่ อองรี, 2002-03)

 

 

เมื่อฤดูกาลที่แล้ว อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ถือเป็นนักเตะในตำแหน่งเกมรับที่ช่วยทำประตูมากที่สุดในพรีเมียร์ลีก หลังจากเจ้าตัวแอสซิสต์ไปได้ 12 ครั้ง จากการลงสนาม 29 นัด และในซีซั่นนี้หลังจากผ่านพ้นไป 28 นัด แบ็คขวาวัย 21 ปี ทำแอสซิสต์ได้เท่ากับปีก่อนแล้วที่ 12 ครั้ง โดยเขายังเหลือเวลาอีก 10 เกม เพื่อทำลายสถิติ 20 แอสซิสต์ของ เธียร์รี่ อองรี ที่ถือครองมาแล้ว 17 ปี

 

อย่างไรก็ตาม ไม่ได้มีเพียงดาวเตะลูกหม้อของหงส์แดงแค่รายเดียวที่กำลังเดินหน้าโค่นล้มสถิติดังกล่าว เพราะเวลานี้ข้างหน้าเขายังมี เควิน เดอ บรอยน์ ที่ทำไปแล้ว 16 แอสซิสต์ขวางทางอยู่ และเมื่อดูจากจำนวนเกมของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่เหลืออีกถึง 11 นัด งานนี้คนที่ เทรนต์ จะต้องก้าวผ่านอาจไม่ใช่ดาวยิงเลือดน้ำหอมแล้ว

 

เก็บแต้มได้มากที่สุด

สถิติปัจจุบัน : 100 คะแนน (แมนเชสเตอร์ ซิตี้, 2017-18)

 

 

ปัจจุบัน ลิเวอร์พูล มีผลงานชนะ 26 เสมอ 1 แพ้ 1 เก็บได้ 79 คะแนน ในขณะที่การแข่งขันเหลืออยู่อีก 10 นัด นั่นหมายความว่าแต้มสูงสุดที่ทีมของ คล็อปป์ ยังมีโอกาสทำได้คือ 109 คะแนน และเมื่อมองไปที่หนทางต่อจากนี้ หงส์แดงยังเหลืองานหนักอีก 4 นัด คือเกมที่จะต้องบุกไปเยือน เอฟเวอร์ตัน ที่กูดิสัน พาร์ค , เยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่เอติฮัต สเตเดียม , เยือน อาร์เซน่อล ที่เอมิเรตส์ สเตเดียม และเปิดรังแอนฟิลด์รับมือกับ เชลซี ในนัดรองสุดท้าย

 

คว้าแชมป์เร็วที่สุด

สถิติปัจจุบัน : 14 เมษายน 2001 (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, 2000-01)

 

 

สถานการณ์ล่าสุด หงส์แดงนำเป็นจ่าฝูงของตารางด้วยการมีแต้มทิ้งห่างทีมอันดับที่ 2 อย่าง แมนฯ ซิตี้ อยู่ถึง 22 คะแนน และถ้าคิดในกรณีที่ทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ไม่พลาดเกมตกค้าง การที่ช่องว่างมีอยู่ 19 คะแนน จากเกมที่เหลือ 10 นัด แปลว่ายอดทีมจากเมอร์ซี่ไซด์ต้องการชัยชนะอีกแค่ 4 เกมก็จะการันตีการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกซีซั่นนี้ทันที และนัดสุดท้ายจาก 4 เกมดังกล่าว คือการต้องบุกไปทำศึกกับเรือใบสีฟ้าที่ เอติฮัต สเตเดียม ในวันที่ 5 เมษายน

 

ไม่แพ้ในบ้านติดต่อกันยาวนานที่สุด

สถิติปัจจุบัน : 86 นัด (เชลซี, 2004-2008)

 

 

นี่อาจไม่ใช่สถิติที่ ลิเวอร์พูล จะทำลายได้ในฤดูกาล 2019-20 แต่ซีซั่นนี้ก็เป็นทางผ่านเพื่อไปโค่นสถิติอันน่าเหลือเชื่อของ เชลซี

 

หลังจากสิงห์บลูส์ยืนหยัดแพ้ใครใน สแตมฟอร์ด บริดจ์ มานานร่วม 4 ปี ท้ายที่สุดในวันที่ 26 ตุลาคมปี 2008 พวกเขาก็ถูกหยุดสถิติไร้พ่ายในบ้านไว้ที่ 86 นัด และทีมที่สามารถกำราบสิงโตน้ำเงินครามได้ก็คือ ลิเวอร์พูล นี่เอง โดยในตอนนี้ หงส์แดงกำลังเข้าใกล้สถิติดังกล่าวมากขึ้นเรื่อยๆ หลังจากพวกเขาไม่พ่ายให้กับทีมไหนในรังของตัวเองมา 55 เกมติดต่อกันแล้ว

 

อันที่จริง สถิติไม่แพ้ใครในบ้านของ เดอะ เร้ดแมชชีน น่าจะถูกหยุดไว้ตั้งนานแล้ว หาก ริยาด มาห์เรซ ไม่พลาดจุดโทษในเกมที่แอนฟิลด์เมื่อฤดูกาลก่อน

 

ยิงประตูได้มากที่สุด

สถิติปัจจุบัน : 106 ประตู (แมนเชสเตอร์ ซิตี้, 2017-18)

 

 

เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เข้ามาสร้าง แมนฯ ซิตี้ ให้กลายเป็นหนึ่งในทีมที่มีพลังทำลายล้างสูงที่สุดของประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก และในฤดูกาล 2017-18 เรือใบสีฟ้าก็ทะลวงตาข่ายคู่แข่งไปถึง 106 ประตู หรือคิดเป็น 2.7 ลูกต่อเกมเลยทีเดียว ส่วนในเวลานี้ ลิเวอร์พูล ทำไปแล้ว 64 ประตู นั่นแปลว่าพวกเขาต้องยิงอีกถึง 43 ลูกใน 10 นัดที่เหลือเพื่อทำลายสถิติดังกล่าวของ ซิตี้

 

แม้มันจะดูแทบเป็นไปไม่ได้ แต่ในเมื่อโอกาสยังไม่เหลือศูนย์ เราก็จะไม่ขอตัดข้อนี้ทิ้งไปแล้วกัน