เอ็ดดี้ ฮาว ผู้จัดการทีมหนุ่มไฟแรงของ บอร์นมัธ ได้ยืนยันอย่างเป็นทางการแล้วว่า ไรอัน เฟรเซอร์ กองกลางคนเก่ง จะลาถิ่่น วิทาลิตี้ สเตเดียม อย่างแน่นอนในซัมเมอร์นี้
สาเหตุที่เป็นเช่นนั้น เนื่องจากแข้งวัย 26 ปี ปฏิเสธที่จะต่อสัญญาระยะสั้นกับทีม ทำให้ กุนซือ เดอะ เชอร์รี่ส์ จำเป็นต้องตัดชื่อของเขาออกจากการแข่งขันในฤดูกาลที่เหลือ
ด้วยชื่อชั้นและความสามารถที่แสดงให้เห็นบนเวทีพรีเมียร์ลีกตลอด 3-4 ปี ที่ผ่านมา ไม่แปลกที่ เฟร์เซอร์ จะตกเป็นข่าวกับทีมคู่แข่งที่ให้ความสนใจ และพร้อมดึงไปร่วมทีมหลังจากหมดสัญญาในวันที่ 30 มิถุนายนนี้
ว่าแต่ แข้งชาวสก็อต จะเลือกสโมสรไหนเป็นสถานีต่อไป ทาง UFA ARENA จะพาทุกท่านไปวิเคราะห์ถึงว่าที่จุดหมายใหม่ รวมถึงความเป็นไปได้ในการย้ายไปค้าแข้งกับทีมเหล่านั้นๆด้วย
ไล่ตามความฝันกับทีมใหญ่ในลีก
ทีมที่ตกเป็นข่าว : ลิเวอร์พูล, อาร์เซน่อล, สเปอร์ส
นักเตะทุกคนที่ใช้ฟุตบอลหาเลี้ยงชีพ ย่อมมีความฝันกับการได้ลงเล่นในการแข่งขันระดับสูงกับทีมชื่อก้อง และคงไม่มีอะไรยิ่งใหญ่ไปกว่าการได้ลงเล่นในการแข่งขันระดับทวีปยุโรป เพราะฉะนั้น หากว่าที่สโมสรใหม่สามารถพา เฟรเซอร์ ไปโชว์ฝีเท้าใน แชมเปี้ยนส์ลีก ก็มีโอกาสคว้าตัวเขาไปร่วมทีมมากเป็นพิเศษ
ว่าที่แชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาล ปัจจุบันอย่าง ลิเวอร์พูล คือทีมที่มีข่าวกับดาวตะจาก บอร์นมัธ ซึ่งเป็นเรื่องที่อาจเกิดขึ้นได้ หากพิจารณาถึงนโยบายการเสริมทัพในยุคของ เจอร์เก้น คล็อปป์ อย่างเช่น รายของ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน แข้งร่วมชาติของเฟรเซอร์ ที่พัฒนาฝีเท้าได้อย่างก้าวกระโดดในถิ่น แอนฟิลด์ แม้จะเข้ามาในฐานะตัวเสริมทีมช่วงแรกๆ
ถึงแม้ข่าวคราวเหล่านั้นกลับค่อยๆเงียบหายไปในช่วงที่ผ่านมา แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า สโมสรระดับท็อปในอังกฤษจะเลิกพิจารณาคว้าตัว เฟรเซอร์ ไปร่วมทีมเช่นกัน
ย้อนกลับไปช่วง 1 ปีก่อน ชื่อของ เฟรเซอร์ ตกเป็นข่าวอย่างหนักกับ อาร์เซน่อล ที่ต้องการเพิ่มอาวุธในตำแหน่งริมเส้น และสามารถคว้ามาร่วมทีมแบบไร้ค่าตัวได้หลังจบฤดูกาลนี้ เมื่อเวลาผ่านไปจนถึงช่วงที่ มิเกล อาร์เตต้า เป็นกุนซือ ทีมดังจากลอนดอนก็ยังมีข่าวให้ความสนใจในตัวแข้งวัย 26 ปี มากกว่าทีมไหน
อย่างไรก็ตาม ปืนใหญ่ มีโอกาสไม่ได้ลงเล่นในฟุตบอลยุโรปฤดูกาลต่อไปค่อนข้างสูง แต่พวกเขาก็อาจมีลุ้นคว้าตั๋วลุยแชมเปี้ยนส์ลีกอีกครั้ง หากคว้า เฟรเซอร์ มาเสริมทัพได้
ท็อตแน่ม ก็เป็นอีกสโมสรที่เคยจับตาดูดาวเตะแดนวิสกี้ แต่โอกาสย้ายทีมเล่นกับไก่เดือยทองก็คงจะมีน้อยถึงน้อยมากๆ เนื่องจากการมาของ สตีเฟ่น เบิร์กไวน์ ในเดือนมกราคม ที่ทำผลงานได้ร้อนแรง และ โชเซ่ มูรินโญ่ ก็คงอยากเสริมผู้เล่นในตำแหน่งอื่นๆมากกว่าตัวริมเส้นในตลาดนักเตะหนนี้
อยู่กับความเป็นจริงในทีมกลางตาราง
ทีมที่ตกเป็นข่าว : คริสตัล พาเลซ, นิวคาสเซิล, เอฟเวอร์ตัน
การย้ายจาก บอร์นมัธ ไปเล่นในทีมระดับต้นๆของลีก ไม่ใช่สิ่งที่เป็นไปไม่ได้ซะทีเดียว โดยเฉพาะจากความสามารถของ เฟรเซอร์ แต่ถึงอย่างนั้น เจ้าตัวอาจต้องเผื่อใจไว้ด้วยเช่นกัน
ทีมดังในพรีเมียร์ลีก ที่เต็มไปด้วยดาวเตะมากมาย อาจมองข้าม เฟรเซอร์ เนื่องจากผลงานที่อาจไม่เตะตามากพอ หรือหากย้ายไปจริงๆ การแข่งขันแย่งตำแหน่งที่สูงกว่าทีมทั่วไป อาจทำให้เขาลงสนามไม่มากอย่างที่ต้องการ
นั่นจึงเปิดโอกาสให้ทีมระดับกลาง ลองยื่นข้อเสนอดึงตัวไปร่วมทีม และคงไม่ต้องปรับตัวอะไรมาก เนื่องจากมีประสบการณ์ในลีกมากพอสมควรแล้ว
หลายทีมในแดนผู้ดี เริ่มให้ความสนใจ ทั้ง คริสตัล พาเลซ และ นิวคาสเซิล ขณะที่สื่อต่างๆรายงานว่า เฟรเซอร์ เตรียมตัวย้ายไปร่วมทีม เอฟเวอร์ตัน แต่จาก 3 สโมสรที่กล่าวมาในข้างต้น หาก เฟรเซอร์ ต้องการได้ลงสนามทันที พร้อมกับโอกาสลงเล่นที่สม่ำเสมอ ปราสาทเรือนแก้วคือทีมที่จะมอบสิ่งนี้ให้เขาได้มากที่สุด
ถ้า พาเลซ เสีย วิลเฟร็ด ซาฮา อย่างที่หลายคนคาดการณ์ไว้ เฟรเซอร์ ก็จะเป็นตัวแทนที่เหมาะสมทันที แม้ว่าจะมีสไตล์การเล่นที่แตกต่างกัน และอาจช่วยเปลี่ยนโฉมเกมรุกกับการทำประตูของพวกเขาให้ดีขึ้นกว่าเดิม เนื่องจาก พาเลซ เป็นทีมที่ยิงประตูได้น้อยที่สุดเป็นอันดับ 3 ในลีก (26 ลูก) รองจาก นิวคาสเซิล และ นอริช
ตัวเลือกพิเศษ : หาความท้าทายใหม่นอกพรีเมียร์ลีก
โอกาสที่ เฟรเซอร์ จะออกไปค้าแข้งนอกจาก พรีเมียร์ลีก ดูห่างไกลจากความเป็นไปได้อื่นๆมากที่สุด เมื่อดูจากสถานการณ์ในปัจจุบัน เนื่องจากเขาไม่มีข่าวลือกับสโมสรนอกอังกฤษเท่าไหร่นัก แต่ก็ไม่ได้ความว่าจะไม่มีโอกาสเกิดขึ้นเลย เพราะในช่วงที่ผ่านมา เราเห็นนักเตะในสหราชอาณาจักร เริ่มหาความท้าทายใหม่ด้วยการย้ายไปเล่นต่างแดนมากขึ้น เช่นเยอรมัน และคงไม่น่าตกใจนัก หากทีมจากบุนเดสลีก้า คว้าตัวเขาไปร่วมทีม
อย่างไรก็ตาม ถ้า ดาวเด่นจาก ดีน คอร์ท ต้องลาลีกสูงสุดแดนผู้ดีจริงๆ เขาคงเลือกขึ้นเหนือกลับไปเล่นกับสโมสรในสก็อตแลนด์มากกว่าที่ไหนๆ โดยอดีตแข้งอเบอร์ดีน เคยลงเล่นในสก็อตติช พรีเมียร์ลีกมาแล้ว 21 นัด และนี่อาจไม่ใช่การย้ายกลับไปเล่นในบ้านเกิดแบบธรรมดาทั่วไป หากเขาเลือกซบ กลาสโกว เซลติก แชมป์ลีกแดนวิสกี้ฤดูกาลล่าสุดที่คว้าตั๋วไปเล่น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบคัดเลือกในฤดูกาลต่อไปเรียบร้อยแล้ว
