สลับขั้วข้ามเมือง : 10 นักเตะดังที่เคยค้าแข้ง 2 ยอดทีมเมืองมิลาน

 

ถึงแม้เป็นทีมอริร่วมเมืองกัน แต่ก็มีนักเตะมากมายที่เคยเล่นให้กับ เอซี มิลาน และ อินเตอร์ มิลาน นับตั้งที่พวกเขาก่อตั้งสโมสรขึ้นเมื่อ 100 กว่าปีที่ผ่านมา

 

จากสถิติที่บันทึกไว้ มีผู้เล่นถึง 38 คนที่เคยย้ายไปเล่นกับทั้ง 2 สโมสรในเมืองมิลาน ซึ่งบางคนอาจเริ่มต้นที่ ‘ปีศาจแดงดำ’ หรือ’ งูใหญ่’ ก่อน จากนั้นค่อยมาลงเอยกับทีมอริร่วมเมือง รวมถึงบางคนก็อาจย้ายข้ามฟากไปทีมคู่แข่งโดยตรง หรือไม่ก็ไปค้าแข้งกับสโมสรอื่นก่อนย้ายกลับมาที่เมืองนี้ ซึ่งแน่นอนว่าคนที่ประสบความสำเร็จกับการเล่นให้ทั้ง 2 ทีมก็มีอยู่บ้าง ขณะที่ส่วนใหญ่อาจไปได้ดีแค่ทีมเดียว หรือไม่ก็ล้มเหลวทั้ง 2 ทีมเลย

 

โดยล่าสุด ฮาคาน ชาลาโนกลู กลายเป็นนักเตะที่ 38 ในประวัติศาสตร์ที่ได้ลงเล่นให้ทั้ง 2 ทีมหลังหมดสัญญากับ มิลาน และเลือกย้ายซบ อินเตอร์ แบบไร้ค่าตัว ในซัมเมอร์นี้

 

ด้วยเหตุนี้ UFAARENA จึงขอพาไปพบกับ 10 แข้งดังที่เคยค้าแข้งให้กับทั้ง ‘รอสโซเนรี่’ และ ‘เนรัซซูรี่’ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

 

 

จูเซ็บเป้ เมียซซ่า 

 

 

ช่วงเวลากับ อินเตอร์ : 1927–1940, 1946–1947
ช่วงเวลากับ มิลาน : 1940–1942

 

นี่คือตำนานที่ไม่มีแฟนบอลอินเตอร์ มิลาน คนไหนไม่รู้จักกับชื่อของ จูเซ็ปเป้ เมียซซ่า ดาวยิงสูงตลอดกาลของสโมสรกับจำนวน 284 ประตูในทุกรายการ พร้อมพาทีมคว้าแชมป์ เซเรียอา 3 สมัย และ โคปา อิตาเลีย 1 สมัย

 

นอกจากนี้ เจ้าของฉายา ‘อิล บาริลล่า’ ยังเป็นนักเตะคนแรกของ ‘งูใหญ่’ ที่ย้ายข้ามฟากไปอยู่กับ มิลาน โดยตรงด้วย ในปี 1940 แต่ก็อยู่กับทีมได้เพียง 2 ปีเท่านั้น และไม่ประสบความสำเร็จเท่ากับตอนเล่นให้ อินเตอร์ ก่อนย้ายไปสวมเสื้อสีน้ำเงิน-ดำอีกครั้งในช่วงบั้นปลายอาชีพ

 

ภายหลังการเสียชีวิตของ เมียซซ่า ในปี 1979 ทั้ง 2 สโมสรก็นำชื่อของเขามาตั้งเป็นชื่อสนามอย่างเป็นทางการในปี 1980 เพื่อเป็นเกียรติแก่เขาผู้เล่นลงเล่นให้ทั้ง 2 ทีมในเมืองมิลาน รวมถึงในฐานะกุนซือ ‘เนรัซซูรี่’ ถึง 2 หนอีกด้วย

 

 

โรนัลโด้ 

 

Ronaldo's transfer from Barcelona to Inter Milan in 1997 would be most expensive of all time | Daily Mail Online

 

ช่วงเวลากับ อินเตอร์ : 1997–2002
ช่วงเวลากับ มิลาน : 2007–2008

 

ด้วยฟอร์มการเล่นที่ปังสุดๆ กับบาร์เซโลน่า ทำให้ อินเตอร์ มิลาน ยอมจ่ายเงินกว่า 19.5 ล้านปอนด์ เพื่อคว้า โรนัลโด้ มาร่วมทีมด้วยค่าตัวสถิติโลกในปี 1997  และทำผลงานได้ยอดเยี่ยมตั้งแต่ปีแรก ด้วยการช่วยให้ทีมคว้าแชมป์ยูฟ่า คัพ มาครอง

 

อย่างไรก็ตาม หลังจาก 2 ปีแรกในอิตาลี ‘เอล ฟิโนมิโน่’ ก็ประสบปัญหาอาการบาดเจ็บเข่าพักใหญ่ แต่ก็กลับมาทำผลงานยอดเยี่ยมในฟุตบอลโลกปี 2002 กับทีมชาติบราซิล จนได้ย้ายไป เรอัล มาดริด 

 

อีก 5 ปีต่อมา ตำนานแข้งแซมบ้า กลับมาเมืองมิลานอีกครั้ง แต่หนนี้เขาเล่นให้กับทีมสีแดง แต่นั่นก็เป็นช่วงบั้นปลายอาชีพของ โรนัลโด้ แล้ว ก่อนย้ายไปแขวนสตั๊ดกับ โครินเธียนส์ ในเวลาต่อมา

 

 

อันเดรีย ปีร์โล่

 

Champions League 100 club: Andrea Pirlo | UEFA Champions League | UEFA.com

 

ช่วงเวลากับ อินเตอร์ : 1998–2001
ช่วงเวลากับ มิลาน : 2001–2011

 

อินเตอร์ มิลาน คว้าตัว อันเดรีย ปีร์โล่ มาร่วมทีมในฐานะดาวรุ่งที่น่าจับตามองจาก เบรสซ่า ในปี 1998 แต่ก็ไม่สามารถแจ้งเกิดได้ จนต้องย้ายกลับเล่นกับ เรจจิน่า หรือ เบรสซ่า ทีมเก่าแบบยืมตัวในเวลาต่อมา

 

แต่เหตุที่ กองกลางมาดศิลปิน โชว์ฟอร์มกับ ‘งูใหญ่’ ไม่ออกเพราะเขาถูกจับไปเล่นเป็นกองกลางตัวรุกในตำแหน่งหน้าต่ำ ไม่ใช่กองกลางตัวทำเกมแนวลึกที่เขาถนัด ก่อนถูกขายให้กับ เอซี มิลาน อริร่วมเมืองในอีก 3 ปีต่อมาด้วยค่าตัว 17 ล้านยูโร

 

สุดท้ายกลายเป็น อินเตอร์ ต้องปาดน้ำตา เมื่อ ปีร์โล่ ฉายแสงอย่างเต็มตัวกับ รอสโซเนรี่ และประสบความสำเร็จตลอด 10 ปีในซาน ซีโร่ ด้วยการคว้าแชมป์ เซเรียอา 2 สมัย, โคปปา อิตาเลีย 1 สมัย และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก อีก 2 สมัย

 

 

คลาเรนซ์ เซดอร์ฟ

 

Clarence Seedorf says he nearly signed for Manchester United - United In Focus

 

ช่วงเวลากับ อินเตอร์ : 2000–2002
ช่วงเวลากับ มิลาน : 2002–2012

 

คลาเรนซ์ เซดอร์ฟ ย้ายไปร่วมทีม อินเตอร์ มิลาน ในปี 2000 หลัง ปีร์โล่ เพียง 2 ปี และก็ไม่ประสบความสำเร็จเช่นกัน ตลอด 2 ปีในสีเสื้อ ‘เนรัซซูรี่’ ก่อนย้ายข้ามฟากไป เอซี มิลาน ในปี 2002

 

และก็เป็นอีกครั้งที่ งูใหญ่ ยืนหอกข้างแคร่ให้ศัตรูอีกครั้ง เมื่อกองกลางดัตช์แมน กลายเป็นกุญแจสำคัญในแดนกลางของ มิลาน ร่วมกับ เจนนาโร่ กัตตูโซ่ และ ปีร์โล่ พาทีมกวาดแชมป์มากมายตลอด 10 ปีในทีม ก่อนย้ายไปเล่นแขวนสตั๊ดกับ โบตาโฟโก สโมสรบราซิล หลังปี 2012

 

 

เฮอร์นาน เครสโป

 

Crespo: Inter and Milan are in the race, but Juve is the team to beatCrespo: Inter och Milan med i kampen, men Juventus är laget att slå

 

ช่วงเวลากับ อินเตอร์ : 2002–2003, 2006–2008, 2008–2009 
ช่วงเวลากับ มิลาน : 2004–2005

 

เฮอร์นาน เครสโป อาจประสบความสำเร็จในแง่ของถ้วยรางวัลกับ อินเตอร์ มิลาน และ เอซี มิลาน แต่ฟอร์มการเล่นส่วนตัวก็ไม่ได้ยอดเยี่ยมเหมือนตอนที่แจ้งเกิดกับ ปาร์ม่า หรือโด่งดังกับ ลาซิโอ เช่นกัน

 

หอกชาวอาร์เจนไตน์ ย้ายไปสวมชุด ‘งูใหญ่’ 3 ครั้งด้วยกัน ระหว่างปี 2002–2003, 2006–2008, และ 2008–2009 โดยช่วงที่มีส่วนร่วมกับทีมมากที่สุดคือครั้งที่ 2 ที่ย้ายมาเล่นแบบยืมตัวจาก เชลซี ซึ่งมีส่วนพาทีมคว้าแชมป์เซเรียอา ขณะที่ใน เอซี มิลาน เครสโป ก็ย้ายไปเล่นแบบยืมตัวเช่นกันในปี 2004 และเกือบคว้าแชมป์ยุโรปแล้ว หากไม่เกิดปาฏิหาริย์ของ ลิเวอร์พูล ที่อิสตันบูล เสียก่อน

 

 

ซลาตัน อิบราฮิโมวิช 

 

Zlatan Ibrahimovic slams AC Milan team-mates with Inter Milan revelation after derby loss

 

ช่วงเวลากับ อินเตอร์ : 2006–2009
ช่วงเวลากับ มิลาน : 2010–2012, 2020-ปัจจุบัน

 

ซลาตัน อิบราฮิโมวิช เป็นนักเตะไม่กี่คนที่ประสบความสำเร็จกับการค้าแข้งให้ 2 สโมสรเมืองมิลาน โดยเล่นให้ อินเตอร์ ก่อนระหว่างปี 2006-2009 คว้าแชมป์ลีกมาครองได้ 3 สมัยติด

 

หลังมีปัญหากับ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ในบาร์เซโลน่า ทำให้ หอกชาวสวีดิช ย้ายกลับมาค้าแข้งในอิตาลีอีกครั้งในปี 2011 โดยจุดหมายของเขาก็คือ เอซี มิลาน พร้อมกับช่วยให้ทีมคว้าเซเรียอาในปี 2011 ซึ่งเป็นแชมป์ลีกครั้งสุดท้ายที่สโมสรทำได้ ก่อนตกต่ำลงหลังจาก ซลาตัน ย้ายออกไปในปี 2012

 

ทว่าอีก 8 ปีต่อมา ดาวยิงเลือดไวกิ้ง ก็ย้ายกลับมา ซาน ซีโร่ อีกครั้ง แม้อายุใกล้แตะ 40 ปีแล้ว แต่เขาก็ยังเป็นเสาหลักของ มิลาน จนช่วยให้ทีมคว้ารองแชมป์ลีก และกลับไปเล่นแชมเปี้ยนส์ลีกครั้งแรกในรอบ 7 ปี

 

 

มาริโอ บาโลเตลลี่

 

Welcome to FIFA.com News - Balotelli following in Meazza's footsteps - FIFA.com

 

ช่วงเวลากับ อินเตอร์ : 2007–2010
ช่วงเวลากับ มิลาน : 2013–2014, 2015–2016

 

ดาวยิงจอมเกรียนที่เติบโตในฐานะแข้งเยาวชนของ อินเตอร์ มิลาน และขึ้นมาเล่นชุดใหญ่ครั้งแรกในปี 2007 แม้ได้อยู่ในชุดทริปเบิ้ลแชมป์ แต่ด้วยวีรกรรมที่ชวนปวดหัวทำให้ บาโลเตลลี่ ถูกขายให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในปี 2010

 

แม้ได้นายเก่าอย่าง โรแบร์โต้ มันชินี่ คอยดูแล แต่สุดท้ายก็คุมไม่อยู่เหมือนเดิม จนถูกปล่อยให้ เอซี มิลาน ใช้งานในปี 2013 ซึ่งดูกลับมาเป็นผู้เป็นคนอยู่บ้าง แต่จนแล้วจนรอดก็เปลี่ยนตัวเองไม่ได้ จนถูกขายให้ ลิเวอร์พูล ไปรับภาระต่อ 

 

‘ซุปเปอร์มาริโอ้’ กลับมา ‘รอสโซเนรี่’ อีกครั้งในปี 2015 ด้วยสัญญายืมตัว แต่ฟอร์ม 1 ประตูจาก 20 นัดในลีก ก็ชัดเจนว่าทำไมพวกเขาถึงไม่รั้งให้ กองหน้าชาวอิตาเลี่ยน อยู่กับทีมต่อไป

 

 

โรแบร์โต้ บาจโจ้

 

Roberto Baggio at 50: Iconic Italian superstar who shone for Fiorentina and Juventus and should be remembered for more than 1994 World Cup final penalty miss

 

ช่วงเวลากับ มิลาน : 1995–1997
ช่วงเวลากับ อินเตอร์ : 1998–2000

 

ถึงไม่ได้ทำผลงานโดดเด่นกับ 2 สโมสรในมิลาน จนเป็นที่พูดถึงเหมือนตอนที่ค้าแข้งกับ ฟิออเรนติน่า, ยูเวนตุส, โบโลญญ่า หรือแม้กระทั่ง เบรสซ่า แต่ โรแบร์โต้ บาจโจ้ ก็ได้รับการพูดถึงจากแฟนบอลในตอนนั้นไม่น้อย เนื่องจากเป็นนักเตะชื่อดังเบอร์ต้นๆ ในยุค 90 เลย 

 

เจ้าของฉายา ‘เทพบุตรเปียทองคำ’ คว้าแชมป์สคูเด็ตโต้ กับ เอซี มิลานในฤดูกาล 1995-96 ซึ่งเป็น 1 ใน 2 แชมป์ลีกอิตาลีที่เขาเคยทำได้ ขณะที่ผลงานกับ อินเตอร์ มิลาน ก็จืดกว่านี้ในปี 1998-2000 เมื่อยิงแค่ 9 ประตูจาก 41 นัดในลีก โดยที่ไม่มีแชมป์ติดไม้ติดมือแม้แต่ใบเดียว

 

 

คริสเตียน บร็อคคี่

 

AC Milan on Twitter: "Many happy returns to Cristian Brocchi, today turning 41! Buon compleanno! 🎂… "

 

ช่วงเวลากับ มิลาน : 1994–1998, 2001–2008
ช่วงเวลากับ อินเตอร์ : 2000–2001

 

อดีตกองกลางตัวรับลูกหม้อของ เอซี มิลาน ที่หลายคนคงจดจำได้ดีในยุค 2000 กับ คริสเตียน บร็อคคี่ ที่ไม่มีโอกาสแจ้งเกิดกับทีมเลยในช่วงแรกระหว่างปี 1994-1998 ก่อนปล่อยให้กับ เวโรน่า ในเวลาต่อมา

 

บร็อคคี่ ย้ายไปอยู่กับ อินเตอร์ ในปี 2000 แต่ก็เป็นช่วงสั้นๆเท่านั้น เพราะหลังจากนั้นอีก 1 ปี เขาก็ย้ายกลับ ‘ปีศาจแดงดำ’ อีกครั้ง และครั้งนี้เขาก็กลายเป็นกองกลางคนสำคัญในทีมขอ คาร์โล อันเชล็อตติ ที่มีส่วนช่วยให้ทีมคว้าแชมป์ลีก 1 สมัย, แชมป์โคปปา อิตาเลีย 1 สมัย และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 2 สมัย

 

 

คริสเตียน วิเอรี่

 

Vieri intentó frustrar el fichaje del Ronaldo por el Real Madrid - AS.com

 

ช่วงเวลากับ อินเตอร์ : 1999–2005
ช่วงเวลากับ มิลาน : 2005–2006

 

นับตั้งแต่ปี 1991  คริสเตียน วิเอรี่ ค้าแข้งมาแล้ว 8 สโมสรในฟุตบอลอาชีพ ก่อนย้ายไปเล่นกับ อินเตอร์ มิลานในปี 1999 เพราะต้องการเล่นร่วมกับ โรนัลโด้ ในแดนหน้า และแน่นอนว่าฟอร์มการถล่มประตูในทีม ‘งูใหญ่’ ก็ยังยอดเยี่ยมเหมือนเคย ไม่ต่างจากที่เขาเคยแสดงให้เห็นกับ แอตเลติโก้ มาดริด หรือ ลาซิโอ 

 

แม้เป็นดาวยิงเบอร์หนึ่งของ ‘เนรัซซูรี่’ ในตอนนั้น แต่เขาก็ลาสโมสรไม่สวยนักหลัง การกลับมาของ อาเดรียโน่ ในปี 2004 ก่อนแยกทางกับทีมในปี 2005 เพื่อย้ายข้ามฟากไปซบทีมอริอย่าง เอซี มิลาน

 

อย่างไรก็ตาม ผลงานขอ ‘โบโบ้’ ในสีเสื้อ ‘ปีศาจแดงดำ’ ห่างไกลจากความยอดเยี่ยมเยอะ เมื่อยิงแค่ 2 ประตูจาก 14 นัด พร้อมคว้ารางวัลแข้งยอดแย่แห่งปี หรือถังขยะทองทำ ไปครองในฤดูกาล 2005-06