จริงอยู่ที่ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง จะเป็นทีมใหญ่ในลีก เอิง ฝรั่งเศส ทว่าตั้งแต่ปี 2011 เป็นต้นมา พวกเขาได้ขยับสถานะเป็นมหาเศรษฐีในโลกลูกหนังไปโดยปริยาย
การเข้ามาของกลุ่มทุนกาตาร์ ที่นำทีมโดย นาสเซอร์ อัล-เคไลฟี พวกเขาละเลงเม็ดเงินเข้ามายกระดับทีมอย่างมหาศาล นับแค่ยอดซื้อแข้งใหม่อย่างเดียวก็ไม่ต่ำกว่า 1 พันล้านปอนด์
อย่างไรก็ตาม เปแอสเช ก็ให้ความสำคัญกับการสร้างอะคาเดมี่ พวกเขาลงทุนปีละ 10 ล้านปอนด์ ในการพัฒนาดาวรุ่งโดยมีเป้าหมายที่จะค้นหา ลิโอเนล เมสซี่ คนใหม่ของวงการ
ทว่าเกือบ 10 ปีกลับมีแค่ เพรสเนล คิมเพมเบ้ และ อาเดรียน ราบิโอ้ต์ เพียง 2 รายเท่านั้นที่สามารถก้าวขึ้นมาเป็นตัวหลักสู่ทีมชุดใหญ่ ส่วนที่เหลือหากไม่ได้เซ็นสัญญา ก็มักถูกขายทำกำไร จนต้องไปแจ้งเกิดกับทีมอื่นแทน
โดยเฉพาะ 10 นักเตะที่จะถูกกล่าวถึงหลังจากนี้ ที่หากเอ่ยชื่อขึ้นมา เชื่อว่าคุณผู้อ่านทุกท่านต้องรู้จักกันเป็นอย่างดี ลองทายกันเล่นๆ ในใจว่ามีใครบ้าง แล้วคิดว่าจะถูกสักกี่คน ?
มุสซ่า เดมเบเล่ (ลียง)
สถานะ : เปลี่ยนอะคาเดมี่
หัวหอกที่ชื่อคุ้นหูแฟนบอลมาหลายปี ย้ายออกจาก ปารีส ตั้งแต่อายุ 16 ปีโดยโยกมาอยู่ในอะคาเดมี่ของ ฟูแล่ม ก่อนที่ปีต่อมาจะได้ประเดิมศึกใหญ่อย่างพรีเมียร์ลีก รวมๆ แล้วเจ้าตัวยิงไปถึง 19 ประตูจากการลงสนาม 64 นัดให้กับ “เจ้าสัวน้อย”
ปี 2016 เดมเบเล่ ย้ายมาอยู่กับ กลาสโกว์ เซลติก ซึ่งก็ช่วยให้ทีมคว้าทริปเบิ้ลในประเทศได้ถึง 2 ปีติดต่อกัน และเป็น ลียง ที่ดึงกลับมาค้าแข้งในลีกบ้านเกิดอีกครั้ง ด้วยฟอร์มที่ร้อนแรง ยิงประตูได้อย่างต่อเนื่อง ตอนนี้คาดกันว่าเจ้าตัวมีค่าหัวสูงถึง 60 ล้านปอนด์เลยทีเดียว
มัตเตโอ เก็นดูซี่ (อาร์เซนอล)
สถานะ : เปลี่ยนอะคาเดมี่
ไม่มีใครที่จะไม่รู้จักดาวเตะหัวฟูจากค่ายปืนโต เพราะนี่คือตัวหลักของ อาร์เซนอล ภายใต้การคุมทีมของ อูไน เอเมรี่ ตลอด 2 ฤดูกาลหลังสุด ซึ่งเจ้าตัวก็ทำผลงานได้ดีชนิดถูกเรียกติดทีมชาติฝรั่งเศส ชุดใหญ่มาแล้ว
เก็นดูซี่ เข้าสู่อะคาเดมี่ของ ปารีสฯ ตั้งแต่อายุ 6 ขวบ แต่เจ้าตัวเลือกย้ายไปอยู่กับ ลอริย็องต์ ในปี 2014 และเล่นลีก เอิง ฝรั่งเศส นัดแรกตั้งแต่อายุ 17 ปี ด้วยผลงานที่ดีใน ลีก เดอซ์ สุดท้ายไปเตะตา อาร์เซนอล ที่ยอมจ่าย 7 ล้านปอนด์ดึงไปร่วมทีม
คิงส์ลีย์ โกม็อง(บาเยิร์น)
สถานะ : หมดสัญญาย้ายฟรี
ถ้าพูดถึงเยาวชนของ เปแอสเช ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมาคนที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดคงหนีไม่พ้น โกม็อง ที่แม้ปัจจุบันจะอายุเพิ่ง 24 ปีแต่กวาดแชมป์มาแล้วถึง 3 ลีกใหญ่ในยุโรป กลายเป็นนักเตะมหัศจรรย์ที่คว้าแชมป์ลีกมาแล้ว 7 ปีติดต่อกัน
โกม็อง มาอยู่กับทีมเมืองหลวงตั้งแต่ 8 ขวบ กลายเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดของ ปารีส ที่ลงสนามในลีก เอิง ด้วยวัย 16 ปี 8 เดือน 4 วัน ทว่าพอสัญญาหมดเจ้าตัวเลือกย้ายไปอยู่กับ ยูเวนตุส ก่อนโยกมาอยู่กับ บาเยิร์น ในปัจุบัน
แดน อักเซล ซากาดู (ดอร์ทมุนด์)
สถานะ : ไม่ได้รับสัญญานักเตะอาชีพ
ปราการหลังเจ้าของความสูง 196 เซนติเมตร เริ่มต้นเส้นทางลูกหนังกับ เกรไตล์ ในเมืองบ้านเกิด ก่อนเซ็นสัญญากับ ปารีส ในวัย 12 ปี อยู่พัฒนาฝีเท้า 5 ปี ได้เล่น 9 นัดกับทีมสำรอง แต่สุดท้ายไม่ได้สัญญานักเตะอาชีพจนต้องหาสังกัดใหม่
ดอร์ทมุนด์ จากเสือเหลืองกลายเป็นเสือปืนไว ดึง ซากาดู มาร่วมทีมแบบฟรีๆ ซึ่งเจ้าตัวก็ทำผลงานได้ดีขึ้นมาอยู่ในทีมชุดใหญ่นับจนถึงตอนนี้ก็เป็นซีซั่นที่ 3 แม้จะยังไม่ได้เป็นตัวหลักที่ลงอย่างสม่ำเสมอ แต่อย่างน้อยๆ ชื่อของเขาก็คุ้นหูแฟนบอลบุนเดสลีกาไปแล้ว
บูบาการี่ ซูมาเร่ (ลีลล์)
สถานะ : ไม่ได้สัญญานักเตะอาชีพ
ห้องเครื่องของทีม “ตราหมา” มีชะตากรรมเดียวกับ แดน อักเซล ซากาดู เพราะเป็นเพื่อนร่วมรุ่นเดียวกัน ได้เล่นในทีมสำรองของ ปารีส พร้อมๆ กัน แต่สุดท้ายไม่ได้สัญญานักเตะอาชีพ และถูกปล่อยตัวแบบไม่ใยดีในปี 2017
อย่างไรก็ตามดูเหมือน ปารีส จะตัดสินใจพลาดอีกครั้ง ซูมาเร่ โยกมาทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมกับ ลีลล์ จนตอนนี้ทีมใหญ่ๆ ในพรีเมียร์ลีกทั้ง ลิเวอร์พูล, แมนฯ ยูไนเต็ด หรือ เชลซี อยากดึงไปร่วมทีม โดยนิยามถึงเขาง่ายๆ ก็คือ “นิวป็อกบา”
ไมค์ เมญอง (ลีลล์)
สถานะ : ย้ายค่าตัว 1 ล้านปอนด์
นายทวารวัย 24 ปีที่ได้รับคะแนนโหวตให้เป็นผู้รักษาประตูยอดเยี่ยมแห่งปีของ ลีก เอิง ฤดูกาล 2018-19 หรือซีซั่นก่อน ก็เป็นอีกคนทีมีจุดเริ่มต้นอาชีพจากการเป็นนักเตะในอะคาเดมี่ของ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ที่แม้ว่าจะถูกดันขึ้นชุดใหญ่ แต่ก็ไม่เคยได้ลงสนามเลยแม้แต่นัดเดียว
เมญอง ย้ายมาอยู่กับ ลีลล์ ในปีถ 2015 และได้ประเดิมสนามนัดแรกในวันที่ 18 กันยายนนัดที่ทีมเสมอกัน แรนส์ 1-1 หลัง วินเซนต์ เอ็นเยียม่า ถูกไล่ออก ซึ่งสัมผัสแรกของเขาก็แจ้งเกิดได้ทันทีด้วยการเซฟจุดโทษของ พอล จอร์จส์ เอ็นเทป ได้อย่างยอดเยี่ยม
อ็อดซอนด์ เอดูอาร์ (เซลติก)
สถานะ : ย้ายค่าตัว 10.3 ล้านปอนด์
เอดูอาร์ สมัยเล่นบอลเยาวชนเป็นถึงดาวซัลโวของ ปารีส ในรุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี ยิงไป 47 ประตูจากการลงสนาม 36 เกม รวมถึงเป็นดาวซัลโว (8 ประตู) ของศึกยูโร ยู-17 ที่ ฝรั่งเศส ได้แชมป์อีกด้วย อย่างไรก็ตามดีกรีดังกล่าวยังไม่ดีพอที่จะเป็นใบเบิกทางสู่ทีมชุดใหญ่ของ ปารีส
เจ้าตัวถูกปล่อยให้ ตูลูส ยืมใช้งาน เช่นเดียวกับ เซลติก ในปีแรก ทว่าด้วยฟอร์มที่น่าพอใจทำให้ยักษ์ใหญ่จากลีกวิสกี้ ยอมดึงตัวไปร่วมทีมแบบถาวร จนตอนนี้ยิงไป 46 ประตูจาก 81 นัดในลีก และกลายเป็นเป้าหมายเสริมทัพของ อาร์เซนอล อยู่ในเวลานี้
โชนาต็อง อิโกเน่ (ลีลล์)
สถานะ : ย้ายค่าตัว 5 ล้านปอนด์
แม้จะถูกดันขึ้นชุดใหญ่และได้ประเดิมสนามในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก นัดเจอ ลูโดโกเรตส์ ในปี 2016 ทว่ารวมๆ แล้ว อิโกเน่ ได้เล่นกับ ปารีส แค่เพียง 7 นัดนับรวมทุกรายการ ก่อนถูกปล่อยให้ มงต์เปลลิเยร์ ยืมใช้งาน 1 ปีครึ่ง
หลังหมดสัญญาเป็น ลีลล์ ที่มาดึงไปร่วมทีมด้วยสัญญายาว 5 ปี ซึ่งที่นี่เจ้าตัวก้าวขึ้นมาเป็นเพลย์เมกเกอร์ตัวหลักของทีม เรียกได้ว่าเป็นเจเรเนชั่นใหม่ของ ลีลล์ ที่กำลังตีตลาดยุโรป เช่นเดียวกับ บูบาการี่ ซูมาเร่ และ วิเตอร์ โอซิมเฮน อยู่ในเวลานี้
คริสตอฟ เอ็นคุนคู (ไลป์ซิก)
สถานะ : ย้ายค่าตัว 15 ล้านปอนด์
หากไม่นับ คิมเพมเบ้ และ ราบิโอ้ต์ เพลย์เมกเกอร์ัวัย 22 ปีน่าจะเป็นเด็กปั้นจากอะคาเดมี่ ที่ได้ลงสนามแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วยที่สุดแล้ว หลังถูกดันขึ้นชุดใหญ่ของ ปารีส ตั้งแต่อายุ 18 ปี ได้ลงเล่นนับรวมทุกรายการมากถึง 78 นัดยิงได้ 11 ประตู
ตอนที่มีข่าวจะย้ายทีม อูไน เอเมรี่ ที่โยกไปคุม อาร์เซนอล อยากได้ตัวเขามาก แต่สุดท้ายหวยมาออกที่ ไลป์ซิก ซึ่งเจ้าตัวก็เป็นกำลังสำคัญของ ยูเลี่ยน นาเกิ้ลมันน์ ในซีซั่นนี้ ทำไปแล้วถึง 13 แอสซิสต์ มีแค่ โธมัส มุลเลอร์ และ เจดอน ซานโช่ เท่านั้นที่ทำได้มากกว่าเขา
มุสซ่า ดิยาบี้ (เลเวอร์คูเซ่น)
สถานะ : ย้ายค่าตัว 15 ล้านปอนด์
ความสามารถของ ดิยาบี้ การันตีด้วยรางวัล ตีตี้ ดอร์ หรือนักเตะดาวรุ่งที่มีแนวโน้มดีที่สุดในอะคาเดมี่ของ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ซึ่งไม่น่าแปลกใจที่เจ้าตัวจะถูกดันขึ้นชุดใหญ่ ในฤดูกาล 2018-19 แล้วได้ลงเล่นถึง 25 นัดแม้จะเป็นสำรองถึง 15 เกมก็ตาม
อย่างไรก็ตามซีซั่นต่อมา ดิยาบี้ ก็ไม่ต่างจากดาวรุ่งรายอื่นๆ เมื่อมีข้อเสนอเข้ามา ปารีส ก็พร้อมขายทันที เจ้าตัวโยกมาเล่นในบุนเดสลีกากับ เลเวอร์คูเซ่น ซึ่งก็ทำผลงานได้ดีด้วยยิงไป 4 ประตูกับ 5 แอสซิสต์นับจนถึงตอนนี้
