ตัวแทนหมู่บ้าน : 10 สโมสรที่มีนักเตะมากที่สุดในศึกยูโร 2020

 

ยูโร 2020 ถือว่ามีหลายอย่างที่เปลี่ยนแปลงไปจากครั้งที่ผ่านๆมา หนึ่งในนั้นคือการที่ยูฟ่าเพิ่มจำนวนชาติที่เข้าแข่งขันจาก 16 เป็น 24 ทีม ทั้งยังให้แต่ละชาติส่งชื่อนักเตะได้เพิ่มจาก 23 เป็น 26 คน นั่นทำให้ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปในครั้งนี้ มีผู้เล่นเข้าร่วมการแข่งขันมากที่สุดเท่าที่เคยจัดทัวร์นาเมนต์มา

 

ว่าแต่… สงสัยไหมว่าจำนวนนักเตะทั้งหมดที่เข้าร่วมฟาดแข้งในศึกยูโร 2020 พวกเขามาจากสโมสรไหนเยอะที่สุด ?

 

*นับจากสโมสรที่นักเตะเล่นให้ในฤดูกาล 2020-21

 

อตาลันต้า (9 คน)

 

 

มัตเตโอ เปสซิน่า (อิตาลี)

ราฟาเอล โตลอย (อิตาลี)

เรโม่ ฟรอยเลอร์ (สวิตเซอร์แลนด์)

โจอาคิม เมห์เล่ (เดนมาร์ก)

อเล็กเซ มิรานชุค (รัสเซีย)

มาร์เท่น เดอ รูน (เนเธอร์แลนด์)

รุสลัน มาลินอฟสกี้ (ยูเครน)

มาริโอ ปาซาลิช (โครเอเชีย)

โรบิน โกเซนส์ (เยอรมัน)

 

อันที่จริง ในตอนแรกมีนักเตะ อตาลันต้า ที่ถูกชาติของตัวเองเรียกเข้ามาเล่นในรอบสุดท้ายทั้งหมด 8 คน ก่อนที่ มัตเตโอ เปสซิน่า จะตามเข้ามาสมทบเป็นรายที่ 9 หลังจาก สเตฟาโน่ เซนซี่ ได้รับบาดเจ็บจนต้องถอนตัวจากทีมชาติอิตาลีไป

 

แอร์เบ ไลป์ซิก (9 คน)

 

 

ยูสซูฟ โพลเซ่น (เดนมาร์ก)

มาร์เซล ซาบิตเซอร์ (ออสเตรีย)

คอนราด ไลเมอร์ (ออสเตรีย)

ดานี่ โอลโม่ (สเปน)

เอมิล ฟอร์สเบิร์ก (สวีเดน)

มาร์เซล ฮัลสเตนแบร์ก (เยอรมัน)

ลูคัส คลอสเตอร์มันน์ (เยอรมัน)

ปีเตอร์ กูลัคซี่ (ฮังการี)

วิลลี่ ออร์บาน (ฮังการี)

 

จริงๆแล้ว แอร์เบ ไลป์ซิก ควรจะมีนักเตะทั้งหมด 10 รายในยูโร 2020 หาก โดมินิค โซบอสซ์ไล ไม่ได้รับบาดเจ็บจนต้องถอนตัวจากทีมชาติฮังการีไปซะก่อน

 

โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค (10 คน)

 

 

ยานน์ ซอมเมอร์ (สวิตเซอร์แลนด์)

นิโก้ เอลเวดี้ (สวิตเซอร์แลนด์)

เดนิส ซากาเรีย (สวิตเซอร์แลนด์)

บรีล เอ็มโบโล่ (สวิตเซอร์แลนด์)

สเตฟาน ไลเนอร์ (ออสเตรีย)

วาเลนติโน่ ลาซาโร่ (ออสเตรีย)

มาร์คุส ตูราม (ฝรั่งเศส)

มัตธิอัส กินเทอร์ (เยอรมัน)

โยนาส ฮอฟมันน์ (เยอรมัน)

ฟลอเรียน นอยเฮาส์ (เยอรมัน)

 

โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค เป็นสโมสรที่มีนักเตะในทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์มากที่สุด โดยมีผู้เล่นจากทีมสิงห์หนุ่ม 4 รายที่ถูกเรียกตัวมาติดทัพนาฬิกาในทัวร์นาเมนต์นี้

 

โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ (10 คน)

 

 

มานูเอล อคานจี (สวิตเซอร์แลนด์)

อักเซล วิตเซล (เบลเยี่ยม)

โธมัส มูนิเยร์ (เบลเยี่ยม)

ธอร์ก็อง อาซาร์ (เบลเยี่ยม)

โธมัส เดลานี่ย์ (เดนมาร์ก)

เจดอน ซานโช่ (อังกฤษ)

จู๊ด เบลลิ่งแฮม (อังกฤษ)

มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์ (เยอรมัน)

เอ็มเร่ ชาน (เยอรมัน)

ราฟาเอล เกร์เรโร่ (โปรตุเกส)

 

น่าเสียดายและน่าแปลกใจในเวลาเดียวกันที่ มาร์โก รอยส์ กัปตันทีมโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ตัดสินใจปฏิเสธโอกาสในการได้มาเล่นในยูโร 2020 กับทีมชาติเยอรมัน ด้วยเหตุผลเพียงเพราะต้องการพักฟื้นร่างกาย

 

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (10 คน)

 

 

แดเนี่ยล เจมส์ (เวลส์)

ลุค ชอว์ (อังกฤษ)

แฮร์รี่ แม็คไกวร์ (อังกฤษ)

มาร์คัส แรชฟอร์ด (อังกฤษ)

ดีน เฮนเดอร์สัน (อังกฤษ)

สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ (สกอตแลนด์)

ดาบิด เด เคอา (สเปน)

วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ (สวีเดน)

ปอล ป็อกบา (ฝรั่งเศส)

บรูโน่ แฟร์นันเดส (โปรตุเกส)

 

*เฮนเดอร์สัน ถอนตัวทีหลังเนื่องจากมีอาการบาดเจ็บ

 

ดอนนี่ ฟาน เดอ บีค คืออีกหนึ่งนักเตะจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ควรจะได้มีส่วนร่วมในยูโร 2020 แต่กองกลางวัย 24 ปีดันมาได้รับบาดเจ็บจนต้องถอนตัวก่อนที่การแข่งขันจะเริ่มเพียงไม่กี่วัน เรียกได้ว่าตูดด้านกับปีศาจแดงไม่พอ ยังมาดวงซวยอดลุยทัวร์นาเมนต์สำคัญกับทีมชาติเนเธอร์แลนด์อีก

 

ดินาโม เคียฟ (11 คน)

 

 

จอร์จี้ บุชชาน (ยูเครน)

เซอร์เก ซีดอร์ชุค (ยูเครน)

มีโคล่า ชาปาเรนโก้ (ยูเครน)

อิลย่า ซาบาร์นี่ (ยูเครน)

วิคตอร์ ซีกานคอฟ (ยูเครน)

วิตาลี่ มีโคเลนโก้ (ยูเครน)

อาร์เต็ม เบสเยดิน (ยูเครน)

โอเล็กซานเดอร์ คาราวาเยฟ (ยูเครน)

โอเล็กซานเดอร์ ตีมชุค (ยูเครน)

เดนีส โปปอฟ (ยูเครน)

โทมัสซ์ เคดซิโอร่า (โปแลนด์)

 

ในยูโร 2020 ไม่มีสโมสรไหนที่มีนักเตะรวมอยู่ในทีมเดียวมากไปกว่า ดินาโม เคียฟ หลังจากพวกเขาส่งผู้เล่นมารับใช้ทีมชาติยูเครนมากถึง 10 รายในช่วงซัมเมอร์นี้

 

ยูเวนตุส (12 คน)

 

 

จอร์โจ้ คิเอลลินี่ (อิตาลี)

เฟเดริโก้ เคียซ่า (อิตาลี)

เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่ (อิตาลี)

เฟเดริโก้ แบร์นาร์เดสคี่ (อิตาลี)

เมริห์ เดมิราล (ตุรกี)

อารอน แรมซี่ย์ (เวลส์)

มาไธจ์ส เดอ ลิกต์ (เนเธอร์แลนด์)

วอยเชียค เชสนี่ (โปแลนด์)

อัลบาโร่ โมราต้า (สเปน)

เดยัน คูลูเซฟสกี้ (สวีเดน)

อาเดรียง ราบิโอต์ (ฝรั่งเศส)

คริสเตียโน่ โรนัลโด้ (โปรตุเกส)

 

คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กำลังมองไปถึงการป้องกันแชมป์ยูโรกับทีมชาติโปรตุเกส และเพื่อนร่วมทีม ยูเวนตุส หลายคนก็เป็นภัยคุกคามอันใหญ่หลวงสำหรับเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรายของ อาเดรียง ราบิโอต์ ที่อาจจะหยุดเส้นทางของดาวเตะดีกรีบัลลงดอร์ 5 สมัยตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่มเลยก็ได้

 

บาเยิร์น มิวนิค (14 คน)

 

 

ดาวิด อลาบา (ออสเตรีย)

โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ (โปแลนด์)

เบนจาแม็ง ปาวาร์ (ฝรั่งเศส)

โกร็องแต็ง โตลิสโซ่ (ฝรั่งเศส)

คิงสลี่ย์ โกม็อง (ฝรั่งเศส)

ลูก้าส์ แอร์กน็องเดซ (ฝรั่งเศส)

มานูเอล นอยเออร์ (เยอรมัน)

โยชัว คิมมิช (เยอรมัน)

แซร์จ กนาบรี้ (เยอรมัน)

จามาล มูเซียล่า (เยอรมัน)

นิคลาส ซูเล่ (เยอรมัน)

เลออน โกเร็ตซ์ก้า (เยอรมัน)

เลรอย ซาเน่ (เยอรมัน)

โธมัส มุลเลอร์ (เยอรมัน)

 

การที่ทีมชาติเยอรมันเต็มไปด้วยนักเตะจาก บาเยิร์น มิวนิค คงไม่ใช่เรื่องที่น่าสนใจสักเท่าไหร่ จุดที่น่าจับตาดูจริงๆคือ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ดาวยิงที่ได้รับการยกย่องว่าดีที่สุดในโลก จะไปได้ไกลขนาดไหนเมื่อไม่มีเพื่อนร่วมทีมเสือใต้คอยซัพพอร์ต

 

เชลซี (15 คน)

 

 

จอร์จินโญ่ (อิตาลี)

เอแมร์ซอน (อิตาลี)

อันเดรส คริสเตนเซ่น (เดนมาร์ก)

มาเตโอ โควาซิช (โครเอเชีย)

เมสัน เมาท์ (อังกฤษ)

เบน ชิลเวลล์ (อังกฤษ)

รีซ เจมส์ (อังกฤษ)

บิลลี่ กิลมอร์ (สกอตแลนด์)

เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า (สเปน)

โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ (ฝรั่งเศส)

เอ็นโกโล่ ก็องเต้ (ฝรั่งเศส)

เคิร์ท ซูม่า (ฝรั่งเศส)

อันโตนิโอ รูดิเกอร์ (เยอรมัน)

ไค ฮาเวิร์ตซ์ (เยอรมัน)

ติโม แวร์เนอร์ (เยอรมัน)

 

เป็นไปได้สูงที่จะมีนักเตะจาก เชลซี ได้ชูถ้วยยูโรในบั้นปลาย เพราะแชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีกมีผู้เล่นที่อยู่กับทีมเต็งๆทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นอิตาลี , อังกฤษ , สเปน , ฝรั่งเศส และเยอรมัน

 

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (15 คน)

 

 

เควิน เดอ บรอยน์ (เบลเยี่ยม)

นาธาน อาเก้ (เนเธอร์แลนด์)

โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ (ยูเครน)

ไคล์ วอล์คเกอร์ (อังกฤษ)

จอห์น สโตนส์ (อังกฤษ)

ราฮีม สเตอร์ลิ่ง (อังกฤษ)

ฟิล โฟเด้น (อังกฤษ)

เฟร์ราน ตอร์เรส (สเปน)

เอริค การ์เซีย (สเปน)

โรดรี้ (สเปน)

อายเมริค ลาปอร์ต (สเปน)

อิลกาย กุนโดกัน (เยอรมัน)

รูเบน ดิอาส (โปรตุเกส)

แบร์นาร์โด้ ซิลวา (โปรตุเกส)

เจา กานเซโล่ (โปรตุเกส)

 

*กานเซโล่ ถอนตัวทีหลังเนื่องจากติดเชื้อโควิด-19

 

ความลึกของขุมกำลังคือหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คว้าดับเบิ้ลแชมป์เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา (พรีเมียร์ลีก,คาราบาว คัพ) รวมทั้งผ่านเข้าไปถึงรอบชิงชนะเลิศยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ดังนั้น จึงไม่น่าแปลกใจที่ได้เห็นนักเตะจากเรือใบสีฟ้ามากขนาดนี้ในยูโร 2020