ไม่ใช่แค่แวร์รัตติ : 10 นักเตะดังเคยลับคมแข้งกับเปสคาร่า

เมื่อแฟนๆลูกหนังนึกถึงฟุตบอลอิตาลี ชื่อของ เดลฟิโน่ เปสคาร่า 1936 อาจจะไม่เป็นคุ้นหูหรือนึกถึงเป็นอันดับแรกๆมากเท่าไหร่ ถ้าหากนำไปเทียบกับสโมสรยักษ์ใหญ่ในลีกอย่าง ยูเวนตุส, เอซี มิลาน และ อินเตอร์ ก็ยิ่งแล้วใหญ่

ซึ่งความจริงแล้ว พวกเขาก็ไม่มีอะไรที่จดจำมากนัก นับตั้งแต่ก่อตั้งสโมสรมา 85 ปีที่แล้ว ทีม ‘โลมาน้อย’ ทำได้แค่วนเวียนขึ้นๆลงๆ อยู่ในเซเรีย บี และ ซี ในลีกแดนรองเท้าบู้ตอยู่เป็นปกติ

อย่างไรก็ตาม  ‘อิ เดลฟินี่’ ก็เคยโผล่ขึ้นมาเล่นในลีกสูงสุดของประเทศเช่นกัน แต่สุดท้ายจะตกชั้นไปตามที่สื่อและกูรูหลายคนฟันธงไว้

ถึงอย่างนั้น นักเตะดังหลายคนในปัจจุบันก็เคยโชว์ฝีเท้าได้โดดเด่นในสีเสื้อฟ้าขาว ซึ่งมีหลายคนที่เติบโตกับทีมมาตั้งแต่ชุดเยาวชน บางคนก็ย้ายมาจากที่อื่น ไม่ก็มาค้าแข้งที่นี่ด้วยสัญญายืมตัว

ด้วยเหตุนี้ UFA ARENA จึงขอไปพบกับ 10 แข้งดังที่เคยลับคมฝีเท้ากับ เปสคาร่า ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

 

มาร์โก แวร์รัตติ

แม้จะถูกจับตามองอย่างใกล้ชิดจากยอดทีมยักษ์ใหญ่จากเมืองมิลานทั้ง 2 ทีม ในช่วงวัยรุ่น ทว่า มาร์โก แวร์รัตติ เลือกที่จะเซ็นสัญญากับสโมสรบ้านเกิดอย่างเปสคาร่าในวัย 16 ปี และก้าวขึ้นมาเป็นผู้เล่นตัวจริงอยางรวดเร็ว

ในช่วงแรกนั้น แวร์รัตติเล่นเป็นกองกลางตัวรุก ก่อนที่จะถูกซเดเน็ค ซีแมน กุนซือทีม ‘โลมาน้อย’ ในตอนนั้นปรับให้กลายเป็นกองกลางเต็มตัวในฤดูกาล 2011-12 ซึ่งเขาก็โชว์ฟอร์มได้อย่างไม่มีที่ติจนช่วยใหทีมเลือนชั้นขึ้นไปเล่นในเซเรีย อาได้สำเร็จ

ด้วยฟอร์มที่โดดเด่นเกินใครทำให้แวร์รัตติได้รางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำเซเรีย บี ในปีนั้น และได้ย้ายไปเล่นในฝรั่งเศสกับ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ในเวลาต่อมา ซึ่งที่นั่นช่วยให้เจ้าตัวพัฒนาฝีเท้าจนกลายเป็นหนึ่งในกองกลางที่ดีที่สุดในโลก ณ ตอนนี้

 

ชิโร่ อิมโมบิเล่

ชิโร่ อิมโมบิเล่ เติบโตขึ้นมาจากทีมเยวชนของยูเวนตุส แต่การก้าวขึ้นมาเป็น 11 ตัวจริงในตอนนั้นเป็นเรื่องที่ดูจะเกินตัวเกินไปหน่อย ทำให้เขาต้องตัดสินใจย้ายไปเล่นแบบยิมตัวกับสโมสรอื่นเพื่อหาประสบการณ์ก่อน

แต่ด้วยการลงสนามที่จำกัดทั้ง เซียน่า และ กรอสเซโต้ ทำให้เขาทำได้แค่ 2 ประตูจากการเล่น 20 นัดรวมกัน  แต่กองหน้าชาวอิตาลีก็มาระเบิดฟอร์มได้กับ เปสคาร่า ในเวลาต่อมา โดยทำไป 20 ประตูจาก 37 นัด ช่วยให้ทีมเลื่อนชั้นขึ้นไปเซเรีย อาได้สำเร็จในปี 2011-12

แต่ทว่าหลังจากนั้น ฟอร์มของอิมโมบิเล่ก็ขึ้นๆลงๆ ผสมกันไป ก่อนจะกลายเป็นกองหน้าเบอร์ต้นๆในลีกแดนมักกะโรนี หลังย้ายซบ ลาซิโอ ตั้งแต่ปี 2016 จนถึงปัจจุบัน

 

ลอเรนโซ อินซินเญ่

มานึกย้อนดูดีๆ การที่เปสคาร่าคว้าแชมป์เซเรีย บี มาครองในปี 2011-12 ก็ถือว่าไม่ใช่เรื่องยากอะไร เพราะในเมื่อพวกเขามีทั้งแวร์รัตติ, อิมโมบิเล่ และ อินซินเญ่ อยู่ในทีม

ดาวยิงร่างเล็กโชว์ฟอร์มเด่นมาตั้งแต่ตอนปล่อยให้ ฟอจจา ยืมแล้ว และในสีเสื้อ ‘โลมาน้อย’ ก็เช่นกัน เขาประสานงานกับ อิมโมบิเล่ได้อย่างเข้าขารู้ใจ พร้อมกับยิงประตูในลีกไปถึง 18 ตุง

ด้วยฟอร์มอันโดดเด่นในเกมรุกกับ ‘โลมาน้อย’ ทำให้ อินซินเญ่ สามารถขึ้นไปเป็น 11 ตัวจริงประจำทีมนาโปลีได้ ซึ่งเป็นที่ที่ทำให้เขากลายเป็นหนึ่งในตัวรุกสุดจิ๊ดที่อันตรายที่สุดในโลกในเวลาต่อมา

 

จานลูก้า ลาปาดูล่า

จานลูก้า ลาปาดูล่า คือจอมพเนจรตัวจริง เพราะในวัยแค่ 26 ปี เขาย้ายไปเล่นให้สโมสรอื่นๆถึง 12 ทีมแล้ว นั่นรวมไปถึงทีมในสโลวาเนียอย่าง กอริก้า ด้วย แต่ช่วงที่เขาประสบความสำเร็จมากที่สุดคงหนีไม่พ้นช่วงที่เจ้าตัวค้าแข้งกับ เปสคาร่า ในปี 2015-16

สิ่งที่หัวหอกชาวแดนมักกะโรนีทำได้เฉกเช่น อิมโมบิเล่ และ อินซินเญ่ก็คือ การถล่มประตูเป็นกอบเป็นกำให้กับทีมจนช่วยให้ทีม ‘โลมาน้อย’ เลื่อนชั้นไปสู่ลีกสูงสุดอีกครั้ง ก่อนจะได้ย้ายไป เอซี มิลานในปี 2016 และติดทีมชาติอิตาลีในเวลาต่อมา แต่โชคร้ายที่เขาไม่สามารถโชว์ฟอร์มได้ดีเหมือนสมัยที่เล่นในทีมแคว้นอาบรุซโซ่ ได้อีกครั้ง

ปัจจุบัน หอกวัย 31 ปี ก็เล่นให้ เบเนเวนโต้ ตั้งแต่ปี 2020 และกำลังวนเวียนอยู่ในเซเรียบี

 

มัตเตีย เปริน

อีกอดีตผู้เล่นจาก ‘โลมาน้อย’ ที่เคยติดทีมชาติอิตาลี โดย มัตเตีย เปริน เคยย้ายไปเล่นด้วยสัญญายืมตัวระยะยาวกับทีมหลังจากที่เลื่อนชั้นขึ้นมาในเซเรียอาฤดูกาล 2012-13

แต่นั่นนับว่าเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากจริงๆ หลังนายทวารวัยละอ่อนพาทีมจบอันดับที่ 20 และเสียประตูไปถึง 66 ลูก จาก 30 นัด และทำไปได้แค่ 5 คลีนชีทเท่านั้น

แต่หลังจากนั้น เปริน ก็ค่อยแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นนายประตูที่เหนียวหนึบไม่แพ้ใครในลีก และถูกมองว่าจะกลายเป็นผู้สืบทอดในทัพ อัซซูรี่ ต่อจาก จานลุยจิ บุฟฟ่อน แต่สุดท้ายก็ไปไม่ถึงฝัน เพราะยังเป็นแค่อะไหล่มือสองใน ยูเวนตุส รองจาก วอจเซียค เซสนี่ ตั้งแต่ปี 2018 จนถึงปัจจุบัน 

 

วลาดิเมียร์ ไวส์

หนึ่งในแข้งดาวรุ่งจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก่อนจะถูกผลกระทบของการเทคโอเวอร์สโมสรของกลุ่มอาบู ดาบี ทำให้วลาดิเมียร์ ไวส์ต้องย้ายไปเล่นแบบยืมตัวถึง 3 ครั้ง ก่อนจะย้ายมาอยู่ทีมทางตอนใต้ของอิตาลีแบบถาวรในเวลาต่อมา

ไวส์เข้ามาร่วมทีมด้วยสัญญา 1 ปี และเขาก็ทำได้ดีพอตัว แม้ทีมจะตกชั้นก็ตาม โดยทำไป 4 ประตูและ 5 แอสซิสต์ จากการลงเล่น 22 นัด

จากนั้นแข้งชาวสโลวักลา ‘โลมาน้อย’ ไปอยู่กับ โอลิมเปียกอส ซึ่งเขาพาทีมได้แชมป์กรีก ซุปเปอร์ลีก ในปี 2014 โดยปัจจุบันก็ยังค้าแข้งในวัย 32 ปี กับ สโลวาน บราติสลาวา สโมสรในสโลวาเนียบ้านเกิด

 

ฮวน ควินเตโร่ 

อีกหนึ่งแข้งที่ย้ายเข้ามาตอนทีมเลื่อนชั้นสู่เซเรีย อา ในปี 2012-13 แต่ฮวน ควินเตโร่ก็ไม่ได้ค้าแข้งกับ เปสคาร่า นานมากนัก หลังลงเล่นแค่ 17 นัดเท่านั้น แต่ช่วงนั้นเจ้าตัวก็ถือเป็นหนึ่งในดาวรุ่งที่น่าจับตามองคนหนึ่งในฟุตบอลยุโรปเลย

ดาวเตะโคลอมเบียย้ายไป ปอร์โต้ ในเวลาต่อ ด้วยค่าตัวที่มากกว่าตอนที่ ทีมจากแคว้นอาบรุซโซ่ ซื้อมาถึง 4 เท่า แต่ทว่าตัวเขาเองก็ยังไม่สามารถฉายแววเก่งในโปรตุเกสได้ และปัจจุบันก็กำลังโกยเงินหยวนกับการเล่นให้ เซินเจิ้น เอฟซี

 

เบียร์เคียร์ บียาร์นาสัน

หลังจากย้ายมาด้วยสัญญายืมตัวพร้อมอ็อฟชั่นซื้อขาดจากสตองดาร์ด ลีแอชในปี 2012 เบียร์เคียร์ บียาร์นาสัน คือหนึ่งในนักเตะที่ไม่สามารถช่วยให้ ‘โลมาน้อย’ รอดตกชั้นได้ และย้ายออกไปซามพ์โดเรียในเวลาต่อมา

แต่หลังจากที่ย้ายแค่ฤดูกาลเดียว กองกลางชาวไอซ์แลนด์ก็ย้ายกลับทีมฟ้าขาวอีกครั้ง และยิงไปถึง 10 ประตูจาก 35 นัด แต่นั่นก็ไม่ช่วยให้ทีมเลื่อนชั้นขึ้นมาได้ ทำให้เขาถูกขายให้กับบาเซิ่ล ก่อนพเนจรย้ายไปเล่นให้สโมสรมากมายทั้ง แอสตัน วิลล่า, อัล อาราบี, เบรสซ่า และ อดาน่า เดเมียร์สปอร์

 

จานลูก้า คาปรารี่

จานลูก้า คาปรารี่เป็นคนที่เข้าๆออกๆกับทีมเปสคาร่าบ่อยพอสมควร หลังทำผลงานได้น่าประทับใจกับทีม ‘โลมาน้อย’ จนทำให้อินเตอร์คว้าตัวไปร่วมทีมในปี 2016 

แต่ต่อมา เขาก็ถูกปล่อยให้ทีมแดนใต้ยืมตัวมาใช้งาน และถูกขายต่อให้ซามพ์โดเรียในปี 2017 ก่อนถูกปล่อยให้ทีมอื่นยืมไปใช้งานเรื่อยมา ทั้ง ปาร์ม่า, เบเนเวนโต้ และ เวโรน่า

 

ลูคัส ตอร์เรร่า

กองกลางห้องเครื่องทีมชาติอุรุกวัยได้เข้ามาเป็นนักเตะเยาวชนของเปสคาร่าในปี 2013 หลังจากที่เล่นได้หนึ่งฤดูกาล ก็ถูกซามพ์โดเรียคว้าตัวไปร่วมทีม ก่อนจะปล่อยตัวเขาให้ ‘โลมาน้อย’ ยืมตัวต่อไปและทำไป 6 ประตูในฤดูกาลนั้น

หลังจากที่กลับมาที่ ‘ลา ซามพ์’ เขาก็ได้กลายเป็นกองกลางตัวหลักที่ทีมจะขาดไม่ได้ตลอด 2 ฤดูกาลที่ผ่านมา จนทำให้เขาได้ติดทีมชาติอุรกุวัยในฟุตบอลโลกครั้งล่าสุดด้วย ก่อนจะถูกอาร์เซน่อล กระชากไปร่วมทีมในซัมเมอร์นี้ แต่สุดท้ายก็กลายเป็นตัวหลักใน ปืนใหญ่ ไม่ได้ และถูกปล่อยให้ ฟิออเรนติน่า ยืมไปใช้งานในฤดูกาลนี้

 

บทความที่เกี่ยวข้อง