อย่าลืมฉัน : 10 แข้งดังที่คุณอาจไม่รู้ว่าเคยอยู่กับอตาลันต้า

ตลอด 3-4 ปีที่ผ่านมา อตาลันต้า ที่เคยเป็นแค่ทีมระดับกลางๆในเซเรียอา สามารถยกระดับตัวเองจนกลายเป็นทีมเบอร์ต้นๆของลีกเลี่ยน พร้อมเป็นขาประจำในแชมเปี้ยนส์ลีกเรื่อยมา 

จาน ปิเอโร่ กาสเปรินี่ เป็นผู้จัดการทีมคนแรกที่พาทีมจากแบร์กาโม่ไปเล่น UCL ได้ในฤดูกาล 2019-20 หลังก่อตั้งมานานกว่า 111 ปี และนับตั้งแต่นั้นพวกเขาก็ผ่านเข้ามาเล่นในบอลยุโรปถ้วยใหญ่จนถึงปัจจุบัน

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ที่ยังเป็นแค่ทีมระดับกลางในลีกแดนมักกะโรนี ก็ที่นักเตะชื่อดังมาค้าแข้งอยู่มากมาย แต่ด้วยฟอร์มที่ยอดเยี่ยมยามไปค้าแข้งกับทีมอื่นๆ ส่งผลให้แฟนบอลทั่วไปมักจะลืมว่าพวกเขาเหล่านั้นเคยโลดแล่ยอยู่ในถิ่นแบร์กาโม่ด้วย

และนี่คือ 10 แข้งดังที่คุณอาจไม่รู้ว่าเคยอยู่กับทีมจากแคว้นลอมบาเดียอย่าง อตาลันต้า มาก่อน

 

เทรเวอร์ ฟรานซิส (1986-1987)

ย้อนกลับไปในช่วงยุค 80 ซึ่งเป็นสมัยที่ เซเรียอา ถูกยกให้เป็นลีกลูกหนังเบอร์หนึ่งของโลก ที่เต็มไปด้วยดาวเตะเบอร์ต้นๆของวงการมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ดีเอโก้ มาราโดน่า ไปจนถึง โรแบร์โต้ บาจโจ้

ในขณะเดียวกันนั้นก็เป็นยุคเดียวกับช่วงที่นักเตะจากอังกฤษหรือในลีกผู้ดี เลือกลาบ้านเกิดเพื่อไปแสวงหาโชคกับการผจญภัยครั้งใหม่ในต่างแดน ทั้ง เอียน รัช, ลูเธอร์ บลิสเซ็ตต์, เรย์ วิลกิ้นส์, เลียม เบรดี้ รวมไปถึง เทรเวอร์ ฟรานซิส นักเตะคนแรกในสหราชอาณาจักรที่มีค่าตัวแตะ 1 ล้านปอนด์ด้วย

หอกชาวอังกฤษ ย้ายมาเล่นในอิตาลีเป็นเวลา 4 ปีแล้วกับ ซามพ์โดเรีย ระหว่างปี 1982-1986 ก่อนย้ายมาเล่นในทีมแบร์กาโม่ในปีต่อมา แต่ก็ไม่ใช่ช่วงเวลาที่ดีนัก เมื่อยิงเพียง 3 ลูกจาก 30 นัดในทุกรายการ จึงตัดสินใจย้ายกลับไปเล่นให้ทีมแถวบ้านเกิดอย่าง กลาสโกว เซลติก ในฤดูกาลถัดมา

 

จาโคโม่ โบนาเวนตูร่า (2006-14)

หลายคนอาจจะรู้จักกับ จาโคโม่ โบนาเวนตูร่า ในตอนที่เขาย้ายมาค้าแข้งกับเอซี มิลาน ตั้งแต่ปี 2014 และอยู่กับปีศาจแดงดำมานานถึง 6 ปี แต่รู้หรือไม่ว่ากองกลางชาวอิตาเลี่ยนเริ่มต้นอาชีพค้าแข้งกับ อตาลันต้า มาก่อน

หลังจากเติมโตมาจากทีมเยาวชน โบนาเวนตูร่า ได้ลงเล่นให้ทีม ‘ลา เดีย’ ชุดใหญ่ ในเดือนพฤษภาคมปี 2008 และได้ย้ายไปเกี่ยวกับประสบการณ์ลูกหนังกับ เปอร์โก้เครม่า และ ปาโดว่า แบบยืมตัว ก่อนจะเป็นตัวหลักของทีมในปี 2010

และ 4 ปีสุดท้ายที่เขาอยู่กับทีม, โบนาเวนตูร่าช่วยให้ ‘ลา เดีย’ เลื่อนชั้นขึ้นมาเล่นในลีกสูงสุดของอิตาลีได้สำเร็จ และกลายเป็นทีมที่โลดแล่นอยู่บนเซเรียอาได้อย่างมั่นคง ด้วยฝีเท้าที่โดดเด่นในตอนนั้นทำให้มิลานคว้าตัวไปร่วมทีมในเวลาต่อมา แต่ปัจจุบันเล่นให้กับ ฟิออเรนติน่า ตั้งแต่ปี 2020

 

ฟิลิปโป้ อินซากี้ (1996-97)

อดีตดาวยิงระดับโลกอย่าง ฟิลิปโป้ อินซากี้ คือแข้งระดับตำนานของเอซี มิลานอย่างแท้จริง โดยใช้เวลา 11 ปีในถิ่นซาน ซีโร่ พร้อมกับพาทีมคว้าแชมป์ เซเรียอา 2 สมัย, โคปา อิตาเลีย 1 สมัย และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกอีก 2 สมัย

แต่น้อยคนที่รู้ดีว่า ปิปโป้ เคยค้าแข้งในถิ่นแบร์กาโด้วย โดยย้ายมาจากปาร์ม่าในปี 1996 พร้อมกับทำประตูถล่มถลายจนกลายเป็นดาวซัลโวของเซเรียอาในปีนั้นด้วยจำนวน 24 ประตูจากการลงเล่น 33 เกม ทำให้เขาอยู่ในถิ่น เกวิสส์ สเตเดี้ยม แค่ปีเดียวเท่านั้นและถูกยูเวนตุสดึงตัวไปร่วมทีมด้วยค่าตัว 23 ล้านลีร์ (สกุลเงินของอิตาลีในตอนนั้น)

 

คริสเตียน วิเอรี่ (1995-96, 2006-07, 2008-09)

อีกหนึ่งตำนานของทีมชาติอิตาลีที่เคยค้าแข้งกับอตาลันต้ามากกว่า 1 ครั้ง, อดีตกองหน้าอินเตอร์ มิลาน คริสเตียน วิเอรี่ เคยย้ายมาร่วมทีม ‘ลา เดีย’ 3 ครั้ง โดยลงเล่นให้ทีมแค่ 1 ฤดูกาลเท่านั้นในทุกครั้งที่เขาย้ายมาที่นี่

ครั้งแรกคือฤดูกาล 1995-96 ซึ่งวิเอรี่ทำได้ 9 ประตูจาก 21 เกม ก่อนจะย้ายไปยิงกระจายกับยูเวนตุส จากนั้นอีก 10 ปีต่อมา ช่วงเวลาบั้นปลายอาชีพค้าแข้ง เขาก็กลับมาในถิ่นแบร์กาโม่อีกครั้งในฤดูกาล 2006-07 แต่ด้วยวัยที่โรยราทำให้โอกาสลงสนามและจำนวนประตูไม่มากเหมือนครั้งก่อนแล้ว โดยทำไปได้ 2 ประตูจาก 7 นัด

หลังจบปีนั้น วิเอรี่ได้ย้ายไปค้าแข้งกับฟิออเรนติน่า 1 ปี ก่อนจะย้ายกลับมาเล่นในถิ่น เกวิสส์ สเตเดี้ยมเป็นครั้งสุดท้าย และตัดสินแขวนสตั๊ดที่นั่นในเวลาต่อมาหลังจากยกเลิกสัญญากับสโมสรไม่นาน

 

ซิโมเน่ ซาซ่า (2006-10)

ก่อนที่สร้างชื่อด้วยการซอยเท้ายิงจุดโทษอันลือลั่นในศึกยูโร 2016 ที่พบกับทีมชาติเยอรมัน, ซิโมเน่ ซาซ่า คือดาวรุ่งที่เติบโตมาจากทีมเยาวชนของอตาลันต้ามาตั้งแต่ปี 2006

โดยตัวเขาได้ย้ายจากวัลเดร่ามาอยู่ในแบร์กาโม่ตั้งแต่อายุ 15 ปี แต่ทว่าหัวหอกชาวอิตาเลี่ยนก็ลงเล่นในทีมชุดใหญ่ แค่ 3 นัด ช่วงครึ่งหลังของฤดูกาล 2008-09 รวมเวลาแล้วเขาอยู่ในสนามแค่ 64 นาทีเท่านั้น

 

ดาวิเด้ ซัปปาคอสต้า (2011-12, 2014-15, 2021-ปัจจุบัน)

แม้เคยย้ายไปเล่นให้ เชลซี แต่ก่อนหน้านั้น ดาวิเด้ ซัปปาคอสต้า ก็ไม่ได้มีชื่อเสียงโด่งดังอะไรนักในอิตาลีบ้านเกิด ดังนั้นไม่แปลกใจว่าหลายคนคงไม่รู้ว่าเขาก็เป็นนักเตะอีกคนที่เคยค้าแข้งกับทีมดังแคว้นลอมบาเดียมาก่อน

แบ็คขวาชาวอิตาเลี่ยนย้ายมาร่วมทีม ‘เนรัซซูรี่’ ครั้งแรกในเดือนมกราคมปี 2011 ด้วยวัยเพียง 18 ปีเท่านั้น และไม่สามารถเบียดขึ้นมาเป็นตัวหลักในทีมได้ ก่อนจะถูกปล่อยให้ อเวลลินี่ ยืมตัวในซัมเมอร์ต่อมาและย้ายไปถาวรหลังจากนั้น แต่อีก 3 ปีต่อมา ซัปปาคอสต้า ก็หวนกลับมาเล่นในถิ่น เกวิสส์ สเตเดี้ยม อีกครั้งในปี 2014 ด้วยสัญญา 4 ปี

ด้วยฟอร์มที่ยอดเยี่ยในถิ่นแบร์กาโม่ครั้งที่ 2 ก็เพียงพอที่จะทำให้ซัปปาคอสต้าย้ายไปเล่นกับโตริโน่ในปี 2015 ก่อนจะย้ายไปค้าแข้งในอังกฤษกับ ‘สิงห์บลู’ อีก 2 ปีต่อมา แต่ไม่ประสบความสำเร็จ ซึ่งปัจจุบันก็ย้ายกลับมาเล่นให้ทีมเก่าเป็นคำรบที่ 3 ในฤดูกาล 2021-22

 

ดานี่ ออสวัลโด้ (2006-07)

อดีตกองหน้าของเซาแธมป์ตันอย่าง ดานี่ ออสวัลโด้ ตัดสินใจแขวนสตั๊ดด้วยวัยแค่ 30 ปีเพื่อตามล่าความฝันในการเป็นนักดนตรี และปรากฏตัวอยู่บ่อยครั้งกับรายการ Dancing with the Stars ในประเทศอิตาลี

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านั้น เขาก็ถือว่าเป็นกองหน้าพรสวรรค์สูงในช่วงที่เป็นดาวรุ่งอยู่และเคยค้าแข้งกับ ‘ลา เดีย’ สมัยอยู่ในเซเรีย บี ในวัย 20 ปี แต่ก็ไม่มีโอกาสโชว์ฝีเท้ากับทีมมากนัก ก่อนจะถูกปล่อยตัวให้ เลชเช่ ยืมตัว หลังจากทีมเลื่อนชั้นมาเซเรียอา และถูกขายขาดให้กับฟิออเรนติน่าในเวลาต่อมา

 

มาโนโล่ กับเบียดินี่ (2003-12)

มาโนโล่ กับเบียดินี่ เป็นอดีตกองหน้าของทีมนักบุญอีกคนที่เคยค้าแข้งกับอตาลันต้า แต่ทว่าเขาแตกต่างจาก ออสวัลโด้ มากๆ ตรงที่เติบโตกับทีมเยาวชนของทีมตั้งแต่อายุ 12 ปีเท่านั้น

หลังจากพัฒนาฝีเท้าขึ้นมาเรื่อยๆ กองหน้าตาปรือก็ได้โอกาสประเดิมสนามกับทีม ลา เดีย ครั้งแรกในเดือนมีนาคมปี 2010 ด้วยวัย 18 ปี แต่ว่าเขาก็ถูกทีมปล่อยให้ ซิตตาเดลล่า ปล่อยยืมในฤดูกาลต่อมา

กับเบียดินี่กลับมาทีมจาก แบร์กาโม่ อีกครั้งในปั 2011 และได้ลงเล่นในทีมชุดใหญ่พอสมควร แต่ก็ยิงไปแค่ประตูเดียวเท่านั้น ก่อนที่สโมสรจะขายเขาให้กับยูเวนตุสในปี 2012

  

วิโต้ มานโนเน่ (2003-05)

ก่อนที่ลีลาการเซฟประตูจะไปเข้าตา อาร์เซน เวนเกอร์ กุนซืออาร์เซน่อลในตอนนั้น, วิโต้ มานโนเน่ เคยใช้เวลาอยู่กับทีมเยาวชนของทีมในบ้านเกิด 2 ฤดูกาล หลังจากย้ายมาร่วมทีมตอนอายุ 15 ปีเท่านั้น

ด้วยอายุที่น้อยกว่าใครๆ ทำให้ทีมชุดใหญ่ไม่มีที่ว่างให้เขามากนัก ก่อนจะย้ายไปอาร์เซน่อลในเวลาต่อมา และเวลา 7 ปีในถิ่น ‘ปืนใหญ่’ มานโนเน่มีตำแหน่งแค่นายทวารมือ 3 ของทีมเป็นส่วนใหญ่ ปัจจุบันตัวเขาย้ายไปเล่นกับ โมนาโก ทีมจากลีกเอิง ตั้งแต่ปี 2020

 

ริคคาร์โด้ มอนโตลิโว่ (1992-03 (เยาวชน), 2003-05)

กองกลางทีมชาติอิตาลีที่ลงเล่นไปกว่า 66 นัด และกว่า 158 นัดให้กับ เอซี มิลาน แต่ก่อนที่ ริคคาร์โด้ มอนโตลิโว่ จะสร้างชื่อในสมัยที่ค้าแข้งกับฟิออเรนติน่าถึง 7 ปี เขาคือนักเตะลูกหม้อของอตาลันต้าตั้งแต่ปี 1992

แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ต้องรอคอยโอกาสอย่างอดทน จนกระทั่งปี 2003 มอนโตลิโว่ถึงได้ประเดิมนัดแรกในทีมชุดใหญ่ และหลังจากนั้นเขาก็ลงเล่นให้ทีม ‘ลา เดีย’ 86 นัด ก่อนจะย้ายไปทีม ‘ม่วงมหากาฬ’ ในปี 2005

น่าเสียดายที่ตลอดชีวิตค้าแข้ง กองกลางมากทักษะคว้าแชมป์ ซุปเปอร์โคปป้า อิตาเลียน่า ได้เพียงรายการเดียวเท่านั้น และด้วยอาการบาดเจ็บกับวัยที่เลยเลข 3 ไป 4 ปีแล้ว ทำให้แฟนๆคงไม่เห็นมอนโตลิโว่กลับมาเป็นคนเดิมเหมือนเมื่อหลายปีก่อนจนกกระทั่งเจ้าตัวตัดสินใจแขวนสตั๊ดในปี 2019

 

บทความที่เกี่ยวข้อง