ฟุตบอลในศึกโอลิมปิก อาจเป็นเวทีที่ชาติส่วนใหญ่เน้นใช้ดาวรุ่งเพื่อเสริมสร้างประสบการณ์ก่อนต่อยอดไปยังทีมชุดใหญ่ แต่ในขณะเดียวกันนักเตะตัวเก๋าก็ถูกเรียกเข้ามาเช่นกัน
โดยรายการนี้มีการจำกัดอายุผู้เล่นที่เข้าร่วมต้องมีอายุไม่เกิน 23 ปี หรือเกิดในปีที่จำกัดไว้ในการแข่งขันของปีนั้นๆ แต่ก็มีเงื่อนไขว่าแต่ละชาติสามารถดึงนักเตะอายุเกินโควต้าเข้ามาได้ไม่เกิน 3 คน
โดยในศึกโอลิมปิกที่กรุงโตเกียวครั้งล่าสุดนี้ ก็เต็มไปด้วยผู้เล่นวัยเก๋ามากประสบการณ์มากมายจากแต่ละชาติที่เข้ามาช่วยประคองรุ่นน้อง รวมทั้งเป็นกำลังสำคัญในการช่วยให้ทีมลุ้นคว้าเหรียญในบั้นปลายของการแข่งขัน
ด้วยเหตุนี้ UFA ARENA จึงขอแนะนำ 10 แข้งวัยเก๋าประจำศึกโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่มีประสบการณ์โชกโชนในวงการลูกหนังนานนับ 10 ปี
ซาลมัน อัล-ฟาราจ | ซาอุดิอาระเบีย (31 ปี)
ซาอุดิอาระเบีย ผ่านเข้ามาเล่นโอลิมปิกรอบสุดท้ายได้เป็นครั้งที่ 2 ในประวัติศาสตร์ ไม่แปลกที่ ซาอัด อัล-เชห์รี จะดึงผู้เล่นมากประสบการณ์จากทีมชุดใหญ่เข้ามาช่วยประคองแข้งหนุ่มในทีมด้วย และหนึ่งในนั้นก็คือ ซาลมัน อัล-ฟาราจ กองกลางกัปตันทีมวัย 31 ปี
แน่นอนว่าแฟนบอลนอกลีกซาอุฯ ย่อมไม่คุ้นชื่อของ มิดฟิลด์จาก อัล-ฮิลาล แต่ตลอด 13 ปีที่ผ่านมา เขาถือเป็นกำลังสำคัญของสโมสรเรื่อยมา พร้อมพาทีมคว้าแชมป์ลีก 6 สมัย, คิงคัพ 3 สมัย, ปรินซ์คัพ 6 สมัย หรือแชมป์ทวีปอย่าง เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก ในปี 2019 ด้วย
ซานโตส | บราซิล (31 ปี)
อังเดร ยาร์ดีน เฮดโค้ชทีมชาติบราซิลชุดโอลิมปิก เลือกหิ้ว ซานโตส ผู้รักษาประตูวัย 31 ปี เข้ามาเป็น 1 ใน 3 แข้งโควต้าอายุเกิน ที่ถึงแม้ไม่เคยติดทีมชาติชุดใหญ่เลย แต่ก็คาดว่าจะลงเฝ้าเสาเป็นตัวจริงที่ โตเกียว
เรื่องประสบการณ์ นายด่านจาก แอธเลติโก้ พาราเนนเซ่ ถือว่าไม่น้อยหน้าใครกับ 11 ปีในลีกแซมบ้า โดยเขาเพิ่งก้าวขึ้นมาเป็นมือหนึ่งในสโสรเต็มตัวช่วง 3 ปีที่ผ่านมานี่เอง และมีผลงานโดดเด่นกับการคว้าแชมป์บอลถ้วย โกปา โด บราซิล ปี 2019, โคปา ซูดาเมริกาน่า ปี 2018 และ แชมป์ลีกรัฐปาราน่าในปี 2020
โมฮาเหม็ด เอล เชนาวี่ | อียิปต์ (32 ปี)
อียิปต์ เป็นอีกชาติในโอลิมปิกหนนี้ที่เลือกใช้ผู้รักษาประตูมากประสบการณ์เข้ามาเสริมดาวรุ่ง นั่นก็คือ โมฮาเหม็ด เอล เชนาวี่ จาก อัล อาห์ลี
ไม่แปลกใจที่ ชอว์กี้ การิบ นายใหญ่ทีม ‘มัมมี่’ ดึงนายด่านวัย 32 ปี มาร่วมทีม ทั้งประสบการณ์ระดับสโมสรในลีกบ้านเกิด โดยเฉพาะกับ อัล อาห์ลี ที่กวาดแชมป์มาครองมากมาย รวมไปถึงในทีมชาติชุดใหญ่ก็เคยลุยฟุตบอลโลกปี 2018 ที่รัสเซียมาแล้ว แม้ตกรอบแบ่งกลุ่มด้วยการรั้งบ๊วยก็ตาม
มายะ โยชิดะ | ญี่ปุ่น (32 ปี)
ญี่ปุ่น ทีมเจ้าภาพเต็มไปด้วยดาวรุ่งฝีเท้าดีมากมาย แต่ฮาจิเมะ โมริยาสุ ก็เลือกดึงกองหลังตัวเก๋าอย่าง มานะ โยชิดะ มาประคองรุ่นน้องในแผงหลังเช่นกัน ร่วมกับ อิโรกิ ซาคาอิ แบ็คขวาที่เคยเล่นให้กับ ฮันโนเวอร์ และ โอลิมปิก มาร์กเซย
แต่ เซนเตอร์แบ็ค วัย 32 ปี ก็ยังเป็นคนที่มีประสบการณ์มากผู้เล่นทุกคนในทัพ ซามูไร ชุดนี้ โดยเล่นให้ทั้ง วีวีวี เวนโล ในลีกดัตช์, เซาแธมป์ตัน ในพรีเมียร์ลีก และ ซามพ์โดเรีย ในเซเรียอาปัจจุบัน ขณะที่ชุดใหญ่ก็ลุยฟุตบอลโลกมาตั้งแต่ปี 2010 ไม่เคยขาด และมีส่วนคว้าแชมป์เอเชียน คัพ ในปี 2011
มักซ์ ครูเซ่ | เยอรมัน (33 ปี)
มักซ์ ครูเซ่ กลายเป็นกองหน้าตัวความหวังของ เยอรมัน ชุดโอลิมปิกอย่างปฏิเสธไม่ได้ เนื่องจากแนวรุกส่วนใหญ่ที่ สเตฟาน คุนท์ซ เรียกมาล้วนเป็นดาวรุ่งที่ไม่มีประสบการณ์ในทีมชุดใหญ่มาก่อน หรือยังไม่ใช่ตัวหลักในระดับสโมสรเต็มตัว
ด้วยวัย 33 ปี ครูเซ่ ยังคงไว้ลายความเก๋าด้วยการพา ยูนิโอน เบอร์ลิน อยู่รอดปลอดภัยในบุนเดสลีก้าฤดูกาลที่ผ่านมา อีกทั้งประสบการณ์ค้าแข้งในลีกสูงสุดเมืองเบียร์มากกว่า 10 ปีจะช่วยให้ ‘อินทรีเหล็ก’ ไปไกลในโตเกียวได้แน่นอน
แม็กซ์ เกรเดล | ไอวอรี่โคสต์ (33 ปี)
แม็กซ์ เกรเดล เป็นนักเตะคนเดียวในทีมชาติไอวอรี่โคสต์ชุดนี้ที่มีอายุแตะเลข 3 ขณะที่แข้งโควต้าอายุเกินอีก 2 คนอย่าง เอริค ไบญี่ และ แฟรงค์ เคสซี่ มีอายุแค่ 27 กับ 24 ปีเท่านั้นตามลำดับ
แต่เชื่อว่าตัวรุกวัย 33 ปี ยังมีทีเด็ดเหลืออยู่ ทั้งในการสร้างสรรค์หรือทำประตูที่ซัดไป 12 ประตูให้ ซิวาสสปอร์ เมื่อฤดูกาลก่อน รวมถึงประสบการณ์ในฟุตบอลระดับสูงก็เต็มเปี่ยมทั้งการเล่นให้กับ เลสเตอร์, บอร์นมัธ, ลีดส์ ยูไนเต็ด, แซงต์ เอเตียนน์ และ ตูลูส ก่อนหน้านี้
วินสตัน รีด | นิวซีแลนด์ (33 ปี)
แดนนี่ เฮย์ นายใหญ่ทีมชาตินิวซีแลนด์ ตัดสินใจเรียก วินสตัน รีด กองหลังกัปตันจากชุดใหญ่ เข้ามาเสริมเกมรับให้แข็งแกร่งขึ้นในศึกโอลิมปิกหนนี้ หลังเพิ่งพา เบรนท์ฟอร์ด เลื่อนชั้นขึ้นพรีเมียร์ลีกได้สำเร็จ
เซ็นเตอร์แบ็ควัย 33 ปี เป็นแข้ง ‘ออล ไวท์ส’ ที่มีประสบการณ์มากที่สุดร่วมกับ คริส วู้ด กองหน้าโควต้าอายุเกินอีกคนจาก เบิร์นลี่ย์ หลังเคยเล่นให้กับ เวสต์แฮม นานนับ 10 ปี และแฟนบอลแดนกีวี่ คงต้องฝากความหวังไว้กับ 2 แข้งตัวเก๋า หากหวังเข้ารอบน็อคเอ้าท์เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์
อังเดร ปิแอร์-ชีญัก | ฝรั่งเศส (35 ปี)
หลายคนอาจสบประมาทว่า อังเดร ปิแอร์-ชีญัก เป็นแค่กองหน้าที่ล้มเหลวในฟุตบอลยุโรป หลังย้ายไปค้าแข้งกับ ติเกรส ในเม็กซิโก เมื่อปี 2015 แต่เขาก็พิสูจน์ให้เห็นว่าทุกคนคิดผิด ด้วยการพายอดสโมสรแดนจังโก้ กวาดแชมป์มาครองมากมายทั้งในประเทศและระดับทวีป
ด้วยผลงานที่ยอดเยี่ยมและสม่ำเสมอทำให้ ซิลแวง ริปโปล เรียกอดีตหอกโอลิมปิก มาร์กเซย ติดทัพ ‘ตราไก่’ ชุดโอลิมปิกปีนี้ และเชื่อว่า ดาวยิงวัย 35 ปี จะเป็นความหวังในเกมรุกร่วมกับ ฟลอเรียน โตแว็ง อย่างแน่นอน
กิลเยโม่ โอชัว | เม็กซิโก (36 ปี)
บรรดา 22 แข้งเม็กซิโอชุดลุยโอลิมปิกมีนักเตะแค่คนเดียวที่ค้าแข้งนอกแดนจังโก้ นั่นก็คือ ดีเอโก้ ไลเนซ ปีกดาวรุ่งจาก เรอัล เบติส แต่ถ้าพูดถึงเรื่องความเก๋าต้องยกให้ กิลเยโม่ โอชัว ยืนหนึ่งเหนือใครๆในทีม
นายด่านวัย 36 ปี ผ่านการค้าแข้งระดับสูงมาแล้วมากมาย ทั้งในบ้านเกิดกับ อเมริกา หรือในยุโรปกับ อฌักซิโอ้, มาลาก้า, กรานาด้า และ สตอร์ดาร์ ลิแอช รวมไปถึงทีมชาติชุดใหญ่ที่เฝ้าเสาแตะ 114 นัด รวมถึงลุยฟุตบอลโลกกับ คอนคาเคฟ โกลด์ คัพ มาแล้วอย่างละ 4 หน
ดานี่ อัลเวส | บราซิล (38 ปี)
นอกจาก ดานี่ อัลเวส จะเป็นนักเตะทีมชายอายุมากที่สุดในโอลิมปิกครั้งนี้แล้ว เขายังเป็นนักเตะที่คว้าแชมป์ระดับเมเจอร์มากที่สุดเหนือนักเตะทุกคนในรายการนี้ รวมถึงในโลกลูกหนังด้วยกับจำนวน 42 โทรฟี่ตลอดอาชีพค้าแข้ง
ปัจจุบัน แบ็คซ้ายจอมบุกวัย 38 ปี ยังค้าแข้งกับ เซา เปาโล สโมสรในบ้านเกิด และติดทีมชาติบราซิลลุยโตเกียวด้วย โดย อังเดร จาร์ดีน กุนซือของทีมที่มีอายมากกว่าเขาเพียง 3 ปี ตัดสินใจเรียก อัลเวส ติดทัพ ‘เซลาเซา’ ด้วยเหตุผลด้านประสบการณ์ และความเป็นผู้นำที่เจ้าตัวแสดงให้เห็นตลอดหลายปีที่ผ่านมา แม้อยู่ในช่วงบั้นปลายอาชีพแล้วก็ตาม