ในที่สุดบาร์เซโลน่า ก็สามารถตกลงคว้าตัว เมมฟิส เดปาย มาสู่ทีมอย่างเป็นทางการแล้ว ซึ่งเจ้าตัวไม่ใช่นักเตะชาวฮอลแลนด์คนแรกที่ย้ายเข้ามาสู่ทีม และถ้าหากมองย้อนกลับไป ทัพต่างดาวมีความเชื่อมโยงกับบรรดาแข้งดัตช์มาอย่างยาวนาน รวมถึงตำแหน่งผู้จัดการทีมเองก็ด้วย
วันนี้ UFAARENA จะมาจัดทีมนักเตะจากแดนกังหัน ที่ถูกนำเข้ามาสู่ถิ่นคัมป์นู ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา กับ 11 ตัวจริงทัพต่างดาวสีส้ม
ผู้รักษาประตู : รุด เฮสป์
ลงสนาม : 144 นัด
นายทวารชาวฮอลแลนด์ถูกดึงตัวมาจาก โรด้า ทีมในบ้านเกิดเข้ามาสู่ทีมในปี 1997 และเป็นตัวหลักสำคัญในยุคของ หลุยซ์ ฟาน กัล ด้วยการถูกส่งลงเฝ้าเสาไปทั้งหมด 144 นัดรวมทุกรายการ ตลอด 3 ปีที่อยู่กับทีม แม้ในส่วนของทีมชาติเจ้าตัวจะไม่ประสบความสำเร็จมากนักเนื่องจากทีมมี เอ็ดวิน ฟานเดอซาร์อยู่แล้ว แต่ในระดับสโมสรกับทัพต่างดาว เขาก็เดินหน้ากวาดความสำเร็จมาทั้งแชมป์ ลาลีกา 2 สมัย , โกปาเดลเรย์ 1 สมัย และ ยูฟ่าซูเปอร์คัพอีก 1 สมัย ก่อนที่เจ้าตัวจะแยกทางกับทีมกลับไปแขวนสตั๊ดที่บ้านเกิด
แบ็คขวา : ไมเคิล ไรซีเกอร์
ลงสนาม : 255 นัด
หนึ่งในทีมชุดครองเจ้ายุโรปกับอาแจ็กซ์เมื่อปี 1995 และเป็นแข้งแดนกังหันที่ถูก ฟานกัล ดึงเข้ามาสู่ทีมในปี 1997 แม้ว่าการมาของเขาจะไม่สามารถช่วยให้ทีมคว้าถ้วยแชมเปี้ยนส์ลีกมาครอง แต่ก็ถือเป็นตัวหลักสำคัญของทีมที่ได้ลงสนามไปมากถึง 225 นัดรวมทุกรายการ ก่อนที่จะแยกทางกับทีมกลับไปแขวนสตั๊ดที่ PSV ในบ้านเกิด ซึ่งปัจจุบันเขาเป็นผู้ช่วยของ เอริค เทน ฮาก ที่อาแจ็กซ์
กองหลัง : แฟรงค์ เดอ บัวร์
ลงสนาม : 214 นัด
ผู้จัดการทีมชาติฮอลแลนด์คนปัจจุบันที่เคยค้าแข้งอยู่กับบาร์เซโลน่า เขาเริ่มต้นอาชีพด้วยการเป็นปีกซ้าย แต่ด้วยความที่ไม่มีความเร็วเลยทำให้เขาถูกปรับมาเล่น แบ็คซ้ายในภายหลัง และกลายมาเป็นเซ็นเตอร์ในที่สุด ซึ่งเขาก็ทำได้ดีในตำแหน่งนี้ ก่อนจะถูก ฟานกัล เจ้านายเก่าดึงตัวไปอยู่ด้วยกันที่ บาร์ซ่า ในปี 1999 โดยในเวลานั้นทัพต่างดาว อุดมไปด้วยนักเตะจากฮอลแลนด์แน่นทีม น่าเสียดายที่เจ้าตัวมีความสำเร็จติดมือแค่ แชมป์ลาลีกาสมัยเดียวเท่านั้น กับการลงสนามไปทั้งหมด 214 นัดรวมทุกรายการ
กองหลัง : โรนัลด์ คูมัน
ลงสนาม : 262 นัด
หลังจากสร้างชื่อกับ อาแจ็กซ์ และ PSV คูมันก็โดน โยฮัน ครัฟฟ์ ตำนานรุ่นพี่ดึงตัวมาร่วมงานที่ถิ่น คัมป์นู ซึ่งแม้จะเป็นกองหลัง แต่เขากลับมีจุดเด่นที่การทำประตูจากลูกฟรีคิกอันหนักหน่วง การันตีด้วยผลงานการทำประตู 86 ประตู จาก 262 นัดรวมทุกรายการ แถมเขายังเป็นคนทำประตูชัยให้ทีมเอาชนะ ซามพ์โดเรียไป 1-0 พร้อมเป็นหนึ่งในขุนพลพาทีมคว้าแชมป์ ยูโรเปี้ยน คัพ สมัยแรกมาครองได้ในปี 1992 อีกด้วย ก่อนที่ปัจจุบัน คูมัน ในวัย 58 ปี จะกลับมาเป็นผู้จัดการทีมของทัพต่างดาวตั้งแต่ซีซั่นก่อน
แบ็คซ้าย : โจวานนี่ ฟาน โบรงก์ฮอสต์
ลงสนาม : 154 นัด
แบ็คซ้ายที่ทำผลงานได้อย่างน่าพอใจกับ อาร์เซน่อล ในช่วงปี 2001-2003 ทำให้บาร์ซ่าตัดสินใจไปดึงตัวเขามาร่วมทีมซึ่งในช่วงแรกเป็นแค่สัญญายืมตัว 1 ฤดูกาลเท่านั้น ก่อนที่พวกเขาจะติดใจแข้งดัตช์รายนี้และเซ็นขาดเข้าทีมในฤดูกาลถัดมา โดยกับเจ้าบุญทุ่ม โบรงก์ฮอสต์ คว้าแชมป์ไปทั้งลาลีกา 2 สมัย , สแปนิช ซูเปอร์คัพ 2 สมัย และ แชมเปี้ยนส์ลีกอีก 1 สมัย ก่อนที่จะไปแขวนสตั๊ดที่ เฟเยนูร์ด และผันตัวเป็นโค้ชจนได้พา เฟเยนูร์ด คว้าแชมป์ลีกดัตช์ไปครองเมื่อปี 2016/17
กองกลาง : แฟรงค์กี้ เดอยอง
ลงสนาม : 93 นัด
กองกลางดาวรุ่งจากอาแจ็กซ์ หนึ่งในทีมเด็กนรกที่พาทีมไปไกลถึงรอบรองชนะเลิศ ศึกแชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาล 2018/19 นั่นเป็นสาเหตุที่ บาร์ซ่า ไปดึงตัวเขามาสู่ทีมเมื่อฤดูกาล 2019/20 ที่ผ่านมา และเป็นหัวใจสำคัญของทีมในแดนกลางด้วยผลงาน 7 ประตู 8 แอสซิสต์ จาก 51 นัดรวมทุกรายการ แม้ว่าในแง่ของผลงานโดยรวมของทีมจะทำได้ไม่ดีนักในปีที่ผ่านมา
กองกลาง : ฟิลลิป โคคู
ลงสนาม : 291 นัด
ก่อนที่ ดานี่ อัลเวสจะมาทำสถิติเป็นนักเตะต่างชาติที่ลงให้กับ บาร์ซ่ามากที่สุดที่ 300 นัด โคคู เป็นนักเตะที่ครองสถิตินั้นมาก่อนในฐานะ นักเตะสารพัดประโยชน์ซึ่งได้ค้าแข้งอยู่กับทีมในช่วงปี 1998-2004 พร้อมฝากความสำเร็จไว้กับทีมด้วยการคว้าแชมป์ ลาลีกา และ ยูฟ่า ซุปเปอร์คัพ อย่างละสมัยในปี 1998/99 ก่อนที่เจ้าตัวจะย้ายออกไปแขวนสตั๊ดในปี 2008 และปัจจุบันได้ผันตัวมาเป็นผู้จัดการทีมคุม ดาร์บี้อยู่ในลีก แชมเปี้ยนส์ชิพ
กองกลางตัวรุก : โยฮัน ครัฟฟ์
ลงสนาม : 173 นัด
ตำนานนักเตะเทวดาของทั้งทีมชาติฮอลแลนด์ และบาร์เซโลน่า รวมถึงโลกฟุตบอล เจ้าตัวเลือกปัดข้อเสนอของเรอัล มาดริด มาอยู่กับทัพต่างดาวเมื่อปี 1973 ก่อนจะกลายเป็นนักเตะที่ประสบความสำเร็จที่สุดในวงการลูกหนังคนหนึ่ง แม้ในสมัยเป็นนักเตะเขาจะพาทีมคว้าไปได้แค่ แชมป์ลาลีกา และแชมป์โกปาเดลเรย์ อย่างละสมัย แต่หลังจากผันตัวมาเป็นโค้ช เขาก็พาทัพต่างดาวเถลิงความยิ่งใหญ่ไปกับถ้วยแชมป์ ลา ลีกา 4 สมัย, โกปา เดล เรย์ 1 สมัย, ซูเปร์โกปา เด เอสปันญ่า 3 สมัย, ยูโรเปี้ยน คัพ 1, ยูฟ่า คัพ วินเนอร์ส คัพ 1 สมัย และ ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ 1 สมัย กลายเป็นตำนานตลอดกาลประจำสโมสร
ปีกขวา : โยฮัน นีสเกนส์
ลงสนาม : 180 นัด
ตำนานแนวรุกยุคเดียวกับ ครัฟฟ์ ที่ย้ายเข้ามาสู่ถิ่น คัมป์นู ในปี 1974 หลังจากพา อาแจ็กซ์ ประสบความสำเร็จ ด้วยสไตล์การเล่นที่สวยงาม ทำให้เขาเป็นขวัญใจแฟนบอลพอๆกับเพื่อนของเขาอย่าง ครัฟฟ์ ขณะที่ในแง่ของความสำเร็จเขาคว้าแชมป์ร่วมกับทีมไป 1 รายการกับ แชมป์ลาลีกาเมื่อปี 1977/78 ก่อนจะแขวนสตั๊ดไปและเคยกลับมาเป็นผู้ช่วยผู้จัดการทีม บาร์เซโลน่า ในช่วงปี 2006-2008 อีกด้วย
กองหน้า : แพททริค ไคร์เวิร์ต
ลงสนาม : 257 นัด
อีกหนึ่งดาวเตะพรสวรรค์สูงจาก อาแจ็กซ์ ที่ถูกดึงเข้ามาเสริมทัพในปี 1998 แม้ว่าในส่วนของถ้วยแชมป์ เจ้าตัวจะมีแค่แชมป์ลาลีกาติดมือมาแค่สมัยเดียวเท่านั้น แต่ในเรื่องของผลงานการพังประตูเขากดไปทั้งหมด 122 ประตู จากการลงสนาม 257 นัดรวมทุกรายการ ตลอด 6 ปีที่อยู่กับทีม ก่อนจะย้ายออกไปอยู่กับหลายทีมและแขวนสตั๊ดไปกับ ลีลล์ในปี 2008 ซึ่งหลังจากที่เขาอำลาวงการไป ก็เคยกลับมารับงานเป็น ผู้อำนวยการศูนย์ฝึก ลามาเซีย ในปี 2019 ที่ผ่าน ก่อนจะเพิ่งแยกทางกับทีมไปหลังทัมเปลี่ยนประธานสโมสรมาเป็น โจน ลาปอร์ต้า
ปีกซ้าย : มาร์ค โอเวอร์มาร์ส
ลงสนาม : 141 นัด
แนวรุกจากทัพปืนโตที่ถูกดึงมาสู่ถิ่น คัมป์นู เมื่อปี 2000 ในฐานะนักเตะชาวฮอลแลนด์ที่แพงที่สุดที่ย้ายมาสู่ทีมในเวลานั้น ด้วยฝีเท้าบวกกับความรวดเร็ว ทำให้เขาทำผลงานไปได้ 19 ประตู 19 แอสซิสต์ รวมทุกรายการ แต่ในแง่ของความสำเร็จโดยรวมของทีม เป็นที่น่าเสียดายที่เขาไม่สามารถคว้าถ้วยแชมป์ใดๆกับทีมได้เลยแม้แต่รายการเดียว ก่อนจะประกาศแขวนสตั๊ดไปเน่องจากอาการบาดเจ็บเมื่อปี 2004 ด้วยวัยเพียง 31 ปีเท่านั้น แต่ภายหลังก็กลับมาลงเล่นให้ทีมในบ้านเกิด และเลิกเล่นถาวรไปในปี 2011 ส่วนในปัจจุบันเขาผันตัวมาเป็นผู้อำนวยการฟุตบอลให้กับ อาแจ็กซ์
ผู้จัดการทีม : แฟรงค์ ไรจ์การ์ด
ตำนานทหารเสือดัตช์ แม้ว่าในเส้นทางการค้าแข้งจะไม่เคยมาอยู่กับ บาร์เซโลน่า แต่ในเส้นทางอาชีพกุนซือเขาได้รับโอกาสเข้ามาคุมทัพต่างดาวช่วงปี 2003-2008 ต่อจาก ราโดเมียร์ อันติช และเจ้าตัวก็สามารถพาทีมกลับมาคว้าแชมป์ลาลีกาได้อีกครั้งในปี 2004/05 หลังห่างหายไปนานตั้งแต่ปี 1998/99 แถมในปีถัดมาทีมก็สามารถคว้า แชมเปี้ยนส์ลีก สมัยแรกมาครองได้สำเร็จ นอกจากนี้ในปีดังกล่าวพวกเขาก็เป็นทริปเปิ้ลแชมป์ทั้ง ลาลีกา และ โกปา เดลเรย์ อีกด้วย ก่อนที่สุดท้ายไรจ์การ์ดจะแยกทางกับทีมไปในปี 2008 และส่งต่อให้กับ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า พาทีมเข้าสู่ยุคทองของสโมสร