แม้ลิโอเนล เมสซี่ และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ จะผลัดกันครองบัลลังก์ดาวยิงประจำลีกสเปน แต่ก็มีบางอย่างที่เขาทำไม่ได้เช่น ดาเนี่ยล กีซ่า
ในที่สุดลาลีก้าฤดูกาลนี้ก็ปิดฉากลงเป็นที่เรียบร้อย โดยแชมป์ปีนี้ได้แก่บาร์เซโลน่าที่สามารถป้องกันแชมป์ลีกได้สำเร็จ รวมถึงรางวัล ปิชิชี่ หรือ ดาวซัลโวประจำลีกก็ตกเป็นของ ลิโอเนล เมสซี่ ดาวเตะเบอร์หนึ่งของทีมอาซูลกราน่า โดยทำประตูไป 36 ลูก ทิ้งห่างอันดับสองถึงอย่างหลุยส์ ซัวเรซ และ คาริม เบนเซม่า ถึง 15 ลูก
สำหรับรางวัลดาวยิงประจำลีกแดนกระทิงก็ไม่ใช่เรื่องผิดคาดอะไรนัก เพราะตลอดช่วง 11 ปีที่ผ่านมา ปิชิชี่ อวอร์ด จะตกเป็นของ เมสซี่ ไม่ก็ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ สมัยค้าแข้งกับเรอัล มาดริด วนอยู่อย่างนี้ไปมา นับตั้งแต่ปี 2008-09 พวกเขาคว้ารางวัลนี้รวมกันถึง 9 ครั้ง (เมสซี 5, โรนัลโด้ 4) และนอกเหนือจากทั้งคู่ ก็มีแค่หลุยส์ ซัวเรซ กับ ดีเอโก้ ฟอร์ลัน เท่านั้น ที่คว้ารางวัลนี้ได้
แต่ที่น่าเปลกใจที่สุดคือ ณ ช่วงเวลานั้นกลับไม่มีดาวยิงชาวสแปนิชที่คว้ารางวัลนี้เลยแม้แต่คนเดียว นับตั้งแต่ ดาเนียล กีซ่า เคยทำได้ในฤดูกาล 2007-08 กับมายอร์ก้า สโมสรระดับกลางๆค่อนไประดับล่างในลีก
ในปีนั้นกีซ่าทำไปได้ 27 ประตู ทำให้เขาเป็นผู้เล่นคนสุดท้ายที่คว้าดาวซัลโวลีกด้วยจำนวนประตูที่น้อยกว่า 30 ลูก และจำนวนนั้นอาจจะไม่ได้มากมายอะไร เมื่อเทียบกับในยุคปัจจุบันที่แม้จะยิงถึง 46 ประตูก็อาจเป็นได้แค่รองดาวซัลโวเเหมือนโรนัลโด้ในฤดูกาล 2011-12
อย่างไรก็ตาม หากมองให้ลึกลงไปในฤดูกาลนั้น คุณจะพบว่าฟอร์มการเล่นและยิงประตูของกีซ่าน่าประทับใจกว่าตัวเลขที่เราเห็นแค่ภายนอกอยู่หลายเท่าตัวเลย
หลงผิดชั่วขณะ
ในช่วงสมัยที่เริ่มค้าแข้งในลาลีก้าใหม่ๆกับมายอร์ก้า ดาวยิงชาวทีมชาติเปิดอกยอมรับว่าตัวเขาเคยหลงแสงสีในยามค่ำคืนจนฟอร์มตก ไม่ต่างจากนักฟุตบอลส่วนใหญ่ที่มีพรสวรรค์แต่ดันถูกสิ่งนอกสนามดึงความสนใจจนทำให้เสียผู้เสียคนไปในท้ายที่สุด
อังเคล ตอร์เรส ประธานสโมสรเกตาเฟ่เคยกล่าวยกย่องกีซ่ามีสไตล์การเล่นคล้ายคลึงกับ โรนัลโด้ ตำนานแข้งชาวบราซิลอยู่ไม่น้อย รวมถึงเป็นกองหน้าที่คมที่สุดในลาลีก้าด้วย ในสมัยที่เขาเซ็นสัญญากับทีมในปี 2005 แต่ก็อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่าการใช้ชีวิตส่วนที่ถูกแสงสียามค่ำคืนมอมเมาทำให้กีซ่าไปไม่ถึงจุดที่ตัวเองควรอยู่ซักที แม้จะย้ายมาทีมใหม่แล้วก็ตาม
มันย่ำแย่ถึงขั้นที่เขาป่วยติดเชื้อทางกระเพาะอาหารจากพิษของแอลกอฮอล์ จนสโมสรจากเมืองมาดริดต้องให้อาหารที่เป็นของเหลวแทน ก่อนว่าที่ภรรยาในอนาคตอย่าง นูเรีย เบอร์มิเดซ จะเป็นคนช่วยให้กีซ่ากลับขึ้นมามีชีวิตค้าแข้งที่สดใสอีกครั้ง
กีซ่ากลับมาเป็นดาวยิงอย่างแฟนบอลเกตาเฟ่คาดหวังไว้และโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมจนกระทั่งเขาถูกมายอร์ก้า สโมสรเก่าที่เขาเคยล้มเหลวในช่วงปี 1999-2003 คว้าตัวกลับไปร่วมทีมอีกครั้งด้วยค่าตัว 5 ล้านยูโร ในปี 2007
และมาในครั้งนี้ กีซ่าไม่ใช่คนเดิมที่มัวแต่กินเหล้าเมายาหรือปาร์ตี้ตลอดสัปดาห์รอบๆเกาะมายอร์ก้าเหมือนหลายปีก่อนอีกต่อไปแล้ว แต่ที่นี่จะกลายเป็นทีมที่ทำให้เขาก้าวขึ้นไปอยู่บนจุดสูงสุดของอาชีพค้าแข้งในไม่ช้า
ดาวซัลโวไม่ง้อจุดโทษ
เกรกอริโอ้ มานซาโน่ กุนซือของทีมชาวเกาะ ณ ตอนนั้น เปิดเผยว่า สไตล์การเล่นเกมรุกของทีมทำให้แฟนบอลและคู่แข่งในลาลีก้าต่างตกตะลึงเป็นอย่างมาก แม้จะเป็นช่วงเวลาที่ไม่กี่ฤดูกาลเท่านั้นก็ตาม
กีซ่าโชว์ฟอ์มในช่วงแรกของฤดูกาลได้ดีสมควร โดยยิงไปทั้งหมด 11 ประตูจาก 25 เกมแรก แต่ก็ยังตามหลังตำแหน่งดาวซัลโวอย่าง หลุยซ์ ฟาเบียโน่ กองหน้าเซบีย่าถึง 8 ประตู
อย่างไรก็ตาม ในช่วง 13 นัดสุดท้ายของลีก กองหน้าชาวสแปนิชก็เร่งเครื่องถล่มประตูไป 16 ลูก บวกกับฟอร์มที่แผ่วลงของหัวหอกชาวแซมบ้ายิงเพิ่มได้แค่ 7 ลูกเท่านั้น ทำให้กีซ่าเบียดคว้ารางวัลปิชิชี่ไปครองในท้ายที่สุด
ปัจจัยอีกอย่างที่ช่วยกีซ่าประสบความสำเร็จในฤดูกาลนั้นคือ การประสานงานอันยอดเยี่ยมของเขาและ เอเรียล อิบากาซ่า เพลย์เมกเกอร์ชาวอาร์เจนไตน์ของทีม ซึ่งแอสซิสต์ไปทั้งหมด 15 ลูกในปีลีกเดียวกันเป็นรองแค่ กูตี แข้งตำนานของเรอัล มาดริด เท่านั้น
แต่น่าบังเอิญมากๆ เมื่อคนที่คอยส่งบอลให้กีซ่าทำประตูบ่อยๆอย่าง อิบากาซ่า จะเป็นคนที่ขัดขว้างไม่ให้เขาทำประตูมากกว่าเดิมซะอย่างนั้น
ที่เป็นเช่นนั้น เนื่องจากแข้งอาร์เจนไตน์เป็นมือหนึ่งในการสังหารจุดโทษให้มายอร์ก้า นั่นจึงหมายความว่า กีซ่าไม่ได้โอกาสได้ยิงจุดโทษเลยแม้แต่ลูกเดียวในปีนั้น
ทีมชาวเกาะได้ประตูจากลูกจุดโทษในลาลีก้า 4 ประตู และถ้าหากหัวหอกเลือดกระทิงเป็นคนรับผิดชอบเองทั้งหมด ตัวเลขในการทำประตูของเขาจะพุ่งพรวดถึง 30 ประตูเลยทีเดียว
จริงๆเขาสามารถขอเพื่อนยิงลูกโทษเพื่อการันตีตำแหน่งดาวซัลโวก็ได้ แต่กีซ่าเลือกที่จะไม่ทำเพราะเขาเคารพในตัวเพื่อนร่วมทีมและมองว่าเพื่อนที่เป็นมือสังหารเบอร์หนึ่งในทีมก็ควรทำหน้าที่นี้ต่อไป
กีซ่าทำประตูได้มากมายในฤดูกาลนั้น แต่น่าเสียดายที่เขาไม่สามารถพาทีมคว้าตั๋วไปเล่นในรายฟุตบอลยุโรปอย่าง ยูฟ่า คัพ เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสรได้ หลังจบอันดับ 7 ในปีนั้น ก่อนที่เขาจะย้ายไปร่วมทีมเฟเนร์บาห์เช่ในลีกตุรกี พร้อมกับกลายเป็นตัวหลักของทีมชาติสเปนในเวลาต่อมา
สถิติที่ยากจะทำลาย
ปัจจุบัน ดาเนี่ยล กีซ่า ในวัย 38 ปียังค้าโลดแล่นโชว์ฝีเท้าอยู่บนฟลอร์หญ้าให้กับแอตเลติโก้ ซานลูเกโน่ สโมสรระดับดิวิชั่น 4 ในบ้านเกิดอยู่ ซึ่งเขาได้รำลึกถึงช่วงเวลาอันหอมหวานในฤดูกาลนั้นกับมายอร์ก้า ที่ที่กีซ่าเรียกได้เต็มปากว่าเปรียบเสมือนบ้านของเขา
“ผมทำประตูได้ 27 ลูก และเป็นดาวซัลโวของลีก โดยไม่ได้แตะจุดโทษแม้แต่ลูกเดียวเลย ซึ่งนั่นไม่เรื่องง่ายเลยล่ะ” เขากล่าวผ่านมาร์ก้า สื่อดังแดนกระทิง
“มายอร์ก้าคือที่ที่ทำให้ผมก้าวขึ้นไปเล่นในทีมชาติสเปนได้อย่างเต็มตัวและอยู่ในชุดคว้าแชมป์ยุโรปด้วย”
มาในตอนนี้ ก็ยังไม่ทีท่าว่าแข้งจากสเปนจะก้าวขึ้นไปเป็นดาวซัลโวได้อีกครั้ง และในฤดูกาล ยาโก้ อัสปาส กองหน้าเซลต้า บีโก้ คือแข้งชาวสเปนที่ประตูได้มากที่สุด โดยยิงไป 20 ประตู แต่เขาก็ยังห่างจากจำนวนประตูที่กองหน้ารุ่นพี่เคยทำไว้อยู่ดี
กีซ่าอาจจะไม่ใช่กองหน้าที่โดดเด่นมากนัก ไม่ว่าจะในยุคของตัวเองที่มีดาบิด บีย่า หรือ เฟร์นานโด ตอร์เรส คอยบดบังรัศมีอยู่ และยุคใหม่ที่ไม่ได้เนรมิตทุกอย่างได้ดั่งใจอย่าง ลิโอเนล เมสซี่ หรือ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ แต่ก็ยังมีอีกอย่างที่ทั้งคู่ทำเหมือนกีซ่าไม่ได้
ลาลีก้าอาจจะกลายเป็นสนามเด็กเล่ยของเมสซี่ในตอนนี้ แต่สถิติดาวซัลโวลีกที่ไม่มีจุดโทษเจือปนเลยของกีซ่าซึ่งอยู่ยงคงกระพันมานานถึง 11 ปี ก็ไม่มีทีท่าว่าจะถูกดาวเตะคนไหนทำลายลงได้ในเร็วๆนี้อย่างแน่นอน