การที่นักฟุตบอลอาชีพแขวนสตั๊ด และเลือกทำงานวนเวียนอยู่กับวงการฟุตบอลต่อไป ถือเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นให้เป็นประจำ ตั้งแต่ยุคอดีตจนถึงปัจจุบัน
ไม่ว่าจะก้าวขึ้นไปเป็นในฐานะผู้จัดการทีม, สต๊าฟโค้ช หรือผู้บริหารสโมสร ก็ล้วนเป็นสิ่งที่หลายคนเห็นกันจนชินตา แต่ก็ไม่ได้หมายความว่านักเตะทุกคนที่เลิกเล่นอาชีพจะทำงานในวงการต่อไป เนื่องจากบางคนก็เลือกย้ายไปทำงานในสายอาชีพอื่น ที่แตกต่างแถมไม่ได้เกี่ยวข้องกับฟุตบอลเลยด้วยซ้ำ
ด้วยเหตุนี้ UFA ARENA ขอพาไปพบ 12 แข้งดังกับอาชีพสุดแปลกหลังแขวนสตั๊ดผ่านบทความนี้กัน
ลีออน แม็คเคนซี่ และ เคอร์ติส วู๊ดเฮ้าส์ – นักมวย
I will be doing this fantastic walk with my @CPFC faithful for those who have suffered with mental health and those we’ve lost to it. My inspiration is for the caller that called in @talkSPORT Mark will be walking with me on Sunday 21st from CPFC to the emirates #fightit RT 🥊⚽️ pic.twitter.com/BwES2IeAUZ
— Leon Mckenzie (@LeonMckenzie1) April 12, 2019
ทั้ง ลีออน แม็คเคนซี่ และ เคอร์ติส วู๊ดเฮ้าส์ ต่างมีชื่อเสียงในวงการฟุตบอลยุคใหม่ประมาณนึง โดยแม็คเคนซี่ เริ่มต้นเส้นทางลูกหนังกับคริสตัล พาเลซ ในระดับเยาวชน และวนเวียนอยู่ในทีมลีกรองของอังกฤษนานหลายปี ก่อนจะแขวนสตั๊ดและย้ายไปสวมนวมแทนในปี 2013 โดยตัวเขาขึ้นชกในรุ่นซุปเปอร์ มิดเดิ้ลเวท 11 นัด ชนะถึง 8 (ชนะน็อค 4) แพ้ 2 นอกจากนี้ยังสามารถคว้าแชมป์ International Masters ในปี 2015 ได้ด้วย และตัดสินใจลาเวทีผ้าใบในปี 2017
ขณะที่ วู๊ดเฮ้าส์ ดูจะไปได้สวยกว่าแม็คเคนซี่ หลังอดีตแข้งเชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด และ เบอร์มิ่งแฮม ได้ย้ายไปอยู่วงการมวยในรุ่น 4 รุ่นด้วยกัน แต่สามารถคว้าแชมป์บริติชในรุ่นไลท์เวทเตอร์เวทมาได้ โดยมีสถิติขึ้นชกทั้งหมด 31 นัด ชนะไป 24 (ชนะน็อค 13) และแพ้ 7 และแขวนนวมเรียบร้อยในปี 2017
ทิม วีเซ่ – นักมวยปล้ำ WWE
@mitchwilks Tim weise at wwe pic.twitter.com/Lo7brV023y
— Pepsi Plunge (@tom_d_19) November 15, 2014
นายทวารชาวเยอรมันประกาศแขวนถุงมือในปี 2014 หลังอยู่ในวงการฟุตบอลมานานถึง 15 ปี โดยเป็นที่รู้จักของแฟนบอลบุนเดสลีก้าจากการเฝ้าเสาให้แวร์เดอร์ เบรเมน และ ไกเซอร์สเลาเทิร์น ซึ่งหลังจากนั้นวีเซ่ก็เล่นกล้ามอย่างจริงจังจนร่างกายของแข็งแกร่งกว่าตอนค้าแข้งเป็นไหนๆ ก่อนที่เขาจะตัดสินไปนักมวยปล้ำอาชีพกับ WWE ยักษ์ใหญ่ในวงการนี้ และเปิดตัวครั้งแรกในอีเว้นต์ที่จัดขึ้นในกรุงมิวนิค เมื่อเดือนพฤศจิกายนปี 2016
อย่างไรก็ตาม วีเซ่ ก็ได้รับสถานะเป็นแค่น้องใหม่ในวงการ ทำให้เขาไม่มีโอกาสได้ออกมาโชว์ลีลาในเวทีผ้าใบนัก โดยฉายาใน WWE ว่า “เดอะ แมชชิน” หรือไอ้เครื่องจักร ก่อนจะเลิกไปในปี 2017 แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าช่วงเวลาเหล่านั้นเป็นประสบการณ์อันมีค่าของวีเซ่อย่างแน่นอน แม้ว่ามันจะไม่ได้มากมายอย่างเขาหวังไว้ก็ตาม
อาร์แยน เด ซูว์ – นักสืบ
Arjan De Zeeuw – The former Wigan player is a now a forensic detective in Holland. pic.twitter.com/cAmUOMcFdL
— Former Footballers (@FinishedPlayers) January 19, 2014
แม้ว่า อาร์แยน เด ซูว์ จะไม่มีโอกาสรับใช้ทีมชาติฮอลแลนด์บ้านเกิดเลยซักนัดเดียว แต่อย่างน้อยตัวเขาก็มีความสุขและมีชื่อเสียงพอสมควรกับการค้าแข้งในอังกฤษ โดยค้าแข้งกับ วีแกน แอธเลติก ถึง 2 ครั้ง (ครั้งแรก 1999–2002, ครั้งที่สอง 2005–2007), พอรท์สมัธ และ โคเวนทรี ก่อนจะกลับไปแขวนเกือกกับทีมฟุตบอลสมัครเล่นในฮอลแลนด์เมื่อปี 2009
นอกจากนี้อดีตกองหลังแดนกังหันลมยังเรียนจบปริญญาตรีด้านการแพทย์มาด้วย แต่ทว่าหลังเลิกเล่นฟุตบอลเข้าไม่ได้หันเหไปทางที่กล่าวมาเลย แต่ดันย้ายไปทำอาชีพเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาอาชกรรมอย่างนักสืบแทน ซึ่งคอยหาหลักฐานหาข้อเท็จจริงแก้ไขคดีต่างๆ โดยตอนนี้สำนักของ เด ซีว์ ตั้งอยู่ในเมืองอัลค์มาร์ ทางตอนเหนือของฮอลแลนด์
รอยสตัน เดรนเธ – แร็ปเปอร์
รอยสตัน เดรนเธ คือนักเตะที่ใครหลายคาดว่าจะแจ้งเกิดในวงการได้เหมือนรุ่นพี่คนอื่นๆในทีมชาติฮอลแลนด์ หลังพาทีมชุดยู 21 คว้าแชมป์ยุโรปในปี 2007 แถมยังย้ายไปร่วมทีมยักษ์ในสเปนอย่าง เรอัล มาดริด อีกด้วย แต่ทันทีที่คว้าแชมป์ลาลีก้าในปี 2008 ชีวิตค้าแข้งของเขาก็ค่อยๆถอยหลังลงนับตั้งแต่นั้น ไม่ว่าจะตอนค้าแข้งกับเอฟเวอร์ตัน, ทีมในรัสเซีย หรือ ตุรกีก็ตาม
แต่ทุกคนบนโลกล้วนมีสิ่งที่ตัวเองหลงใหลมากกว่าแค่เรื่องเดียวอยู่แล้ว เช่นเดียวกับอดีตวันเดอร์คิดของเฟเยนูร์ดที่มีความสนใจด้านดนตรีเป็นพิเศษ รองลงมาจากเรื่องฟุตบอล ทำให้ประกาศว่าขอลาวงการลูกหนังและหันไปเป็นแร็ฟเปอร์แบบเต็มตัว โดยใช้ชื่อว่า Roya2faces
อย่างไรก็ตามในปี 2018 เดรนเธก็กลับมาโชว์ฝีเท้าในฟลอหญ้าอีกครั้ง แต่ก็ไม่ได้ประสบความสำเร็จนัก ทั้ง สปาร์ต้า ร็อตเตอร์ดัม, โคซาคเค่น บอยส์, ราซิ่ง มูร์เซีย, เรอัล ราซิ่ง, และ ราซิ่ง เมริด้า
แดเนียล แอ็กเกอร์ – ช่างสัก
We have come a long way with @Tattoodo, but we wanna go further.
Bring on 2019😎 pic.twitter.com/URAnjAKj7F— Daniel Agger (@DanielAgger) January 18, 2019
รอยสักตามร่างกายนั้นกลายเป็นสิ่งที่พบเห็นได้ทั่วไปในกีฬายุคปัจจุบัน ซึ่งกีฬาฟุตบอลก็ดูจะได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ และหนึ่งในนักเตะที่คลั่งไคล้เรื่องนี้เป็นพิเศษคงจะหนีไม่พ้น อดีตกองหลังทีมชาติเดนมาร์กอย่าง แดเนียล แอ็กเกอร์ ที่โด่งดังอย่างมากในสมัยที่ค้าแข้งกับบร้อนด์บี้ในบ้านเกิด และ ลิเวอร์พูล ยอดทีมจากแดนผู้ดี
ในร่างกายของแอ็กเกอร์ได้แสดงให้ความหลงใหลในรอยสักได้เป็นอย่างดี ซึ่งมีลวดลายต่างๆไปทั่วตั้งแต่หัวจรดเท้า ความจริงก็คือเขามีใบอนุญาตเป็นช่างสักตั้งแต่สมัยค้าแข้งกับหงส์แดงแล้ว และนั่นแสดงให้เห็นว่าการสร้างศิลปะจากปลายเข็มอันแหลมคมนั่นไม่ใช่สิ่งที่แอ็กเกอร์สนใจแบบผิวเผินจริงๆ
ไคลฟ์ อัลเลน – นักกีฬาอเมริกัน ฟุตบอล
มีน้อยคนนักที่จะได้ค้าแข้งกับ อาร์เซน่อล, สเปอร์ส และ เชลซี ซึ่ง ไคลฟ์ อัลเลน คือหนึ่งในนั้น แม้ว่าตัวเองจะไม่ได้เล่นให้ ‘ปืนใหญ่’ แม้แต่นัดเดียว รวมถึงยังเป็นนักเตะไม่กี่คนที่ย้ายไปเป็นนักกีฬา อเมริกัน ฟุตบอล แบบเต็มตัว
จริงอยู่ที่ อัลเลน ไม่สามารถก้าวเข้าไปเล่นใน NFL ได้ แต่ตัวเขาก็ได้ลงเล่นช่วงสั้นๆให้กับ ลอนดอน โมนาชส์ ในลีกระดับยุโรป (ซึ่งการแข่งขันในปี 1991 จนถึง 2007) โดยทำหน้าที่เป็นตัวเตะ ฟิลด์โกลในทีม
นิท อันเดอร์ส ฟอร์เตอร์โวลด์ – นักปั่นจักรยาน
4-Knut Anders Fostervold, futbolista profesional noruego hasta 2002. Llegó a jugar en Champions League. Como ciclista fue bronce en los campeonatos nacionales noruegos CRI en 2005 y 2006 y plata tras E.Boasson Hagen en 2007. Participó en los mundiales CRI en 2006 y 2007 pic.twitter.com/KJGoNo0Gma
— l l/I / II [ ] l_ (@rotapunctatis) February 20, 2019
ฟอร์เตอร์โวลด์ใช้เวลา 11 ปีในวงการลูกหนัง โดยใช้เวลาส่วนใหญ่กับสโมสรในลีกนอร์เวย์บ้านเกิด แต่ก็ยังมีโอกาสได้ย้ายมาค้าแข้งในอังกฤษกับ กริมสบี้ ทาวน์ แบบยืมตัวในปี 2000 ก่อนจะกลับไปแขวนสตั๊ดกับโมลด์ปีต่อมาเนื่องจากอาการบาดเจ็บที่รบกวน แต่หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็กลับมาแข่งขันกีฬาอีกครั้ง แต่ว่าไม่ใช่การวิ่งไล่หวดลูกบอลอีกต่อไป และกลายเป็นนักปั่นอาชีพแทน
ฟอร์เตอร์โวลด์คว้าเหรียญทองแดงในการแข่งขันระดับประเทศของนอร์เวย์เมื่อปี 2005 และคว้าแชมป์มาได้ในปี 2006 ก่อนจะคว้าเหรียญเงินมาครองในปีถัดมา นอกจากนี้เขายังมีโอกาสได้แข่งขันในนานาชาติด้วย โดยเป็นตัวแทนของทีมชาตินอร์เวย์ในการแข่งขันเวิลด์ แชมเปี้ยนส์ชิพ ในปี 2006 และ 2007 ซึ่งคว้าที่ 43 และ 51 มาได้ตามลำดับ
โทมัส โบรลิน และ โธมัส กราเวอเซ่น – นักโป๊กเกอร์
James Mcfadden on Thomas Gravesen: "He once brought a paintball gun to training & started shooting everybody.
Another time he went to the physio, who was running with some players, with a bunch of fireworks & starting firing at them."
Absolute mad guy😂 pic.twitter.com/DL9UYA1OwS
— Footy Accumulators (@FootyAccums) November 22, 2018
ไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะเห็นงานอดิเรกยามว่างของใครซักคนกลายเป็นอาชีพที่สร้างรายได้ขึ้นมาแบบเต็มตัว และอดีตแข้งดังอย่าง โทมัส โบรลิน กับ โธมัส กราเวอเซ่น ก็ได้พิสูจน์ให้คนทั่วโลกเห็นแล้วโดยอดีตแข้งทีมสวีเดนได้ก้าวเข้าไปแข้งขันใน เวิลด์ซี่รี่ย์ โป๊กเกอร์ นับตั้งแต่ปี 2006 เป็นต้นมา
ขณะที่อดีตนักเตะเอฟเวอร์ตัน ได้ผันตัวไปเป็นนักโป๊กเกอร์อาชีพในลาล เวกัส ในปี 2013 แถมประสบความสำเร็จพอตัวด้วยกับการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้
เคน มอนคู – เจ้าของร้านแพนเค้ก
Ken Monkou – Ran a pancake house in Holland. pic.twitter.com/Gal3mZQFlG
— Former Footballers (@FinishedPlayers) August 12, 2015
ในปี 1989 เคน มอนคู เป็นนักเตะคนแรกจากนอกเครือจักรภพของอังกฤษที่ได้ย้ายมาร่วมทีมเชลซี นับตั้งแต่ปี 1982 โดยอดีตกองหลังจากเฟเยนูร์ดประสบความสำเร็จพอสมควรในการค้าแข้งแดนผู้ดีกับ ‘สิงห์บลูส์’ และเซาแธมป์ตัน ก่อนจะแขวนสตั๊ดกับฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์ในปี 2001
หลังจากนั้นอีกหลายปีต่อมา มอนคู ก็ได้เปิดร้านแพนเค้กขึ้นที่เมืองเดลฟท์ ในประเทศฮอลแลนด์เมื่อปี 2009 และตอนนี้เขาก็ปรากฏตัวอยู่ในสื่อกีฬาของแดนกังหันลม รวมไปถึงรายการทีวีของ เชลซี สโมสรเก่าของเขาด้วย
ฟาเบียง บาร์กเตซ – นักแข่งรถ
อดีนายทวารแชมป์โลกอย่าง ฟาเบียง บาร์กเตซ เป็นที่รู้จักกันดีว่าเขาคือมือกาวที่มีปฏิกิริยาที่รวดเร็วมากๆ แต่ก็ไม่มีใครคาดคิดเช่นกันว่าตัวเขาจะตัดสินใจก้าวเข้าไปสู่โลกของมอเตอร์สปอร์ตอยู่ดี
อดีตผู้รักษาประตูแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อาจจะไม่ได้เข้าไปแข่งขันในการแข่งขันระดับโลกอย่าง F1 แต่ทัวร์นาเม้นต์ที่เขาเข้าไปร่วมด้วยก็โหดใช่ย่อยเลย หลังต้องแข่งขันในศึก เลอ ม็องส์ ซีรี่ย์ที่แข่งขันถึง 24 ชั่วโมง ตั้งแต่ปี 2014 ซึ่งได้อันดับ 9 ในปีนั้น, อันดับ 8 ในปี 2016 และไม่ติดอันดับในปี 2017
บทความที่เกี่ยวข้อง
