เอาทุกทาง! 5 เล่ห์เหลี่ยมเจ้าภาพเวียดนามล่าแชมป์ซีเกมส์

ซีเกมส์

การแข่งขันฟุตบอลชาย ซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ที่กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว โดยเกมนัดเปิดสนามเจ้าภาพสามารถเอาชนะ อินโดนีเซีย ไปได้แบบขาดลอย 3-0

อย่างที่ทราบกันดีว่า เหรียญทองในการแข่งขันฟุตบอลถือว่าสำคัญมากที่สุดของเวียดนาม ก็ว่าได้ โดยเฉพาะบอลชายที่พวกเขาต้องการรักษาแชมป์ให้ได้ในปีนี้

เพราะฉะนั้นมันคงไม่แปลกอะไรหากพวกเขาจะสามารถสร้างความได้เปรียบให้กับตัวเองในฐานะการเป็นเจ้าภาพ ซีเกมส์ ครั้งนี้

ฉะนั้นวันนี้ UFAARENA จะขอพาไปดูกลยุทธ์เล่ห์เหลี่ยมของเจ้าภาพเวียดนาม ที่เตรียมไว้เล่นงานคู่แข่งในศึก ซีเกมส์ ครั้งนี้ จะมาในรูปแบบไหนกันบ้าง รับประกันได้เลยว่าแสบไม่ใช่เล่นแน่นอน

 

เจ้าภาพเลี่ยงอยู่กับทีมชาติไทย ในรอบแรก

ต้องบอกเลยว่าการแข่งขันยังไม่เริ่มต้นเจ้าภาพก็เริ่มใช้เล่ห์เหลี่ยมซะแล้ว เมื่อพวกเขาคิดสูตรแบบใหม่ในการจับสลากฟุตบอลชายซีเกมส์ รอบแบ่งกลุ่ม โดยใช้ผลงานย้อนหลังของปีก่อนๆ มาจัดอันดับทีมวาง

นั่นทำให้ทัพ “ดาวทอง” ในฐานะเจ้าภาพจะถูกจับเป็นทีมวางของกลุ่ม เอ และจะไม่เจอกับทีมไทย แน่นอน เนื่องจากทัพ “ช้างศึก” เจ้าของเหรียญทองมากสุด 7 สมัย ถูกจัดให้เป็นทีมวางของกลุ่ม บี

แม้ว่าการไม่เจอกับเจ้าภาพในรอบแรกถือเป็นเรื่องดีของไทย เช่นกัน แต่มันอาจเป็นการบอกกลายๆ ว่าพวกเขายังหวั่นหากต้องมาเจอกับทีมชาติไทย และย้อนกลับเมื่อ 2017 เราเคยเขี่ยพวกเขาตกรอบแรกมาแล้ว ใน ซีเกมส์ ครั้งที่ 29 ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย

 

โควตาเรียกนักเตะเพิ่มเจ้าภาพได้ประโยชน์มากสุด

อย่างที่ทราบกันดี สำหรับการแข่งขันฟุตบอลชาย ซีเกมส์ ครั้งที่ 31 แต่ละทีมส่งรายชื่อผู้เล่นได้ทั้งหมด 20 คน แต่หากมีนักเตะติดโควิดระหว่างทัวร์นาเมนต์ สามารถเรียกตัวมาเสริมได้ทันที

แต่ถ้าเรามองตามความเป็นจริง ทีมที่น่าจะได้ประโยชน์มากสุดคงเป็นเจ้าภาพเวียดนาม เพราะพวกเขามีนักเตะสำรองซึ่งสแตนบายรออยู่ที่กรุงฮานอย 15 คน และสามารถเรียกตัวไปใช้งานได้ทันที หากผู้เล่นในทีมชุดหลักเจอโควิดเล่นงาน

กลับกันสำหรับชาติอื่น คงเป็นเรื่องยากหากคิดจะเรียกผู้เล่นมาเสริม โดยเฉพาะกับ ซีเกมส์ ที่แต่ละทีมลงเล่นกันแบบวันเว้นวัน ดูแล้วถ้าต้องเรียกนักเตะเข้ามาเพิ่มจริง ก็คงลงสนามช่วยทีมไม่ทันแน่นอน

เพราะฉะนั้น ปฏิเสธไม่ได้ว่า กฏการเรียกผู้เล่นเข้ามาเสริมหากพบนักเตะในทีมติดโควิด น่าจะเป็นประโยชน์กับเจ้าภาพมากที่สุด ย้อนกลับในศึกฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี 2022 ที่ประเทศกัมพูชา ทัพ “ดาวทอง” ก็เคยใช้แผนนี้มาแล้ว ก่อนที่ความสดใหม่ของบรรดานักเตะที่ถูกเรียกเข้าไปเพิ่ม จะทำให้พวกเขาเบียดเอาชนะทีมชาติไทย ในเกมนัดชิงชนะเลิศ คว้าแชมป์รายการดังกล่าวได้สำเร็จ

 

จัดโปรแกรมทีมชาติไทย เจองานหนัก 2 เกมติด

อีกหนึ่งเรื่องที่เป็นประเด็นเช่นกัน คือการที่เจ้าภาพจัดโปรแกรมให้ลูกทีม มาโน่ โพลกิ้ง ต้องลงสนามเกมยาก 2 นัดติดต่อกัน เจอกับ มาเลเซีย ต่อด้วย สิงคโปร์ ในช่วงสองนัดแรก

อย่างที่ทราบกันดีตั้งแต่ก่อนเริ่มทัวร์นาเมนต์ว่า ทีมชาติไทย มีปัญหาพอสมควรกับการเตรียมทีมเพื่อลงเตะในศึก ซีเกมส์ ครั้งนี้ โดยเฉพาะการขาดผู้เล่นแกนหลักหลายราย แถมมีเวลาเก็บตัวก่อนบินมาที่ เวียดนาม แค่เพียงไม่กี่วันเท่านั้น ถ้าพูดเรื่องความพร้อมคงต้องยอมรับว่า เราเป็นรองชาติอื่นพอสมควร

แถมตางราการแข่งขันก็ถือว่าไม่เป็นใจกับเราเท่าไหร่ เพราะสองเกมแรกของทีมชาติไทย ต้องเจอกับสองทีมที่แกร่งสุดของกลุ่ม บี นั่นคือการเจอกับ มาเลเซีย ต่อด้วย สิงคโปร์ ในระยะเวลาห่างกันแค่เพียง 2 วัน เท่านั้น ถ้าสถานการณ์ไม่เป็นใจและพลาดท่าให้กับคู่แข่ง อีก 3 เกมที่เหลือ คงจะเป็นงานหินสำหรับเราแน่นอน กับโอกาสลุ้นผ่านเข้าสู่รอบต่อไป

 

สนามซ้อมไร้มาตรฐาน

ถือเป็นประเด็นที่กำลังถูกพูดถึงกันอย่างมากในตอนนี้ นั่นคือเรื่องของสนามซ้อมของแต่ละชาติซึ่งไม่ได้มาตรฐาน โดยเฉพาะชาติแรกอย่าง เมียนมาร์ ซึ่งถูกจัดให้ไปลงซ้อมที่สนาม ตาม หน่อง ซึ่งห่างจากสนามแข่งขันที่เมืองฝู โธ กว่า 20 กิโลเมตร นอกจากนั้นสภาพสนามมีแต่ดินแถบไม่มีจุดที่เป็นหญ้าเขียวเลย

ขณะที่ อินโดนีเซีย ซึ่งอยู่กลุ่มเดียวกับเจ้าภาพ “ดาวทอง” พวกเขาถูกจัดให้ไปลงซ้อมที่สนามซึ่งมีหญ้าใบใหญ่และยาวกว่ากว่าปกติ แถมไม่ใช่หญ้าแบบเดียวกับที่ใช้ในสนามแข่งจริงด้วย

ส่วนทีมชาติไทย ต้องลงซ้อมที่สนามในศูนย์ฝึก นัม ดินห์ ซึ่งรอบสนามมีแค่เพียงการเอาตาข่ายมาล้อมรอบไว้เท่านั้น คนนอกรวมถึงสื่อมวลชนของเวียดนาม สามารถดูการลงซ้อมของลูกทีม มาโน่ โพลกิ้ง ได้แบบสบายๆ กลับกันทีมของ ปาร์ค ฮัง โซ ลงซ้อมที่สนามซึ่งมีการปิดบังแบบมิดชิดและให้กำลังตำรวจมาเฝ้าโดยรอบ เรียกได้ว่าเป็นการซ้อมที่ลับสุดๆ

 

รอบรองเจ้าภาพพักมากกว่าทีมอื่น

ต้องยอมรับว่า การแข่งขันฟุตบอลชายถือเป็นเหรียญรางวัลที่สำคัญมากสุดของเวียดนาม ในศึก ซีเกมส์ ครั้งนี้ เลยก็ว่าได้ เพราะฉะนั้นมันคงไม่เกินกว่าที่คาดไว้เท่าไร กับการที่พวกเขาจะพยายามหาช่องทางให้ทีมของตัวเองได้เปรียบคู่ต่อสู้มากที่สุด

แน่นอนการจัดโปรแกรมการแข่งขันน่าจะเป็นสิ่งที่เห็นได้ชัดเจนสุด ขุนพล “ดาวทอง” จะลงเล่นเกมนัดสุดท้ายรอบแบ่งกลุ่มวันที่ 15 พฤษภาคม พบกับ ติมอร์-เลสเต ซึ่งหากพวกเขาการันตีการเข้ารอบก่อนหน้านั้น เกมนัดดังกล่าวน่าจะส่งผู้เล่นสำรองลงสนามแน่นอน ขณะที่กลุ่ม บี สองทีมเต็งอย่าง มาเลเซีย และ ไทย จะลงเล่นเกมนัดสุดท้ายวันที่ 16 พฤษภาคม ส่วนเกมรอบรองชนะเลิศ จะเล่นวันที่ 19 พฤษภาคม

นั่นหมายความว่า ทีมในกลุ่ม บี จะไดพักน้อยกว่าทีมจากกลุ่ม เอ 1 วันเต็มๆ และหากมองลึกลงไปกว่านั้น เจ้าภาพจัดโปรแกรมเกมรอบรองชนะเลิศคู่แรก ระหว่างแชมป์กลุ่ม เอ ซึ่งน่าจะเป็น เวียดนาม พบกับอันดับ 2 กลุ่ม บี ลงเตะตั้งแต่ 16.00 น. นั่นหมายความว่า ทีมอันดับ 2 กลุ่ม บี จะได้พักไม่ถึง 3 วัน ก่อนลงเจอกับ เวียดนาม ซึ่งจะมีเวลาพักเกือบ 4 วัน เต็มๆ