Stop War : เอฟเฟควงการลูกหนังสงครามรัสเซีย-ยูเครน

รัสเซีย

ทั่วทั้งโลกกำลังจับตาสถานการณ์ความตรึงเครียดระหว่าง รัสเซีย และ ยูเครน ที่กำลังทวีความรุนแรงขึ้นในทุกวัน และยังไม่มีที่ท่าว่าจะจบลงอย่างสันติวิธีในเร็ววันนี้

แน่นอนว่าสถานการณ์ดังกล่าวส่งผลกระทบโดยตรงต่อวงการลูกหนังของทั้งสองประเทศทันที โดยเฉพาะ ยูเครน ซึ่งพวกต้องพักการแข่งขันฟุตบอลลีกในประเทศออกไปแบบไม่มีกำหนด ส่วนทางฝั่ง รัสเซีย เพิ่งถูกยกเลิกการเป็นเจ้าภาพจัดเกมนัดชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ซีซั่น 2021/2022

อย่างไรก็ตามหากสถานการณ์ระหว่างทั้งสองประเทศ ยังคงเลวร้ายลงต่อไป แน่นอนว่ามันอาจส่งผลกระทบต่อวงการลูกหนังไม่น้อยเช่นกัน

 

บอลลีก ยูเครน หยุดเตะชั่วคราว

ภายหลังประธานาธิบดี ยูเครน อย่าง โวโลดีมีร์ เซเลนสกี้ ตัดสินใจใช้กฎอัยการศึกเต็มรูปแบบ เนื่องจากการรุกรานของ รัสเซีย ส่งผลให้ฟุตบอลลีกในประเทศ ยูเครน พรีเมียร์ลีก ถูกเลื่อนการแข่งขันออกไปอย่างน้อย 30 วัน ซึ่งเวลานี้ยังไม่มีใครสามารถบอกได้ว่า การแข่งขันจะกลับมาดำเนินต่อไปได้หรือไม่

เดิมทีเกมลีกฟุตบอลยูเครน จะกลับมาลงสนามกันในวันศุกร์ที่ 25 กุมภาพันธ์ หลังผ่านช่วงพักเบรกหน้าหนาว และแต่ละสโมสรลงสนามนัดสุดท้ายตั้งแต่ช่วงต้นเดือนธันวาคม หรือเกือบ 3 เดือนที่แล้ว

แม้สถานการณ์กำลังเลวร้ายลงเรื่อยๆ ทว่าผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับวงการฟุตบอลลีกยูเครน ยังคงหวังว่าทุกอย่างจะจบลงด้วยดีในเร็วนี้ และการแข่งขันจะสามารถกลับมาดำเนินต่อไปได้อีกครั้ง

“ผมจะไม่ไปจาก เคียฟ และกลับไปที่ โรมาเนีย ผมไม่ใช่คนขี้ขาด” มีร์เชีย ลูเชสคู กุนซือชาวโรมาเนีย ของ ดินาโม เคียฟ ย้ำว่าเขาจะอยู่กับทีมที่ยูเครน ต่อไป แม้อาจต้องเจอภัยอันตรายจากสงครามก็ตาม

“ผมหวังว่าสงครามที่เริ่มต้นโดยคนไม่มีสมองจะจบลงโดยเร็ว ผมไม่เคยคิดว่ามันจะเป็นไปได้ที่สงครามนี้จะเริ่มต้นขึ้น”

 

สโมสรรัสเซีย ถูกแบนจากฟุตบอลยุโรป

ขณะที่สหพันธ์ฟุตบอลยุโรป มีความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ระหว่าง รัสเซีย และ ยูเครน ไม่น้อยเช่นกัน และเพิ่งมีการนัดประชุมเรื่องดังกล่าวอย่างเร่งด่วนเมื่อไม่วันที่ผ่านมา

โดยเบื้องต้น เกมการแข่งขัน ยูฟ่า ยูธ ลีก ซีซั่น 2021/2022 รอบ 16 ทีมสุดท้าย ระหว่างทีมเยาวชน ดินาโม เคียฟ และ สปอร์ติ้ง ลิสบอน ซึ่งตามโปรแกรมจะต้องลงเล่นที่กรุงเคียฟ ได้ถูกเลื่อนการแข่งขันออกไปอย่างไม่มีกำหนด

ขณะที่สโมสรจากรัสเซีย อย่าง สปาร์ตัก มอสโก ซึ่งต้องเจอกับ อาร์แบ ไลป์ซิก ในศึก ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย อาจถูก ยูฟ่า ตัดสิทธิ์ออกจากการแข่งขัน

นอกจากนั้น Gazprom บริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่ของรัสเซีย ซึ่งเป็นสปอนเซอร์หลักของสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป อาจได้รับผลกระทบเช่นกัน ซึ่งก่อนหน้านี้ ชาลเก้ ที่มีบริษัทดังกล่าวเป็นผู้สนับสนุน ได้ตัดสินใจนำโลโก้สปอนเซอร์ Gazprom บนเสื้อแข่งออกเรียบร้อยแล้ว

 

ยกเลิกเตะนัดชิงชนะเลิศ แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่ประเทศรัสเซีย

เดิมทีการแข่งศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ซีซั่น 2021/2022 นัดชิงชนะเลิศ จะเล่นกันที่สนาม กาซพรอม อารีนา เมืองเซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก ประเทศรัสเซีย ทว่าล่าสุดสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป ตัดสินใจเปลี่ยนแปลงแผนการทั้งหมดเรียบร้อย

จากการประชุมเร่งด่วนของคณะกรรมการยูฟ่า ได้ข้อสรุปว่า การแข่งขันนัดตัดสินแชมป์ฟุตบอลบุโรป ฤดูกาลนี้ จะย้ายไปเล่นกันที่สนาม สต๊าด เดอ ฟรองซ์ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ในวันที่ 28 พฤษภาคม เพื่อหลีกเลี่ยงสถานกาณณ์ที่อาจเลวร้ายขึ้นกว่านี้ ระหว่าง รัสเซีย และ ยูเครน

“ยูฟ่า ขอแสดงความขอบคุณและคำชื่นชมต่อ เอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ที่ให้การสนับสนุนเป็นการส่วนตัว และมุ่งมั่นที่จะให้เกมระดับสูงสุดของฟุตบอลสโมสรยุโรป ย้ายมาที่ฝรั่งเศส ท่ามกลางช่วงเวลาวิกฤตินี้” แถลงการณ์จากสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป

“ในการประชุมวันนี้ คณะกรรมการบริหารของยูฟ่ายังได้ตัดสินใจว่าสโมสรและทีมชาติจากรัสเซีย และ ยูเครน และทีมชาติที่แข่งขันในรายการยูฟ่าจะต้องเล่นในบ้านของพวกเขาในสนามกลางจนกว่าจะมีประกาศเพิ่มเติม”

 

รัสเซีย และ ยูเครน อาจหมดโอกาสเล่นฟุตบอลโลก

รัสเซีย และ ยูเครน มีคิวที่จะต้องลงเตะศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนยุโรป รอบที่สอง ช่วงปลายเดือนมีนาคม ทว่าจากสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น อาจทำให้พวกเขาต้องเจอปัญหาใหญ่สำหรับการแข่งขันดังกล่าว

สำหรับ ยูเครน พวกเขาต้องเล่นรอบคัดเลือกฟุตบอลโลก โซนยุโรป รอบสอง ด้วยการบุกไปเยือน สกอตแลนด์ ซึ่งดูจากสถานการณ์ทั้งหมด มีโอกาสสูงมากที่เกมนัดนี้อาจต้องถูกเลื่อนออกไป หรือจำเป็นยกเลิกในท้ายที่สุด

ขณะที่ รัสเซีย เกมที่พวกเขาต้องเปิดบ้านพบ โปแลนด์ ต้องถูกย้ายไปเตะที่สนามกลาง และหากสถานการณ์เลวร้ายลงกว่านี้ มีความเป็นไปได้ไม่น้อยที่อาจถูกตัดสิทธิ์ออกจากการแข่งขัน และนั่นหมายความว่าพวกเขาจะพลาดโอกาสไปเล่นฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย ที่ประเทศกาตาร์ ทันที

 

โรมัน อับราโมวิช ถูกเรียกร้องเลิกเป็นเจ้าของ เชลซี

ส่วนอีกหนึ่งประเด็นที่น่าจับตามองไม่น้อย คือสถานการณ์ของ โรมัน อับราโมวิช เจ้าของสโมสร เชลซี ซึ่งถูกอ้างว่าเป็นหนึ่งในผู้ที่คอยสนับสนุน วลาดิมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ที่ได้สั่งกองกำลังทหารบุกดินแดนยูเครน และเปิดฉากโฉมตีด้วยอาวัธหนักในหลายพื้นที่

เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา คริส ไบรอันท์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฏรจากพรรคแรงงานของอังกฤษ ได้ออกมาเรียกร้องว่า อับราโมวิช ไม่สมควรเป็นเจ้าของทีม “สิงห์บลูส์” อีกต่อไป เนื่องจากเป็นอันตรายต่อประเทศ และควรถูกยึดทรัพย์ทั้งหมด

แน่นอนว่าหากสิ่งที่กล่าวมาเกิดขึ้นจริง สโมสร เชลซี จะได้รับผลกระทบอย่างหนักแน่นอน โดยนับตั้งแต่มหาเศรษฐีชาวรัสเซีย เข้ามาเทคโอเวอร์เมื่อปี 2003 “สิงโตน้ำเงินคราม” กลายเป็นหนึ่งในทีมที่ลงทุนมากที่สุดบนเกาะอังกฤษ และนั่นทำให้พวกเขาประสบความสำเร็จความแชมป์มาอย่างต่อเนื่องกว่า 19 รายการ

ท้ายที่สุดแล้วต้องรอดูกันต่อไปว่าเรื่องนี้จะจบลงเช่นไร ซึ่งพวกเราทุกคนคงได้แต่ภาวนาให้สถานการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่าง รัสเซีย และ ยูเครน คลี่คลายและจบลงด้วยดี เพื่อให้ทุกอย่างกลับมาเป็นปกติอีกครั้ง

 

เคยมีประวัติ : 8 คู่แค้นระดับชาติในวงการลูกหนัง