นาทีนี้ไม่มีทีมไหนในพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2022-23 ออกสตาร์ทได้ยอดเยี่ยมไปกว่า อาร์เซน่อล อีกแล้ว หลังคว้าชัยได้ 3 นัดติด พร้อมเป็นทีมเดียวที่ยังไม่ทำแต้มหล่นตลอด 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา
นี่ถือเป็นครั้งแรกที่พลพรรค ‘ปืนใหญ่’ ชนะรวด 3 เกมติดในรอบเกือบ 20 ปี หลังตลอดหลายปีที่ผ่านมา พวกเขามักเครื่องติดช้ามาก ซึ่งเกิดขึ้นบ่อยๆ แถมมีช่วงที่ฟอร์มฝืดสุดๆ เช่นตอนที่พ่ายให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ด้วยสกอร์ 8-2 เมื่อต้นฤดูกาล 2011-12 แม้จะกลับมาจบท็อปโฟร์ได้ก็ตาม
ในฤดูกาลที่แล้ว มิเกล อาร์เตต้า พาทีมพ่าย 3 นัดติดในลีกจนรั้งอันดับบ๊วยแบบช่วยไม่ได้ แม้ท้ายที่สุดจะค่อยๆเค้นฟอร์มจนกลับมาจบอันดับ 5 แต่การทำแต้มหล่นในหลายเกมก็ส่งผลให้ทีมพลาดจบท็อปโฟร์
ดังนั้นผลงานในฤดูกาลล่าสุด ถือเป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่สำหรับ เดอะ กันเนอร์ส ก็ว่าได้กับการเก็บ 9 แต้มเต็มในช่วงเวลาเดียวกับซีซั่นที่แล้ว และนักเตะหน้าใหม่ทั้ง โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ กับ กาเบรียล เชซุส รวมไปถึง วิลเลี่ยม ซาลิบา ที่เพิ่งได้โอกาสเล่นชุดใหญ่เต็มตัว คือผู้เล่นที่ช่วยยกระดับให้ทีมแกร่งขึ้นกว่าเดิมชัดเจน
ทว่าการออกสตาร์ทที่ยอดเยี่ยมแบบนี้ หมายความว่าอาร์เซน่อล จะเข้าป้ายคว้าแชมป์ในบั้นปลายหรือไม่? UFA ARENA จะพาไปย้อนดูเหตุการณ์ที่ยอดทีมจากลอนดอนเหนือคว้าชัยในลีก 3 นัดติดในยุคพรีเมียร์ลีก 2 ครั้ง และบทสรุปของฤดูกาลเหล่านั้นว่าเป็นอย่างไร
ฤดูกาล 2003-04
นี่คือจุดเริ่มต้นของความยอดเยี่ยมที่แม้แต่เหล่า กูนเนอร์ส ทั่วโลกก็คงไม่มีใครคาดคิดว่าทีมรักของตัวเองจะทำแบบนี้ได้
การแพ้ในบ้านให้กับลีดส์ยูไนเต็ด 3-2 ในช่วงท้ายฤดูกาลก่อนหน้านั้นเป็นเรื่องที่เจ็บปวดอย่างมากสำหรับอาร์เซน่อล พวกเขาใช้สิ่งนั้นเป็นแรงจูงใจและเป็นตัวกระตุ้นเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะไม่ได้สัมผัสกับความพ่ายแพ้อันขมขื่นอีกพักใหญ่
ฤดูกาล 2003-04 เริ่มต้นขึ้นแบบไม่สวยนัก เมื่อ โซล แคมป์เบลล์ โดนไล่ออกตั้งแต่ 25 นาทีแรกในเกมเปิดซีซั่นพบ เอฟเวอร์ตัน แต่ผู้เล่น 10 คนที่เหลือก็กัดฟันสู้จนเบียดชนะมาได้ 2-1
สิ่งนั้นถือเป็นหลักฐานที่บ่งบอกตั้งแต่ต้นว่า ‘ปืนใหญ่’ ชุดนี้มีจิตใจที่มุ่งมั่นในการคว้าชัยชนะเหนือสิ่งอื่นใด ไม่ว่าจะเจอกับสถานการณ์ที่ยากลำบากเพียงใด และใน 2 เกมต่อมา พวกเขาก็โชว์ฟอร์มแจ่มทั้งกด มิดเดิ้ลสโบรห์ 4-0 และเปิดรังอัด แอสตัน วิลล่า 2-0
สิ่งนั้นทำให้ อาร์แซน เวนเกอร์ กล่าวประโยคที่ทำให้หลายคนนำมาล้อเลียน และวิพากษ์วิจารณ์ไปต่างๆนาๆ นั่นก็คือการพาทีมคว้าแชมป์แบบไร้พ่าย
“มันไม่ใช่เรื่องเป็นไปไม่ได้นะที่จะจบฤดูกาลด้วยการไม่แพ้ใครเลย และผมก็เห็นว่าทำไมถึงเป็นเรื่องที่น่าตกใจในการพูดเรื่องนั้น” กุนซือชาวฝรั่งเศส กล่าวกับนักข่าวในเดือนกันยายนปี 2002
“ผู้จัดการทุกคนคิดอย่างนั้นแหละ เพียงแต่ไม่พูดเพราะกลัวมันจะไร้สาระ”
อย่างไรก็ตาม นั่นไม่ได้พิสูจน์ว่าเป็นเรื่องไร้สาระ เพราะ อาร์เซน่อล สามารถรักษามาตรฐานอันยอดเยี่ยมเหมือนที่พวกเขาทำในช่วงต้นฤดูกาล และลากยากไปเรื่อยๆจนถึงช่วงท้ายฤดูกาล
ท้ายที่สุด ทีมของ เวนเกอร์ ชนะ 26 เสมอ 12 และไม่แพ้ใครเลย คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกแบบไร้พ่าย และปัจจุบันก็ยังไม่มีทีมไหนสามารถคว้าแชมป์แบบนี้ได้เลย
ฤดูกาล 2004-05
อาร์เซน่อลชุดไร้พ่าย เริ่มต้นภารกิจป้องกันแชมป์พรีเมียร์ลีกในฤดูกาล 2004-05 ด้วยฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยมสมกับเป็นแชมป์เก่า
ทีมของ เวนเกอร์ เริ่มต้นด้วยการถล่ม เอฟเวอร์ตัน เละเทะ 4-1 ต่อด้วยการเปิดไฮบิวรี่ ซัด มิดเดิ้ลสโบรห์ 5-3 และจากนั้นก็เอาชนะ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส 3-0
ตำนานกองหน้าจอมคลาสสิค เดนนิส เบิร์กแคมป์ ยิงไป 2 ประตู จาก 3 นัดนั้น ขณะที่ดาวรุ่งพุ่งแรงอย่าง เชส ฟาเบรกาส แสดงให้เห็นถึงแววเสาหลักในอนาคตของสโมสร ตั้งแต่อัด กุหลาบไฟ และเล่นร่วมกับ เธียร์รี่ อองรี กับ โฆเซ่ อันโตนิโอ เรเยส
‘ปืนใหญ่’ ยังทำผลงานได้ร้อนแรงในเกมพบ นอริช และ ฟูแล่ม พร้อมเก็บไปถึง 25 จาก 27 แต้มแรกในฤดูกาล จึงไม่แปลกที่ใครหลายคนจะมองว่าทีมจากลอนดอนจะป้องกันแชมป์ลีกได้อีกสมัย
จนกระทั่งเกมบุกไปเยือน โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด มาถึงในเดือนตุลาคม และกลายเป็นเกมที่เต็มไปด้วยอารมณ์ดุเดือดตลอด 90 นาที ซึ่งท้ายที่สุดนั่นกลายเป็น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่เอาชนะไปได้ 2-0 หยุดสถิติไม่แพ้ใคร 49 นัดของ อาร์เซน่อล ลงได้
หลังความปราชัยต่อ ปีศาจแดง ทีมของ เวนเกอร์ ก็ฟอร์มค่อยๆดึงลง ด้วยการชนะเพียง 2 จาก 7 นัด และในจุดนั้นเอง เชลซี ภายใต้การคุมทีมของ โชเซ่ มูรินโญ่ ก็จัดการเร่งเครื่องเข้าเส้นชัยแบบม้วนเดียวจบ คว้าแชมป์ลีกด้วยคะแนนถึง 95 แต้ม พร้อมด้วยเกมรับที่เสียเพียง 15 ประตูตลอดฤดูกาล ซึ่งยังเป็นสถิติที่ไม่มีทีมไหนทำได้จนถึงทุกวันนี้
ด้าน เดอะ กันเนอร์ส จบด้วยการเป็นรองแชมป์ก็จริง แต่มีแต้มตามหลัง สิงห์บลูส์ ถึง 12 แต้ม แต่ก็ยังดีที่มีแชมป์เอฟเอ คัพ เป็นรางวัลปลอบใจในตอนท้ายฤดูกาล
ฤดูกาลนี้มีโอกาสหรือไม่?
ในฤดูกาลล่าสุด อาร์เซน่อล ยังเป็นทีมเดียวที่ไม่แพ้ใคร รวมถึงไม่ทำแต้มหล่น หลังเอาชนะได้ 3 นัดติดในพรีเมียร์ลีก แถมเป็นการเอาชนะสไตล์การเล่นอันยอดเยี่ยม
ทั้งนัดเปิดสนามที่อัด คริสตัล พาเลซ 2-0, ถล่ม เลสเตอร์ ซิตี้ 4-2 และ จัดหนักใส่ บอร์นมัธ 3-0 ทำเอาบรรดา เดอะ กูนเนอร์ส ทั่วโลก ภูมิใจกันยกใหญ่
อย่างไรก็ตาม นี่เป็นแค่ช่วงเริ่มต้นฤดูกาลเท่านั้น ทำให้ไม่สามารถชี้วัดอะไรได้ชัดเจนหรือฟันธงได้มากนัก เพราะยังเหลืออีก 35 นัดให้ติดตามกันในอีก 10 เดือนต่อจากนี้
แต่อย่างน้อย ‘ปืนใหญ่’ ในมือของ มิเกล อาร์เตต้า ที่อาจถูกมองว่ามีลุ้นแค่จบท็อปโฟร์ ผลงานที่แสดงให้เห็นใน 3 นัดแรกก็อาจเปลี่ยนความคิดของใครหลายๆคนว่าพวกเขาอาจไม่ใช่ทีมที่มีศักยภาพแค่นั้นก็เป็นได้