3 เดือนผ่านไป : อินเตอร์กับการเปลี่ยนแปลงที่ยากจะเตรียมใจ

อินเตอร์

แม้จะเริ่มต้นฤดูกาลใหม่ในฐานะแชมป์เก่าเซเรียอา แต่ อินเตอร์ มิลาน ดูไม่มั่นคงเท่าไหร่นัก เมื่อเสียแกนหลักคนสำคัญไปแล้วถึง 3 ราย

ภายใต้การคุมดูแลของ อันโตนิโอ คอนเต้ ช่วยให้ ‘งูใหญ่’ กลับมาคว้าแชมป์สคูเด็ตโต้ได้เป็นครั้งแรกในรอบ 11 ปี รวมถึงเป็นแชมป์แรกนับตั้งแต่คว้าถ้วยโคปปา อิตาเลีย มาครองในปี 2011 ด้วย

ทว่าด้วยปัญหาทางด้านการเงินของสโมสรที่สวนทางกับความทะเยอทะยานของ คอนเต้ ในการเสริมทัพสร้างทีมให้แข็งแกร่งส่งผลให้เจ้าตัวตัดสินใจแยกทางกับทีม หลังทำหน้าที่ใน จูเซปเป้ เมียสซ่า ได้เพียง 2 ฤดูกาลเท่านั้น

หลังจากนั้น ‘เนรัซซูรี่’ ก็ขาย อัฟราม ฮาคิมี่ แบ็คขวาตัวหลักออกไปให้ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง รวมถึง โรเมลู ลูกากู ที่จ่อย้ายซบ เชลซี คำรบที่ 2 ในเร็วๆนี้ด้วย

และนี่คือช่วงเวลาวุ่นวายที่เกิดขึ้นกับ ยอดทีมจาก มิลานในระยะเวลาแค่ 3 เดือนเท่านั้นนับตั้งแต่คว้าแชมป์ลีกมาครองในฤดูกาลที่ผ่านมา

 

ปัญหาเบื้องหลังความสำเร็จ

Third consecutive podium for Inter? – Serie A

หลังคว้าแชมป์ลีกได้สำเร็จ จาง จินตง เจ้าของสโมสร ส่งสาร์นถึงแฟนบอล ‘เนรัซซูรี่’ ว่า “สคูเด็ตโต้ ไม่ใช่บทสรุป แต่เป็นจุดเริ่มต้นการผจญภัยของอินเตอร์”

 ขณะที่ สตีเว่น จาง ลูกชายของเขาผู้เป็นประธานสโมสร ก็กล่าวหลังกลับมาเหยียบ มิลาน ในรอบ 9 เดือนว่า “ช่างเป็นช่วงที่เร้าอารมณ์ และพิเศษสำหรับทุกคนที่เกี่ยวข้องกับโปรเจ็คนี้”

“มันเหมือนกับที่เคยเป็นมา 100 ปีและมันจะเป็นแบบนี้ตลอดไป วัตถุประสงค์ของเราคือการเผยแพร่พลังงานบวก ความหวัง การไม่แบ่งแยกและความคิดสร้างสรรค์” สตีเว่น กล่าวต่อไปถึงอนาคตของสโมสร

ทว่านับตั้งแต่แฟนบอลฉลองแชมป์ในจัตุรัสดูโอโม่ จาง ก็ไม่เคยโผล่มาในออฟฟิศสโมสรอีกเลย แถมบรรยากาศคุกรุ่นก็เริ่มก่อตัวขึ้นในสโมสรอีกครั้ง

มีรายงานในช่วงเดือนมีนาคคมว่า จาง ได้เดินทางไปที่สนามฝึกซ้อมของอินเตอร์ เพื่อพูดคุยกับนักเตะในการขอลดค่าจ้าง 2 เดือน ส่วน คอนเต้ ก็ปฏิเสธที่จะพูดเรื่องนี้ในงานแถลงข่าวก่อน 4 เกมสุดท้ายของฤดูกาล และต้องการดื่มด่ำกับความสำเร็จแชมป์ลีกเหนือสิ่งใด

แต่ลึกแล้วๆ กุนซือชาวอิตาเลี่ยน รู้ดีว่าเขาอาจไม่ได้ทำหน้าที่กับ ‘งูใหญ่’ อีกต่อไปในฤดูกาลหน้าเช่นกัน 

จูเซปเป้ มาร็อตต้า ผู้บริหารระดับสูงของสโมสร เคยออกมารับหน้าสื่อด้วยการเชื่อมั่นว่า ค้อนเต้ จะอยู่กับทีมต่อไป แต่เมื่อดูท่าไม่เป็นไปตามนั้น เขาก็กล่าวกับ La Gazzetta dello Sport ว่า “ทั้งหมดที่ผมบอกได้คือโปรเจ็คของผมไม่เคยเปลี่ยน” ราวเป็นการส่งสัญญาณบอกใบ้ว่า ซูหนิ่ง กรุ๊ป ที่ไม่สามารถทำตามความทะเยอทะยานที่เขาต้องการได้

อีกทั้ง ‘งูใหญ่’ ยังมีการกู้เงินจาก Oaktree Capital บริษัทด้านการลงทุนจากอเมริกา เป็นจำนวน 275 ล้านยูโร ที่ไม่ใช้เพื่อนำมาเสริมทัพ แต่รักษาสภาพการเงินของทีมต่อไป

ไม่เพียงแต่ คอนเต้ จะไม่สามารถเพิ่มขนาดทีมของเขาได้ แต่จะต้องปล่อยนักเตะออกไปเช่นกัน จำเป็นต้องลดค่าจ้างลง 15-20 เปอร์เซ็นต์และมีกำไรสุทธิจากการซื้อขาย 75 ล้านยูโรหลังปิดตลาดช่วงซัมเมอร์

 

3 คนสำคัญลาทีม

How Will Inter Defend Their Title In 2021/22 With Lukaku, Hakimi And Conte Gone – France News

คอนเต้ จำใจแยกทางกับทีมหลังแนวคิดสวนทางกับบอร์ดบริหาร โดยมีรายงานว่าเขาได้รับเงินชดเชย 7.5 ล้านยูโร หรือราวๆครึ่งหนึ่งของค่าจ้างของเขาหากอยู่กับทีมจนหมดสัญญาปีสุดท้าย

นี่เป็นสิ่งที่แฟน ‘งูใหญ่’ ยากจะยอมรับได้ เพราะการเสีย คอนเต้ ไปก็ไม่ต่างอะไรจากคนที่เข็มทิศนำทาง และการหาคนมาแทนที่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายอีกเช่นกัน

คอนเต้ เปิดใจหลังการตัดสินใจครั้งนี้ว่าเป็นหนึ่งในประสบการณ์ที่แปลกประหลาดที่สุดในอาชีพกุนซือของเขาเลยก็ว่าได้

“มันแปลก ผมปฏิเสธไม่ได้เลย เมื่อไม่กี่วันก่อน เรากำลังฉลองตำแหน่งนี้อยู่ แต่ความโศกเศร้าและความหดหู่ใจถูกแทนที่ในทันที เมื่อได้พบกับแฟนบอลมากมายบนท้องถนนที่แสดงความเมตตา ความเคารพและความยินดีให้กับผม ความผิดหวังของพวกเขา และคำบอกลา ที่ผมได้ยินมา มันมีค่าพอๆกับ สคูเด็ตโต้เลย”

ทว่า นอกสำนักงานใหญ่ของ ‘เนรัซซูรี่’ มันเป็นอีกเรื่องหนึ่ง เมื่อมีป้ายแบนเนอร์ติดไว้พร้อมข้อความตัวโตว่า “จาง ก้าวขึ้นมาเป็นชายชาตรีหรือออกจากเมืองมิลาน” 

เหตุที่เป็นเช่นนั้น เนื่องจาก อัฟราม ฮาคิมี่ ผู้เป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสุดท้ายช่วยให้อินเตอร์คว้าแชมป์ลีก กลับถูกขายให้กับปารีส แซงต์-แชร์กแมง ด้วยเงิน 60 ล้านยูโร หลังจากเขามาจากเรอัล มาดริดแค่ปีเดียว 

แต่จากงานเปิดตัว ซิโมเน่ อินซากี้ กุนซือคนใหม่ ก็ทำให้แฟน ‘เนรัซซูรี่’ ใจชื้นขึ้นมาบ้าง เมื่อกล่าวใงานแถลงข่าวว่านักเตะคนสำคัญที่เหลือจะยังอยู่กับทีมต่อไป

ก่อนเกมอุ่นเครื่องกับ ลูกาโน่ ช่วงปลายเดือนกรกฎาคม มาร็อตต้า กล่าวกับนักข่าวอย่างมั่นอกมั่นใจว่า โรเมลู ลูกากู ไม่ได้มีไว้ขาย แต่ทว่าอีก 2 สัปดาห์ต่อมา ดาวยิงเบอร์หนึ่งของทีมกำลังย้ายไปร่วมทีม เชลซี อย่างเป็นทางการ

ดาวยิงทีมชาติเบลเยี่ยม เคยออกมายืนยันด้วยตัวเองเสมอว่าเขาต้องการค้าแข้งใน อิตาลี ต่อไป แม้การโบกมือลาของ คอนเต้ อาจทำให้เขาลังเลใจ แต่การที่ ‘บิ๊กรอม’ ต้องการช่วยทีมป้องกันแชมป์ลีก, หวังพาทีมคว้าถ้วยแชมเปี้ยนส์ลีก พร้อมกับพูดคุยกับ อินซากี้ ตั้งแต่วันแรกที่รับงาน และช่วงติดภารกิจยูโร 2020 ก็ยากที่จะบอกว่านี่เป็นพฤติกรรมของคนที่ต้องการย้ายทีม ซึ่งมันตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิงกับสถานการณ์ช่วงท้ายของ ลูกากู ใน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

 

ความเชื่อมั่นสั่นคลอน

Inter fans and directors protest Lukaku sale - Football Italia+

เชลซี กล้าทุ่มเงินแบบบ้าเลือด ขณะที่แชมป์เซเรียอาฤดูกาลก่อนกลับทำตัวเหมือนสโมสรหาพยายามหาเงินเข้าทีม หลังพลาดตั๋วแชมเปี้ยนส์ลีก ทั้งๆที่พวกเขาไม่ได้เป็นแบบนั้น และข่าวลือของ เลาตาโร่ มาร์ติเนซ กับ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์, อาร์เซน่อล กับ แอตเลติโก้ มาดริด ก็แสดงให้เห็นว่าค่าตัวในการขาย ฮาคิมี่ อาจไม่เพียงพอ

การเสีย 2 หอกคู่ขาอย่าง ‘ลูเลา’ เป็นสิ่งที่แฟน อินเตอร์ ต้องไตร่ตรองอย่างหนัก เพราะสโมสรในพรีเมียร์ลีก หรือเหล่าบิ๊กเนมทั่วยุโรป เป็นแหล่งเงินก้อนโตในเวลานี้ ซึ่งหมายความว่าการขายผู้เล่นสำรองหลายคนเพื่อทำเงินในคราวเดียวกันอาจเป็นไปไม่ได้ และทุกๆทีมในกัลโช่ เซเรีย อากำลังประสบปัญหาอยู่

ณ ตอนนี้สโมสรยังคงยืนกรานว่า มาร์ติเนซ จะอยู่กับทีมต่อไป แต่ก็ทำให้แฟนบอลลดความกังวลแต่อย่างใด อีกทั้งความน่าเชื่อถือของตระกูลจางก็ไม่เคยลดลงขนาดนี้มาก่อน หลังนัดกระชับมิตรในวันอาทิตย์ที่ดวล ปาร์มา กลุ่มแฟนบอลอุลตร้าก็ร้องเพลงด่าทอและชูป้ายว่า “จาง: หมดเวลาของแกแล้ว”

จากจำนวน 180 ล้านยูโรที่มาจากการขาย ลูกากู และ ฮาคิมี่ มีเพียง 35 ล้านยูโรเท่านั้นที่สามารถนำไปลงทุนใหม่ได้ ส่วนที่เหลือจะถูกแบ่งระหว่างการครอบคลุมค่าใช้จ่ายและการจัดการกับสัญานักเตะในทีม

จนถึงตอนนี้ ‘งูใหญ่’ ได้เซ็นสัญญากับ ฮาคาน คัลฮาโนกลู จากมิลานแบไร้ค่าตัว เพื่อทดแทน คริสเตียน อีริคเซ่น ที่มีปัญหาเรื่องสุขภาพหลังศึกยูโร และมีข่าวกับ นาฮิตัน นานเดซ ที่กายารี่ปั้นมาแทนที่ นิโคโล่ บาเรลล่า ที่พวกเขาคว้าไปร่วมทีมเมื่อ 2 ปีก่อน 

ในด้านตัวรุก เอดิน เชโก้ ดาวยิงวัย 35 ปีของ โรม่า ถูกคาดว่าจะเข้ามาแทนที่ ลูกากู ในค่าตัวที่ไม่แพง แต่ไปหนักที่ค่าเหนื่อยแทน และอาจมีกองหน้าเข้ามาเพิ่มอีกในซัมเมอร์นี้ด้วย แต่โชคร้ายที่ ดูซาน วลาโฮวิช กองหน้าดาวรุ่งจาก ฟิออรเรนติน่า ดันมีค่าตัวแพงเกินไปหน่อย 

ถึงเจ็บปวดที่ต้องเสียมันสมองของทีมอย่าง คอนเต้, ดาวยิงเบอร์หนึ่งอย่าง ลูกากู และ แบ็คตัวเก่งอย่าง ฮาคิมี่ ออกไป แต่อย่างน้อย อินเตอร์ ก็ยังมีแนวรับ และแผงกองกลางที่ยังแข็งแกร่งเหมือนเดิม

อินซากี้ มีฝีไม้ลายมือที่เหมาะสมกับตำแหน่งนี้ไม่น้อย แม้ต้องเสียกำลังสำคัญไปบ้าง แต่ ‘งูใหญ่’ ก็ไม่น่าถึงจุดจบเหมือนตอนที่ จาน ปิเอโร่ กาสเปรินี่ เข้ามาคุมทีมสั้นๆในช่วง 10 ปีก่อน 

ในเดือนมิถุนายน สตีเวน จาง บอกกับ La Gazzetta dello Sport ว่า ซูหนิ่ง มองถึงทีมในช่วงกลางถึงระยะยาว เมื่อถูกถามว่าหมายความว่าอย่างไร เขาอธิบายว่า “ระยะกลางอย่างน้อย 5 ปี ระยะยาวเราไปจาก 10 เป็น… 100” 

ทว่าในเดือนกรกฎาคม พ่อของเขาก้าวลงจากตำแหน่งประธาน ซูหนิ่ง หลังจากสูญเสียการควบคุมบริษัทของเขาหลังเข้ารับความช่วยเหลือจากรัฐบาลจีน 

แม้ว่า Oaktree จะรักษาเสถียรภาพของสโมสรและอยู่ในตำแหน่งที่ดีสำหรับการเทคโอเวอร์หากจำเป็น แต่แฟนๆ ก็ต้องการความชัดเจนมากขึ้นจากการบริหารทีมภายใต้ครอบครัวจาง ไม่ว่าจะเป็นแนวทางในปัจจุบัน หรือ อนาคตก็ตาม 

เพราะหากเป็นแบบนี้ต่อไป ความสำเร็จที่เคยวาดฝันไว้ของ อินเตอร์ อาจต้องไปเริ่มกันใหม่ตั้งแต่ต้นไม่ต่างจาก 10 ปีที่แล้วอย่างแน่นอน

 

บทความที่เกี่ยวข้องกับ อินเตอร์

11 ปีที่รอคอย : เส้นทางสู่แชมป์สคูเด็ตโต้สมัยที่ 19 ของงูใหญ่