คอบอลต้องรู้! 6 ประเด็นร้อนศึก โคปา อเมริกา 2019

 

ศึกฟุตบอลที่ยิงใหญ่ที่สุดของทวีปอเมริกาใต้ อย่างศึก โคปา อเมริกา 2019 ได้เปิดฉากเริ่มต้นขึ้นแล้วเมื่อเช้าวันเสาร์ที่ผ่านมา โดยในครั้งนี้เป็นทางฝั่งของ บราซิล ที่ได้รับบทเป็นเจ้าภาพโดยมีตัวแทนจากโซนคอมเมโบล 10 ทีมลงแข่งขัน พร้อมกับแขกรับเชิญอีกสองชาติจากเอเชียอย่าง กาตาร์ และ ญี่ปุ่น

 

โดยในทัวร์นาเมนต์นี้มีประเด็นให้แฟนบอลได้ติดตามกันมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ ทัพ “แซมบ้า” เจ้าภาพ และเต็งหนึ่งที่ดูแล้วพวกเขามีปัญหาพอสมควรกับการลงเตะในรายการนี้ ส่วนอีกหนึ่งประเด็นใหญ่ที่ไม่พูดถึงคงไม่ได้นั้นก็คือโอกาสที่ ลิโอเนล เมสซี่ จะได้ลุ้นคว้าแชมป์ระดับเมเจอร์กับทีมชาติครั้งแรกในอาชีพการค้าแข้ง

 

นอกจากนี้ยังมีอีกหลายประเด็นให้แฟน Ufa Arena ได้ติดตามเพื่อเป็นการเตรียมพร้อมให้กับตัวเอง ก่อนจะได้รับชมสุดยอดศึกแห่งศักดิ์ศรีของดินแดนลาตินอเมริกา อย่างฟุตบอล โคปา อเมริกา 2019 ที่จะลงฟาดแข้งให้แฟนบอลลูกหนังได้ติดตามความมันส์กันตั้งแต่ตอนนี้ ยาวไปจนถึงเกมส่งท้ายนัดชิงชนะเลิศซึ่งจะลงเตะกันในวันที่ 7 กรกฎาคมนี้

 

 

บราซิล เจ้าภาพศึก โคปา อเมริกา ครั้งแรกรอบ 30 ปี

 

ถึงแม้ว่าศึก โคปา อเมริกา จะเป็นทัวร์นาเมนต์ที่สำคัญและยิ่งใหญ่ที่สุดของทวีปอเมริกาใต้ นับตั้งแต่ลงประเดิมฟาดแข้งกันครั้งแรกโดยมี อาเจนติน่า เป็นเจ้าภาพเมื่อปี 1916 หรือประมาณ 103 ปีที่แล้ว ใครจะเชื่อว่าชาติมหาอำนาจลูกหนังโซนคอมเมโบลอย่าง บราซิล เคยได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพแค่เพียง 5 ครั้งเท่านั้น ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา

 

ครั้งล่าสุดที่แฟนบอลชาว “แซมบ้า” ได้ลุ้นทีมรักของตัวเองในฐานะเจ้าภาพถ้วยใบนี้ ต้องย้อนกลับไปเมื่อ 30 ปีที่แล้ว หรือ โคปา อเมริกา 1989 ซึ่งตอนนั้นพวกเขาสามารถคว้าแชมป์ในบ้านได้สำเร็จ โดยระบบการแข่งขันในตอนนั้นยังคงใช้แบบมินิลีกพบกันหมดทีมที่มีแต้มเยอะสุดจะคว้าตำแหน่งเบอร์หนึ่งของทวีปไปครอง

 

ไฮไลท์สำคัญอยู่ที่เกมนัดสุดท้ายที่เจ้าภาพต้องเล่นนัดชี้ชะตากับ อุรุกวัย ที่สนาม มาราคาน่า สเตเดี้ยม เพื่อหาแชมป์ แมตช์ดังกล่าวมีแฟนบอลเข้าไปชมเต็มความจุ 148,068 ที่นั่ง ซึ่งเกมนั้นจบลงด้วยชัยชนะของทีมแชมป์โลก 5 สมัย หลังคว่ำคู่แข่งไปด้วยสกอร์ 1 – 0 จากการยิงของ โรมาริโอ้ สุดยอดตำนานนักเตะในยุคนั้น

 

สำหรับครั้งนี้แน่นอนว่าเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ทศวรรษ ที่ศึกฟุตบอลชิงถ้วยที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของทวีปจะกลับมาเตะกันยัง “ดินแดนแห่งกางเขนศักดิ์สิทธิ์” อีกหนึ่งหน และพวกเขาก็ได้เตรียมความพร้อมเป็นอย่างดี โดยจะใช้สนามจัดการแข่งขันทั้งหมด 6 แห่ง นำโดย เอสตาดิโอ อูดู โมรุงบี, โครินเธียนส์ อารีน่า,เอสตาดิโอ มีเนย์เรา,อารีน่า อูดู เกรมิโอ, ฟอนเต้ โนว่า อารีน่า ซึ่งส่วนใหญ่ผ่านการใช้งานเกมฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายเมื่อปี 2014 มาแล้วเกือบทั้งหมด และแน่นอนว่า มาราคาน่า สเตเดี้ยม ที่เคยเป็นสังเวียนประวัติศาสตร์เมื่อปี 1989 ก็จะได้รับเกียรติในครั้งนี้ด้วยเช่นกัน

 

 

 

เจ้าภาพ “แซมบ้า” ไม่สมประกอบ

 

แน่นอนว่าการได้รับโอกาสเป็นเจ้าภาพในศึกฟุตบอลถ้วยที่สำคัญและยิ่งใหญ่ระดับทวีปแบบนี้ สำหรับขุนพล “เซเลเซา” เป้าหมายสูงสุดและเป็นเป้าหมายเดียวของพวกเขาคือการคว้าแชมป์มาครองให้ได้สถานเดียวเท่านั้น ไม่ว่าจะต้องเจอคู่แข่งหนักหนาสาหัสแค่ไหนก็ตาม ซึ่งเอาเข้าจริงแล้ว โคปา อเมริกา หนนี้ถือเป็นโอกาสที่ดีมากสำหรับ บราซิล ที่จะกลับมาคว้าแชมป์ให้ได้อีกครั้ง หลังจากที่พวกเขาห่างหายจากการสัมผัสถ้วยมานานถึง 12 ปี

 

ทว่าโชคชะตาดูเหมือนจะไม่เป็นใจเอาซะเลย เพราะแค่ยังไม่เริ่มต้นทัวร์นาเมนต์พวกเขาก็ต้องมาเจอกับเรื่องช็อคของทั้งแฟนบอลรวมไปถึงบรรดาสต๊าฟโค้ช และนักเตะภายในทีม หลังดาวยิงตัวความหวังสูงสุดอย่าง เนย์มาร์ ดันได้รับบาดเจ็บหนักจนต้องถอนตัวออกจากทีมไป นับได้ว่าเป็นเรื่องที่เลวร้ายที่สุดของเจ้าภาพเลยก็ว่าได้

 

นอกจากนี้ถ้าจะให้พูดกันตามตรงบรรดานักเตะที่เหลืออยู่ภายในทีมส่วนใหญ่ก็ยังคงฝากความหวังไว้ไม่ได้เลย แม้กระทั้ง ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ ที่ดูเหมือนจะฝากผีฝากไข้ไว้ได้มากที่สุด แต่อย่าลืมว่าผลงานในระดับสโมสรกับ บาร์เซโลน่า ของเจ้าตัวตลอดซีซั่นที่ผ่าน ถึงตรงนี้พูดได้เต็มปากเลยว่าห่วยแตกสุดๆ

 

อย่างไรก็ตามถึงแม้มองโดยรวมแล้ว ทัพ “นกน้อย” ดูมีเรื่องน่าปวดหัวเยอะพอสมควร แต่เชื่อว่ายามที่ได้ลงสนามต่อหน้าแฟนบอลในบ้านของตัวเอง ทีมชาติบราซิล จะสามารถระเบิดฟอร์มเก่งออกมาให้เราได้เห็นกันแน่นอน

 

โอกาสสำคัญ ลิโอเนล เมสซี่ ลุ้นแชมป์แรกกับทีมชาติ

 

ในเมื่อเจ้าภาพและทีมเต็งหมายเลขหนึ่งอย่าง บราซิล ดูจะไม่ค่อยพร้อมสักเท่าไรนัก นี่ถือเป็นสัญญาณที่ดีของอีกหนึ่งทีมขาใหญ่ในภูมิภาคลาตินอเมริกา ที่ต้องการสอยถ้วยใบนี้มาครองให้ได้เช่นกัน นั่นก็คือ อาเจนติน่า ซึ่งนำทัพโดย ลิโอเนล เมสซี่ สุดยอดนักเตะของโลกเวลานี้ที่ยังคงเฝ้ารอวันที่จะได้สัมผัสความสำเร็จในระดับทีมชาติของตัวเองสักครั้งก่อนที่อาชีพการค้าแข้งของเจ้าตัวจะจบลงในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

 

สำหรับดาวเตะ บาร์เซโลน่า ยังไม่เคยคว้าแชมป์ใดได้เลยตลอดการลงเล่นให้กับ ทัพ “ฟ้าขาว” ชุดใหญ่ นับตั้งแต่ปี  2005 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งโอกาสที่ใกล้เคียงที่สุดของแข้งวัย 31 ปี คือการคว้ารองแชมป์ศึกฟุตบอลโลก 2014 และรองแชมป์ โคปา อเมริกา 3 ครั้งเมื่อปี 2007, 2015, 2016

 

แน่นอนว่าครั้งนี้เป็นโอกาสสำคัญที่ ลิโอเนล เมสซี่ มีลุ้นพา อาเจนติน่า ก้าวขึ้นไปซิวแชมป์รายการนี้มาครองให้ได้ เพราะมองดูโดยรวมแล้วคู่แข่งของพวกเขาทั้ง บราซิล, อุรุกวัย หรือแม้กระทั่ง ชิลี ก็ไม่ได้แข็งแกร่งมากเท่ากับครั้งที่ผ่านๆมา เป็นไปได้ว่า โคปา อเมริกา 2019 อาจจะเป็นทัวร์นาเมนต์ที่เรามีสิทธิ์ได้เห็นแข้งเจ้าของรางวัลบัลลงดอร์ 5 สมัย ชูถ้วยแชมป์ใบแรกในนามทีมชาติก็เป็นได้

 

 

สองแขกรับเชิญสุดแกร่งจาก เอเชีย

 

ถือเป็นธรรมเนียมไปแล้วสำหรับการแข่งขันศึก โคปา อเมริกา ที่เราจะได้เห็นทีมรับเชิญจากนอกทวีปอเมริกาใต้ 2 ทีม ตบเท้าเข้าร่วมการแข่งขันรายการดังกล่าว โดยชาติที่แฟนบอลมักคุ้นหน้าคุ้นตากันเป็นอย่างดีนั่นก็คือ เม็กซิโก ซึ่งถือเป็นทีมแรกที่ได้รับเชิญตั้งแต่ปี 1993 และเรียกได้ว่าเป็นขาประจำสำหรับถ้วยใบนี้เลยก็ว่าได้ หลังพวกเขาได้รับเกียรติเชิญมาลงเล่นไปแล้วทั้งหมด 10 สมัย

 

อย่างไรก็ตามในปี 2019 ขุนพล “จังโก้” จะไม่ได้เดินทางมาลงฟาดแข้งในครั้งนี้ด้วย เนื่องจากสองทีมที่ได้รับเชิญโดย สหพันธ์ฟุตบอลอเมริกาใต้ หรือ คอนเมโบล นั้นก็คือแชมป์และรองแชมป์ในศึก เอเชียน คัพ 2019 อย่าง กาตาร์ และ ญี่ปุ่น โดยเฉพาะ พลพรรค “ไข่มุกแห่งเปอร์เซีย” พวกเขาถือเป็นชาติแรกจากคาบสมุทรอาหรับที่บินข้ามน้ำข้ามทวีปมาลงเล่นในถ้วยใบนี้ด้วย

 

ถึงแม้ว่าทั้งสองทีมจะเป็นแค่เพียงอาคันตุกะในศึกฟุตบอลถ้วยที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของอเมริกาใต้ แต่ต้องบอกเลยว่าพวกเขาทั้งคู่พร้อมที่จะเดินทางมาสร้างเซอร์ไพรส์ให้เหล่าบรรดาแฟนบอลแดนลาตินได้เห็นศักยภาพของฟุตบอลเอเชียอย่างแน่นอน โดยเฉพาะ กาตาร์ เราคงต้องยอมว่านี่คือหนึ่งในทีมที่แข็งแกร่งที่สุดเวลานี้ และเป็นทัพที่เต็มไปด้วยบรรดาขุนพลพลังหนุ่มซึ่งเตรียมก้าวขึ้นไปเป็นกำลังสำคัญของทีมในศึกฟุตบอลโลก 2022 ที่พวกเขาจะได้รับบทเป็นเจ้าภาพด้วย

 

ขณะที่ทางฝั่ง แข้ง “ซามูไร” ศักยภาพของทีมอาจจะลดลงพอสมควรเนื่องจากนักเตะที่ถูกเรียกเข้ามาติดทีมล้วนเป็นนักเตะหน้าใหม่เกือบทั้งหมด และส่วนใหญ่อายุเฉลี่ยนประมาณแค่ 21 – 22 ปีเท่านั้น น่าสนใจว่าเมื่อเหล่าบรรดาดาวรุ่งเหล่านี้ต้องมาเผชิญหน้ากับนักเตะระดับโลก พวกเขาจะสามารถทำผลงานออกมาได้ดีแค่ไหน และเป็นบททดสอบครั้งสำคัญสำหรับพวกเขาว่าจะสามารถก้าวขึ้นไปเป็นแกนหลังของทีมต่อจากดาวเตะซุปเปอร์สตาร์รุ่นพี่หลายคนที่เริ่มโรยราลงไปก่อนหน้าได้หรือไม่

 

 

 

บรรดานักเตะน่าจับตามอง

 

ในศึก โคปา อเมริกา คราวนี้แน่นอนว่าจะไม่มีซุปเปอร์สตาร์อยาก เนย์มาร์ หลังเขาถอนตัวออกจากทีมชาติบราซิล เรียบร้อยแล้วจากปัญหาอาการบาดเจ็บ อย่างไรก็ตามยังมีแข้งอีกหลายคนที่น่าจับตามองไม่แพ้กัน และรอโอกาสที่จะลงสนามโชว์ฝีเท้าให้แฟนบอลได้เห็น โดยเฉพาะบรรดานักเตะโนเนมซึ่งอาจจะระเบิดฟอร์มแจ้งเกิดในทัวร์นาเมนต์นี้

 

โดยคนแรกที่เราจะไม่พูดถึงไม่ได้นั่นก็คือ ดาวยิงตัวเก่งจากทัพเจ้าภาพ “แซมบ้า” อย่าง เอฟเวอร์ตัน ซัวเรซ ที่กำลังทำผลงานได้ดีสุดๆกับต้นสังกัด เกรมิโอ จนทำให้เขาตกเป็นเป้าหมายเสริมทัพจากหลายทีมดังในยุโรป ไม่แน่ว่ารายการนี้อาจจะเป็นเวทีแจ้งเกิดแบบเต็มตัวของเขาเลยก็ได้

 

ส่วนอีกหนึ่งคนที่ต้องขอหยิบมาพูดถึงนั่นก็คือ เลาตาโร่ มาร์ติเนซ ศูนย์หน้าดาวรุ่งจาก ทัพ “ฟ้าขาว” อาเจนติน่า ซึ่งฟอร์มช่วงที่ผ่านมาถือว่าพัฒนาขึ้นได้เรื่อยๆ ยิ่งไปกว่านั้นสถิติการลงเล่นในนามทีมชาติของเขาถือว่ายอดเยี่ยมสุดๆ ก่อนหน้านี้ลงสนามไปแล้ว 7 เกม ยิงถึง 4 ประตู เพราะฉนั้นทัวร์นาเมนต์นี้ เจ้าตัวจึงเป็นอีกหนึ่งคนที่น่าจับตามองไม่แพ้บรรดาซุปเปอร์สตาร์คนอื่นๆเลยทีเดียว

 

นอกจากนั้นยังมีนักเตะน่าจับตามองอีกหลายต่อหลายคนไม่ว่าจะเป็นเหล่าบรรดาแข้งดังที่เราคุ้นหน้าคุ้นตากันเป็นอย่างดี หรือจะเป็นเหล่านักเตะโนเนมที่อาจจะระเบิดผลงานแจ้งเกิดในครั้งนี้ อย่าง วุยเกร์ ฟารีเญซ นายทวารอนาคตไกลของ เวเนซุเอลา, ติอาโก้ อาซาเมนดี้ ศูนย์หน้าดาวรุ่ง ปารากวัย เชื้อสาย อาร์เจนไตน์ , อัลโมซ อาลี และ อัคราม อาฟิฟ สองกำลังสำคัญของ กาตาร์ ชุดแชมป์ เอเชียน คัพ ร่วมไปถึง ทาคาฟุซะ คุโบะ เพลย์เมกเกอร์พรสวรรค์สูงนักเตะตัวใหม่ของ เรอัล มาดริด เจ้าของฉายา “เมสซี่ญี่ปุ่น” ก็ถือเป็นแข้งที่น่าจับตามองไปแพ้กัน

 

 

เหล่าทีมเต็งแชมป์

 

แน่นอนว่าทีมเต็งแชมป์ศึก โคปา อเมริกา 2019 เบอร์หนึ่งคงจะเป็นใครไปไม่ได้เลยนอกจาก บราซิล ถึงแม้ว่าทีมของกุนซือใหญ่อย่าง ติเต้ จะมีปัญหาพอสมควรโดยเฉพาะการขาดหัวใจสำคัญในเกมรุกอย่าง เนย์มาร์ ไป รวมไปถึงกำลังสำคัญที่เหลืออยู่แบบ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ ก็ไม่ได้อยู่ในช่วงเวลาที่ผลงานดีเท่าไรนัก ดูแล้วเป็นเรื่องที่น่าหนักใจพอตัวสำหรับเจ้าภาพ อย่างไรก็ตามความได้เปรียบจากเสียงเชียร์ที่ได้รับแฟนบอลยามลงเล่นในบ้าน ก็อาจจะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยพาพวกเขาก้าวไปถึงเป้าหมายสูงสุดที่ตั้งเอาไว้ก็เป็นได้

 

ส่วนทีมเต็งสองคงต้องยกให้กับ อาเจนติน่า ซึ่งนำทัพมาโดย ลิโอเนล เมสซี่ ที่ต้องการจะพาทีมคว้าแชมป์ให้ได้เช่นกัน เพื่อบรรลุเป้าหมายความสำเร็จของตัวเองในระดับทีมชาติ นอกจากนี้หากพูดถึงศักยภาพของ ทัพ “ฟ้าขาว” ตอนนี้ คงต้องยอมรับเลยว่าพวกเขาแข็งแกร่งมากทีเดียวตั้งแต่เกมรับยันเกมรุก เหลือแค่เพียงรอดูว่า ลิโอเนล สคาโลนี่ เฮดโค้ชของทีมจะสามารถนำเอาวัตถุดิบต่างๆมาปรุงแต่งร่วมกันออกมาให้ลงตัวได้เหมือนไม่ ซึ่งถ้าทุกอย่างออกมาลงตัวดี มันก็คงจะไม่ใช่เรื่องยากอะไรที่พวกเขาจะคิดถึงการคว้าถ้วยใบนี้ไปครองแน่นอน

 

ขณะที่อีกสองทีมสอดแทรกอย่าง ชิลี และ อุรุกวัย ถึงแม้ว่าพวกเขาอาจจะไม่ได้แข็งแกร่งเหมือนกับครั้งที่ผ่านๆมา แต่สำหรับถ้วยใบนี้ทั้งสองทีมก็ยังคงถือว่าเป็นหนึ่งในทีมเต็งเหมือนเดิม โดยเฉพาะทางฝั่ง ชิลี แชมป์เก่าสองสมัยซ้อนที่มีโอกาสจะทำสถิติเป็นทีมที่สองต่อจาก อาเจนติน่า ที่สามารถซิวถ้วยใบนี้ติดต่อกัน 3 สมัย หากว่าพวกเขาสามารถผงาดคว้าโทรฟี่นี้ได้อีกครั้ง ส่วนทางฝั่ง อุรุกวัย ดูเหมือนว่าพวกเขาจะมีปัญหาตั้งแต่เริ่มเลยทีเดียว เมื่อ หลุยส์ ซัวเรซ ดาวยิงตัวความหวังของทีมมีอาการบาดเจ็บรบกวน ซึ่งถึงแม้ว่าเจ้าตัวจะหายกลับมาลงสนามช่วยทีมได้ทันเวลาก็ตาม แต่เชื่อว่าน่าจะมีผลกระทบกับการเล่นพอสมควร ถึงกระนั้นพวกเขาก็ยังถือเป็น 1 ใน 4 ทีมลุ้นแชมป์ โคปา อเมริกา 2019 เหมือนเดิม