ดิเอโก้ ซิเมโอเน่ กุนซือ แอตเลติโก มาดริด ยอมรับสภาพความล้มเหลวที่ต้องร่วงตกรอบ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม หลังทำได้เพียงเสมอกับ ไบเออร์ เลเวอร์ คูเซ่น 2-2 ในถิ่น เอสตาดิโอ ซิบิตาส เมโทรโปลิตาโน่
โดยเกม นี้ตราหมี มาได้จุดโทษในช่วงทดเวลาเจ็บนาที 98 และเป็น ยานนิค การ์ราสโก้ เป็นผู้รับผิดชอบในการเปลี่ยนโอกาสนี้กลายเป็นประตูเพื่อรักษาความหวังในแชมป์เปี้ยนส์ ลีก ของทีมเอาไว้ แต่เขายิงไปติดเซฟ ลูคัส ราเดชกี้ ผู้รักษาประตูของทีมเยือน ก่อนที่บอลจะลอยมาเข้าทาง ซาอูล ญีเกซ ที่โหม่งไปชนคานแม้ประตูจะเปิดโล่งตรงหน้าเขา และที่จริงในจังหวะต่อมาบอลก็มาหล่นตรงเท้าของ เรยนิลโด้ มันดาว่า แข้งอีกคนของ แอต. มาดริด ด้วย แต่ก็ยิงไปโดน การ์ราสโก้ จนบอลออกหลังไป ก่อนที่กรรมการจะเป่าจบเกม
ซึ่งจากผลดังกล่าวทำให้ แอตมาดริด ตกรอบแน่นอนแล้ว เนื่องจากเวลานี้มีแต้มตามหลัง เอฟซี ปอร์โต้ ที่อยู่อันดับสองถึง 4 คะแนน และเหลือโปรแกรมให้ลงสนามอีกนัดเดียวเท่านั้น ซึ่งภายหลังเกม ซิเมโอเน่ ยอมรับว่าลูกทีมไม่ดีพอเอง
“ทุกอย่างมันเลวร้ายในหลายนัดที่เราเก็บแต้มไม่ได้น่ะเราควรจะทำประตูให้ได้มากกว่านี้ถ้าเรามีประสิทธิภาพกันเยอะกว่านี้ และยิงตอนจบเกมนี้่มันก็สะท้อนให้เห็นถึงวิธีที่เราเล่นในแชมเปี้ยนส์ ลีก ปีนี้ การยิงจุดโทษไม่เข้า , การยิงชนคาน, และยิงไปโดนการ์ราสโก้ ถือเป็นการสรุปถึงฤดูกาลนี้ได้เป็นอย่างดี เราไม่ได้มองหาข้อแก้ตัว ตัวเราเองไม่ได้ทำในสิ่งที่จำเป็น มันน่าผิดหวังที่เราต้องไปเยือน ปอร์โต้ ในสภาพที่ไม่มีลุ้นผ่านเข้ารอบต่อไปแล้ว” กุนซือชาวอาร์เจนไตน์ กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : คู่แข่งเก่า! ซิเมโอเน่แจงเหตุดีลโรนัลโด้ไม่มีทางเกิดขึ้น